กระบวนการระบุประเด็นด้านความยั่งยืนที่สำคัญ

กระบวนการระบุประเด็นด้านความยั่งยืนที่สำคัญ

ขั้นที่ 1 การพิจารณาบริบทขององค์กรและประเมินผลกระทบที่สำคัญ

คณะทำงานรายงานความยั่งยืนภายใต้การกำกับดูแลของคณะกรรมการความยั่งยืน (Sustainability Committee) จะร่วมกับส่วนงานต่างๆ ในองค์กร อาทิ กลุ่มงานกลยุทธ์และวางแผนธุรกิจองค์กร กลุ่มงานบริหารความเสี่ยง กลุ่มงานกำกับดูแลธุรกิจ เป็นต้น ในการพิจารณากิจกรรมทางธุรกิจของธนาคารและบริษัทในกลุ่มธุรกิจทางการเงิน (กรุงศรี กรุ๊ป) รวมถึงประเด็นสำคัญต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับบริบทและการพัฒนาอย่างยั่งยืนของกรุงศรี กรุ๊ป และประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการเป็นผู้ให้บริการทางการเงิน ตลอดจนพิจารณาประเด็นด้านความยั่งยืนที่มีนัยสำคัญต่อผู้มีส่วนได้เสีย ทั้งนี้ การพิจารณาบริบทขององค์กรและประเมินผลกระทบที่สำคัญจะสอดคล้องกับแนวคิด “Double Materiality” ที่คำนึงถึงความสมดุลของมุมมองด้าน "สาระสำคัญทางการเงิน" (Financial Materiality) ขององค์กร และ "ผลกระทบที่มีนัยสำคัญ" (Impact Materiality) ต่อผู้มีส่วนได้เสียตลอดห่วงโซ่คุณค่า ซึ่งรวมถึงความเร่งด่วนของวาระและเป้าหมายนโยบายสาธารณะทางสังคมหรือสิ่งแวดล้อมทั้งระดับประเทศและระดับสากล โดยมีรายละเอียดดังนี้

1. การพิจารณาประเด็นด้านความยั่งยืนที่มีนัยสำคัญและมีผลกระทบต่อองค์กร (Significance of Economic, Environmental, and Social Impacts) ได้แก่
   1. พิจารณาความสัมพันธ์ (Relevance) ของประเด็นด้านความยั่งยืนต่อองค์กรในด้านต่างๆ อาทิ
      • ปรัชญา วิสัยทัศน์ ค่านิยมขององค์กร
      • ทิศทางการดำเนินธุรกิจ กลยุทธ์ นโยบาย แนวปฏิบัติ
      • ความเสี่ยงต่อองค์กร (มากน้อยในระดับใด)
   2. พิจารณาถึงผลกระทบของประเด็นด้านความยั่งยืนต่อการดำเนินงาน และความสามารถในการทำกำไรและเติบโตของธุรกิจ ซึ่งเป็นมุมมองจากภายนอกสู่ภายใน (Outside-in) เช่น การพิจารณาว่าการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศอาจส่งผลกระทบต่อผลการดำเนินธุรกิจและสถานะทางการเงินของธนาคารอย่างไร เป็นต้น ซึ่งการพิจารณาจะครอบคลุมผลกระทบต่อองค์กร ดังนี้
      • ด้านการเงิน
      • ด้านการดำเนินงาน
      • ด้านกลยุทธ์
      • ด้านชื่อเสียงและภาพลักษณ์องค์กร
      • ด้านกฎหมาย ข้อบังคับ หรือข้อปฏิบัติทางธุรกิจ เป็นต้น
   3. พิจารณาผลกระทบจากกิจกรรมขององค์กรที่มีต่อสิ่งแวดล้อมและสังคมทั้งในระดับใกล้และไกลจากพื้นที่ดำเนินธุรกิจของธนาคาร โดยการพิจารณาดังกล่าวเป็นการสะท้อนมุมมองจากภายในสู่ภายนอก (Inside-out) เช่น การพิจารณาว่ากิจกรรมทางธุรกิจ การลงทุน การให้สินเชื่อ มีผลกระทบต่อการปล่อยก๊าซเรือนกระจกซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อประชาชนและสิ่งแวดล้อมโดยรวมอย่างไร เป็นต้น
2. การพิจารณาประเด็นด้านความยั่งยืนที่มีนัยสำคัญต่อผู้มีส่วนได้เสียขององค์กร (Influence on Stakeholder Assessment and Decisions) ได้แก่ ประเด็นที่อยู่ในความสนใจและความคาดหวังของผู้มีส่วนได้เสีย ประเด็นที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจของผู้มีส่วนได้เสีย เป็นต้น ผ่านการมีส่วนร่วมกับผู้มีส่วนได้เสียในรูปแบบต่างๆ อาทิ การประชุม การพบปะสนทนา การเสวนา การสัมภาษณ์ การสำรวจความคิดเห็นที่มีต่อการดำเนินงานด้านความยั่งยืนของกรุงศรี โดยมีการนำข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะที่ได้รับมาพิจารณาร่วมด้วย
3. การพิจารณาประเด็นด้านความยั่งยืนที่สอดคล้องกับมาตรฐานในประเทศและระดับสากล กรุงศรีได้นำประเด็นความยั่งยืนที่ได้ดำเนินงานและรายงานในปีที่ผ่านมากลับมาพิจารณาอีกครั้ง ควบคู่ไปกับการนำแนวปฏิบัติที่ดี ดัชนีและการประเมินด้านความยั่งยืนจากหน่วยงานต่างๆ ทั้งในระดับประเทศและระดับสากลมาร่วมพิจารณาด้วย อาทิ
   • การประเมินหุ้นยั่งยืน SET ESG Rating โดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.)
   • การติดตามและประเมินธนาคารพาณิชย์ตามแนวทางการธนาคารอย่างยั่งยืน โดยธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)
   • หลักเกณฑ์ตามโครงการสำรวจการกำกับดูแลกิจการบริษัทจดทะเบียน โดยสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย (IOD)
   • การประเมิน Corporate Sustainability Assessment (CSA) ของ S&P Global
   • ดัชนีความยั่งยืนระดับสากล อาทิ Dow Jones Sustainability Indices (DJSI)
   • การประเมินด้านความยั่งยืน (SUSBA Report) โดยองค์การกองทุนสัตว์ป่าโลกสากล (World Wide Fund for Nature: WWF)
   • การประเมินธนาคารพาณิชย์ไทยตามเกณฑ์แนวร่วมทางการเงินที่เป็นธรรมนานาชาติ โดย Fair Finance Thailand
     เป็นต้น

ขั้นที่ 2 การระบุและจัดลำดับประเด็นความสำคัญ

คณะทำงานรายงานความยั่งยืนภายใต้การกำกับดูแลของคณะกรรมการความยั่งยืน (Sustainability Committee) ดำเนินการระบุประเด็นด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) ที่เกี่ยวข้องและมีนัยสำคัญต่อธุรกิจและผู้มีส่วนได้เสีย จากนั้นจะดำเนินการจัดลำดับความสำคัญและจัดกลุ่มแต่ละประเด็นให้เหมาะสม เพื่อนำไปเสนอขอความเห็นชอบจากคณะกรรมการความยั่งยืนต่อไป

ขั้นที่ 3 การตรวจสอบประเด็นด้านความยั่งยืนที่สำคัญ

คณะกรรมการความยั่งยืน (Sustainability Committee) ซึ่งมีผู้บริหารระดับสูงสุด (กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร) เป็นประธานคณะกรรมการ และมีผู้บริหารระดับสูงจากหลายกลุ่มงานของธนาคารเป็นกรรมการ ได้ร่วมกันพิจารณาตรวจสอบและอนุมัติประเด็นด้านความยั่งยืนที่สำคัญเป็นประจำทุกปี เพื่อให้มั่นใจว่ากรุงศรีได้คำนึงถึงประเด็นด้านความยั่งยืนต่างๆ อย่างรอบด้าน รวมทั้งได้นำเสนอให้คณะกรรมการเจ้าหน้าที่บริหารพิจารณาและรับทราบด้วย จากนั้นจะสื่อสารประเด็นสำคัญด้านความยั่งยืนให้ทุกกลุ่มงานของธนาคารรับทราบ เพื่อนำไปกำหนดแนวทางบริหารจัดการด้านความยั่งยืนตามความสำคัญและความเร่งด่วน และจัดทำรายงานความยั่งยืนในลำดับต่อไป

ขั้นที่ 4 การพิจารณาทบทวนประเด็นด้านความยั่งยืนที่สำคัญ

ภายหลังจากการเผยแพร่รายงานความยั่งยืนในแต่ละปี กรุงศรีได้กำหนดกระบวนการทบทวนประเด็นด้านความยั่งยืนที่สำคัญ โดยจัดให้มีช่องทางรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม อาทิ เว็บไซต์ krungsri.com แบบสอบถามที่ได้แนบไว้ท้ายเล่มรายงานฉบับนี้ หรือช่องทางการมีส่วนร่วมอื่นๆ เพื่อนำมาใช้เป็นแนวทางในการกำหนดทิศทางการดำเนินงานด้านความยั่งยืนและพัฒนาการดำเนินงานของธนาคาร รวมถึงเปิดเผยข้อมูลในรายงานฉบับต่อไป

การเปลี่ยนแปลงการรายงานประเด็นด้านความยั่งยืนที่สำคัญ

จากการพิจารณา วิเคราะห์ และทบทวนประเด็นด้านความยั่งยืนที่สำคัญของกรุงศรี ประจำปี 2568 พบว่า ประเด็นด้านความยั่งยืนยังคงสอดคล้องกับปี 2567 ที่ผ่านมาเป็นส่วนใหญ่ อย่างไรก็ตาม กรุงศรีได้เพิ่มประเด็นด้านการกำกับดูแลปัญญาประดิษฐ์ เข้ามาโดยมีการเปิดเผยข้อมูลการดำเนินงานควบคู่ไปกับประเด็นความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ เพื่อแสดงถึงความรับผิดชอบในการบริหารจัดการและกำกับดูแลการใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์อย่างรอบด้าน อีกทั้งยังสอดคล้องกับความคาดหวังของผู้มีส่วนได้เสีย อาทิ ลูกค้า หน่วยงานกำกับดูแล และองค์กรด้านความยั่งยืนในระดับประเทศและระดับสากล

นอกจากนี้ การเปลี่ยนแปลงของลำดับประเด็นด้านความยั่งยืนที่สำคัญยังสะท้อนให้เห็นถึงกลยุทธ์ ทิศทาง และวาระเร่งด่วนในการดำเนินธุรกิจของกรุงศรีที่เชื่อมโยงกับมิติด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) เพื่อมุ่งสู่การธนาคารอย่างยั่งยืนอย่างเป็นรูปธรรม

ประเด็นด้านความยั่งยืนที่สำคัญ