Work ให้ Balance ด้วยกฎการทำงานแบบ 70/20/10

Work ให้ Balance ด้วยกฎการทำงานแบบ 70/20/10

By รวิศ หาญอุตสาหะ
ปัจจุบันการ Work From Home ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของใครหลาย ๆ คน จากที่เมื่อก่อนเราทำงาน 8 โมงเช้า เลิกงาน 5 โมงเย็น กลายเป็นว่าเราต้องทำงานตั้งแต่ตื่นจนเข้านอน บางคนทุ่มเวลาทั้งหมดให้กับงานจนไม่เหลือเวลาให้ตัวเองได้ผ่อนคลายจากความเครียด อย่าลืมนะครับว่า เราทุกคนมีเวลา 24 ชั่วโมงเท่ากันในหนึ่งวัน แต่คนที่ประสบความสำเร็จ คือ คนที่แบ่งและใช้เวลาได้คุ้มค่าที่สุด
มีทฤษฎีหนึ่งซึ่งผมมองว่าน่าสนใจมาก คือ ทฤษฎีกฎการทำงานแบบ 70/20/10 ทฤษฎีนี้มาจากหนังสือชื่อ ‘Lessons of Experience: How Successful Executives Develop on the Job’ เขียนโดย Morgan McCall, Michael Lombardo และ Robert Eichinger จริงๆ แล้วกฎ 70/20/10 แรกเริ่มมันคือวิธีการเพิ่มพูนทักษะการเรียนรู้และพัฒนาตนเอง โดยแบ่งเป็น 70% เรียนรู้จากงานที่เราทำ 20% เรียนรู้จากผู้อื่น และ 10% เรียนรู้เพิ่มจากการเข้าคอร์สเพิ่มพูนทักษะ ซึ่งกฎการเรียนรู้นี้เป็นที่นิยมอย่างมากในปัจจุบัน โดยเฉพาะบริษัทยุคใหม่ที่นำกฎนี้ไปปรับใช้กับพนักงานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานและศักยภาพขององค์กร

แต่ผมมองว่า เราสามารถนำกฎนี้มาปรับใช้กับการทำงานและใช้ชีวิตได้ เป็นวิธีการ Work ให้ Balance เพราะในความเป็นจริง ชีวิตเรามีมากกว่าเพียงแค่ตื่นมาทำงานแล้วก็นอนเท่านั้น แต่เรายังมีคนที่ต้องดูแล มีกิจกรรมอื่น ๆ ในชีวิตที่ต้องทำ ซึ่งการทำงานและใช้ชีวิตให้สมดุลนั้นถือว่าจำเป็นมาก ๆ โดยผมจะแบ่งกฎการ Work ให้ Balance ออกเป็น 70% พักผ่อน 20% ฝึกฝน และ 10% ทุ่มเท
Work ให้ Balance ด้วยกฎการทำงานแบบ 70/20/10
70% พักผ่อนไม่ได้แปลว่าต้องนอนทั้งวันนะครับ เราสามารถพักผ่อนแบบแอคทีฟได้ การพักผ่อนแบบแอคทีฟคือ การคิดและลงมือทำอะไรสักอย่าง หรือออกไปเที่ยวนอกบ้านกับเพื่อนฝูงและครอบครัวก็เป็นการพักผ่อนที่ดีอย่างหนึ่ง เป็นการทำให้ชีวิตมีความสุข

20% ฝึกฝน คุณอาจจะใช้เวลาสัก 4-5 ชั่วโมงต่อวันเพื่อเรียนรู้ทักษะใหม่ ๆ หรือออกกำลังกายเพื่อให้สุขภาพดีและร่างกายแข็งแรง การฝึกฝนในแต่ละวันคือ การเตรียมพร้อมสมองและร่างกายสำหรับสิ่งที่เราต้องเผชิญในวันพรุ่งนี้
Work ให้ Balance ด้วยกฎการทำงานแบบ 70/20/10
10% ทุ่มเท ไม่ว่าต้องเจออุปสรรคใด ๆ ในการทำงาน คุณต้องเผชิญหน้ากับปัญหาที่เกิดขึ้น ใช้ทุกทักษะที่คุณมีเพื่อแก้ไข และเดินหน้าต่อไป เพียงเท่านี้งานของคุณก็จะออกมาดีมีคุณภาพ และเป็นการแสดงให้องค์กรเห็นว่าคุณมีศักยภาพมากเพียงใด

สังเกตได้ว่า เราไม่ได้ใช้เวลาไปกับการทำงานมากมายขนาดนั้นนะครับ เพราะการที่คุณตะบี้ตะบันทำงานทั้งวันโดยไม่พักผ่อนเนี่ย พอหมดวันคุณก็จะไม่มีแรงเหลือไปผ่อนคลายกับงานอดิเรกหรือพัฒนาทักษะอื่น ๆ ซึ่งไม่ส่งผลดีในระยะยาว แม้ว่าคุณจะสร้างแรงกระเพื่อมจากการทุ่มเทให้กับงาน แต่ไม่ได้แปลว่าคุณจะก้าวไปข้างหน้าได้ทุกครั้ง เพราะคุณไม่ได้พัฒนาตัวเองอย่างจริงจัง

การทำงานที่ดี ไม่ใช่การพุ่งเข้าใส่งานเพียงอย่างเดียว เพราะต่อให้คุณทำงานหนักแค่ไหน สุดท้ายคุณก็จะชนเข้ากับกำแพงแห่งความเบื่อหน่าย เพราะคุณมัวแต่ทำงาน ไม่ได้ออกไปใช้ชีวิตให้ผ่อนคลาย ไม่มีเวลามากพอจะพัฒนาตัวเอง สักพักประสิทธิภาพการทำงานของคุณจะลดลง และจะรู้สึกว่างานที่ทำอยู่ทุกวันจะไม่มีความหมายสำหรับคุณอีกต่อไป นี่เป็นเรื่องที่อันตรายมาก ๆ ครับ ดังนั้นการ Work ให้ Balance จึงเป็นเรื่องที่สำคัญมาก เพื่อที่คุณจะได้ทำงานอย่างมีศักยภาพและใช้ชีวิตอย่างมีความสุข
ถ้ายังไม่รู้ว่าจะ Work ให้ Balance อย่างไร ทฤษฎีกฎ 70/20/10 นั้นถือเป็นแนวคิดที่ดีในการนำไปปรับใช้ให้เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ของคุณ แล้วคุณจะเห็นความเปลี่ยนแปลงในชีวิตแน่นอนครับ แค่อย่าลืมนะครับว่า คนที่จัดสรรเวลาได้คุ้มค่าคือ คนที่ประสบความสำเร็จครับ

อ้างอิง:
http://bit.ly/38ry6a4
http://bit.ly/2Op4tiS
ขอบคุณข้อมูลจาก: -
ลงทะเบียนรับข่าวสาร
บริการส่งข้อมูลความรู้ ให้ลูกค้าธุรกิจผ่านอีเมล์
บริการจัดส่งบทวิเคราะห์และข้อมูลข่าวสารทางธุรกิจผ่านทาง E-mail
  • บทวิเคราะห์เศรษฐกิจรายสัปดาห์จากศูนย์วิจัยกรุงศรี
  • ผลการสำรวจดัชนีภาวะธุรกิจ SME รายไตรมาส โดยกรุงศรี
  • ข่าวสาร และกิจกรรมของธนาคาร
  • บริการทางการเงิน และโปรโมชั่นใหม่ๆ ของธนาคาร
Follow us on
ลงทะเบียนรับข่าวสาร
บริการส่งข้อมูลความรู้ ให้ลูกค้าธุรกิจผ่านอีเมล์
บริการจัดส่งบทวิเคราะห์และข้อมูลข่าวสารทางธุรกิจผ่านทาง E-mail
  • บทวิเคราะห์เศรษฐกิจรายสัปดาห์จากศูนย์วิจัยกรุงศรี
  • ผลการสำรวจดัชนีภาวะธุรกิจ SME รายไตรมาส โดยกรุงศรี
  • ข่าวสาร และกิจกรรมของธนาคาร
  • บริการทางการเงิน และโปรโมชั่นใหม่ๆ ของธนาคาร
Powered by
© 2564 ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)
Follow