เมื่อเริ่มต้นชีวิตคู่ หลายคู่ต่างวาดฝันถึงบ้านหลังแรกในชีวิตแต่งงาน เพราะบ้านไม่ใช่แค่ที่อยู่อาศัย แต่ยังเป็นรากฐานของชีวิตคู่และชีวิตครอบครัวที่มั่นคง อีกทั้งยังเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าในระยะยาว การวางแผนผ่อนบ้านอย่างรอบคอบจึงเป็นสิ่งสำคัญที่คู่รักมือใหม่ไม่ควรมองข้าม
วันนี้ Krungsri The COACH จะพาคู่แต่งงานป้ายแดงทุกท่านไปเรียนรู้วิธีวางแผนผ่อนบ้านอย่างไรให้ชีวิตคู่ราบรื่นและมีความสุขในระยะยาว ไปดูกันเลย
เช็กความพร้อม 3 ข้อนี้ ก่อนซื้อบ้านหลังแรก
ข้อ 1 เช็กรายรับ รายจ่าย และเงินออมของทั้งคู่
ทั้ง 2 ฝ่ายจะต้องมาคุยกันถึงเรื่องเงินที่จะนำมาผ่อนบ้าน โดยสำรวจว่าแต่ละเดือนมีรายรับและรายจ่ายเท่าไร ทั้งเงินเดือน รายได้เสริม โบนัส และรายได้อื่น ๆ รวมถึงลิสต์รายจ่ายประจำทั้งหมดออกมาให้ละเอียด ทั้งค่าใช้จ่ายที่จำเป็น เช่น ค่าอาหาร ค่าเดินทาง ค่าที่พัก ค่าสาธารณูปโภค และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ เช่น ค่าช็อปปิ้ง ค่าสังสรรค์ ค่าท่องเที่ยว และอย่าลืมลิสต์รายการที่ต้องใช้จ่ายร่วมกัน เช่น หากใครที่วางแผนมีลูกก็ต้องเตรียมลิสต์ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวกับลูกด้วย
หากทั้งคู่มีรายรับมากกว่ารายจ่าย ก็จะมีเงินออมเหลือเก็บ ซึ่งสามารถนำเงินออมของทั้งคู่มารวมกัน เพื่อประเมินความสามารถในการผ่อนบ้านได้ และอย่าลืมจูงมือไปเลือกบ้านที่ชอบด้วยกันทั้งคู่นะ
ข้อ 2 เช็กหนี้สินของทั้ง 2 ฝ่าย
อีกปัจจัยหนึ่งที่เราไม่สามารถลืมได้คือ “หนี้สิน” แต่ละคนอาจจะมีภาระต่าง ๆ ที่จะต้องจัดการก่อนที่จะแต่งงาน ดังนั้นแม้เราทั้งคู่จะมีรายได้เข้ามาทุกเดือน เมื่อหักค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันแล้ว เราอาจจะต้องนำเงินบางส่วนไปใช้หนี้ที่เรามีอยู่ และเงินที่เหลือเมื่อนำมารวมกันแล้วก็จะสามารถผ่อนบ้านได้ ซึ่งเราทั้งคู่ไม่ควรจะมีภาระหนี้สิ้นต่อเดือนมากกว่า 30-40% ของรายได้ทั้งหมด
ข้อ 3 เช็กงบประมาณในการซื้อบ้าน
หลังจากตรวจสอบสถานะทางการเงินร่วมกัน ก็ถึงเวลาคำนวณว่าราคาบ้านที่เหมาะสมกับความสามารถในการผ่อนชำระของเราควรอยู่ที่เท่าไร โดยสามารถใช้สูตรคำนวณ ดังนี้
รายได้ของเราทั้งคู่ x สัดส่วนภาระหนี้ต่อเดือนที่เหมาะสม x อัตราส่วนวงเงินกู้ซื้อบ้านโดยเฉลี่ย
(รายได้ x 40%) x 150 = มูลค่าบ้านสูงสุดที่กู้ได้
ตัวอย่าง
คู่รักรายได้รวมกัน 100,000 บาท ไม่มีภาระหนี้ในปัจจุบัน จะสามารถกู้ซื้อบ้านได้ในราคา (100,000 x 40%) x 150 = 6,000,000 บาท
หากอยากทราบจำนวนเงินค่างวดที่ต้องผ่อนชำระต่อเดือนเป็นเท่าไร ขอแนะนำ
เครื่องคำนวณความสามารถในการกู้ของธนาคารกรุงศรี คำนวณง่าย ๆ แค่ระบุรายได้ต่อเดือน ภาระหนี้สินต่อเดือน และระยะเวลาที่อยากกู้
3 วิธีเลือกซื้อบ้านหลังแรกสำหรับคู่แต่งงาน
การซื้อบ้านหลังแรกนั้นถือเป็นการลงทุนครั้งใหญ่ของชีวิต เป็นเรื่องเงินกับชีวิตคู่ และต้องใช้เงินจำนวนมาก ดังนั้นควรพูดคุยกันถึงความต้องการเรื่องบ้านให้ชัดเจน เพื่อให้ได้บ้านที่เหมาะสมกับความต้องการของทั้ง 2 ฝ่าย การซื้อบ้านหลังแรกในชีวิตแต่งงานจะได้เป็นพื้นที่แห่งความสุขที่ยั่งยืนโดยพิจารณาดังนี้
1. สำรวจทำเล
- การเดินทาง : บ้านอยู่ใกล้ที่ทำงานของทั้งคู่หรือไม่ การเดินทางสะดวกสบายหรือเปล่า มีระบบขนส่งสาธารณะที่เข้าถึงง่ายไหม
- ความปลอดภัย : บริเวณรอบ ๆ บ้านปลอดภัยหรือไม่ มีระบบรักษาความปลอดภัยที่ดีไหม
- ความเสี่ยงภัยธรรมชาติ : พื้นที่นั้นมีโอกาสเกิดน้ำท่วมหรือภัยธรรมชาติอื่น ๆ หรือไม่
- สิ่งอำนวยความสะดวก : มีสิ่งอำนวยความสะดวกที่จำเป็นครบครันหรือไม่ เช่น ห้างสรรพสินค้า โรงเรียน โรงพยาบาล สถานีรถไฟฟ้า
2. สำรวจข้อมูลการขอสินเชื่อ
- เปรียบเทียบดอกเบี้ย : ติดต่อธนาคารหลาย ๆ แห่งเพื่อเปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ยและเงื่อนไขการผ่อนชำระที่แตกต่างกัน
- มองหา Promotion : สอบถามเกี่ยวกับโพรโมชันหรือข้อเสนอพิเศษต่าง ๆ ที่อาจมีให้สำหรับผู้กู้ซื้อบ้านหลังแรก
3. ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ
ลองนำข้อมูลต่าง ๆ ไปสอบถามกับผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติมเพื่อให้แน่ใจว่าแผนในการซื้อบ้านของเราจะเป็นไปอย่างราบรื่นและไม่มีปัญหา เช่น ปรึกษากับทางนักวางแผนการเงิน เจ้าหน้าที่สินเชื่อ เพื่อขอคำแนะนำในสิ่งที่เราอาจจะมองพลาดไป
เคล็ดลับวางแผนผ่อนบ้านในระยะยาวให้ชีวิตคู่แฮปปี้
การผ่อนบ้านนั้นเราอาจจะทำตามแผนการผ่อนที่ธนาคารกำหนดไว้ แต่หลาย ๆ คู่รักอาจจะอยากหาวิธีที่จะผ่อนชำระได้เร็วขึ้น ลดดอกเบี้ยได้มากขึ้น และทำให้เราเป็นเจ้าของบ้านที่แท้จริงกันเร็วขึ้น ซึ่งทุกคนสามารถทำได้ด้วยแนวทางดังนี้
เคล็ดลับข้อ 1 มองหาผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่ช่วยให้เราผ่อนบ้านได้ง่ายขึ้น
นอกจากการที่คู่รักจะร่วมกันจ่ายค่าผ่อนบ้านให้มากขึ้น หรือการลดดอกเบี้ยจากการทำ Retention และ Refinance ปัจจุบันธนาคารกรุงศรีก็มีผลิตภัณฑ์ที่เรียกว่า สินเชื่อบ้านซุปเปอร์เซฟวิ่ง ซึ่งเป็นนวัตกรรมทางการเงินที่ให้เราสามารถฝากเงินเอาไว้ในบัญชีเงินฝาก โดยระบบจะคำนวณจำนวนเงินฝากของเรา เพื่อนำไปคำนวณการลดดอกเบี้ยเงินกู้บ้าน ยิ่งฝากเยอะยิ่งดอกเบี้ยยิ่งลด และเงินก้อนนี้ก็สามารถเบิกไปใช้ได้ปกติ
เคล็ดลับข้อ 2 จ่ายค่าผ่อนบ้านในแต่ละเดือนให้มากกว่ายอดชำระขั้นต่ำ (ถ้าทำได้)
ในการผ่อนบ้านนั้น ค่าผ่อนบ้านที่จ่ายจะถูกแบ่งเงินเป็น 2 ส่วน เงินส่วนหนึ่งจะนำไปจ่ายดอกเบี้ย และอีกส่วนจะนำไปจ่ายเงินต้น ซึ่งในช่วงแรกนั้นเงินที่เราผ่อนไปจะหนักไปที่จ่ายดอกเบี้ย แต่ถ้าเราวางแผนผ่อนในแต่ละเดือนให้มากขึ้น ธนาคารจะนำเงินส่วนที่จ่ายเกินไปตัดชำระเงินต้น เมื่อเงินต้นลดลงก็ทำให้จ่ายดอกเบี้ยน้อยลง หากเราสามารถจ่ายเกินกว่าค่าผ่อนบ้านได้เรื่อย ๆ ก็ทำให้เราจัดการหนี้ได้หมดเร็วกว่าเดิม โดยอาจจะร่วมกันวางแผนลดรายจ่าย หรือนำรายได้เพิ่มจากโบนัส มาชำระมากกว่าขั้นต่ำ ก็จะทำให้เราเป็นเจ้าของบ้านได้เร็วขึ้น
ลองคำนวณดูว่า ถ้าเพิ่มเงินผ่อนบ้านแต่ละเดือนอีกนิดหน่อย จะช่วยประหยัดดอกเบี้ยและลดระยะเวลาผ่อนบ้านได้มากแค่ไหน
เคล็ดลับข้อ 3 Retention หรือ Refinance เมื่อถึงเวลาอันเหมาะสม
เมื่อผ่อนบ้านไปสักพัก ดอกเบี้ยอาจจะลดลง หรืออาจมี Promotion ใหม่ ๆ จากธนาคารต่าง ๆ ลองพิจารณาร่วมกันว่าจะทำ Retention กับธนาคารเดิมที่กู้อยู่ หรือยื่นขอสินเชื่อ Refinance กับธนาคารใหม่ เปรียบเทียบดอกเบี้ยและความคุ้มค่าว่าแบบไหนคุ้มสุด วิธี Retention หรือ Refinance จะช่วยให้ค่าดอกเบี้ย และค่างวดผ่อนลดลงได้ แต่ก็ต้องคำนึงถึงค่าใช้จ่ายในส่วนอื่น ๆ ด้วย เช่น ค่าธรรมเนียมต่าง ๆ ดังนั้นควรพิจารณาให้ครบทุกค่าใช้จ่ายก่อนตัดสินใจ
เคล็ดลับข้อ 4 ใช้สิทธิลดหย่อนภาษี ประหยัดภาษีและมีเงินเหลือเก็บมากขึ้น
อย่าลืมใช้สิทธิลดหย่อนภาษีจากดอกเบี้ยเงินกู้ซื้อบ้านหลังแรก ซึ่งจะช่วยลดภาระภาษี และมีเงินเหลือเก็บสำหรับสำรองไว้ใช้ยามฉุกเฉิน
อย่างไรก็ตาม อย่าลืมว่าการใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันจะต้องมีการพูดคุยและสื่อสารกันตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยเรื่องสถานะทางการเงินของแต่ละคน ความคาดหวังต่าง ๆ ในอนาคตที่จะต้องสอดคล้องกัน นอกจากนี้เราควรจะต้องตกลงหน้าที่ความรับผิดชอบต่าง ๆ ร่วมกันเพื่อให้ชีวิตคู่อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข
Krungsri The COACH แนะนำสินเชื่อบ้านที่น่าสนใจเหมาะกับคู่รัก คู่แต่งงานทุกคน
สินเชื่อบ้านซุปเปอร์เซฟวิ่ง ผ่อนบ้านไวมากยิ่งขึ้น สำหรับผู้ที่สนใจขอสินเชื่อบ้านกับทางโครงการที่ทางธนาคารกรุงศรีให้การสนับสนุน
- ลูกค้ามีเงินฝากออมทรัพย์จัดให้และสมัครบริการหักบัญชีเงินฝากอัตโนมัติเพื่อชำระค่างวดสินเชื่อผ่านบัญชีออมทรัพย์ดังกล่าว สามารถรับสิทธิในการชำระดอกเบี้ยเงินกู้ลดลงสูงสุด 20% จากดอกเบี้ยเงินกู้ที่ต้องจ่ายตามปกติ ทั้งนี้ขึ้นกับยอดเงินฝากในบัญชีเงินฝาก
- ยอดเงินฝากที่สามารถนำมาคำนวณเพื่อลดภาระดอกเบี้ยเงินกู้ สูงสุดไม่เกิน 20% ของยอดเงินต้นคงค้าง ณ สิ้นวัน โดยเงื่อนไขเป็นไปตามที่ธนาคารกำหนด
- กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว โดยอัตราดอกเบี้ยลดต้นลดดอกตลอดอายุสัญญาอยู่ระหว่าง 4.42% - 5.93% ต่อปี*
*สมมติฐานการคำนวณมาจากอัตราดอกเบี้ย MRR ณ วันที่ 6 ต.ค. 66 = 7.40% ต่อปี ทั้งนี้อัตราดอกเบี้ยลอยตัวสามารถเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้นหรือลดลงได้ รายละเอียดการคำนวณเพิ่มเติมดูได้ที่เว็บไซต์ของธนาคารกรุงศรีอยุธยา
สรุป
บ้านคือจุดเริ่มต้นของความสุขในชีวิตคู่ การวางแผนการเงินเพื่อผ่อนบ้านอย่างรอบคอบ ไม่เพียงช่วยให้คุณและคู่รักเป็นเจ้าของบ้านในฝันได้เร็วขึ้น แต่ยังช่วยลดความเครียด และความกังวลเรื่องเงินในชีวิตคู่ ทำให้ชีวิตคู่ราบรื่นและมีความสุขแฮปปี้ได้ในระยะยาวแน่นอน
อ้างอิง
ส่องสูตรคำนวณสุด EASY เงินเดือนเท่านี้ กู้ซื้อบ้านได้เท่าไหร่ (krungsri.com)