3 บทเรียนชีวิตที่ “โควิด-19” สอนเรา

3 บทเรียนชีวิตที่ “โควิด-19” สอนเรา

By Krungsri Plearn Plearn
นับตั้งแต่มีการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ตั้งแต่ปลายปี 2019 ในต่างประเทศ จนมาถึงการระบาดรอบแรกในประเทศไทยที่หลายภาคส่วนต้องปิดธุรกิจ หยุดทุกอย่างล็อกดาวน์เอาไว้หลายเดือน จากเหตุการณ์ครั้งนั้นมีความวุ่นวายมากมายเกิดขึ้นกับชีวิตพวกเราอย่างต่อเนื่อง เช่น ธุรกิจการท่องเที่ยวต้องหยุดชะงัก สายการบินต่าง ๆ ต้องหยุดบิน หรือแม้แต่ธุรกิจการเงินก็ต้องปรับตัวเนื่องจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดส่งผลกระทบไปทุกด้านตั้งแต่รัฐบาลผู้นำประเทศ เจ้าของธุรกิจรายใหญ่ รายย่อย จนถึงมนุษย์เงินเดือน หรือคนธรรมดา และเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้เปลี่ยนพฤติกรรมในชีวิตของเราไปอย่างสิ้นเชิง จนเมื่อกลางปี 2020 ที่ผ่านมาสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ในประเทศไทยนี้มีแนวโน้มที่จะดีขึ้น หลายธุรกิจก็เริ่มที่จะกลับมาให้บริการ เหมือนว่าทุกคนกำลังจะกลับมาใช้ชีวิตที่ปกติ

แต่แล้วเมื่อปลายปี 2020 ที่ผ่านมาก็เกิดเหตุการณ์ที่เชื้อไวรัสโควิด-19 กลับมาระบาดอีกครั้ง และในครั้งนี้ก็รุนแรงมากขึ้น มีการแพร่ระบาดในตลาดซึ่งเป็นสถานที่ที่คนทั่วไปมาจับจ่ายซื้อของ หลายพื้นที่กลายเป็นพื้นที่เสี่ยง มีผู้คนหรือธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ครั้งนี้หนักไม่น้อยเลยทีเดียว วันนี้เราอยากจะนำบทเรียนชีวิตที่ได้พบเจอจากการระบาดของเชื้อโควิด-19 เพื่อจะให้ทุกคนได้นำไปปรับใช้ในชีวิต จะมีเรื่องไหนที่น่าสนใจกันบ้าง ไปร่วมถอดบทเรียนที่มีค่าครั้งนี้ไปกับเราได้เลย
3 บทเรียนชีวิตที่โควิด-19 ระลอกสอง สอนเรา

ธุรกิจยุคใหม่ไม่จำเป็นต้องมีหน้าร้าน ในเมื่อออนไลน์ก็ขายได้

จากเหตุการณ์การระบาดของโควิด-19 ทั้งสองระลอก เป็นเครื่องพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าธุรกิจประเภทห้างสรรพสินค้า หรือตลาดนัด กำลังมีปัญหาเนื่องจากผู้คนไม่นิยมออกไปช้อปปิ้ง และยังต้องเสี่ยงกับเหตุการณ์ที่ไม่มีความแน่นอนหากมีผู้มีติดเชื้อโควิด-19 เข้ามาใช้บริการ อาจทำให้ต้องปิดสถานที่เป็นการชั่วคราว ซึ่งถ้าเราเปิดธุรกิจหรือร้านค้า ที่อยู่ในห้างหรือตลาด จากเดิมที่อาจมียอดขายเข้ามาบ้าง แต่ถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น รายได้ของเราก็อาจไม่มีเข้ามาเลย ซ้ำยังต้องจ่ายค่าเช่าที่ ทำให้การเงินของเราแย่หนักเข้าไปอีก

เพราะเหตุการณ์ที่ไม่แน่นอนเช่นนี้ การขายของในรูปแบบออนไลน์จึงอาจเป็นคำตอบในธุรกิจของคุณ เพราะในปัจจุบันพฤติกรรมช้อปปิ้งคนได้เปลี่ยนไป ตอนนี้ไม่ว่าเราอยากได้อะไร อยากซื้อของใช้ สั่งอาหาร หรืออยากเรียนพิเศษ ก็มีบริการแบบออนไลน์ให้เลือก และไม่ต้องกลัวว่าการเปิดร้านแบบออนไลน์จะยาก เพราะทุกวันนี้เราสามารถเริ่มต้นมีร้านค้าเพื่อที่จะสร้างยอดขายได้ง่ายในโซเชียลมีเดีย เช่น Facebook, LINE หรือเว็บไซต์ที่เป็นแพลตฟอร์มให้เปิดร้านค้าฟรีอย่าง Lnwshop แพลตฟอร์มให้เปิดร้านค้าฟรีอย่าง Lnwshop ที่เราสามารถเปิดขายสินค้าอะไรก็ได้ ไม่จำกัดจำนวนสต๊อก และที่สำคัญยังเชื่อมระบบกับแพลตฟอร์มช้อปปิ้งออนไลน์อย่าง Shopee หรือ Lazada เพื่อเพิ่มช่องทางการขายได้อีกด้วย และเรายังสามารถผูกบริการจ่ายเงินแบบออนไลน์ เพื่อให้ลูกค้าจ่ายเงินโดยตรงมาที่เรา ไม่ต้องเสียค่าเช่าอีกต่อไป เชื่อได้เลยว่าหากเรารู้จักที่จะปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ ไม่ว่าจะโรคระบาดชนิดไหน ๆ ก็หยุดธุรกิจของคุณไม่ได้
3 บทเรียนชีวิตที่โควิด-19 ระลอกสอง สอนเรา

การมีเงินจากหลายช่องทางจะช่วยให้ชีวิตดีมากขึ้น

จากสถานการณ์ในชีวิตที่มีแต่ความไม่แน่นอน การหวังพึ่งรายได้จากเงินเดือนทางเดียวคงไม่พออีกแล้ว เพราะเราก็ไม่รู้เหมือนกันว่าตำแหน่งงานที่เราทำอยู่จะโดนเลย์ออฟหรือไม่ การมีเงินเก็บเอาไว้ยิ่งเยอะเท่าไหร่ ก็จะยิ่งเพิ่มความปลอดภัยให้กับชีวิตเราได้ในวันที่ไวรัสโควิด-19 ยังไม่หายไปแบบนี้ แต่ถ้าใครยังมีเงินเก็บที่น้อย หรืออยากมีรายได้ให้มากขึ้นเราอาจใช้การลงทุน เพื่อสร้างฐานะของเราให้มีความมั่นคงทางการเงิน

โดยการลงทุนเราสามารถทำได้หลายรูปแบบ เช่น ลงทุนการทำธุรกิจทั้งแบบเริ่มด้วยตัวเอง หรือซื้อธุรกิจแฟรนไชส์มาเปิด หรือการลงทุนในกองทุนรวมในแต่ละธนาคาร โดยที่เราอาจเลือกกองทุนรวมที่ให้เงินปันผล หรือถ้าใครไม่ต้องการรอเงินปันผล เพราะคิดว่าหากมีสถานการณ์ฉุกเฉิน ที่ต้องใช้เงินด่วนก็อาจเลือกเก็บออมเงินในบัญชีออมทรัพย์ที่ให้ดอกเบี้ยเราในทุกเดือน เช่น บัญชีเงินฝากออมทรัพย์มีแต่ได้ ของธนาคารกรุงศรี ก็เป็นทางเลือกที่ดี เพราะนอกจากจะให้ผลตอบแทนที่ดี ยังสามารถถอนออกมาใช้ได้ตลอดเวลา ในยุคนี้การมีเงินจากหลายช่องทางจะช่วยลดความเสี่ยงในชีวิตเมื่อเจอวิกฤติต่าง ๆ เพราะถ้าเราขาดรายได้จากช่องทางหนึ่ง ก็ยังมีรายได้อีกหลายช่องทางที่เราได้เตรียมไว้ใช้ ไม่ว่าจะเจอสถานการณ์แบบไหน เงินที่เรามีไว้จะช่วยให้รอดพ้นจากทุกสิ่งอย่างแน่นอน
3 บทเรียนชีวิตที่โควิด-19 ระลอกสอง สอนเรา

เรื่องของ ’สุขภาพ’ ก็สำคัญไม่แพ้เรื่องเงิน

การมีสุขภาพที่แข็งแรงจะช่วยให้เราก้าวผ่านทุกปัญหาในชีวิต คำกล่าวนี้เป็นความจริงเสมอเพราะว่าในช่วงนี้ที่สถานการณ์เชื้อไวรัสโควิด-19 ถ้าเรามีสุขภาพที่แข็งแรงอยู่ตลอดเวลา ก็จะช่วยต้านทานเชื้อโรคที่เข้าสู่ร่างกายได้ หรือการดูแลตัวเองในระหว่างที่ต้องทำงานอยู่ที่บ้านก็สำคัญไม่แพ้กัน เพราะการทำงานที่บ้านอาจทำให้หลายคนป่วยบ่อยมากกว่านั่งทำงานอยู่ที่ออฟฟิศ นั่นก็เพราะว่า ในช่วงแรกที่เราได้ทำงานอยู่ที่บ้านอาจมีความสุขที่ไม่ต้องเดินทางฝ่ารถติดให้เหนื่อย แต่เมื่อทำงานไปเรื่อย ๆ หลายคนจะแยกไม่ออกระหว่าง พื้นที่พักผ่อน และพื้นที่ทำงาน อาจทำให้เกิดความเครียดสะสม จนนำไปสู่อาการเจ็บป่วย หรือในช่วงที่ต้องทำงานที่บ้าน อาจมีระยะเวลาการทำงานที่ต้องทำมากขึ้นกว่าปกติ ทำให้เราต้องนั่งทำงานนาน ๆ ส่งผลถึงกล้ามเนื้อ ทำให้เกิดโรคออฟฟิศซินโดรม ซึ่งบางคนก็มีอาการรุนแรงเช่น ปวดหลัง ปวดก้นกบ ทำให้ใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างลำบาก

หากใครที่กำลังเจอปัญหาแบบนี้อาจเริ่มต้นเปลี่ยนพฤติกรรมของเราจากเดิมที่ออกกำลังกายที่ฟิตเนส ในช่วงนี้อาจเริ่มต้นทำมุมออกกำลังกายในบ้านก็ได้ อาจใช้อุปกรณ์ง่ายๆ อย่างดัมเบล หรือใช้อุปกรณ์เล่นเกมอย่าง Ring fit จากเครื่องเกม Nintendo Switch เพื่อสำหรับทำคาร์ดิโอด้วยตัวเองที่บ้าน หรือการลดความเสี่ยงจากโรคออฟฟิศซินโดรมสำหรับผู้ที่ต้องทำงานที่บ้าน ลองตั้งเวลาทุก 1 ชั่วโมงให้ลุกออกจากเก้าอี้แล้วเดินพักผ่อนให้กล้ามเนื้อได้ผ่อนคลาย ทำแบบนี้เป็นประจำร่างกายของเราก็ลดโอกาสที่จะเจ็บป่วยลงได้ ในช่วงเวลาแบบนี้ถ้าเรามีร่างกายที่ดี ไม่ว่าจะเจอกับเหตุการณ์อะไร เราก็จะก้าวผ่านไปได้อย่างง่ายดาย

นี่เป็นส่วนหนึ่งที่เราได้เรียนรู้จากการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 มีหลายอย่างที่ส่งผลมาตั้งแต่การระบาดในรอบแรก ว่าถึงเวลาแล้วที่เราต้องหาทางออกให้ชีวิตเมื่อเจอกับผลกระทบที่เปลี่ยนชีวิตของพวกเราทุกคน ในเหตุการณ์ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในครั้งนี้
ขอบคุณข้อมูลจาก: -
พิมพ์สิ่งที่ต้องการค้นหา