การกำกับดูแลกิจการที่ดีและการต่อต้านทุจริตคอร์รัปชัน
การกำกับดูแลกิจการที่ดีถือเป็นรากฐานสำคัญที่จะช่วยส่งเสริมให้กรุงศรีและบริษัทในกลุ่มธุรกิจทางการเงิน (“กรุงศรี กรุ๊ป”) มีการเติบโตอย่างยั่งยืน อีกทั้งยังเป็นปัจจัยหลักที่ช่วยผลักดันให้การดำเนินธุรกิจเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ โปร่งใสตรวจสอบได้ และรับผิดชอบต่อผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่าย กรุงศรี กรุ๊ปจึงมุ่งมั่นพัฒนาและเสริมสร้างการกำกับดูแลกิจการที่ดีอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้มั่นใจได้ว่าทุกกระบวนการดำเนินธุรกิจมีการคำนึงถึงความเสี่ยงและความรับผิดชอบต่อผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่ายเป็นสำคัญควบคู่ไปกับการสนับสนนุให้เกิดการพัฒนาทางเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน ตลอดจนปลูกฝังและส่งเสริมให้พนักงานมีจิตสำนึกในการปฏิบัติหน้าที่ตามหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดีในระดับสากลและต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชันในทุกรูปแบบ โดยวางมาตรการไม่ยอมผ่อนปรนต่อการทุจริตทุกรูปแบบไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อมซึ่งสิ่งเหล่านี้จะช่วยสร้างความเชื่อมั่นและไว้วางใจให้กับผู้ถือหุ้น นักลงทุน และผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่าย ตลอดจนเพิ่มคุณค่าและมูลค่าของธุรกิจในระยะยาวต่อไป
แนวทางการบริหารจัดการ
กรุงศรี กรุ๊ปมุ่งเน้นการดำเนินธุรกิจบนหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดีและต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชันทุกรูปแบบ โดยมีแนวทางการบริหารจัดการ ดังนี้
- คณะกรรมการธนาคารได้กำหนด “หลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี” (Good Corporate Governance Principles) ไว้เป็นลายลักษณ์อักษร โดยมีเนื้อหาครอบคลุมในเรื่องสิทธิของผู้ถือหุ้นและการปฏิบัติต่อผู้ถือหุ้นอย่างเท่าเทียมกันการเปิดเผยข้อมูลและความโปร่งใส องค์ประกอบและคุณสมบัติของคณะกรรมการธนาคาร บทบาทหน้าที่และความรับผิดชอบของประธานกรรมการ คณะกรรมการธนาคาร คณะกรรมการชุดย่อยที่รายงานต่อคณะกรรมการธนาคาร รวมถึงบทบาทหน้าที่ของกรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และผู้บริหาร ระบบการควบคุมภายในและระบบการตรวจสอบภายใน ปรัชญาในการดำเนินธุรกิจและบทบาทของกรุงศรี กรุ๊ปต่อผู้มีส่วนได้เสีย พันธกิจ วิสัยทัศน์และค่านิยมหลักของกรุงศรี จริยธรรมและจรรยาบรรณของพนักงานและการปฏิบัติ โดยกำหนดให้มีการทบทวนหลักการดังกล่าวเป็นประจำทุกปี หรือโดยไม่ชักช้าเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงที่มีนัยสำคัญ เพื่อให้มั่นใจว่าหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดีของกรุงศรีมีความเหมาะสมกับสถานการณ์ที่อาจเปลี่ยนแปลงไป สอดคล้องกับหลักเกณฑ์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมถึงโครงสร้างองค์กรและสภาพแวดล้อมในการกำกับดูแลกิจการของกรุงศรี กรุ๊ป
- ธนาคารกำหนดให้มีนโยบายและมาตรการเกี่ยวกับการต่อต้านการให้สินบนและการทุจริตคอร์รัปชัน โดยมีกรอบการดำเนินงานด้านการต่อต้านการให้สินบนและการทุจริตคอร์รัปชันที่ธนาคารจะยึดถือปฏิบัติในการดำเนินธุรกิจอย่างเคร่งครัด ซึ่งมีสาระสำคัญ ดังนี้
หลักการทั่วไป
ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) (“ธนาคาร”) มีพันธสัญญาในการดำเนินธุรกิจตามหลักจริยธรรมที่ดี โดยห้ามการให้สินบนและทุจริตคอร์รัปชันในทุกรูปแบบอย่างเคร่งครัด แม้ว่าจะเป็นการเปิดให้ธนาคารมีโอกาสทางธุรกิจ ดังนั้น ธนาคารจึงได้กำหนดให้มีนโยบายและมาตรการเกี่ยวกับการต่อต้านการให้สินบนและการทุจริตคอร์รัปชัน (“นโยบาย”) เป็นกรอบการทำงานพื้นฐาน ซึ่งธนาคารจะยึดถือปฏิบัติเพื่อให้การดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ ภายใต้ธุรกิจของธนาคาร มีแนวทางปฏิบัติทั่วไปอย่างเหมาะสมโดยเป็นไปตาม พันธสัญญาดังกล่าว
นโยบายนี้ครอบคลุมธนาคารและบริษัทในกลุ่มธุรกิจทางการเงินของธนาคาร โดยบริษัทในกลุ่มธุรกิจทางการเงินจะต้องนำนโยบายนี้ไปเป็นแนวทางในการจัดทำนโยบายที่เทียบเท่ากัน
กรรมการธนาคาร ผู้บริหาร พนักงานและผู้ที่เกี่ยวข้อง มีหน้าที่ปฏิบัติตามนโยบายและมาตรการเกี่ยวกับการต่อต้านการให้สินบนและการทุจริตคอร์รัปชันของธนาคาร
คำนิยามที่สำคัญ
การให้สินบน (Bribery) ข้อเสนอ สัญญา หรือการส่งมอบสิ่งอื่นใดที่มีมูลค่าทางการเงิน ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ได้มาหรือคงไว้ซึ่งธุรกิจหรือความได้เปรียบทางธุรกิจที่ไม่โปร่งใส ซึ่งอาจมีการจ่ายสินบนไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม หรือผ่านบุคคลที่สาม รวมถึงการให้หรือรับในรูปของเงินสดหรือของขวัญ
การทุจริตคอร์รัปชัน (Corruption) การใช้อำนาจที่ได้รับมอบหมายหรืออำนาจของรัฐในทางที่ผิด เพื่อประโยชน์ / การได้มาซึ่งผลประโยชน์ที่ไม่เหมาะสมเพื่อตนเองหรือผู้อื่น โดยครอบคลุมถึงการให้สินบนเจ้าหน้าที่ของรัฐ หรือการกระทำอื่นใดที่เข้าข่ายเป็นความผิดทางอาญาอื่น ๆ ซึ่งรวมถึงการฉ้อโกง การขู่กรรโชก และการฟอกเงิน
สิ่งอื่นใดที่มีมูลค่าทางการเงิน (Anything of Value) สิ่งอื่น ๆ ซึ่งมีมูลค่าที่สามารถประเมินมูลค่าได้หรืออาจไม่สามารถประเมินมูลค่าได้ (Tangible or Intangible in Value) ได้แก่
- ของขวัญ
- การเลี้ยงรับรอง (เช่น ค่าอาหาร ค่าเดินทาง ค่าที่พัก การฝึกอบรม และสัมมนา)
- การบริจาคและการสนับสนุน
- การช่วยเหลือ / สนับสนุนทางการเมือง
- ค่าวิทยากรและค่าจ้างจากการให้บริการทางวิชาชีพ
- ข้อเสนอให้มีการจ้างงานหรือฝึกงาน
บทบาทและความรับผิดชอบที่สำคัญ
บทบาทและความรับผิดชอบที่สำคัญสำหรับการนำนโยบายไปปฎิบัติ มีดังนี้
คณะกรรมการธนาคาร: คณะกรรมการอนุมัติและทบทวนนโยบายนี้ผ่านคณะกรรมการกำกับนโยบายความเสี่ยงและธรรมาภิบาล และคณะกรรมการเจ้าหน้าที่บริหาร นอกจากนี้ ควบคุมกำกับดูแลการปฏิบัติตามนโยบายและมีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนให้ธนาคารยึดถือหลักการของการปฏิบัติถูกต้องตามมาตรการที่กำหนดไว้ในนโยบายฉบับนี้ รวมทั้ง ต้องปฏิบัติตามนโยบายฉบับนี้
คณะกรรมการกำกับนโยบายความเสี่ยงและธรรมาภิบาล: คณะกรรมการกำกับนโยบายความเสี่ยงและธรรมาภิบาลรับผิดชอบในการพิจารณาทบทวนพร้อมทั้งกำกับดูแลให้มีการปฏิบัติตามมาตรการด้านการต่อต้านการให้สินบนและการทุจริตคอร์รัปชัน
คณะกรรมการเจ้าหน้าที่บริหารและคณะกรรมการกำกับดูแลกิจการ: คณะกรรมการกำกับดูแลกิจการมีหน้าที่รายงานตรงต่อคณะกรรมการเจ้าหน้าที่บริหาร โดยให้คำแนะนำเกี่ยวกับนโยบาย รวมทั้ง ติดตาม ตรวจสอบ และรายงานการดำเนินการตามนโยบายนี้
กลุ่มงานกำกับธุรกิจ (สายงานกำกับด้านอาชญากรรมทางการเงิน): กลุ่มงานกำกับธุรกิจมีหน้าที่ให้คำปรึกษาและข้อแนะนำเกี่ยวกับมาตรการควบคุมดูแลด้านการต่อต้านการให้สินบนและการทุจริตคอร์รัปชัน รวมทั้ง กำกับการปฏิบัติงานด้านการต่อต้านการให้สินบนและการทุจริตคอร์รัปชัน ภายใต้ฐานตามความเสี่ยง (Risk-based Approach) นอกจากนี้ รับผิดชอบในการจัดฝึกอบรมและให้ความรู้เกี่ยวกับการต่อต้านการให้สินบนและการทุจริตคอร์รัปชัน
พนักงาน: พนักงานต้องทำความเข้าใจและปฏิบัติตามนโยบายนี้ รวมทั้ง ส่งเสริมให้เกิดวัฒนธรรมการปฏิบัติในด้านการต่อต้านการให้สินบนและการทุจริตคอร์รัปชัน และหลีกเลี่ยงการกระทำที่อาจก่อให้เกิดความเสี่ยงอันสืบนื่องจากการให้สินบนและการทุจริตคอร์รัปชัน นอกจากนี้ พนักงานควรรายงานการให้สินบนและการทุจริตคอร์รัปชันทันทีที่ทราบ พร้อมให้ความร่วมมือในการสอบสวนข้อเท็จจริงที่เกี่ยวข้องกับข้อสงสัยด้านการให้สินบนและทุจริตคอร์รัปชัน นอกเหนือไปจากการปฏิบัติตามมาตรการควบคุมหรือขั้นตอนการปฏิบัติงานภายในหน่วยงาน เพื่อควบคุมการให้สินบนและการต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชัน
แนวทางปฎิบัติตามนโยบายและมาตรการเกี่ยวกับการต่อต้านการให้สินบนและการทุจริตคอร์รัปชัน
ข้อห้ามในการปฏิบัติ
ธนาคารห้ามมิให้มีการให้สินบนและการทุจริตคอร์รัปชันทุกรูปแบบ ในเรื่องดังต่อไปนี้
- ให้หรือรับเงินสด หรือสิ่งที่ใช้แทนเงินสดที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมภายใต้นโยบายนี้
- การเสนอ สัญญา หรือให้สิ่งอื่นใดที่มีมูลค่าทางการเงินไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อมแก่บุคคลใด หรือการวางแผน สนับสนุน หรืออนุญาตให้มีการประกอบกิจกรรมดังกล่าว ที่มีวัตถุประสงค์ หรืออาจแสดงให้เชื่อได้ว่ามีวัตถุประสงค์ เพื่อให้ได้มาหรือคงไว้ซึ่งธุรกิจหรือข้อได้เปรียบอื่น ๆ อย่างไม่เหมาะสม
- การเรียกร้องหรือรับสิ่งอื่นใดที่มีมูลค่าทางการเงินไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อมจากผู้ที่มีวัตถุประสงค์ หรืออาจแสดงให้เชื่อได้ว่ามีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างอิทธิพลต่อพนักงานในการดำเนินการต่าง ๆ ในนามธนาคาร อย่างไม่เหมาะสม
- การใช้เงินส่วนตัวเพื่อมอบสิ่งอื่นใดที่มีมูลค่าทางการเงินให้กับคู่สัญญาใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของธนาคาร
- การเสนอ สัญญา หรือการจ่ายเงินเพื่ออำนวยความสะดวกแก่เจ้าหน้าที่ของรัฐ เพื่อเร่งรัด / อำนวยความสะดวกในการดำเนินการหรือบริการของรัฐอย่างไม่เหมาะสม
- การเสนอ สัญญา หรือให้เงินทอน (Kickback) แก่เจ้าหน้าที่ของรัฐ คู่ค้า ผู้ที่อาจจะเป็นคู่ค้า ลูกค้า ผู้ที่อาจจะเป็นลูกค้า หรือบุคคลอื่น ๆ ไม่ว่าในรูปแบบใด ทั้งทางตรงและทางอ้อม
- การปลอมแปลงหรือปกปิดหนังสือ บันทึก บัญชี หรือข้อมูลอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมของธนาคาร ลูกค้า คู่ค้า หรือพันธมิตรทางธุรกิจอื่น ๆ ของธนาคาร
มาตรการป้องกันสำหรับสิ่งอื่นใดที่มีมูลค่าทางการเงิน
การให้หรือรับสิ่งอื่นใดที่มีมูลค่าทางการเงินไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แก่หรือจากบุคคลใด ๆ ต้องใช้วิจารณญาณ และตรวจสอบให้แน่ใจว่ากิจกรรมดังกล่าวเป็นไปเพื่อวัตถุประสงค์ทางธุรกิจที่ถูกต้อง สมเหตุสมผล ถูกบันทึกอย่างถูกต้อง และไม่ก่อให้เกิดความขัดแย้งในผลประโยชน์หรือละเมิดกฎหมาย และนโยบาย โดยการที่จะให้หรือรับสิ่งอื่นใดที่มีมูลค่าทางการเงินแก่หรือจากบุคคลใด ๆ ต้องการทราบว่าบุคคลนั้น เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ลูกค้า ผู้ที่อาจจะเป็นลูกค้า หรือบุคคลอื่น และต้องได้รับการอนุมัติจากผู้บริหารหน่วยงานธุรกิจ ทั้งนี้ เมื่อการให้หรือรับ สิ่งอื่นใดที่มีมูลค่าทางการเงินมีมูลค่าเกินอัตราที่กำหนดไว้ จะต้องได้รับการอนุมัติจากกลุ่มงานกำกับธุรกิจล่วงหน้า (Compliance Pre-Clearance)
- ของขวัญและการเลี้ยงรับรอง
การให้และรับของขวัญและการเลี้ยงรับรองจะต้องมีความเหมาะสมและสอดคล้องกับวัฒนธรรม ประเพณีและธรรมเนียมปฏิบัติ รวมถึง ถูกต้องตามกฎหมายที่บังคับใช้ในแต่ละประเทศที่ธนาคารมีการประกอบธุรกิจ
- การบริจาคและการสนับสนุน
ห้ามบริจาคหรือให้การสนับสนุน หากการให้นั้นมีเจตนาหรือแสดงให้เห็นอย่างสมเหตุสมผลว่ามีเจตนาเพื่อให้ได้มาหรือคงไว้ซึ่งธุรกิจหรือข้อได้เปรียบอื่น ๆ อย่างไม่เหมาะสม
- การช่วยเหลือ / สนับสนุนทางการเมือง
ห้ามช่วยเหลือ/สนับสนุนทางการเมืองด้วยทรัพย์สินส่วนตัวหรือในนามของธนาคารเพื่อเป็นการสร้างอิทธิพลต่อบุคคลภายนอกซึ่งอาจทำให้ธนาคารได้ประโยชน์จากการกระทำดังกล่าว หรือเพื่อความได้เปรียบทางธุรกิจของธนาคารอย่างไม่เหมาะสม
- ค่าวิทยากรและค่าธรรมเนียมวิชาชีพ
หลีกเลี่ยงการจ่ายค่าวิทยากรและค่าธรรมเนียมวิชาชีพให้แก่เจ้าหน้าที่ของรัฐ เพราะการจ่ายเงินดังกล่าวอาจถูกพิจารณาได้ว่ามีจุดมุ่งหมายหรือมีเจตนาที่จะจูงใจผู้รับ
- การจ้างงานหรือฝึกงาน
การจ้างงานหรือการให้การฝึกงาน ทั้งในกรณีที่มีการจ่ายหรือไม่จ่ายค่าจ้างถือเป็นการให้สิ่งอื่นใดที่มีมูลค่าทางการเงินภายใต้นโยบายนี้ ห้ามว่าจ้างงานหรือให้การฝึกงานแก่ผู้สมัคร โดยคาดหวังว่าจะได้รับหรือคงไว้ซึ่งผลประโยชน์ หรือข้อได้เปรียบอื่นๆ อย่างไม่เหมาะสม
ผู้สมัครที่มีความเสี่ยงสูง ต้องได้รับการประเมินในลักษณะเดียวกันกับผู้สมัครรายอื่น และต้องขออนุมัติ Compliance Pre-Clearance ก่อนทำการว่าจ้างงานหรือให้การฝึกงานแก่ผู้สมัครที่มีความเสี่ยงสูง
บทลงโทษ
กรรมการธนาคารที่ฝ่าฝืนการปฏิบัติตามนโยบาย อาจมีความผิดตาม กฎหมาย กฎเกณฑ์ ข้อบังคับ หรือข้อกำหนดอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง นอกจากนี้ พนักงานที่ฝ่าฝืนการปฏิบัติตามนโยบาย จะถูกลงโทษทางวินัยตามกฎข้อบังคับของธนาคาร และอาจมีความผิดตามกฎหมาย กฎเกณฑ์ ข้อบังคับ หรือข้อกำหนดอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
ความถี่ในการทบทวน
นโยบายจะต้องได้รับการทบทวนทุกปีหรือเมื่อมีการแก้ไขปรับปรุงที่มีนัยสำคัญ
การรายงานข้อสงสัยหรือการแจ้งเบาะแส
ธนาคารได้จัดให้มีช่องทางรับเรื่องร้องเรียนจากที่ผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม ในเรื่องหรือข้อสงสัยว่าหน่วยงานและพนักงานของธนาคารได้กระทำการที่ไม่ถูกต้อง อันอาจทำให้เกิดความเสียหายต่อธนาคาร รวมถึงกำหนดมาตรการคุ้มครองผู้ร้องเรียนที่ได้ร้องเรียนด้วยความสุจริต
- จัดทำ “ปรัชญาและสำนึกในการปฏิบัติงาน” (The Spirit & The Letter หรือ S&L) ซึ่งเป็นหลักปฏิบัติว่าด้วยความซื่อสัตย์ภายใต้กรอบกฎหมายและหลักธรรมาภิบาล ซึ่งกำหนดให้กรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานทุกคนต้องปฏิบัติตามโดยได้ระบุถึงสิ่งที่ต้องทราบ สิ่งที่ต้องปฏิบัติ สิ่งที่ต้องระวังและบทลงโทษในกรณีที่มีการฝ่าฝืนไว้เป็นลายลักษณ์อักษร และเพื่อสร้างความตระหนักในหลักปฏิบัติดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง โดยกรุงศรีกำหนดให้พนักงานทุกคนต้องลงนามรับทราบและยินยอมปฏิบัติตามปรัชญาและสำนึกในการปฏิบัติงานเป็นประจำทุกปี
ปรัชญาและสำนึกในการปฏิบัติงาน (The Spirit & The Letter: S&L)
ส่วนที่ 1 ความเป็นเลิศในการปฏิบัติตามกฎระเบียบ
- ความเป็นเลิศในการปฏิบัติตามกฎระเบียบ
ส่วนที่ 2 การทำงานกับลูกค้าและคู่ค้า
- การจ่ายเงินที่ไม่เหมาะสม
- ความสัมพันธ์กับคู่ค้า
- การปฏิบัติตามมาตรการคว่ำบาตร
- การป้องกันการฟอกเงิน
- ความเป็นส่วนตัว
ส่วนที่ 3 การทำงานกับรัฐบาล
ส่วนที่ 4 การปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการแข่งขัน
- การปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการแข่งขัน
ส่วนที่ 5 ในชุมชนของธนาคาร
- แนวทางปฏิบัติว่าด้วยการจ้างงานที่เป็นธรรม
- สิ่งแวดล้อม สุขอนามัย และความปลอดภัย
- การรักษาความปลอดภัยและการจัดการภาวะวิกฤต
ส่วนที่ 6 การปกป้องทรัพย์สินของธนาคาร
- ทรัพย์สินทางปัญญา
- การอำนวยการบัญชี
- ความขัดแย้งในผลประโยชน์
- ข้อมูลที่ไม่พึงเปิดเผยต่อสาธารณะและการป้องกันการซื้อขายหลักทรัพย์โดยใช้ข้อมูลภายใน