อยากมีบ้านต้องรู้ 5 สิ่งไม่ควรทำก่อนขอสินเชื่อบ้าน
รอบรู้เรื่องบ้าน
icon-Facebook icon-Twitter icon-line

อยากมีบ้านต้องรู้ 5 สิ่งไม่ควรทำก่อนขอสินเชื่อบ้าน

icon-access-time Posted On 21 สิงหาคม 2565
by Krungsri The COACH
หนึ่งความฝันที่ใครหลายคนมี คือ “อยากมีบ้าน” เป็นของตัวเองสักหลัง แต่การตัดสินใจมีบ้านสักหลังนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ตัวเราเองจำเป็นต้องมองไปถึงอนาคต ตั้งแต่การผ่อนชำระ การดูแลบ้าน เพราะบ้านหลังนี้จะอยู่กับเราไปอีกยาว ๆ และทุกเรื่องบ้านคือเรื่องสำคัญ
 
อยากมีบ้านต้องรู้ 5 สิ่งไม่ควรทำก่อนขอสินเชื่อบ้าน

ซึ่งถ้าหากว่าใครที่ตัดสินใจจะเลือกซื้อบ้านสักหลังได้แล้ว และกำลังจะรอขอสินเชื่อจากธนาคารอยู่ เราขอฝากให้ท่านดู 5 สิ่งที่ไม่ควรทำก่อนขอสินเชื่อบ้าน เพื่อช่วยเสริมให้การขอสินเชื่อของท่านผ่านได้อย่างฉลุย

5 สิ่งที่ไม่ควรทำก่อนขอสินเชื่อบ้าน

 

เรื่องที่ 1 ไม่มีเงินสำรอง

หลาย ๆ คนอาจเข้าใจผิดหากเราตัดสินใจขอสินเชื่อบ้าน ว่าเราไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใด ๆ ความจริงแล้วเงื่อนไขสินเชื่อบ้านของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ซึ่งบางคนอาจจะต้องดาวน์เป็นจำนวนเงิน 10% ของจำนวนสินเชื่อบ้านที่เรายื่นขอ แถมยังมีในเรื่องของค่าธรรมเนียมที่เราอาจต้องเป็นฝ่ายที่ต้องรับผิดชอบ ฉะนั้นแล้วหากเราไม่มีเงินสำรองไว้ก็ไม่ควรรีบตัดสินใจขอสินเชื่อบ้านโดยทันที แม้ว่าเราอยากมีบ้านแค่ไหน เราเองก็จำเป็นที่จะต้องมีเงินสำรองไว้เติมความฝันของเราด้วย

ซึ่งโดยปกติแล้วหากเราเป็นมนุษย์เงินเดือนทั่วไปมีรายได้ประจำเราควรมีเงินเก็บ 3-6 เท่าของค่าใช้จ่าย ยกตัวอย่างเช่น ปกติแล้วเรามีค่าใช้จ่ายเดือนละ 70% ของรายได้ หากเรามีเงินเดือน 40,000 บาท แสดงว่าเรามีค่าใช้จ่ายรายเดือน 28,000 บาท เราควรมีเงินออมสำรองฉุกเฉิน 84,000 - 168,000 บาท แต่ถ้าหากเราประกอบอาชีพอิสระ มีค่าใช้จ่ายเดือนละประมาณ 15,000 บาท ด้วยรายได้ที่ไม่ชัดเจนเราอาจจะไม่ได้มีงานตลอดทั้งเดือน ฉะนั้นก็จำเป็นจะต้องเก็บเงินออมสำรองฉุกเฉินไว้ที่ 90,000 - 180,000 บาท เพื่อเงินสำรองฉุกเฉิน และในส่วนนี้เองเราอาจนำไปใช้เป็นการดำเนินการต่าง ๆ ขณะขอสินเชื่อบ้านก็ย่อมได้
 

เรื่องที่ 2 มีหนี้สินอยู่หลายทาง

เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ดักความฝันอยากมีบ้านของใครหลาย ๆ คนเลยทีเดียว เพราะเราอาจเคยชินกับการรูดบัตรจนวงเงินบัตรเครดิตของเราเต็มทุกใบ หรือกำลังผ่อนรถอยู่ ในส่วนนี้เองก็จะเท่ากับเรามีหนี้สิน มีภาระที่ต้องผ่อนชำระในทุก ๆ เดือน โดยธนาคารจะดูความสามารถการผ่อนชำระของเรา สมมติว่าเราติดหนี้ทั้งบัตรเครดิตและรถอยู่เป็นจำนวนกว่า 40% ของรายได้ต่อเดือน ก็จะทำให้เรามีโอกาสโดนธนาคารปฏิเสธการขอสินเชื่อสูง และธนาคารจะมองเห็นว่าเราอาจจะผ่อนชำระไม่ไหวด้วยหนี้สินเดิมที่มีอยู่ ฉะนั้นแล้วหากอยากมีบ้านก็ควรเคลียร์หนี้สินให้ได้มากที่สุด หรือถ้าหากเราสามารถปิดหนี้ทั้งหมดได้ก็ควรปิด เพราะยิ่งเราเคลียร์หนี้ของเราได้มากเท่าไหร่ การอนุมัติก็จะยิ่งฉลุยมากขึ้นเท่านั้น
 
อยากมีบ้านต้องรู้ 5 สิ่งไม่ควรทำก่อนขอสินเชื่อบ้าน
 

เรื่องที่ 3 ติดเครดิตบูโร

อย่างที่เรารู้ ๆ กันว่าหากเราติดเครดิตบูโร หรือทำความเข้าใจง่าย ๆ คือ ข้อมูลการเงินส่วนตัวของเราจากบริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด ที่รวมข้อมูลเครดิตของเราจากธนาคารต่าง ๆ ที่เราเคยใช้บริการทั้งหมดเอาไว้ โดยตัวอย่างข้อมูลเหล่านั้น เช่น ประวัติการชำระสินเชื่อ ประวัติการผ่อนชำระ เคยขอสินเชื่ออะไรมาบ้าง รวมทั้งเรามีบัตรเครดิตกี่ใบ ชำระบัตรเครดิตตรงไหม และเรามีค้างจ่ายอะไรหรือเปล่า และอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งถ้าหากเราติดเครดิตบูโรอยู่ธุรกรรมทางการเงินต่าง ๆ ของเราจะเป็นไปได้ยาก

โดยเฉพาะใครที่อยากมีบ้าน หรือกำลังจะซื้อบ้าน ควรที่จะเช็กในส่วนนี้ให้ดีเสียก่อน เพราะหลาย ๆ ท่านอาจจะติดเครดิตบูโรโดยไม่รู้ตัวอยู่ก็ได้ ตรวจสอบเสียก่อนเพื่อที่เราจะได้หาทางแก้ไขทัน ซึ่งถ้าหากเราขอสินเชื่อจากธนาคารจะต้องขอความยินยอมจากเราเพื่อเช็กข้อมูลส่วนนี้อยู่แล้วก่อนขอสินเชื่อ โดยเราก็สามารถเช็กล่วงหน้าไว้ด้วยตัวเองก่อนได้ อีกทั้งเราขอเช็กข้อมูลเครดิตบูโรเราก็จะสามารถเช็กข้อมูลของเราย้อนหลังได้ 36 เดือน หรือ 3 ปี นับตั้งแต่วันที่เราขอ
 
อยากมีบ้านต้องรู้ 5 สิ่งไม่ควรทำก่อนขอสินเชื่อบ้าน
 

เรื่องที่ 4 ไม่มีประวัติการเดินบัญชี

เมื่อเราไม่มีประวัติการเดินบัญชีที่ชัดเจน สำหรับในเรื่องนี้คนที่มีรายได้ประจำจะไม่ค่อยมีปัญหา แน่นอนว่ามีรายได้ประจำทุกเดือน ยิ่งถ้าหากมีเรื่องของการฝากประจำเสริมเข้าไปด้วยในส่วนนี้เองก็จะเป็นประวัติทางการเงินที่ชัดเจนของเรา ซึ่งอาชีพที่มีปัญหาในเรื่องนี้ส่วนใหญ่คงหนีไม่พ้นอาชีพอิสระอย่างฟรีแลนซ์ที่มีรายได้ไม่แน่นอน จะทำให้ธนาคารไม่สามารถเห็นประวัติการเงินที่ชัดเจนได้ ดังนั้นแล้วถ้าหากเราทำอาชีพฟรีแลนซ์แต่เราต้องการมีบ้าน หรือสนใจซื้อบ้าน ก็จำเป็นที่จะต้องสร้างประวัติการเงินให้ชัดเจนไว้ เพื่อให้สินเชื่อของเราได้รับการพิจารณาที่เพิ่มขึ้นจากธนาคาร และถ้าหากท่านใดที่มองหาสินเชื่อบ้านที่มาพร้อมข้อเสนอดี ๆ เราขอแนะนำ “สินเชื่อบ้านกรุงศรีเพื่อที่อยู่อาศัย” ฝากไว้เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ใช่สำหรับคุณ
 

เรื่องที่ 5 ขอสินเชื่อบ่อยเกินไป

เราสามารถขอสินเชื่อเท่าไหร่ก็ได้ ธนาคารใดก็ได้ แต่ถ้าหากการขอของเราไม่สำเร็จผลไม่ว่าจะเป็นจากเรื่องของเอกสาร เรื่องของเครดิตบูโร หรือเหตุผลอื่น ๆ ที่ทำให้เราโดนธนาคารปฏิเสธ ซึ่งเรื่องของเอกสารโดยส่วนใหญ่แล้วธนาคารจะนำมานับเป็นคะแนนในการขอสินเชื่อของเรา ดังนั้นเราไม่ควรรีบร้อนใจไปขอสินเชื่อธนาคารอื่น หรือยื่นไปเรื่อย ๆ แม้ว่าต้องการมีบ้านแค่ไหน แต่เราเองก็ควรรอเวลาที่เหมาะสม โดยเราอาจจะเว้นระยะทางการขอสินเชื่อไปขั้นต่ำอย่างน้อย 3 เดือน พร้อมกับเริ่มสร้างประวัติทางการเงินใหม่ ก็จะทำให้เราไม่โดนตัดคะแนนจากการขอสินเชื่อไป

และนี่ก็เป็น 5 สิ่งที่ไม่ควรทำก่อนขอสินเชื่อบ้าน ฝันอยากมีบ้านอยู่ไม่ไกล แค่เราเช็ก 5 สิ่งนี้ก่อนยื่นขอสินเชื่อ และสำหรับใครที่กำลังเตรียมตัวขอสินเชื่อบ้านอยู่ เรามีเทคนิคดี ๆ จาก Krungsri the COACH มาแนะนำ “อยากมีบ้านเตรียมตัวอย่างไรให้มั่นใจว่ากู้ผ่าน” คลิกเลย


ท้ายที่สุดแล้วฝันอยากมีบ้านของทุก ๆ คนไม่ไกลเกินเอื้อม ฝันอยากมีบ้านของเราอยู่ข้างหน้าหากเราไม่เริ่มต้นตั้งแต่วันนี้ เราก็ไม่มีทางสำเร็จ เราขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนที่ฝันอยากมีบ้าน
ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง
บทความที่เกี่ยวข้อง
พิมพ์สิ่งที่ต้องการค้นหา