ข้อควรรู้เกี่ยวกับการหักลดหย่อนภาษีดอกเบี้ยเงินกู้ยืมสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย
ตามประมวลรัษฎากร กำหนดให้การหักลดหย่อนภาษีดอกเบี้ยเงินกู้ยืมสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยได้ตามที่จ่ายไปจริง เป็นจำนวนเงินสูงสุดไม่เกิน 100,000 บาท โดยมีเงื่อนไขหลักๆ ดังต่อไปนี้
- ต้องเป็นการกู้ยืมจากสถาบันการเงินที่ประกอบกิจการภายในราชอาณาจักรไทยเท่านั้น
- เป็นดอกเบี้ยเงินกู้ยืมตามสัญญากู้ยืมเงินเพื่อซื้อ อาคาร อาคารพร้อมที่ดิน หรือห้องชุดในอาคารชุด หรือเพื่อสร้างอาคารใช้อยู่อาศัยบนที่ดินของตนเองหรือบนที่ดินที่ตนเองมีสิทธิครอบครอง
- ทรัพย์สินที่กู้ต้องใช้เป็นหลักประกันในการกู้ (จำนอง)
- หากมีการกู้สำหรับที่อยู่อาศัยมากกว่า 1 แห่ง สามารถใช้ลดหย่อนได้ทุกแห่งแต่รวมกันแล้วต้องไม่เกิน 100,000 บาท
- กรณีที่เป็นการกู้ร่วมกันหลายคน ให้แบ่งดอกเบี้ยคนละเท่าๆ กันแต่รวมกันแล้วต้องไม่เกิน 100,000 บาท
ทำไมต้องแจ้งความประสงค์ให้ธนาคารนำส่งและเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับดอกเบี้ยเงินกู้ยืมสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยต่อกรมสรรพากร
สำหรับการกู้ยืมเงินที่ได้เริ่มทำสัญญาตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2564 เป็นต้นไป ผู้มีเงินได้ต้องแจ้งความประสงค์ที่จะใช้สิทธิยกเว้นภาษีเงินได้ต่อธนาคาร เพื่อให้ธนาคารนำส่งและเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับดอกเบี้ยเงินกู้ยืม และข้อมูลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องตามสัญญากู้ยืมเงินต่อกรมสรรพากร เพื่อประโยชน์ในการใช้สิทธิขอหักลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กรมสรรพากรกำหนด
สามารถศึกษาจากประกาศกรมสรรพากรได้ที่
link1 link2
แจ้งความประสงค์ขอใช้สิทธิยกเว้นภาษีเงินได้ตามกฎหมายว่าด้วยภาษีอากร
เพื่อสิทธิประโยชน์ของท่านในการใช้สิทธิขอหักลดหย่อนภาษีตามประกาศกรมสรรพากร ท่านจะต้องแจ้งความประสงค์แก่ธนาคารในการนำส่งและเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับ ดอกเบี้ยเงินกู้ยืม และข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องตามสัญญากู้ยืมเงินต่อกรมสรรพากร ทั้งนี้ การแจ้งความประสงค์ดังกล่าวจะเริ่มมีผลตั้งแต่ปีภาษี 2564 เป็นต้นไป จนกว่าท่าน จะได้แจ้งเพิกถอนความยินยอมมายังธนาคารผ่านช่องทาง และเงื่อนไขที่ธนาคารกำหนด