ตลาดจะขึ้นหรือลง ก็รอดได้ด้วยกลยุทธ์การลงทุนแบบ DCA
รอบรู้เรื่องลงทุน
icon-Facebook icon-Twitter icon-line

ตลาดจะขึ้นหรือลง ก็รอดได้ด้วยกลยุทธ์การลงทุนแบบ DCA

icon-access-time Posted On 22 เมษายน 2567
By Krungsri The COACH
แม้ปี 2567 เพิ่งจะเริ่มต้นมาไม่นานนัก แต่ยังคงมีสัญญาณของความผันผวนทางเศรษฐกิจและการเงินอยู่อย่างต่อเนื่องมาจากปีที่แล้ว โดยในปีนี้มีแนวโน้มเศรษฐกิจเติบโตต่ำใกล้เคียงกับปีก่อนที่ 3.1% ซึ่งเป็นอัตราการขยายตัวที่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 10 ปีในช่วงก่อนโควิด-19 มีความเสี่ยงที่เพิ่มเข้ามาอย่างภาวะภัยแล้งจากปรากฏการณ์เอลนีโญ่ สงครามรัสเซีย-ยูเครน ความตึงเครียดในตะวันออกกลาง การแบ่งขั้วทางเศรษฐกิจซึ่งนำโดยสหรัฐฯ และจีน ซึ่งส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทานโลก อย่างไรก็ตามแรงกดดันเงินเฟ้อที่มีแนวโน้มบรรเทาลงในปี 2567 จะช่วยเปิดทางให้ประเทศใหญ่ ๆ สามารถปรับลดดอกเบี้ยเพื่อประคองมิให้เศรษฐกิจอ่อนแอยาวนาน

ในภาวะที่มีความไม่แน่นอนสูงจากที่กล่าวมา การจะใช้กลยุทธ์ลงทุนอิงกับการคาดเดาภาวะตลาดนั้นทำได้ยาก Krungsri The COACH จึงอยากจะแนะนำเทคนิคการลงทุนที่ใช้ได้จริง ไม่ต้องคาดเดาตลาดให้ยุ่งยาก เหมาะกับทุกคน นั่นคือ การลงทุนแบบ DCA (Dollar-Cost Averaging) ที่มุ่งเน้นการลงทุนอย่างสม่ำเสมอเพื่อกระจายความเสี่ยง
กลยุทธ์ลงทุนอิงกับการคาดเดาภาวะตลาด

การลงทุนแบบ DCA หรือ หรือ Dollar Cost Averaging คืออะไร?

การลงทุนแบบ DCA (Dollar Cost Averaging) คือกลยุทธ์การลงทุนแบบทยอยลงทุนเป็นงวด ๆ ด้วยเงินจำนวนเท่า ๆ กัน โดยไม่สนใจว่าราคาของสินทรัพย์ในเวลานั้นจะเป็นเท่าไร กลยุทธ์นี้ช่วยให้ "ถัวเฉลี่ยต้นทุน" ของสินทรัพย์ ทำให้ได้ราคาเฉลี่ยไม่แพงจนเกินไป นอกจากจะช่วยเฉลี่ยความเสี่ยงในด้านความผันผวนของราคาแล้ว ผลลัพธ์ที่ได้อาจจะดีกว่าการคอยจับจังหวะลงทุนด้วยตัวเอง แถมยังช่วยสร้างวินัยและทำให้เกิดความต่อเนื่องในการลงทุน โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างความมั่งคั่งในระยะยาว
 
การลงทุน dca กองทุนรวมแบบสม่ำเสมอ

ทำไม DCA ถึงเป็นวิธีการลงทุนที่เหมาะกับทุกสภาวะตลาด?

1. ช่วยลดความเสี่ยงจากการจับจังหวะตลาดผิดพลาด

แทนที่จะพยายามจับจังหวะตลาดที่ขึ้นลง นักลงทุน DCA จะลงทุนอย่างสม่ำเสมอ ใช้วินัยในการออมและลงทุน ไม่พลาดการลงทุนเพราะความกังวลจากภาวะตลาดไม่ปกติ
 

2. ช่วยกระจายความเสี่ยง ถัวเฉลี่ยต้นทุน

การจับจังหวะตลาด อาจจะทำให้เกิดความผิดพลาดที่ไปซื้อในช่วงที่ราคาสูง ส่งผลต่อกำไรในอนาคต แต่การ DCA จะทำให้นักลงทุนลงทุนอย่างสม่ำเสมอ แม้ในบางจังหวะลงทุนอาจจะได้ราคาแพง แต่การลงทุนอย่างสม่ำเสมอในหลาย ๆ งวด จะมีโอกาสได้ถัวเฉลี่ยต้นทุนการลงทุน ไม่ซื้อในราคาที่แพงเกินไป เป็นกลยุทธ์ที่เรียบง่าย ใช้งานง่าย เหมาะกับนักลงทุนทุกระดับ

สินทรัพย์แบบไหนที่เหมาะกับการลงทุนแบบ DCA?

การ DCA ควรเลือกลงทุนในสินทรัพย์ ที่มีความผันผวนของราคาในระยะสั้น มีโอกาสเติบโตในระยะยาว และลงทุนแบบกระจายตัว ดังนั้นการลงทุนแบบ DCA ในกองทุนรวม จึงเป็นทางเลือกเหมาะสม เพราะมีผู้จัดการกองทุนที่เป็นผู้เชี่ยวชาญ ช่วยคัดเลือกสินทรัพย์ที่น่าสนใจมาให้ และมีการลงทุนหลายตัวในสินทรัพย์ประเภทเดียวกัน

นอกจากนี้การลงทุนแบบ DCA สามารถลงทุนได้ตามระดับความเสี่ยงที่นักลงทุนรับได้ ไม่ว่าจะเป็นความเสี่ยงต่ำในกองทุนรวมตราสารหนี้ ความเสี่ยงสูงในกองทุนรวมหุ้นประเภทต่าง ๆ ตามที่เราสนใจ หรือเลือกกองทุนที่มีนโยบายการลงทุนผสมหลายสินทรัพย์ที่ลดความเสี่ยงที่จะเลือกสินทรัพย์ตัวเดียว ก็สามารถเลือกลงทุนได้ทั้งนั้น

ตัวอย่างการลงทุนกองทุนรวมด้วยการลงทุนแบบ DCA

การลงทุนแบบ DCA ด้วย กองทุน KFHEALTH-A โดยใช้ข้อมูลจริงย้อนหลังมาเป็นตัวคำนวณ หากเรา DCA กองทุนรวมนี้ด้วยการลงทุนทุกวันที่ 1 ของเดือน (เดือนไหนติดวันหยุดให้ปรับไปเป็นวันทำการแรก) เดือนละ 2,000 บาท ผ่านไปเป็นเวลา 1 ปี จะได้ผลออกมา ดังนี้
 
ตัวอย่างตารางการลงทุนกองทุนรวมด้วยการลงทุนแบบ dca
 
  • เดือนแรกที่ลงทุน ซื้อกองทุนด้วยเงิน 2,000 บาท ราคาซื้อขายกองทุน (NAV) อยู่ที่ 8.5093 บาทต่อหน่วย จะได้จำนวนหน่วยทั้งหมดอยู่ที่ 235.0370 หน่วย
  • เดือนที่สองของการลงทุน ราคากองทุนรวมตก แม้เงินลงทุนเดิมจะขาดทุน แต่การลงทุน DCA กองทุนรวมเดือนละ 2,000 บาทเท่าเดิม ในภาวะขาลง จะทำให้ได้จำนวนหน่วยลงทุนมากขึ้น จากตารางจะเห็นว่าในเดือนที่สอง NAV อยู่ที่ 8.2590 บาทต่อหน่วย เมื่อซื้อด้วยเงินเท่าเดิม จะได้จำนวนหน่วยมากขึ้นเป็น 242.1601 หน่วย เรียกได้ว่าซื้อของถูกได้จำนวนมากนั่นเอง
  • เมื่อลงทุนครบปี ต้นทุนเฉลี่ยทั้งปีจะอยู่ที่ 8.3513 บาทต่อหน่วย ได้ซื้อในราคาที่ไม่แพง เมื่อเทียบกับราคาซื้อสูงสุด ที่ 9.2124 บาทต่อหน่วย ณ วันที่ 3 ก.พ. 2563
  • เมื่อลงทุน DCA กองทุนรวมนี้ ผ่านไป 1 ปีจะได้กำไรจากการลงทุน 1,209.96 บาท

แม้การลงทุนใน 1 ปี จะได้กำไรไม่มากนัก แต่หากลองขยายกรอบเวลาให้นานขึ้น เป็น 5 ปี จนถึงมีนาคม 2567 จะพบว่า
 
การขยายกรอบเวลาในการลงทุนให้นานขึ้น
 
  • เงินลงทุนจะเป็น 154,067.09 บาท กำไร 34,067.29 บาท เติบโตในอัตราผลตอบแทน 9.19% ต่อปี*

* หมายเหตุ : การลงทุนนี้เป็นการจำลองการลงทุน DCA ในกองทุน KFHEALTH-A ระหว่างเมษายน 2562 ถึงมีนาคม 2567 ผลลัพธ์การลงทุนแบบ DCA ในอนาคตที่ลงทุนอาจจะแตกต่างกันไปตามกองทุนรวมที่ลงทุน และช่วงเวลาในการลงทุน ซึ่ง KFHEALTH-A มีนโยบายลงทุนในหุ้นของบริษัทที่ประกอบธุรกิจดูแลสุขภาพ อาจมีความเสี่ยงและผันผวน ผลตอบแทนในอดีตไม่ได้การันตีอนาคต นักลงทุนควรพิจารณาเรื่องผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน
 
สรุปการลงทุนแบบ DCA ในกองทุนรวม

Krungsri The COACH แนะนำกองทุนรวมน่าสนใจเหมาะ DCA สำหรับนักลงทุน

Krungsri The COACH ขอแนะนำกองทุนรวมในกลุ่ม กรุงศรี The One ที่ผสานจุดแข็งของกลุ่มกรุงศรี เพื่อสร้างสรรค์กลยุทธ์ การจัดสรรพอร์ตที่ดีที่สุด เข้าถึงทุกโอกาสด้วยกรอบการลงทุนที่เปิดกว้าง ในหลากหลายสินทรัพย์ที่เติบโตทั่วโลก สะดวกสบาย เพราะช่วยปรับพอร์ตในเชิงรุกให้สอดคล้องกับภาวะตลาดที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และมีตัวเลือกที่หลากหลายลงทุนได้ตามเป้าหมายที่คุณต้องการ เช่น
 

กองทุนเปิดกรุงศรี The One Mild (KF1MILD)

  • ความเสี่ยงระดับ 5
  • เหมาะกับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ค่อนข้างต่ำ ต้องการสร้างผลตอบแทนที่ชนะเงินเฟ้อ สามารถลงทุนได้นานอย่างน้อย 2 - 3 ปี
  • กระจายการลงทุน เน้นมั่นคงจากตราสารหนี้ แต่เพิ่มโอกาสได้ผลตอบแทนจากการลงทุนในหุ้น โดยจะมีการทบทวนรายปีเพื่อให้ได้กลยุทธ์การลงทุนสอดคล้องกับตลาดการลงทุนมากที่สุด มีกรอบการลงทุนในตราสารหนี้ 60 - 85% ตราสารทุน 15 - 35% และสินทรัพย์ทางเลือก 0 - 10%

อ่านข้อมูลกองทุนเพิ่มเติมได้ที่ หนังสือชี้ชวน KF1MILD-A (ชนิดสะสมมูลค่า)
 

กองทุนเปิดกรุงศรี The One Mean (KF1MEAN)

  • ความเสี่ยงระดับ 5
  • เหมาะกับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ปานกลาง ต้องการสร้างการเติบโตของเงินลงทุนในระยะยาว สามารถลงทุนได้นานอย่างน้อย 3 - 4 ปี
  • กระจายการลงทุน ผสมผสานการลงทุนระหว่างตราสารหนี้และหุ้นอย่างสมดุล สร้างการเติบโตระยะยาวโดยคัดเลือกการลงทุนที่มีคุณภาพตามมุมมองของผู้จัดการกองทุน มีกรอบการลงทุนในตราสารหนี้ 35 - 65% ตราสารทุน 30 - 60% และสินทรัพย์ทางเลือก 0 - 10%

อ่านข้อมูลกองทุนเพิ่มเติมได้ที่ หนังสือชี้ชวน KF1MEAN-A (ชนิดสะสมมูลค่า)
 

กองทุนเปิดกรุงศรี The One Max (KF1MAX)

  • ความเสี่ยงสูงระดับ 5
  • เหมาะกับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูงต้องการผลตอบแทนสูงสุดและสามารถรับความผันผวนได้ สามารถลงทุนได้นานลงทุนมากกว่า 4 - 6 ปี
  • เน้นการลงทุนในกองทุนรวมหุ้นที่มีคุณภาพเพื่อหวังการเติบโต มีสัดส่วนลงทุนในตราสารหนี้เพื่อลดโอกาสขาดทุนในปีที่ตลาดแย่ มีกรอบการลงทุนในตราสารหนี้ 15 - 40% ตราสารทุน 50 - 80% และสินทรัพย์ทางเลือก 0 - 10%

อ่านข้อมูลกองทุนเพิ่มเติมได้ที่ หนังสือชี้ชวน KF1MAX-A (ชนิดสะสมมูลค่า)

อย่างไรก็ตาม การลงทุนแบบ DCA เป็นเทคนิคการลงทุนที่อาศัยวินัยและความต่อเนื่องในการลงทุน เพื่อลดความผิดพลาดจากการพยายามคาดเดาตลาด เมื่อตลาดขาลงจะได้จำนวนหน่วยลงทุนที่มากในต้นทุนที่ดีเพื่ออนาคต และภาวะตลาดขาขึ้นพอร์ตลงทุนจะกำไร รักษาวินัยในการลงทุนต่อ ประคองจิตใจให้รอดไปได้ในทุกสถานการณ์

Krungsri The COACH จึงอยากชวนทุกคนเริ่มต้นตั้งเป้าหมายทางการเงินแล้ว DCA ในกองทุนที่ใช่สำหรับคุณ เพื่ออนาคตที่มั่งคั่งทางการเงินกันเถอะ

หมายเหตุ
  • KF1MILD, KF1MEAN, KF1MAX ป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน จึงมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งอาจทำให้ผู้ลงทุนขาดทุน หรือได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน/หรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้
  • KFHEALTH-A ลงทุนกระจุกตัวในหมวดอุตสาหกรรม จึงมีความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมาก ผู้ลงทุนควรขอคำแนะนำเพิ่มเติมก่อนทำการลงทุน

ผลการดำเนินงานในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน

อ้างอิง
pym logo
ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง
บทความที่เกี่ยวข้อง
พิมพ์สิ่งที่ต้องการค้นหา