ชี้เป้า! Co working Space ที่ไหนดี? ถ้าอยากเปลี่ยนฟิลนั่งทำงาน

เริ่มที่แรกเอาใจคนอยู่บริเวณรถไฟฟ้าสายสีเขียว (ใต้) บริเวณ จ. สมุทรปราการกันสักหน่อยที่ Lasunya Kafe สไตล์นอร์ดิก ถึงแม้ที่นี่จะเป็น Co working Space แต่ก็มีส่วนที่เป็นคาเฟ่ ให้บริการเครื่องดื่ม หรืออาหารระหว่างที่เข้ามาใช้บริการ Co working Space และที่นี่เต็มไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก สำหรับคนทำงานแทบทุกโต๊ะ และยังมีห้องประชุมเล็ก ๆ คอยให้บริการ นอกจากนี้จุดเด่นของ Co working Space ที่นี่คือมีบริการรับทำแผนธุรกิจ รับจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า สำหรับธุรกิจแบบ Start Up หรือธุรกิจ SME ให้บริการ หากใครอยากมานั่งประชุมงาน ขายงาน ที่นี่ให้บริการได้ครบจบในที่เดียวเลย

หากใครที่อยู่แถว ๆ สมุทรปราการ และมองหา Co working Space บรรยากาศดี อาหารอร่อยที่ Lasunya Kafe สำหรับการเดินทางก็มาได้ง่าย ๆ สามารถนั่งรถไฟฟ้า BTS มาลงที่ สถานีช้างเอราวัณ แล้วเดินมาเพียง 200-300 เมตรก็จะพบ หรือจะขับรถส่วนตัวมาทางร้านก็มีบริการที่จอดรถให้พร้อม สำหรับค่าใช้บริการสามารถใช้ในส่วนของ Co working Space โซนห้องประชุม จะอยู่ที่ 4 ชั่วโมงเริ่มต้น 1-6 คนเป็นราคาเหมาจ่าย 2,000 บาท คนสำหรับคนที่ 7 ขึ้นไปทางร้านขอคิดแยกคนละ 200 บาท ห้องประชุมรองรับได้สูงสุด 14 คน เราสามารถนำค่าใช้จ่ายตรงนี้แลกเป็นส่วนลดอาหารและเครื่องดื่ม ได้ทั้งทำงาน และชมคาเฟ่สวย ๆ ทานอาหารอร่อย ต้องที่นี่เลย

ที่ต่อมาขอแนะนำ Co working Space ในเส้นรถไฟฟ้าสายสีเขียว (เหนือ) กันบ้างแถวบริเวณมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ สำหรับร้าน READ cafe BKK หลายคนเคยได้ยินชื่อกันมาบ้าง ไม่ว่าจะนั่งทำงาน มาประชุมงาน หรือจับกลุ่มกันติวหนังสือได้อย่างส่วนตัว นอกจากจุดเด่นในเรื่องของพื้นที่ให้บริการ Co working Space แห่งนี้ก็มีเครื่องดื่ม และอาหารราคาไม่แพงเหมาะสมสำหรับคนทำงาน หรือนักเรียนนักศึกษาด้วยเหมือนกัน สำหรับคนที่มาทำงานจะมีปลั๊กไฟคอยให้บริการทุกที่ ไม่ต้องกลัวเลยว่าคอมพิวเตอร์ของเราแบตหมดก่อนที่งานจะเสร็จ

หากใครอยู่บริเวณเส้นสะพานใหม่ เสนานิคม อยากเปลี่ยนบรรยากาศ Co working Space แห่งนี้ก็มีห้องทำงานส่วนตัว ให้บริการที่แบบเริ่มต้นชั่วโมงละ 180 - 500 บาท รองรับจำนวนคนสูงสุดถึง 20 คน หรือจะเหมาห้องใช้ได้สูงสุดที่ 8 ชั่วโมง ราคาค่าบริการสูงสุดจะอยู่ที่ 3,200 บาท การเดินทางมาก็ง่าย เพียงนั่งรถไฟฟ้า BTS มาลงที่ สถานีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และเดินไปทางประตูฝั่งงามวงศ์วาน ร้านตั้งอยู่ตรงข้ามกับ ม.เกษตรศาสตร์ จะมองเห็นได้ทันทีเลย

สำหรับคนทำงานที่อยู่แถวรถไฟฟ้าสีม่วง อย่าเพิ่งเซ็งกันไป แถวบ้านเราก็มี Co working Space ให้ไปนั่งทำงานเหมือนกันนะ โดยที่นี่จะเป็นโฮสเทลที่มีบริการ Co working Space ส่วนค่าบริการอันนี้ต้องสอบถามทางร้านจะได้ราคาที่อัปเดตที่สุด แต่ถึงแม้จะมีค่าบริการสักหน่อยแต่ครบครันไปด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวก เช่น ปลั๊กไฟ อินเทอร์เน็ต โต๊ะประชุม หรือจอโทรทัศน์สำหรับใช้พรีเซนต์งานคอยให้บริการ นอกจากที่นี่จะมีพื้นที่ให้นั่งทำงานที่ The Sugar Hostel ก็มีคลาสสอนสำหรับผู้ที่สนใจเป็นคอร์สสั้น ๆ แล้วแต่ว่าในแต่ละเดือนจะมีเวิร์กชอปไหน อันนี้สามารถสอบถามกับทางร้านได้เหมือนกัน สำหรับอัตราค่าบริการของ Co working Space แบบห้องส่วนตัวที่นี่จะเริ่มต้นอยู่ที่ 250-2,700 บาท ใช้งานได้สูงสุดถึง 10 ท่าน สามารถรองรับการทำงานได้ถึง 8 ชั่วโมง

และอีกข้อด้วยความที่ The Sugar Hostel เป็นธุรกิจหลักคือโรงแรม หากคนทำงานนั่งทำงานจนดึก และไม่สามารถกลับบ้านได้ก็สามารถนอนพักที่นี่ได้เลย เอาเป็นว่าเลิกงานปุ๊ป สามารถพักผ่อนได้ทันที ไม่ต้องเหน็ดเหนื่อยหาแท็กซี่กลับบ้านช่วงกลางคืน ลดความอันตรายไปได้อีกเยอะ สำหรับชาวนนทบุรีใครที่อยู่ใกล้เส้นรถไฟฟ้าสายสีม่วง อยากเปลี่ยนบรรยากาศมาทำงานที่ Co working Space ที่นี่ได้แบบไม่ยาก เพียงนั่งรถไฟฟ้า MRT มาลงที่ สถานีสะพานพระนั่งเกล้า เดินออกทางประตู 2 ก็จะพบ The Sugar Hostel อยู่ข้าง ๆ สถานีรถไฟฟ้าเลยใครอยากทำงานแบบไม่ต้องกลัวไม่ได้พัก Co working Space ที่นี่มีให้คุณครบที่ต้องการ

เอาจริง ๆ สำหรับคนทำงานในเมืองบางครั้งก็อยากจะแวบมานั่ง Co working Space เพียงสักแป๊ป นั่งทำงานชิลช่วงบ่าย ๆ และค่อยกลับไปยังออฟฟิศด้วยรถไฟฟ้าในเวลาที่ไม่นานในย่านใจกลางเมืองอย่างทองหล่อก็มี Co working Space บรรยากาศเรียบหรู เดินทางง่ายคอยให้บริการเหมือนกัน และที่ Hive Bangkok นอกจากเป็นที่นั่งทำงาน อ่านหนังสือ หรือใช้ประชุมได้แบบสบาย ๆ ก็มีหลายโซนให้เลือกใช้งานไม่ว่าจะเป็น โต๊ะทำงานส่วนตัวที่มีดีไซน์เหมือนตู้โทรศัพท์สมัยก่อน หรือโต๊ะทำงานพร้อมโซฟาให้นั่ง หรือนอนพักผ่อนได้ตามสบาย สำหรับการบริการอื่น ๆ ก็มีครบทั้งอินเทอร์เน็ต ปลั๊กไฟ อาหารเครื่องดื่มคอยให้บริการ

แต่ที่ Co working Space จะแตกต่างกับที่อื่นสักหน่อย หากเราเป็นคนทั่วไปมาใช้บริการจะสามารถนั่งได้ถึงเวลา 20.00 เท่านั้นแต่ถ้าเราเป็นสมาชิกของ Co working Space เราสามารถเข้ามาใช้งานได้ตลอด 24 ชั่วโมง และการเป็นสมาชิกที่นี่เรายังใช้สิทธิเข้าใช้งานสาขาย่อยที่ต่างประเทศ เช่น ฮ่องกง, เวียดนาม, ไต้หวัน, ญี่ปุ่น และออสเตรเลีย ได้ฟรี ๆ แค่ใช้สิทธิสมาชิกก็เข้าไปใช้บริการนั่งทำงานได้เลยทันที หากใครกำลังมองหา Co working Space ที่มีบรรยากาศน่าทำงาน และแตกต่างจากที่อื่น Hive Bangkok สามารถมอบประสบการณ์ดี ๆ ให้กับเราจนฟินเลยล่ะ หากใครอยากมาใช้บริการสามารถนั่งรถไฟฟ้า BTS มาลงที่ สถานีทองหล่อ และขึ้นรถรับส่งฟรีมาได้ที่โครงการพิมาน 49 หรือใครที่ขับรถส่วนตัวมาสามารถเข้ามาได้ที่ซอยสุขุมวิท 49 คนที่อยากได้บรรยากาศทำงานในที่สวย ๆ สบายเหมือนอยู่บ้าน และมีมุมให้ถ่ายรูปลงโซเชียลมีเดีย Co working Space แห่งนี้มีให้เราครบถ้วนเลยทีเดียว สำหรับค่าบริการของที่นี่จะแบ่งเป็น 3 ระดับคือ สมาชิกแบบโต๊ะส่วนกลางจะมีราคาเริ่มต้นที่ 330 บาท ต่อวัน สูงสุดอยู่ที่ 5,000 บาท / สมาชิกแบบโต๊ะส่วนตัวจะมีราคาเริ่มต้นที่ 6,000 บาทสูงสุดที่ 18,000 บาท / สมาชิกแบบออฟฟิศส่วนตัวจะเริ่มต้นแบบ 3 คน ราคา 27,000 บาท จนถึงแบบ 5 คนราคา 45,000 บาท ถึงแม้จะมีราคาสูงกว่าที่อื่นสักหน่อย แต่สิทธิประโยชน์ที่ได้จากการเป็นสมาชิก Co working Space แห่งนี้นั้นคุ้มค่าเลยทีเดียว