Workcation = ให้ร่างกายได้พักผ่อน มีอยู่จริง ไม่เชื่อมาดู

Workcation = ให้ร่างกายได้พักผ่อน มีอยู่จริง ไม่เชื่อมาดู

By Krungsri Plearn Plearn
ในช่วงใกล้สิ้นปีแบบนี้ คนทำงานหลายคนส่วนใหญ่มักที่จะวางแผนใช้วันลาพักร้อน Work From Home ในการไปเที่ยว แต่งานของเราก็แน่นสุด ๆ เหมือนกัน หากจะทิ้งงานไปเที่ยวก็คงทำงานไม่ทัน ถ้าฝืนต่อไปร่างกายคงบอกเราว่าตอนนี้ก็ไม่ไหวแล้วนะ จากการทำงานหนัก อยู่กับบรรยากาศเดิม ๆ ส่งผลให้เกิดภาวะ Burnout Syndrome หรือการหมดไฟในการทำงาน ทำให้หลายคนไม่อยากลุกจากที่นอนขึ้นมาทำงาน
หากใครเจอปัญหาแบบนี้อยู่ ช่วงวันหยุดเยอะ ๆ เราก็สามารถไปเที่ยวพักผ่อน เปลี่ยนบรรยากาศในชีวิต แต่ก็ได้งานเหมือนอยู่บ้าน หรืออยู่ออฟฟิศ หรือที่คนรุ่นใหม่เรียกกันว่า ‘Workcation’ มาดูกันดีกว่า การเที่ยวไปด้วย และทำงานพร้อม ๆ กัน จะช่วยฟื้นฟูร่างกาย และจิตใจให้เราได้มากแค่ไหน ในวันที่หลายคนเริ่มประสบปัญหา แยกเรื่องงานกับชีวิตส่วนตัวไม่ออก
เข้าใจการไป Workcation ให้ดีขึ้น

เข้าใจการไป Workcation ให้ดีขึ้น

เป็นเวลารวม ๆ กว่า 2 ปีที่หลายคนต้องปรับการทำงานในชีวิตให้เป็นไปตามรูปแบบ New Normal เช่น การทำงานแบบ Work From Home แต่การนั่งอุดอู้อยู่ในบ้านนาน ๆ จากอาจส่งผลให้สุขภาพกาย และจิตใจห่อเหี่ยวลงไปเรื่อย ๆ ทำให้หลายคนเริ่มมองหาสถานที่ใหม่ ๆ เพื่อการทำงาน แต่ต้องช่วยให้จิตใจมีความสุขด้วย
“Workcation” เลยกลายเป็นคำตอบของคนยุคใหม่ ที่เราสามารถทำงานไปด้วย พักผ่อนไปด้วยพร้อมกัน และตอนนี้โรงแรม หรือที่พักส่วนใหญ่ในประเทศก็สามารถตอบสนองไลฟ์สไตล์แบบนี้ได้ด้วยอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง เหมือนเรานั่งทำงานอยู่ที่บ้าน หรือที่ออฟฟิศเลยทีเดียว

Workcation อย่างไร? ไม่ให้ Work Life Balance เสีย

แน่นอนว่าหากคุณเป็นคนจัดการสิ่งต่าง ๆ ในชีวิตได้ดี การไป Workcation นี่เหมือนได้ขึ้นสวรรค์ชัด ๆ แต่ถ้าเป็นคนไม่เก่ง หรือเคร่งครัดเรื่องวินัยการทำงานละก็มันจะส่งผลเสียให้เราเยอะกว่าการนั่งทำงานอยู่ที่บ้าน หรือออฟฟิศ เพราะใจเรามุ่งอยากจะนอน หรือเที่ยวเพียงอย่างเดียว ส่วนงานก็ผลัดไม่ได้ทำสักที แต่อยากให้การไป Workcation ครั้งนี้ได้ผลลัพธ์ที่ดี สามารถทำตามคำแนะนำจากเราดังต่อไปนี้ได้เลย
แพลนงานให้ดีก่อนเริ่มไป Workcation

1. แพลนงานให้ดีก่อนเริ่มไป Workcation

ก่อนออกเดินทางไป Workcation ควรหาทางจัดการงานที่ยังค้างคาให้เรียบร้อย หากมีสมาชิกในทีมลองฝากงานให้เพื่อน ๆ ช่วยกันดูแล แต่ไม่ควรเอาภาระงานของเราไปให้คนอื่นทั้งหมด ให้กระจายงานไปที่เพื่อนประมาณ 30% ก็พอ ส่วนเรายังต้องรับผิดชอบ 70% ของจำนวนงานทั้งหมด เพื่อน ๆ จะได้ทำงานในส่วนนี้อย่างไม่ลำบากใจ ส่วนงานที่ต้องพึ่งทักษะของเราก็ควรเตรียมตัวให้ดีว่า ต้องพกอุปกรณ์ช่วยทำงานมากน้อยแค่ไหน เพื่อไม่ให้เกิดอุปสรรคระหว่างที่ไป Workcation ส่วนนอกเวลาทำงานอย่าลืมตั้งระบบตอบกลับอีเมลอัตโนมัติ แจ้งรายละเอียดการพักร้อนของเรา เพื่อให้คนติดตามงานรู้ว่าจะติดต่องานได้ตอนไหน และช่องทางใด จะได้ไม่รบกวนเราขณะพักผ่อน แล้วการเปลี่ยนพื้นที่การทำงานของเราครั้งนี้ คงช่วยเติมไฟให้ชีวิตการทำงานกลับมาอีกครั้ง
กำหนดเวลาทำงานแบบชัดเจน

2. กำหนดเวลาทำงานแบบชัดเจน

จุดประสงค์การไป Workcation ก็คือไปทำงานแต่ได้ฟิลพักผ่อน ดังนั้นกิจกรรมของเราต้องวางแพลนให้ดี กำหนดไปเลยเราจะทำงานกี่ชั่วโมงต่อวัน และชั่วโมงที่เราทำต้องทำแบบจริงจังด้วยนะ เหมือนว่าเรานั่งทำงานที่ออฟฟิศนั่นแหละ และพยายามทำงานไม่เกินชั่วโมงที่เรากำหนดไว้ หากหมดเวลาการทำงาน หากยังมีงาน หรือโปรเจกต์อะไรที่ยังไม่เสร็จ ให้เบรกโดยทันที แล้วไปใช้ชีวิตพักผ่อน ท่องเที่ยว หาอาหารอร่อย ๆ เติมพลังชีวิต ส่วนงานก็มาเริ่มทำต่อในวันถัดไป พยายามแบ่งเวลาการทำงาน และเวลาพักผ่อนให้เท่า ๆ กันแบบนี้งานก็ได้ไม่โดนบ่น ชีวิตส่วนตัวก็ได้ผ่อนคลาย
จด To do list สิ่งที่ต้องทำให้ครบ

3. จด To do list สิ่งที่ต้องทำให้ครบ

เนื่องจากการไป Workcation ทำให้เราไม่ได้สามารถพกงานไปทำได้เหมือนการนั่งทำงานที่บ้าน หรือที่ออฟฟิศ การจดบันทึกสิ่งที่ต้องทำจะช่วยให้งานของเราทำเสร็จได้แบบมีประสิทธิภาพ เช่น การลิสต์งานที่สามารถทำนอกสถานที่ได้ แล้วในแต่ละวันเราก็เร่งเคลียร์งานให้เสร็จตามเช็กลิสต์ของเรา เมื่อลิสต์รายการที่ต้องทำเสร็จแล้วมาจัดลำดับความสำคัญของงาน ถ้าเป็นงานด่วนให้เราทำไฮไลท์สีข้อความเอาไว้ แล้วรีบจัดการให้เสร็จก่อน และงานไหนสำคัญแต่ไม่เร่งด่วนมาก จดเอาไว้ใน To do list พร้อมวางแผนให้ดีว่าจะทำให้เสร็จเมื่อไหร่ แบบนี้เราก็สามารถบริหารงานได้ดีแม้เป็นการทำงานแบบ Workcation ส่วนนอกเวลาทำงาน เราก็ไม่ควรพลาดที่จะจดสิ่งที่เราอยากทำด้วย เช่น สถานที่ท่องเที่ยวที่อยากไป หรือกิจกรรมท่องเที่ยวไหนที่ห้ามพลาด ร้านอาหารไหนที่ต้องไปลอง หรือจุดถ่ายรูปที่ต้องเช็กอิน งานหลัก หรือชีวิตส่วนตัว การจด To do list จะช่วยให้การ Workcation ครั้งนี้ดีต่อใจสุด ๆ
หยุดตอบไลน์กรุ๊ปทำงาน ตอนพักผ่อน

4. หยุดตอบไลน์กรุ๊ปทำงาน ตอนพักผ่อน

ถ้าเวลาทั้งหมดต้องคอยตอบไลน์กลุ่มทำงานทั้งวัน การไป Workcation คงไร้ความหมาย หากเพื่อน ๆ ยังตอบแชท หรืออีเมลอยู่ตลอดเวลา ช่วงเวลาที่เราทำงานให้ตอบได้ แต่เลิกงานปุ๊บ ให้กดปิดการแจ้งเตือนไว้ทันที เพื่อไม่ให้มีข้อความอะไรมารบกวนสมาธิ ตอนกำลังพักผ่อน และหากจิตใจเราว้าวุ่นมาก ๆ ถึงแม้ปิดการแจ้งเตือนแล้ว เผลอเข้าไปดูบ่อย ๆ มันอาจส่งผลให้เราเป็นโรคย้ำคิดย้ำทำ หรือโรคเครียดได้ง่าย ๆ เข้าใจว่างานก็สำคัญแต่ช่วงเวลาพักผ่อน เราต้องจริงจังด้วย ในเวลาส่วนตัวลองตัดขาดจากโลกภายนอกบ้าง แล้วชีวิตจะมีความสุขขึ้นอีกเยอะ
หากใครที่อยากลองออกจากพื้นที่เดิม ๆ ของตัวเองแล้วออกไป Workcation ก็อย่ารอช้า ออกไปเติมไฟให้กับตัวเอง แต่อย่าลืมที่จะดูแลตัวเองให้ปลอดภัยทั้งจากโรคระบาดโควิด-19 ฉีดวัคซีนให้ครบ ล้างมือเป็นประจำ และเปลี่ยนหน้ากากอนามัยอันใหม่ทุกวัน และตอนที่เราวางแผนที่จะไปพักผ่อนที่ไหนดี ให้เลือกพักโรงแรม หรือโฮมสเตย์ที่ดูน่าเชื่อถือ ส่วนนี้ตั้งแต่การจองให้เลือกจากรีวิวของผู้ที่เคยมาพัก ว่าสถานที่นี้ดีจริงไหม อินเทอร์เน็ตเพียงพอต่อการทำงานหรือเปล่า และสามารถเดินทางไปท่องเที่ยวได้สะดวกแค่ไหน เพื่อให้แน่ใจว่าการไป Workcation ของเราในครั้งนี้จะส่งผลดีทั้งเรื่องงาน และให้ร่างกายได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ พร้อมกลับมาใช้ชีวิตอย่างมีความสุขอีกครั้ง
ขอบคุณข้อมูลจาก: -
พิมพ์สิ่งที่ต้องการค้นหา