ทุกการเริ่มต้นธุรกิจล้วนมีความฝันอยู่เบื้องหลัง ไม่ว่าจะเป็นมือใหม่ที่เพิ่งก้าวเข้าสู่เส้นทางผู้ประกอบการ หรือคนที่อยากต่อยอดสิ่งที่รักให้กลายเป็นอาชีพจริงจัง การรู้เทรนด์ธุรกิจที่กำลังมาแรง จะช่วยให้คุณมองเห็นโอกาส และวางแผนได้อย่างมั่นใจมากขึ้น

Krungsri The COACH อยากเป็นเพื่อนร่วมทางธุรกิจ SME ที่ช่วยคุณค้นหาแนวทางและแรงบันดาลใจใหม่ ๆ บทความนี้จึงรวบรวมธุรกิจ SME ที่กำลังได้รับความนิยม พร้อมแนวคิดเบื้องหลังความสำเร็จ เพื่อให้คุณนำไปต่อยอดได้ในแบบของตัวเอง และก้าวสู่ความสำเร็จอย่างมั่นคง
สำหรับใครที่กำลังมองหาแรงบันดาลใจ หรือค้นหาธุรกิจที่น่าสนใจ เราได้คัดเลือก 6 กลุ่มธุรกิจที่ตอบโจทย์เทรนด์ผู้บริโภคในปี 2569 และมีแนวโน้มเติบโตสูงอย่างต่อเนื่องมาให้แล้ว จะมีธุรกิจไหนน่าสนใจบ้าง ตามไปดูกัน
 

1. ธุรกิจสัตว์เลี้ยงครบวงจร (Pet Wellness)

 
เทรนด์ “Pet Humanization” ที่ผู้คนเลี้ยงสัตว์เลี้ยงเสมือนสมาชิกในครอบครัวยังคงมาแรง และเติบโตต่อเนื่อง ทำให้ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสัตว์เลี้ยงขยายตัวอย่างมาก ตั้งแต่สินค้าเกรดพรีเมียม เช่น อาหารออร์แกนิก ขนมเพื่อสุขภาพ ไปจนถึงบริการที่ดูแลสัตว์เลี้ยงแบบครบวงจร เช่น โรงแรมสัตว์เลี้ยง สปา คลินิกกายภาพบำบัด หรือแม้แต่ประกันภัยสัตว์เลี้ยง ถือเป็นตลาดที่มีกำลังซื้อสูง และเจ้าของพร้อมจ่ายเพื่อความสุข และสุขภาพที่ดีของลูกรักสี่ขา
 

2. ธุรกิจ Health & Wellness เพื่อสังคมสูงวัย

 
ประเทศไทยได้ก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงวัยอย่างสมบูรณ์ ทำให้ธุรกิจ SME ที่เกี่ยวข้องกับการดูแลสุขภาพมีแนวโน้มเติบโตอย่างก้าวกระโดด ไม่ว่าจะเป็นบริการดูแลผู้สูงอายุที่บ้าน ศูนย์กายภาพบำบัด คลินิกเฉพาะทาง อุปกรณ์อำนวยความสะดวกสำหรับผู้สูงวัย ไปจนถึงคอร์สกิจกรรมส่งเสริมสุขภาพกาย และใจ เช่น โยคะหรือการทำสมาธิสำหรับผู้สูงวัย ซึ่งเป็นตลาดที่ต้องการบริการที่มีคุณภาพ และความใส่ใจเป็นพิเศษ
 

3. ธุรกิจเครื่องประดับ และของตกแต่งบ้านสายมู

 
ในยุคที่เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน ผู้คนต่างมองหาที่พึ่งทางใจตามความเชื่อของตัวเอง “สินค้าสำหรับสายมู” จึงกลายเป็นโอกาสทางธุรกิจที่น่าสนใจ โดยเฉพาะการนำมาทำเป็นเครื่องประดับ หรือของตกแต่งบ้านที่ผสมผสานความสวยงามเข้ากับความหมายมงคล ไม่ว่าจะเป็น เทวรูปดีไซน์มินิมอล เครื่องประดับสายมู หรือสัญลักษณ์นำโชคต่าง ๆ ยิ่งถ้าเพิ่มการสร้างแบรนด์ที่มีเรื่องราวน่าสนใจ และดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ มั่นใจเลยว่า จะช่วยดึงดูดกลุ่มลูกค้าที่มีความเชื่อ และกำลังซื้อสูงได้อย่างแน่นอน
 

4. ธุรกิจอาหารเพื่อสุขภาพ และ Plant-Based

 
เทรนด์การรักสุขภาพยังคงเป็นกระแสหลัก ผู้คนหันมาใส่ใจเรื่องอาหารการกินมากขึ้น ธุรกิจอาหารเพื่อสุขภาพ อาหารคลีน โดยเฉพาะอาหารจากพืช (Plant-Based) จึงเป็นตลาดที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง โอกาสไม่ได้จำกัดอยู่แค่ร้านอาหาร แต่ยังรวมถึงการผลิตวัตถุดิบ อาหารสำเร็จรูปพร้อมทาน ขนมขบเคี้ยวเพื่อสุขภาพ หรือบริการจัดส่งอาหารคลีนแบบรายสัปดาห์ ซึ่งตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนเมืองที่ต้องการความสะดวกสบาย แต่ยังคงใส่ใจสุขภาพ
 

5. ธุรกิจให้บริการเครื่องมือ AI

 
ในยุคที่เทคโนโลยี AI ไม่ได้ถูกจำกัดอยู่แค่ในบริษัทใหญ่อีกต่อไป ธุรกิจที่ให้บริการเครื่องมือ AI สำหรับ SME จึงกลายเป็นดาวเด่นที่น่าจับตา เพราะเข้ามาช่วยแก้ปัญหาการขาดแคลนบุคลากร และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานได้อย่างมหาศาล ยกตัวอย่างเช่น

• การใช้แชตบอตตอบคำถามลูกค้าอัตโนมัติตลอด 24 ชั่วโมง ช่วยให้ไม่พลาดทุกโอกาสในการขาย
• การใช้เครื่องมือ AI วิเคราะห์เทรนด์บนโซเชียลมีเดีย เพื่อหาว่าสินค้าแบบไหนกำลังเป็นที่นิยม ทำให้วางแผนการตลาดได้แม่นยำขึ้น
• การใช้ AI ช่วยงานหลังบ้านต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น การเขียนแคปชันโฆษณา การคัดกรองใบสมัครงานเบื้องต้น หรือการประมวลผลเอกสารอัตโนมัติที่ช่วยให้สามารถวิเคราะห์และดึงข้อมูลเอกสารต่าง ๆ ที่มีจำนวนมากมาใช้งานได้อย่างรวดเร็ว

 

6. ธุรกิจบริการ Outsource สำหรับ SME

 
เมื่อมีธุรกิจใหม่ ๆ เกิดขึ้นมากมาย ส่งผลให้งานสนับสนุน หรือ “ธุรกิจ Outsource” เติบโตตามไปด้วย ไม่ว่าจะเป็นบริการรับทำบัญชี การตลาดดิจิทัล แอดมินดูแลลูกค้า งานกราฟิก หรือที่ปรึกษากฎหมาย บริการเหล่านี้กำลังได้รับความนิยมสูง เพราะช่วยให้ธุรกิจ SME ลดต้นทุนการจ้างพนักงานประจำ พร้อมมีเวลาโฟกัสกับสิ่งสำคัญอย่างการพัฒนาสินค้า และบริการให้ดียิ่งขึ้น การมีไอเดียที่ดีเป็นเพียงก้าวแรกเท่านั้น สำหรับคนที่เพิ่งเริ่มต้นทำธุรกิจ สิ่งสำคัญไม่แพ้กันคือการบริหารจัดการอย่างมีกลยุทธ์ เพราะนั่นคือหัวใจที่จะพาธุรกิจเติบโต และก้าวสู่ความสำเร็จได้อย่างมั่นคง ลองดู 5 เทคนิคที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้กับธุรกิจของคุณ
 

1. ใช้เทคโนโลยีลดต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพ

  ในยุคดิจิทัล เทคโนโลยีถือว่าเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้ SME ทำงานได้คล่องตัว และเป็นระบบมากขึ้น โดยเครื่องมือต่าง ๆ ไม่จำเป็นต้องลงทุนสูงเสมอไป ตัวอย่างเช่น

• ระบบจัดการหน้าร้าน (POS) : ช่วยบันทึกการขาย ตัดสต๊อกสินค้าอัตโนมัติ และดูข้อมูลสรุปยอดขายได้แบบเรียลไทม์ ทำให้วางแผนการขาย และการตลาดได้แม่นยำขึ้น
• โปรแกรมบัญชีออนไลน์ (Cloud Accounting) : ช่วยให้คุณจัดการเอกสารทางบัญชีได้ทุกที่ทุกเวลา ลดการใช้กระดาษ และสามารถทำงานร่วมกับสำนักงานบัญชีได้อย่างสะดวก
• ซอฟต์แวร์บริหารความสัมพันธ์ลูกค้า (CRM) : ช่วยจัดเก็บข้อมูลลูกค้าอย่างเป็นระบบ ทำให้เข้าใจพฤติกรรมลูกค้า และสามารถทำการตลาดแบบเฉพาะบุคคลได้ดีขึ้น

 

2. จัดการสต๊อก และการจัดซื้ออย่างชาญฉลาด

การบริหารสต๊อกสินค้าคือหัวใจของการควบคุมต้นทุน หากคุณสต๊อกสินค้ามากเกินไปอาจจะทำให้เงินทุนจม และเกิดค่าใช้จ่ายในการจัดเก็บ ขณะที่การมีสินค้าน้อยเกินไปก็อาจทำให้เสียโอกาสในการขาย ควรมีการวางแผนการสั่งซื้อโดยอิงจากข้อมูลการขายจริง เพื่อให้มีสินค้าเพียงพอต่อความต้องการ และมีเงินสดหมุนเวียนในธุรกิจอย่างเหมาะสม
 

3. ทำการตลาดแบบ Lean วัดผลได้จริง

การตลาดแบบ Lean คือการเริ่มต้นด้วยงบประมาณน้อย ๆ แต่เน้นการทดลอง และวัดผลอย่างสม่ำเสมอ เช่น การทดลองยิงโฆษณาบนโซเชียลมีเดียด้วยกลุ่มเป้าหมาย และคอนเทนต์ที่แตกต่างกันหลาย ๆ แบบในวงเงินที่ไม่สูง จากนั้นจึงวิเคราะห์ว่าแบบไหนได้ผลดีที่สุด แล้วค่อยทุ่มงบประมาณไปที่ช่องทางหรือแคมเปญนั้น วิธีนี้ช่วยให้ทุกบาททุกสตางค์ที่จ่ายไปเกิดประสิทธิภาพสูงสุด
 

4. รักษาคุณภาพและสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า (CRM)

ในยุคที่การแข่งขันสูง การหาลูกค้าใหม่อาจมีต้นทุนสูงกว่าการรักษาลูกค้าเก่า การรักษามาตรฐานของสินค้า และบริการให้ดีอย่างสม่ำเสมอคือสิ่งสำคัญ ควบคู่ไปกับการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า เช่น การจดจำรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ของลูกค้าประจำ การมอบส่วนลดพิเศษ หรือการสื่อสารอย่างสม่ำเสมอผ่านช่องทางต่าง ๆ จะช่วยสร้างความภักดีต่อแบรนด์ และทำให้เกิดการซื้อซ้ำในระยะยาว
 

5. วางแผนเงินทุนสำรอง เพื่อการเติบโตที่ยั่งยืน

เมื่อธุรกิจเริ่มเดินหน้าไปได้สักระยะ สิ่งที่ไม่ควรมองข้ามคือ “การวางแผนการเงินสำหรับอนาคต” เพราะทุกธุรกิจย่อมมีทั้งช่วงเวลาที่เติบโต และช่วงที่ต้องรับมือกับความท้าทาย การเตรียมเงินทุนสำรองไว้เสริมสภาพคล่อง จะช่วยให้คุณพร้อมรับมือทุกสถานการณ์ และพาธุรกิจผ่านช่วงเวลาที่ไม่คาดคิดไปได้อย่างมั่นใจ

นอกจากนี้ เมื่อโอกาสในการขยายกิจการมาถึง เช่น การเปิดสาขาใหม่ หรือการลงทุนในเครื่องจักรเพิ่ม การมีแผนทางการเงินที่ดีจะทำให้คุณพร้อมคว้าโอกาสนั้นไว้ได้ทันท่วงที ซึ่งสินเชื่อ SME ก็เป็นหนึ่งในเครื่องมือสำคัญที่จะช่วยสนับสนุนการเติบโตในขั้นตอนนี้ได้ สำหรับผู้ประกอบการที่ดำเนินธุรกิจ SME มาแล้วระยะหนึ่ง และกำลังมองหาเงินทุนเพื่อต่อยอดความสำเร็จ ไม่ว่าจะเป็นการขยายสาขา เพิ่มกำลังการผลิต หรือเสริมสภาพคล่องให้ธุรกิจเติบโตไปอีกขั้น Krungsri The COACH ขอแนะนำ “สินเชื่อธุรกิจ Quick Loan” ที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้ประกอบการโดยเฉพาะ

• วงเงินสูงสุด 15 ล้านบาท ตอบสนองทุกความต้องการของธุรกิจ
• ผ่อนชำระนานสูงสุด 12 ปี ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือน
• หลักประกันหลากหลาย ทั้งเงินฝาก ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง หรือที่ดินเปล่า
• ตอบโจทย์ทั้งกู้ในนามบุคคลธรรมดา ประกอบกิจการไม่ต่ำกว่า 2 ปี หรือกู้ในนามนิติบุคคล ประกอบกิจการไม่ต่ำกว่า 3 ปี

 
การเลือกธุรกิจที่ใช่ และมีแนวโน้มเติบโตเป็นเพียงจุดเริ่มต้น ความสำเร็จที่แท้จริงเกิดจากการบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพในทุก ๆ ด้าน ตั้งแต่การนำเทคโนโลยีมาปรับใช้ การตลาดที่วัดผลได้ ไปจนถึงการวางแผนทางการเงินที่รัดกุม การเตรียมความพร้อมอยู่เสมอจะช่วยให้ธุรกิจของคุณไม่เพียงแต่จะอยู่รอด แต่ยังสามารถเติบโต และประสบความสำเร็จได้อย่างยั่งยืนในโลกธุรกิจที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา

อ้างอิง

• https://www.leaseit.co.th
• https://www.jenosize.com
• https://www.posttoday.com