รู้ไหมว่าในยุคที่ประชากรโลกเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เทคโนโลยีการเกษตรได้กลายมาเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยแก้ไขปัญหาการผลิตอาหารให้เพียงพอ ข้อมูลจาก World Population Data Sheet คาดการณ์ว่าในปี 2050 ประชากรโลกจะมีจำนวนเพิ่มขึ้นถึง 9.9 พันล้านคน ซึ่งทำให้เราต้องผลิตอาหารมากขึ้น ในขณะเดียวกัน ทรัพยากรธรรมชาติของเรากลับลดลง แถมยังมีเรื่องปัญหาเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมที่ทำให้ผลิตอาหารได้ไม่เต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องภัยธรรมชาติ โลกที่ร้อนขึ้นเรื่อย ๆ อากาศที่แปรปรวนและเปลี่ยนแปลงบ่อย รวมถึงธรรมชาติที่เสื่อมโทรมลงเรื่อย ๆ ทางออกของโลกใบนี้นั้นจึงเป็นเรื่องการพัฒนานวัตกรรมการเกษตรที่จะช่วยให้เราสามารถผลิตอาหารให้คนบนโลกได้มากขึ้นอย่างยั่งยืน ดังนั้น น้องเพลินเพลินจึงอยากพาทุกคนมารู้จักเทคโนโลยีทางการเกษตรว่ามีอะไรบ้าง
เทคโนโลยีทางการเกษตรสมัยใหม่ คืออะไร?
เทคโนโลยีการเกษตรหรือ
เกษตรอัจฉริยะ คือการนำเทคโนโลยีและกระบวนการใหม่ ๆ มาปรับใช้ในการทำเกษตร เพื่อเพิ่มผลผลิตอาหารได้มากยิ่งขึ้นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น แต่ในขณะเดียวกันก็ยังช่วยรักษาธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมให้โลกของเราน่าอยู่อีกด้วย มาดูตัวอย่าง 7 เทคโนโลยีทางการเกษตรมีอะไรบ้างที่น่าสนใจ
1. การใช้โดรนเพื่อการเกษตร
การใช้โดรนในเทคโนโลยีทางการเกษตรสมัยใหม่ที่มีประโยชน์ต่อเกษตรกรเป็นอย่างมาก เนื่องจากโดรนสามารถทำงานด้วยการบินได้ครอบคลุมในพื้นที่ที่กำหนด ทำงานได้อย่างรวดเร็วและประหยัดต้นทุนมากกว่าการจ้างแรงงาน เราสามารถบังคับและควบคุมโดรนให้ทำงานตามที่เราต้องการ ไม่ว่าจะเป็นการรดน้ำ การพ่นสารเคมี การฉีดยาปราบศัตรูพืช การให้ปุ๋ยในปริมาณที่เหมาะสมในพื้นที่ที่เราต้องการ นอกจากนี้การใช้โดรนนั้นยังช่วยเกษตรกรลดความเสี่ยงจากสารเคมีที่เป็นอันตราย สามารถรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับสุขภาพของพืชและตรวจสอบปัญหาต่าง ๆ ให้เราสามารถจัดการได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ อีกด้วย เทคโนโลยีทางการเกษตรสมัยใหม่นี้กำลังได้รับความนิยมในประเทศต่าง ๆ เช่น อเมริกา ญี่ปุ่น และออสเตรเลีย
2. AI เพื่อตรวจสอบคุณภาพผลผลิต
แน่นอนว่าเมื่อเกษตรกรปลูกพืชผักจนออกดอกออกผลแล้ว ก่อนจะนำไปขายเขาก็ต้องมีการตรวจสอบคุณภาพ สมัยก่อนเราก็จะจ้างแรงงานมาตรวจสอบโดยใช้เครื่องมือง่าย ๆ ในการชั่ง ตวง วัด และดูจากภายนอกว่าผลผลิตที่ได้มีความสมบูรณ์ แต่จริง ๆ แล้วการใช้สายตาของคนดูก็ไม่สามารถตรวจสอบคุณภาพตามมาตรฐานได้ทั้งหมด แต่ในปัจจุบันเรามีเทคโนโลยีทางการเกษตรอย่าง AI ในการตรวจสอบได้แล้ว โดยการให้ AI ไปเรียนรู้ด้วย Deep Learning จากภาพถ่ายต่าง ๆ AI ก็จะเรียนรู้และประมวลผลได้ว่า ผลผลิตแบบไหนดีแบบไหนมีปัญหา และปัญหาเกิดจากอะไร AI ก็จะบอกเราได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งช่วยลดเวลาของเกษตรกรได้เป็นอย่างมาก
3. การใช้นวัตกรรมเศรษฐกิจชีวภาพ
เทคโนโลยีทางการเกษตรสมัยใหม่มุ่งเน้นการใช้ทรัพยากรหมุนเวียน เช่น ซากพืช ซากสัตว์ และจุลินทรีย์ มาใช้ในการผลิตพลังงาน ถือว่าเป็นเทคโนโลยีทางการเกษตรที่น่าสนใจ ตัวอย่างเช่น การนำพืชและของเสียจากสัตว์มาสร้างพลังงานชีวมวล การผลิตพลาสติกชีวภาพที่ย่อยสลายได้ และการสร้างวัตถุดิบต่าง ๆ ที่ได้มาจากธรรมชาติ ซึ่งจะช่วยลดปัญหาต่าง ๆ ที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมได้อีกด้วย ประเทศไทยก็มีการนำกากที่ได้จากพืชมาทำพลังงานชีวมวล อย่างเช่น โรงงานผลิตน้ำตาลก็จะเอาชานอ้อยที่ได้ในกระบวนการผลิต ไปส่งต่อให้กับโรงงานผลิตไฟฟ้าเพื่อสร้างพลังงานอีกที เป็นระบบที่ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีทางการเกษตรในทุกรูปแบบ ตั้งแต่พลังงานจนถึงน้ำตาล
4. การทำเกษตรแนวตั้ง
ในการทำการเกษตรแบบดั้งเดิม เราจะต้องใช้ที่ดินขนาดใหญ่ในการปลูกผลผลิต แต่ในปัจจุบันเรามีเทคโนโลยีทางการเกษตรที่สามารถทำการเกษตรในแนวตั้งได้ คล้าย ๆ การจับพืชผักมาปลูกเป็นคอนโดมิเนียม ซึ่งจะช่วยเพิ่มผลผลิตบนพื้นที่ที่จำกัดได้ เทคโนโลยีทางการเกษตรแบบอัจฉริยะนี้จะมีการควบคุมสภาพแวดล้อมที่ช่วยให้พืชผักเติบโตได้อย่างดี ไม่ว่าจะเป็นการใช้แสงประดิษฐ์ การให้สารอาหารและให้น้ำที่ควบคุมอย่างเป็นระบบ การทำเกษตรแนวตั้งนี้ช่วยแก้ปัญหาความมั่นคงทางอาหารกับโลกได้อีกด้วย เพราะสามารถปลูกพืชผักได้ตลอดปี อย่างในประเทศอิสราเอล มีการใช้เทคโนโลยีทางการเกษตรนี้ โดยมีการใช้ฟาร์มแนวตั้งปลูกใกล้กับซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านอาหารและร้านค้าทั่วไป ไม่ว่าจะเป็น ผักกาด โหระพา คะน้า สะระแหน่ สามารถซื้อกลับไปทานหรือซื้อไปพร้อมกับดินรองพื้นเพื่อปลูกต่อก็ได้
5. เทคโนโลยีการขนส่งสินค้าเกษตร
การขนส่งสินค้าเกษตรเป็นเรื่องที่ท้าทายและสำคัญสำหรับผู้ประกอบการอย่างมาก เนื่องจากสินค้าเกษตรสามารถเน่าเสียได้โดยง่าย บางทียังส่งไปไม่ถึงที่หมายของอาจจะหมดอายุเสียก่อน เราจึงต้องมีเทคโนโลยีทางการเกษตรสมัยใหม่เพื่อยืดอายุของสินค้า ไม่ว่าจะเป็นบรรจุภัณฑ์ที่ช่วยป้องกันการเน่าเสีย หรือกระบวนการที่ช่วยเก็บสินค้าได้ยาวนานขึ้น รวมไปถึง
เทคโนโลยีการขนส่งสินค้าเกษตรที่มีประสิทธิภาพช่วยลดการสูญเสียระหว่างการขนส่ง สามารถรักษาคุณภาพของผลผลิตได้เป็นอย่างดี
6. แอปพลิเคชันเกษตรกรดิจิทัล
เทคโนโลยีทางการเกษตรสมัยใหม่นี้เป็นอีกเทรนด์ที่กำลังมาแรง เมื่อเกษตรกรส่วนใหญ่สามารถเข้าถึงมือถือสมาร์ทโฟนได้ และสามารถใช้ประโยชน์จากแอปพลิเคชันต่าง ๆ ที่สามารถส่งคำสั่งและควบคุมอุปกรณ์ต่าง ๆ ภายในฟาร์มด้วยโทรศัพท์มือถือเพียงเครื่องเดียว ยกตัวอย่างเช่น การใช้โทรศัพท์มือถือเปิดปิดน้ำหรือตั้งเวลาให้มีการเปิดน้ำ การควบคุมอุณหภูมิให้เหมาะสมต่อการเติบโตของพืชผักได้ ซึ่งนวัตกรรมเหล่านี้ช่วยทำให้เกษตรกรสามารถจัดการงานต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้น สามารถทำงานทางไกลได้ และประหยัดเงินและแรงงานอีกด้วย อย่างในประเทศจีน เนื่องจากเทคโนโลยีทางการเกษตรได้พัฒนาอย่างรวดเร็ว ทำให้ประชากรเข้าถึงเทคโนโลยีได้ง่าย โดยเฉพาะโทรศัพท์มือถือแบบสมาร์ทโฟน ทำให้เกษตรกรก็ปรับตัวให้กลายเป็นการเกษตรกรแบบดิจิทัลได้มากขึ้นเช่นกัน
7. แพล็ตฟอร์มสำหรับธุรกิจการเกษตร
ในปัจจุบันการให้บริการธุรกิจทางการเกษตรก็มีการใช้เทคโนโลยีทางการเกษตรสมัยใหม่มีมากขึ้น ตัวอย่างเช่น หากเกษตรกรต้องการขายสินค้าก็สามารถหาผู้ซื้อได้ง่าย ๆ ผ่านทางแพลตฟอร์มออนไลน์หรือแอปพลิเคชัน ทำให้ไม่ต้องผ่านพ่อค้าคนกลางอีกต่อไป ทำให้ไม่ต้องเสียต้นทุนในการดำเนินกิจการที่สูง ช่วยเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกรมากยิ่งขึ้น และสามารถส่งสินค้าสู่ผู้บริโภคได้อย่างรวดเร็วอีกด้วย อย่างไรปัจจุบันก็มี Startup ไทยอย่าง “ส่งสด” ที่มีระบบบริการจัดการขายสินค้าทางการเกษตรสู่ผู้บริโภคและธุรกิจได้ง่าย ๆ อีกด้วย
Tips by น้องเพลินเพลิน
ในปัจจุบันเทคโนโลยีทางการเกษตรเข้ามามีบทบาทต่อพี่น้องเกษตรกรเป็นอย่างมาก เทคโนโลยีต่าง ๆ ที่ได้กล่าวมานั้นสามารถช่วยทำให้เราลดต้นทุนทางด้านแรงงานได้เยอะมาก แถมยังสามารถช่วยให้เราทำการเกษตรได้มีประสิทธิภาพสูงขึ้นและได้ผลผลิตมากขึ้น ดังนั้นเมื่อโลกกำลังเปลี่ยนไปเราก็ต้องเปลี่ยนตาม อย่าลืมศึกษาเพิ่มเติมว่าเทคโนโลยีทางการเกษตรสมัยใหม่ไหนจะช่วยเพิ่มศักยภาพในธุรกิจของเราได้ และลองดูว่าจะสามารถใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีทางการเกษตรได้อย่างไร ค่อย ๆ ปรับทีละนิดโดยเริ่มจากสิ่งใกล้ตัวง่าย ๆ ก่อน เช่น การใช้โทรศัพท์มือถือว่ามีแอปพลิเคชันอะไรที่ช่วยให้เราทำงานง่ายขึ้น และทยอยปรับเปลี่ยนมาใช้เทคโนโลยีทางการเกษตรสมัยใหม่ที่เราได้ประโยชน์ให้มากขึ้นเรื่อย ๆ
โดยสรุปจะเห็นได้ว่า เทคโนโลยีทางการเกษตรที่กล่าวมานั้นสามารถตอบโจทย์ในการพัฒนาศักยภาพในการผลิตอาหารให้กับโลกใบนี้ได้มากยิ่งขึ้น ช่วยลดปัญหาความขาดแคลนอาหารในอนาคต และเป็นเทคโนโลยีทางการเกษตรที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเป็นอย่างมาก ช่วยให้โลกของเราน่าอยู่ขึ้นอีกด้วย