วิธีโปรโมตร้านผ่าน Social Media ให้สินค้าติดตลาด

วิธีโปรโมตร้านผ่าน Social Media ให้สินค้าติดตลาด

By Krungsri Plearn Plearn

การเข้ามาของสื่อสังคมออนไลน์ได้สร้างความเปลี่ยนแปลงให้วิถีชีวิตและพฤติกรรมของผู้คนไปจากเดิม โดยทุกวันนี้ ทุกความเคลื่อนไหวในชีวิตประจำวันส่วนใหญ่ล้วนอยู่ในโลกออนไลน์แทบทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น การรับรู้ข้อมูลข่าวสาร การเลือกซื้อสินค้า ตลอดจนการทำธุรกรรมทางการเงิน และการขายของบน Social Media


ในส่วนของการทำธุรกิจ อาจกล่าวได้ว่าสื่อสังคมออนไลน์ กลายเป็นเครื่องมือสำคัญของผู้ประกอบการในการเพิ่มช่องทางเข้าถึงผู้บริโภคโดยตรง และสร้างการรับรู้ให้กับตัวแบรนด์มากยิ่งขึ้น ด้วยข้อดีที่สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ในจำนวนมาก สามารถโต้ตอบกันได้แบบ Real Time รู้ฟีดแบ็กของสินค้าว่าเป็นเช่นไร ดังนั้นจึงปฏิเสธไม่ได้ว่าผู้ประกอบการในยุคปัจจุบันไม่ควรมองข้ามการทำการตลาดและขายของบน Social Media
 
ข้อมูลจาก Priceza เว็บไซต์เปรียบเทียบราคาสินค้าบนออนไลน์ เผยว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศไทย ผลักดันให้ผู้บริโภคหันมาซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น โดยคาดการณ์ว่ามูลค่าของตลาดอีคอมเมิร์ซจะพุ่งสูงถึง 220,000 ล้านบาทในปี 2020 เติบโตสูงขึ้น 35% จากปี 2019 ที่มีมูลค่าอยู่ที่ 163,300 ล้านบาท
 
แม้ว่ากระแสการซื้อสินค้าออนไลน์และขายของบน Social Media ในประเทศไทยจะเป็นที่ยอดนิยม แต่เมื่อเทียบกับประเทศอื่น ๆ ทั่วโลก พบว่ามูลค่าตลาดอีคอมเมิร์ซไทย คิดเป็น 3% เท่านั้น เมื่อเทียบกับประเทศยักษ์ใหญ่อย่างจีนที่ตลาดอีคอมเมิร์ซมีสัดส่วนถึง 25% นั่นหมายความว่าตลาดอีคอมเมิร์ซในประเทศไทยยังสามารถเติบโตต่อไปได้อีก และเป็นโอกาสของผู้ประกอบการที่จะโปรโมตร้านผ่าน Social Media และนำสินค้าเข้ามาขายผ่านช่องทางออนไลน์
 
โดยข้อมูลดังกล่าวสอดคล้องกับการศึกษาหัวข้อ ‘Riding the Digital Wave: Southeast Asia’s Discovery Generation’ ของ เฟซบุ๊ก-เบนแอนด์ คอมพานี ที่ระบุว่า ผู้บริโภคชาวไทยมีอัตราการซื้อสินค้าออนไลน์เฉลี่ย 11,000 บาท คิดเป็น 29% ขณะที่ผู้บริโภคซื้อสินค้าออนไลน์ใช้เงินเฉลี่ย 11,000-18,000 บาท มีอัตราสูงถึง 35% และผู้บริโภคซื้อสินค้าออนไลน์ใช้เงินเฉลี่ย 6,000-8,000 บาท คิดเป็น 34% ไม่เพียงเท่านั้น ยังมีการคาดการณ์อีกว่า ภายในอีก 5 ปีข้างหน้า หรือในปี 2568 ประเทศไทยจะเป็นผู้นำการซื้อของออนไลน์ในภูมิภาคอาเซียน โดยมีอัตราการเติบโต 5 เท่า

อย่างไรก็ตาม ด้วยความที่สื่อสังคมออนไลน์มีหลากหลายแพลตฟอร์ม ผู้ประกอบการจึงควรจะคิดให้ถี่ถ้วนว่าควรโปรโมตร้านผ่าน Social Media หรือแพลตฟอร์มอื่น ๆ อย่างไรให้เกิดประสิทธิภาพสูงที่สุด ซึ่งการโปรโมตหรือขายของบน Social Media และช่องทางออนไลน์แต่ละแบบก็มีวิธีการทำให้สินค้าติดตลาดและเป็นที่พูดถึงแตกต่างกัน มาดูกันทีละช่องทางเลย
 
สื่อสังคมออนไลน์ ใช้โปรโมทร้านและสินค้าอย่างไรให้ติดตลาด - Facebook
 

1. Facebook 

ผลสำรวจพฤติกรรมผู้ใช้อินเทอร์เน็ต ปี 2562 ของ ETDA พบว่า คนไทยนิยมขายของบน Social Media ผ่านแพลตฟอร์ม Facebook คิดเป็นสัดส่วนถึง 64% โดยให้เหตุผลว่าเป็นช่องทางที่ง่ายที่สุด ดังนั้น จึงไม่แปลกที่ผู้ประกอบการจะเริ่มสร้างร้านค้าผ่านทาง Facebook Fanpage เพื่อเสนอสินค้า และบริการไปยังกลุ่มเป้าหมาย
 
สำหรับจุดเด่นของการโปรโมตร้านผ่าน Facebook เป็นเรื่องของจำนวนผู้ใช้งานที่มีมากถึง 48 ล้านบัญชี จึงเป็นโอกาสที่จะเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้โดยตรง สำหรับผู้ประกอบการสามารถนำเสนอสินค้าด้วยวิธีการที่หลากหลาย ซึ่งแบ่งหัวข้อได้ดังต่อไปนี้
  • การขายของบน Facebook จะเป็นการสื่อสารด้วยการใช้ตัวอักษรเป็นหลัก ดังนั้น ผู้ประกอบการควรที่จะสร้างตัวตนบนโลกออนไลน์ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าว่าเรามีตัวตนอยู่จริง ซึ่งวิธีการก็ไม่ได้ยากอะไร เพียงหมั่นโพสต์รายละเอียดเกี่ยวกับสินค้าบ่อย ๆ โต้ตอบกับคนที่เข้ามาแสดงความคิดเห็นบนเพจของร้านเป็นประจำ เพื่อให้ลูกค้าที่เข้ามาดูเพจของร้านเกิดความมั่นใจ บ่อย ๆ โต้ตอบกับคนที่เข้ามาแสดงความคิดเห็นบนเพจของร้าน
  • เมื่อการขายสินค้าผ่านทาง Facebook เป็นการสื่อสารด้วยการใช้ตัวอักษรเป็นส่วนใหญ่ ผู้ประกอบการควรให้ความสำคัญกับเรื่องของ Content เป็นอย่างมาก ว่าควรจะมีวิธีการนำเสนออย่างไรให้น่าดึงดูดใจลูกค้า ซึ่งวิธีโปรโมตร้านผ่าน Social Media อาจจะใช้การเขียน Content อธิบายว่าสินค้าที่ขายจะช่วยแก้ปัญหาหรือเปิดประสบการณ์ใหม่ให้กับลูกค้าอย่างไรบ้าง โดยเทคนิคของการเขียนนั้นควรใช้ภาษาที่เข้าใจง่าย ใส่ความเป็นกันเอง หรือจะคิดคำใหม่ ๆ ขึ้นมาเป็น Caption ให้โพสต์ดูน่าติดตามมากขึ้นก็ไม่ว่ากัน
  • รูปภาพสินค้าที่ใช้ประกอบก็มีความสำคัญต่อการขายของบน Social Media ไม่แพ้กัน เพราะหากรูปภาพสวยก็ย่อมสร้างความสะดุดตาแก่ผู้พบเห็น โดยรูปภาพสินค้าควรมีความใกล้เคียงกับสินค้าจริงมากที่สุด เพื่อป้องกันเรื่องร้องเรียนที่อาจสร้างความเสียหายต่อแบรนด์ในภายหลัง อีกทั้งผู้ประกอบการอย่าลืมใส่โลโก้แบรนด์ หรือลายน้ำเข้าไปในรูปภาพด้วย จะได้เป็นการสร้างการรับรู้ว่าเป็นสินค้าจากแบรนด์ของเรา
  • ปัจจุบัน Facebook เอื้อให้มีการทำธุรกิจมากขึ้น โดยเฉพาะ Facebook Marketplace ซึ่งเป็นพื้นที่ให้ผู้ประกอบการสามารถโปรโมตร้านผ่าน Social Media ได้แบบฟรี ๆ ไม่เสียค่าใช้จ่าย หรือจะเป็นการสร้างกลุ่มขึ้นมาเพื่อให้สมาชิกสามารถรับรู้เรื่องราวของสินค้าที่ขายอยู่โดยตรงก็เป็นอีกหนึ่งช่องทางที่น่าสนใจไม่แพ้กัน
  • สุดท้าย ผู้ประกอบการอย่าลืมจัดโปรโมชัน ซึ่งเป็นเรื่องคู่กันสำหรับการค้าขาย โดยอาจจะมอบส่วนลดให้กับลูกค้ารายใหม่ รับส่วนลดเมื่อซื้อสินค้าตามราคาที่กำหนด รวมถึงการแชร์โพสต์โปรโมชันเพื่อรับส่วนลดพิเศษ ซึ่งถือเป็นการช่วยโปรโมตสินค้าให้ผู้อื่นที่ยังไม่รู้จักแบรนด์ได้เห็นไปด้วยในเวลาเดียวกัน
 
สื่อสังคมออนไลน์ ใช้โปรโมทร้านและสินค้าอย่างไรให้ติดตลาด - Youtube
 

2. YouTube

YouTube เป็นแพลตฟอร์มที่นำเสนอ Content ในรูปแบบวิดีโอที่เป็นเครื่องมือสำคัญในการขายสินค้าบนสังคมออนไลน์ และผู้ประกอบการหลายรายมีแนวโน้มที่จะนำแพลตฟอร์มนี้มาใช้นอกเหนือจากการโปรโมตร้านผ่าน Social Media อย่าง Facebook หรือ Instagram มากขึ้น สอดคล้องกับข้อมูลจาก APPSUMO ที่นำสถิติการสร้างวิดีโอคอนเทนต์ออกมาเผยแพร่พบว่า แบรนด์สินค้า 85% ทำการตลาดออนไลน์โดยใช้ YouTube เพื่อโปรโมทสินค้า ขณะที่กลุ่มธุรกิจ SME ที่ขายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ระบุว่า การทำวิดีโอช่วยให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย และมีแนวโน้มที่จะมาเป็นลูกค้าของร้านในที่สุด
 
จากที่กล่าวมานั้นเป็นเครื่องยืนยันว่า ในยุคสมัยที่ผู้คนหันมาซื้อสินค้าออนไลน์กันมากขึ้น เนื้อหาในรูปแบบวิดีโอมีความสำคัญเป็นอย่างมากต่อการตัดสินใจซื้อสินค้าของลูกค้า โดยผู้ประกอบการสามารถใช้ไอเดียสร้าง Content วิดีโอคุณภาพขึ้นมาให้มีความสอดคล้องกับสินค้า ดังต่อไปนี้
  • ทำวิดีโอรีวิวสินค้า ถือเป็นการโฆษณาสินค้าอีกทางหนึ่งให้กับกลุ่มผู้ที่ไม่ได้เป็นลูกค้าของแบรนด์ให้รู้จักกับสินค้า เพื่อเพิ่มโอกาสให้พวกเขาเหล่านี้กลายมาเป็นลูกค้าต่อไปในอนาคต
  • หากเป็นสินค้าที่ต้องมีขั้นตอนการใช้งานที่ซับซ้อน เช่น เครื่องมือเกี่ยวกับเทคโนโลยี การโปรโมตร้านผ่าน Social Media ที่มาพร้อม Content วิธีสอนการใช้งานก็จะช่วยให้ลูกค้าเข้าใจขั้นตอนได้ง่ายขึ้น
  • ทำวิดีโอถาม-ตอบ เกี่ยวกับสินค้า ซึ่งผู้ประกอบการอาจจะต้องรวบรวมคำถามที่มักเจอบ่อยเวลาขายสินค้ามาทำ Content วิดีโอเพื่อคลายข้อสงสัยให้กับลูกค้า
 
สื่อสังคมออนไลน์ ใช้โปรโมทร้านและสินค้าอย่างไรให้ติดตลาด - Instagram
 

3. Instagram

Instagram เป็นแพลตฟอร์มที่มีจุดเด่นในเรื่องการนำเสนอรูปภาพที่สวยงามและการทำวีดีโอสั้น ๆ จึงเป็นอีกหนึ่งช่องทางสำหรับผู้ประกอบการที่ต้องการโปรโมตร้านและขายของบน Social Media โดยเฉพาะสินค้าในกลุ่มแฟชั่น เครื่องประดับ ซึ่งเน้นความสวยงามของสินค้าเป็นหลัก

ข้อควรรู้สำหรับผู้ประกอบการที่จะขายสินค้าผ่าน Instagram คือ ควรเลือกสมัครบัญชีประเภทธุรกิจ ซึ่งออกแบบมาเพื่อขายสินค้าโดยเฉพาะ ยิ่งไปกว่านั้น Instagram ยังมีฟังก์ชันสถิติวิเคราะห์ เช่น จำนวนคนติดตาม จำนวนคนเข้าถึง Content ที่โพสต์ จำนวนครั้งที่มีการโพสต์ เพื่อให้ผู้ประกอบการนำไปพัฒนาในงานขายให้ดียิ่งขึ้น

ด้วยการที่ Instagram ถูกออกแบบมาเพื่อการดูรูปภาพ ดังนั้น ผู้ประกอบการที่ต้องการโปรโมตร้านผ่าน Social Media ประเภทนี้จึงควรให้ความสำคัญกับความสวยงามของรูปภาพเป็นที่สุด จัดวางตำแหน่งของสินค้าให้ดูโดดเด่น เพื่อให้สอดคล้องกับพฤติกรรมของผู้ใช้ Instagram ที่มักจะสะดุดตาดูรูปภาพที่มีความสวยงาม และอีกเทคนิคที่จะช่วยให้สินค้าเป็นที่พูดถึง คือการสร้างปฏิสัมพันธ์กับลูกค้า เช่น เมื่อลูกค้าซื้อสินค้าไปแล้วให้ถ่ายรูปพร้อมกับติดแท็กของแบรนด์ ซึ่งเปรียบเหมือนกับการรีวิวสินค้า สร้างการรับรู้ให้เป็นที่รู้จักกับผู้พบเห็น หากสินค้าถูกใจพวกเขาก็จะกดเข้ามาตรงแท็กเพื่อเข้ามาดูผู้ประกอบการมีสินค้าอะไรบ้าง ซึ่งวิธีนี้เป็นอีกหนึ่งเทคนิคที่หลายแบรนด์ใช้กันเวลาโปรโมทร้านผ่าน Instagram
 
สื่อสังคมออนไลน์ ใช้โปรโมทร้านและสินค้าอย่างไรให้ติดตลาด - TikTok
 

4. TikTok

ชั่วโมงนี้ไม่พูดถึง TikTok ไม่ได้ เพราะเป็นแพลตฟอร์มวิดีโอสั้นที่กำลังมาแรงทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ซึ่งล่าสุดมีบริการใหม่ที่เรียกว่า TikTok For Business สำหรับผู้ประกอบการธุรกิจขนาดเล็ก และขนาดกลาง สามารถโปรโมตร้านผ่าน Social Media สร้างการรับรู้ให้กับสินค้าและแบรนด์แก่กลุ่มเป้าหมายอย่างมีประสิทธิภาพ

TikTok ถูกออกแบบมาเพื่อสร้างการมีส่วนร่วม ซึ่งเหมาะกับการทำการตลาดของผู้ประกอบการที่อยากสร้างสรรค์ไอเดียตามแบบฉบับของตัวเอง โดยที่ผ่านมามีแบรนด์ดังใช้ TikTok สร้างแคมเปญโปรโมตร้านผ่าน Social Media นี้จนได้กระแสตอบรับที่ดีมาแล้ว

ด้วยความที่เป็นแพลตฟอร์มด้านความบันเทิง แน่นอนว่าวิดีโอที่ทำออกมานั้นต้องมีความไม่เหมือนใครเช่นกัน โดยอาจจะนำลูกเล่นที่มีของ TikTok เช่น การร้องเพลง การเต้นตามจังหวะเพลง หรือการลิปซิงค์บทสนทนา มาใช้ให้เกิดประโยชน์ รวมถึงการสร้าง Challenge เพื่อให้ผู้ใช้คนอื่นทำตาม โดยอาจจะสอดแทรกสินค้าเข้าไปเพื่อโปรโมทและสร้างการรับรู้ออกไปในวงกว้าง

ทั้งนี้ ผู้ประกอบการควรให้ความสำคัญกับการโปรโมตร้านและขายของบน Social Media แต่ละแพลตฟอร์มในสัดส่วนที่เท่า ๆ กัน เพราะทุกแพลตฟอร์มล้วนเป็นตัวสนับสนุนการขายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ให้ประสบความสำเร็จ
 
ติดตามตอนต่อไป รายรับ รายจ่าย และกำไรของธุรกิจออนไลน์ ทำบัญชียังไงไม่ให้ปะปนกัน
ขอบคุณข้อมูลจาก: -
พิมพ์สิ่งที่ต้องการค้นหา