ปัญหาเรื่องของ “บัญชีม้า” เป็นอีกหนึ่งปัญหาธุรกรรมการเงินที่ทวีความรุนแรงขึ้นในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา เห็นได้จากข่าวตามสื่อต่าง ๆ ซึ่งจุดประสงค์ที่มิจฉาชีพเลือกใช้บัญชีม้าในการกระทำความผิดมีมากมาย ตัวอย่างเช่น การใช้บัญชีม้าเพื่อเก็บเงินที่ผิดกฎหมาย หรือเพื่อหลอกลวงผู้บริสุทธิ์โอนเงินเข้ามาที่บัญชีดังกล่าว เป็นต้น
วันนี้เราจึงจะพาทุกคนมาทำความรู้จักกับเรื่องบัญชีม้า คืออะไรกันแน่? วิธีการตรวจสอบบัญชีม้า รวมไปถึงการรับมือกับบัญชีม้า โดนหลอกให้เปิดบัญชีม้าควรทำอย่างไร มาดูไปพร้อมกันเลย
บัญชีม้า คืออะไร? ต่างจากบัญชีทั่วไปอย่างไร
บัญชีม้า คือบัญชีธนาคารที่ถูกเปิดเพื่อผลประโยชน์บางอย่าง เช่น การใช้ทำเรื่องผิดกฎหมาย การใช้ถ่ายโอนเงินผิดกฎหมาย หรือใช้ในการฟอกเงิน โดยบัญชีม้าคนที่ถือครองบัญชีมักจะไม่ใช้เจ้าของตัวจริง แต่จะเป็นของมิจฉาชีพนำไปใช้ ซึ่งส่วนใหญ่มิจฉาชีพจะใช้วิธีการหลอกลวงหรือจ้างคนทั่วไปให้เปิดบัญชีธนาคาร โดยให้เงินค่าจ้างแล้วแต่ตกลงกัน ซึ่งส่วนใหญ่มิจฉาชีพมักมองหาเหยื่อที่อยู่ในช่วงวัยรุ่น หรือคนสูงอายุ เพราะใช้เงินเป็นตัวหลอกล่อให้ตกหลุมพราง หรืออีกวิธีก็คือการสวมรอยเป็นเจ้าของบัญชี โดย
การขโมยข้อมูลส่วนตัวของเราไปเช่น ชื่อ-นามสกุล เบอร์โทรศัพท์ และหมายเลขบัตรประชาชน แล้วนำไปเปิดบัญชีออนไลน์ กว่าจะเจ้าของข้อมูลจะรู้ตัว ก็สายไปเสียแล้ว
บัญชีม้าส่งผลกระทบอะไรกับพวกเราบ้าง?
เมื่อพูดถึง "บัญชีม้า" ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าตัวมิจฉาชีพก็คงไม่นำไปใช้ในทางสุจริต เพราะหากมิจฉาชีพมีจำนวนบัญชีม้าที่มากพออยู่ในมือก็สามารถนำไปทำเรื่องผิดกฎหมายได้หลากหลายรูปแบบ ยกตัวอย่างการใช้บัญชีม้าเพื่อทำให้เราตกเป็นเหยื่อของกลโกงเหล่านี้ได้เช่น
1. ใช้บัญชีม้าหลอกกลวงบนโลกออนไลน์
การเปิดบัญชีม้าเป็นหนึ่งในวิธีที่มิจฉาชีพใช้เพื่อหลอกลวง โดยส่วนใหญ่มักใช้ในการซื้อขาย สินค้าบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียหรือภายในเว็บบอร์ดต่าง ๆ โดยมิจฉาชีพจะให้เหยื่อทำ
การโอนเงินมายังบัญชีม้าเพื่อชำระค่าสินค้า แต่เมื่อหลงโอนไปให้ทางมิจฉาชีพจะบล็อกการติดต่อเรา ทำให้สูญเสียเงินไปฟรี ๆ แถมไม่ได้สินค้าที่ตกลงกันไว้อีกด้วย
2. ใช้บัญชีม้ารับเงินจากเว็บไซต์พนันออนไลน์
วิธีนี้เป็นที่นิยมกันมากโดยมิจฉาชีพ จะนำบัญชีม้าที่เปิดใช้งานแล้วนำไปเป็นบัญชีรับโอนจากผู้ใช้งานเว็บไซต์พนันออนไลน์ หลังจากระบบฝากเงินทางมิจฉาชีพจะโยกย้ายเงินเหล่านี้ส่งต่อไปยังเครือข่ายบัญชีม้าต่าง ๆ เพื่อไม่ให้สืบสาวค้นเจอปลายทางของเงินได้ง่าย ๆ หากเว็บไซต์เหล่านั้นถูกจับเมื่อไหร่ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะตรวจสอบเจ้าของบัญชีรับเงินก่อนทันที และทีนี้เจ้าของบัญชีตัวจริงจะติดร่างแหความผิดนี้ไปทันที
3. ใช้บัญชีม้าฟอกเงินให้แก๊งมิจฉาชีพ
เรื่องนี้ก็สร้างผลกระทบไม่ใช่น้อย เพราะ
เงินที่ได้จากการทำผิดกฎหมายจากมิจฉาชีพ จะถูกตรวจสอบเส้นทางการเงินได้ง่าย แต่ถ้ามิจฉาชีพใช้บัญชีม้าในการฟอกเงินสกปรกเหล่านี้ กลับเข้ามายังในระบบปกติจะส่งผลทำให้ตัวเลขทางเศรษฐกิจมีความผิดเพี้ยน เงินเข้ามาเยอะแต่ไม่มีการจ้างงาน หรือใช้ในการกระตุ้นเศรษฐกิจ เมื่อเงินผิดกฎหมายที่ถูกฟอกเข้ามาเยอะเกินไป จนผิดหลักความเป็นจริง อาจนำไปสู่สภาวะเงินเฟ้อ เกิดผลกระทบเป็นลูกโซ่จนประเทศชาติเสียหาย เห็นไหมว่าบัญชีม้าส่งผลร้ายแรงมากกว่าที่เราคิด
เราจะรู้ได้อย่างไรว่าโดนหลอกให้เปิดบัญชีม้า?
ในช่วง 2-3 ปีมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการรับเรื่องของบัญชีม้าเข้ามาเป็นกรณีศึกษาอย่างมากมาย พบว่ามิจฉาชีพมักรูปแบบในการหลอกล่อเหยื่อให้ทำการเปิดบัญชีม้าจะมีด้วยกัน 3 รูปแบบ ยกตัวอย่างเช่น
1. หลอกให้เปิดบัญชี เพื่อทำประกันออนไลน์
กรณีนี้จะพบว่าเหยื่อส่วนใหญ่นั้น ถูกหลอกล่อโดยการบอกว่าการเปิดบัญชีนี้จะเป็นการเปิดบัญชีสำหรับการรับเงินค่าประกันออนไลน์ ซึ่งเมื่อเหยื่อหลงกลเปิดบัญชีม้าแล้ว ทางมิจฉาชีพจะทำการหลอกล่อให้เราส่งข้อมูลการเข้าถึงบัญชีนั้น ๆ กลับมาให้ โดยส่วนใหญ่จะให้เหตุผลว่า หากอีกฝ่ายเข้าถึงข้อมูลไม่ได้จะส่งผลให้การรับเงินล่าช้า เมื่อเหยื่อรู้แบบนั้นก็กลัวที่จะไม่ได้เงินคืนกลับมา เลยมักให้ข้อมูลบัญชีธนาคารไป หากเจอใครเข้ามาชักชวนแบบนี้ ใครรีบบล็อกทันที ไม่อย่างนั้นอาจตกเป็นเหยื่อของแก๊งมิจฉาชีพโดนหลอกให้เปิดบัญชีม้าได้
2. หลอกให้ช่วยเปิดบัญชีในแอปพลิเคชั่น เพื่อรับเงินภาษี
วิธีการรูปแบบนี้มักพบกันบ่อย ๆ ในโซเชียลมีเดีย โดยเหยื่อส่วนใหญ่มักเป็นผู้สูงอายุที่ถูกมิจฉาชีพจะเข้ามาตีสนิท และขอความช่วยเหลือให้เราช่วยเปิดบัญชีในแอปพลิเคชั่นต่าง ๆ เพื่อใช้ในการรับเงินภาษีคืน แต่มิจฉาชีพจะเป็นผู้ดำเนินการให้ ส่วนเราให้ทำตามขั้นตอนที่เขาบอกก็พอ เมื่อมิจฉาชีพเปิดบัญชีสำเร็จ ก็จะค่อย ๆ หายไปจากการสนทนา ให้เราไม่รู้ตัว มักอ้างว่าจะไปดำเนินการเอกสารภาษีให้เราอยู่เฉย ๆ ไม่ต้องทำอะไร
จนเวลาผ่านไปหลังจากเราลืมเรื่องนี้ มิจฉาชีพจะค่อยใช้บัญชีม้าจากข้อมูลส่วนตัวของเราออกไปกระทำความผิด กว่าจะเราจะรู้ตัวก็คงไม่ทันการณ์ ถ้าใครกำลังเจอคนเข้ามาพูดคุย และชักชวนให้ทำธุรกรรมแบบนี้ ให้รีบตีตัวออกห่างทันที ไม่อย่างนั้นอาจตกเป็นเหยื่อโดนหลอกให้เปิดบัญชีม้าโดยไม่รู้ตัว
3. หลอกให้เปิดบัญชีโดยมีค่าจ้าง โอนให้ฟรี ๆ
กรณีนี้มักเจอกันได้บ่อย ๆ สำหรับคนเป็นเหยื่อพวกมิจฉาชีพที่จะเข้ามาพูดคุยในช่องแช็ต หรือ
โทรมาเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่มักจะพูดคุยเหมือนว่าสนิทกับเรา หรืออ้างเป็นคนจากบริษัทที่มีชื่อเสียง พูดจาหว่านล้อมให้ผู้ที่ทำการรับสายนั้นเกิดความหลงเชื่อในสิ่งที่ได้ฟังไปและทำการช่วยเปิดบัญชีธนาคารโดยมีค่าตอบแทนโอนให้ฟรี ๆ ครั้งละ 500 บาท เป็นต้น เมื่อเหยื่อเห็นว่าการรับจ้างแบบนี้ได้เงินจริง และได้มาง่าย ๆ จะยิ่งตกเป็นเหยื่อคอยเปิดบัญชี รวมถึงชักชวนคนอื่น ๆ มาด้วย ถ้าหากมีคนเข้ามาพูดคุยแบบนี้กับเรา ให้คิดไว้เสมอว่า เขาต้องการประโยชน์จากเรา ไม่มีใครให้เงินเราฟรี ๆ ยิ่งให้เราเปิดบัญชีธนาคารด้วยแล้ว เจอแบบนี้ คนที่โทรมามิจฉาชีพชัวร์ รีบตัดสาย และบล็อกเบอร์นั้น ๆ ได้ดีกว่า ข้อมูล และชีวิตของเราจะได้ปลอดภัยห่างไกลเรื่องผิดกฎหมาย
หากพลาดตกเป็นเหยื่อ เปิดบัญชีม้า ควรทำอย่างไรให้ปลอดภัย?
หากคุณตกเป็นเหยื่อและเผลอเปิดบัญชีม้าไปแล้ว สิ่งสำคัญคือต้องดำเนินการทันทีเพื่อปกป้องตัวเองทันให้เราทำตามขั้นตอนดังต่อไปนี้
1. ติดต่อธนาคารทันที
เมื่อพบว่าโดนหลอกให้เปิดบัญชีม้า อย่าเพิ่งตกใจ รีบโทรไปแจ้งที่ศูนย์แจ้งเหตุภัยทางการเงินจากมิจฉาชีพของธนาคารที่เราได้ทำการเปิดบัญชีไว้เพื่อทำการระงับบัญชีในทันที ซึ่งสำหรับลูกค้าของธนาคารกรุงศรี หากเกิดเหตุแบบนี้สามารถโทรติดต่อได้ที่สายด่วน 1572 กด 5 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
2. เก็บหลักฐานทั้งหมด ช่วยให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการไวยิ่งขึ้น
หลังจากติดต่อเจ้าหน้าที่ธนาคารเรียบร้อยแล้ว ควรรวบรวมหลักฐานทั้งหมดที่มีทั้งช่องทางการสนทนา เช่น LINE หรือ Facebook ที่มีข้อความการแช็ตกับมิจฉาชีพ รวมไปถึงช่องทางการติดต่อการโทรต่าง ๆ (ถ้ามี) แล้วไปที่สถานีตำรวจเพื่อทำการแจ้งความบัญชีม้า โดยขั้นตอนนี้ก็ให้เราทำการเล่ารายละเอียดต่าง ๆ และตอบคำถามที่ทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการสอบถามอย่างละเอียด และส่งมอบหลักฐานที่ได้รวบรวมมา เพื่อทำบันทึกประจำวันเอาไว้ เป็นหลักฐานดำเนินการต่อไป นอกจากนี้ เราสามารถแจ้งความออนไลน์คดีอาชญากรรมออนไลน์ได้ที่
https://www.thaipoliceonline.go.th ได้เช่นกัน
การเปิดบัญชีม้าอย่างจงใจ มีโทษตามกฎหมายอย่างไรบ้าง?
ตามพระราชกำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ. 2566 ระบุว่า ผู้ที่เป็นเจ้าของบัญชีม้าหรือเบอร์ม้า จะต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 300,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
นอกจากนี้ ผู้ที่เป็นธุระจัดหา โฆษณาหรือไขข่าวโดยประการใด ๆ เพื่อให้มีการซื้อ ขาย ให้เช่า หรือให้ยืม บัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์ บัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ตลอดจนเลขหมายโทรศัพท์สำหรับบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ ซึ่งลงทะเบียนผู้ใช้บริการในนามของบุคคลหนึ่งบุคคลใดแล้ว แต่ไม่สามารถระบุตัวผู้ใช้บริการได้ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 2 - 5 ปี หรือปรับตั้งแต่ 200,000 - 500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
สุดท้ายนี้ หากเราโดนหลอกให้เปิดบัญชีม้า ก็อาจจะทำให้คุณเกิดความเสียหายทั้งต่อตนเอง รวมไปถึงครอบครัวได้ง่าย ๆ เลย เพราะถ้าหากเกิดเหตุอะไรขึ้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องติดต่อมาหาเรา และเราอาจมีความผิดเพราะเราเป็นเจ้าของบัญชีดังกล่าวนั่นเอง ดังนั้นจะต้องมีสติในการใช้ชีวิต และไม่ควรที่จะให้ข้อมูลส่วนตัวของเราไปให้กับคนแปลกหน้า หรือคนใกล้ตัวเพราะอาจเสี่ยงต่อการนำไปเปิดบัญชีม้านั่นเอง