ต้องยอมรับว่าสำหรับวัยทำงาน พวกเราคงหนีไม่พ้นกับคำว่า ‘
การเป็นหนี้’ และแต่ละคนย่อมมีภาระหนี้มากน้อยแล้วแต่ภาระของแต่ละคน บางคนเรียนจบก็ต้องแบกภาระหนี้ของที่บ้านตั้งแต่อายุยังน้อย หรือเริ่มเจอกับภาวะหนี้เมื่อเริ่มคิดจะสร้างครอบครัว เช่น ซื้อบ้าน ซื้อรถ หรือหนี้ที่เกิดจากการจัดงานแต่งงาน ทำให้เกิดคำถามที่ค้างอยู่ในใจว่า ถ้าติดแบล็คลิสต์อยู่ เรายังสามารถขอกู้เงินในระบบได้ไหม หรือต้องเคลียร์หนี้เก่าที่ยังค้างให้หมดก่อน ถึงจะขอสินเชื่อได้?
สำหรับใครที่สงสัยในเรื่องนี้ ขอตอบให้เคลียร์ก่อนเลยว่า “หากใครมีภาระหนี้ไม่ว่าจะมากหรือน้อยเรา ก็ยังสามารถขอสินเชื่อเพิ่มเติมได้แน่นอน” เพราะปัจจุบันมีสินเชื่อเพื่อคนติดบูโรและสินเชื่อไม่เช็คเครดิตบูโร ที่สามารถช่วยเหลือคนที่มีประวัติหนี้เยอะ แต่จะมีเงื่อนไข หรือควรรู้สักนิดก่อนที่เราจะขอสินเชื่อใหม่ อะไรคือจุดบอดที่อาจทำให้เราพลาดการขอสินเชื่อครั้งนี้ มาหาคำตอบเกี่ยวกับการขอสินเชื่อเพื่อคนติดบูโร ปี 2567ไปด้วยกันได้เลย เลือกอ่านหัวข้อที่สนใจเลือกอ่านหัวข้อที่สนใจ
มีหนี้แบบไหน ที่อาจทำให้การขอสินเชื่อยากขึ้น?
คำถามนี้ต้องมาดูตัวเราก่อนว่า ตอนนี้เรากำลังเป็นหนี้ในรูปแบบใดอยู่ ติดแบล็คลิสต์ไหมหรือกู้เงินในระบบในรูปแบบไหนบ้าง เช่น หนี้บ้าน หนี้รถยนต์ หรือหนี้บัตรเครดิต หากเราเป็นหนี้ในตัวอย่างดังกล่าว แล้วเรา
ติดแบล็คลิสต์ของเครดิตบูโร เนื่องจากมีประวัติการกู้เงินในระบบแต่ผิดนัดชำระ หรือมียอดหนี้สูงจนเกินไป ทางสถาบันการเงินหรือธนาคารเจ้าของสินเชื่ออาจพิจารณาไม่อนุมัติการขอสินเชื่อในให้เรา แต่หากว่าเรามีหนี้หลายก้อนทั้งบ้าน รถ หรือบัตรเครดิต อยากขอสินเชื่อปิดหนี้ และไม่ติดบูโรและทางธนาคารเห็นว่าเรามีความสามารถในการชำระหนี้ จ่ายตรงเวลาและเต็มจำนวนทุกครั้ง ถึงจะมีหนี้มากแค่ไหน ประวัติทางการเงินเราดีทางธนาคารเจ้าของสินเชื่อ เห็นแบบนี้ก็อนุมัติสินเชื่อให้เราได้ไม่ยาก
นอกจากนี้ หากคุณต้องการ
ขอสินเชื่อส่วนบุคคลไม่เช็คบูโรให้อนุมัติผ่านได้ง่ายขึ้น อาจต้องใช้ทรัพย์สิน เช่น บ้าน หรือรถยนต์มาเป็นหลักประกันสำหรับการยื่นขอสินเชื่อ โดยสถาบันการเงินหรือธนาคารจะดูความเหมาะสมของทรัพย์สินและมูลค่าของหลักประกัน เพื่อที่เวลาปล่อยสินเชื่อไปแล้วจะช่วยลดความเสี่ยง เช่น การถูกเบี้ยว หรือถูกฟ้องจากการผิดชำระหนี้นั่นเอง
ขอสินเชื่อปิดหนี้ ลดความเสี่ยงติดเครดิตบูโรที่ไหน? ให้วงเงินเยอะที่สุด
หลังจากเคลียร์เงื่อนไขก่อนที่จะยื่นขอสินเชื่อเพื่อคนติดบูโร เพื่อปิดหนี้และลดความเสี่ยงติดบูโร แล้วที่ไหนจะสามารถให้เงินเราได้มากพอตามความต้องการของเราบ้าง คงต้องตอบว่าการขอสินเชื่อเพื่อคนติดบูโรจากสถาบันการเงิน หรือธนาคารที่อยู่ในระบบ ไม่ว่าธนาคารใดก็ได้ อย่างเช่น การไปยื่นขอสินเชื่อส่วนบุคคลไม่เช็คบูโรจากธนาคารกรุงศรี เราก็แค่เตรียมเอกสารที่สำคัญให้พร้อมก็พอ เช่น
- สำเนาบัตรประชาชน
- สลิปเงินเดือนฉบับล่าสุด หรือหนังสือรับรองการทำงาน แต่ถ้าเป็นเจ้าของกิจการให้นำหนังสือรับรองบริษัท และบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้นจากกระทรวงพาณิชย์ (คัดรับรองไม่ควรเกิน 3 เดือน)
- สำเนาบัญชีเงินฝากที่เงินเดือนของเราเข้า ย้อนหลังอย่างน้อย 6 เดือน
- สำเนาบัญชีเงินฝากหน้าแรกของธนาคารกรุงศรี
เมื่อเตรียมเอกสารพร้อมแล้ว สามารถไปยื่นขอสินเชื่อเพื่อคนติดบูโรได้ที่ธนาคารกรุงศรี สาขาใกล้บ้าน แต่ถ้าช่วงนี้ไม่อยากหลีกเลี่ยงการออกนอกบ้าน เราก็สามารถยื่นขอสินเชื่อผ่านโมบายแอป อย่าง
KMA krungsri app ที่มีบริการ
สินเชื่อ Krungsri iFIN ที่รองรับการสมัครแบบออนไลน์ วงเงินสูงสุดถึง 2 ล้านบาท หรือไม่เกิน 5 เท่าของรายได้ ส่วนวิธียื่นขอสินเชื่อก็ง่ายสะดวก เพียงแค่มีสมาร์ทโฟนเครื่องเดียวก็ยื่นเอกสารและทำรายการได้อย่างสะดวก ไม่ต้องออกจากบ้าน ไปเสี่ยงเชื้อโรคให้วุ่นวาย นอนอยู่บ้านก็รับเงินจากสินเชื่อส่วนบุคคลไม่เช็คบูโรได้เลย
เคล็ดลับขอสินเชื่อเพื่อคนติดบูโร 2567 ติดแบล็คลิสต์อยากกู้เงินในระบบทำได้ไม่ยาก
เช็กเอกสารให้ครบแล้ว แต่ยังขอสินเชื่อปิดหนี้ไม่ผ่านสักที ไม่ว่าจะเป็นเพราะติดบูโรหรือเหตุผลอื่น เอาเป็นว่าลองนำเคล็ดลับการขอสินเชื่อไม่เช็คบูโรแบบง่าย ๆ ให้ผ่านในรอบเดียวจากเราไปเลยดีกว่า เพิ่มโอกาสให้ผ่านในครั้งเดียวตามนี้!
1. มารวมหนี้ที่มีให้เป็นก้อนเดียว
ปกติหนี้ต่าง ๆ ของเราจะมาจากหลายทาง เช่น หนี้บัตรเครดิต หนี้ค่าใช้จ่ายทั่วไปหรือหนี้เงินนอกระบบ หนี้เหล่านี้เราสามารถติดต่อสถาบันการเงินหรือธนาคารเพื่อขอรวมหนี้เป็นก้อนเดียวได้ เพื่อเพิ่มโอกาสในการขอสินเชื่อส่วนบุคคลไม่เช็คบูโร ถึงติดบูโรก็สามารถเจรจาขอเป็นสินเชื่อเพื่อคนติดบูโรได้ ส่วนดอกเบี้ยของหนี้แต่ละอันก็จะถูกนำมารวมเป็นยอดเดียว เราจะจ่ายเต็มก้อน หรือแบ่งชำระเป็นงวด ๆ เหมือนเดิมก็ทำได้ และเวลาที่เราไปทำเรื่องขอสินเชื่อ หากเรามียอดหนี้ที่เป็นก้อนเดียว เมื่อยื่นเรื่องจะได้รับการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อง่ายกว่า และเราก็สามารถวางแผนการเงินได้ง่ายอีกด้วย ขอสินเชื่อเพื่อคนติดบูโร จ่ายหนี้ก้อนเดียว จ่ายได้อย่างมีระเบียบมากขึ้น หมดกังวลเรื่องติดเครดิตบูโร
2. ใช้หลักทรัพย์มาค้ำประกัน อนุมัติง่ายกว่าเดิม
เมื่อสภาพคล่องทางการเงินเราเริ่มไม่ดี อีกหนึ่งทางที่ช่วยให้เราขอสินเชื่อเพื่อคนติดบูโรได้ง่ายกว่าเดิมคือใช้สินทรัพย์ที่เรามีอยู่นำมาเป็นสิ่งค้ำประกันให้กับเรา โดยสินทรัพย์ที่ใช้ได้อย่างเช่น บ้าน ที่ดิน อสังหาฯ ที่ใช้ในเชิงพาณิชย์ต่าง ๆ ที่เราครอบครอง รถยนต์ส่วนตัว หรือแม้กระทั่งบัญชีเงินฝากก็สามารถนำมาใช้ค้ำประกันให้เราได้ และการใช้หลักทรัพย์ในการมาค้ำประกัน เรามักมีโอกาสได้สินเชื่อส่วนบุคคลไม่เช็คบูโรมากสูงสุดถึง 3 เท่าของหลักทรัพย์ที่นำมาใช้ หมดกังวลเรื่องติดบูโร แต่ถ้าเราไม่มั่นใจว่าหลักทรัพย์ที่จะเอามาใช้ค้ำประกันจะเหมาะกับมูลค่าสินเชื่อที่จะขอหรือไม่ สามารถติดต่อทางสถาบันการเงิน หรือธนาคารเพื่อขอคำปรึกษาก่อนได้ หากใครจะขอสินเชื่อ อย่าลืมใช้หลักทรัพย์มาเป็นตัวช่วยจะได้ไม่พลาดโอกาสการขอสินเชื่อครั้งนี้
3. หาคนมาร่วมขอสินเชื่อ เพิ่มความชัวร์
หากว่าการขอสินเชื่อด้วยตัวเราคนเดียว แล้วไม่แน่ใจว่าจะผ่านไหม อาจต้องหาคนมาร่วมขอสินเชื่อด้วยกัน เพราะการกู้ร่วมกันย่อมมีเครดิตที่ดีกว่าคนเดียว โดยเฉพาะหากว่าคนที่ขอสินเชื่อปิดหนี้มีประวัติหนี้เสียหรือติดบูโร และการสินเชื่อเพื่อคนติดบูโร หากว่าคนที่มากู้ร่วมกับเรามีประวัติทางการเงินที่ดี มีเงินเดือนเยอะ แต่หนี้น้อย ยิ่งมีโอกาสสินเชื่อผ่านสูงขึ้น และมีโอกาสได้รับวงเงินสินเชื่อที่มากขึ้นกว่าการยื่นขอสินเชื่อคนเดียว แต่ข้อควรระวังของทำแบบนี้คือ ผู้กู้ร่วมจะต้องเป็นคนชำระดอกเบี้ยด้วยเหมือนกัน หากอีกฝ่ายเกิดการผิดนัดชำระหนี้ เราอาจต้องเป็นผู้รับผิดชอบเงินในส่วนนี้ทั้งหมด ดังนั้นก่อนที่จะไปทำเรื่องกู้ร่วม เราต้องมั่นใจจริง ๆ ว่าต้องไม่มีใครผิดนัดชำระหนี้ ไม่อย่างงั้นสินเชื่อก้อนนี้จากเรื่องดี ๆ จะกลายเป็นเรื่องแย่ไปเลย
สำหรับเรื่องของคนที่มีหนี้ แล้วมีคำถามเรื่องสินเชื่อเพื่อคนติดบูโร ปี 2567 และการกู้ขอสินเชื่อปิดหนี้ โดยไม่ให้การติดบูโร คงได้รับคำตอบ และไกด์ไลน์ในการบริหารเงินเอาไว้เป็นตัวอย่าง หากเราไม่จำเป็นจริง ๆ ไม่ควรก่อหนี้ หรือสร้างหนี้เพิ่มอีกแล้ว หลังจากได้รับโอกาสได้เงินก้อนจากสินเชื่อ แต่ถ้าจะต้องเป็นหนี้จริง ๆ อยากให้คิดก่อนว่าหนี้ที่เราจะสร้างมันถึงเวลาแล้วรึยัง ถ้ายังรออีกนิดแล้ว เก็บออมเงิน แล้วค่อยซื้อเมื่อชีวิตบอกว่าพร้อมจริง ๆ จะดีกับตัวเราเองมากกว่า