ส่องเทรนด์ Social Tech สตาร์ทอัพมาแรง ธุรกิจยุคใหม่ใส่ใจโลก

ส่องเทรนด์ Social Tech สตาร์ทอัพมาแรง ธุรกิจยุคใหม่ใส่ใจโลก

By Krungsri Plearn Plearn
การทำสตาร์ทอัพยังคงมาแรงในยุคปัจจุบัน โดยหลาย ๆ แห่งมักมีเป้าหมายเพื่อสร้างผลกระทบเชิงบวกให้กับสิ่งแวดล้อมและสังคม สิ่งนี้ได้ขับเคลื่อนให้นวัตกรรมเพื่อสังคม หรือ Social Innovation เติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยเฉพาะในกลุ่ม Social Tech Startup ที่ใช้เทคโนโลยีเป็นเครื่องมือแก้ปัญหาสังคมอย่างยั่งยืน ในบทความนี้ Plearn เพลินจะพาไปดู 3 เทรนด์น่าลงทุนแห่งปี 2025 ที่จะเปลี่ยนโลกให้ดีขึ้นกัน

Social Tech Startup คืออะไร ?

Social Tech Startup คือธุรกิจสตาร์ทอัพที่นำเทคโนโลยีมาใช้เป็นเครื่องมือหลักในการแก้ไขปัญหาสังคม และสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน จุดเด่นที่ทำให้ธุรกิจประเภทนี้แตกต่าง คือเป้าหมายสูงสุดไม่ใช่การสร้างกำไรเพียงอย่างเดียว แต่เป็นการสร้างผลกระทบเชิงบวกให้เกิดขึ้นจริง โดยใช้กำไรเป็นกลไกขับเคลื่อนให้ธุรกิจเติบโต และขยายผลต่อไปได้ ซึ่งต่างจากองค์กรการกุศลทั่วไปที่อาจมีข้อจำกัดด้านการขยายผล การเติบโตของธุรกิจกลุ่มนี้ได้รับการสนับสนุนจากแนวคิด “Impact Investing” ที่นักลงทุนยุคใหม่ไม่ได้มองแค่ผลตอบแทนทางการเงิน แต่ยังต้องการสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ดีให้สังคมควบคู่กันไปนั่นเอง

3 เทรนด์ Social Tech Startup มาแรง ไอเดียบรรเจิด

เทรนด์ Social Tech Startup
Plearn เพลินได้คัด 3 กลุ่มอุตสาหกรรม Social Tech ที่มีศักยภาพสูง และกำลังมาแรงที่สุดในปี 2025 มาให้แล้ว แต่ละตัวจะมีความน่าสนใจอย่างไร ตามไปดูกันเลย

1. HealthTech : เทคโนโลยีสุขภาพเพื่อการเข้าถึงที่เท่าเทียม

HealthTech
HealthTech หรือเทคโนโลยีเพื่อสุขภาพ เป็นหนึ่งในสมรภูมิที่ร้อนแรงที่สุดสำหรับสตาร์ทอัพ เพราะเข้ามาช่วยแก้ปัญหาใหญ่ของประเทศไทยโดยตรง ทั้งการเตรียมพร้อมรับมือสังคมสูงวัย (Aged Society) และการลดความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงบริการสาธารณสุข

เทรนด์ที่กำลังมาแรงและเห็นภาพชัดเจนที่สุดคือ การแพทย์ทางไกล (Telemedicine) ที่ใช้เทคโนโลยีเชื่อมต่อผู้ป่วยในพื้นที่ห่างไกลกับบุคลากรทางการแพทย์ได้อย่างสะดวก และรวดเร็ว ปัจจัยเหล่านี้ล้วนส่งผลให้มูลค่าตลาด HealthTech ของไทยเติบโตอย่างก้าวกระโดด และมีแนวโน้มพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ตัวอย่าง Social Tech Startup ในเทรนด์ HealthTech
  • Ooca : แพลตฟอร์มปรึกษาสุขภาพจิตออนไลน์ที่ช่วยให้คนไทยเข้าถึงจิตแพทย์ได้ง่ายขึ้น
  • QueQ : สามารถใช้จองคิวล่วงหน้าเพื่อเข้ารับบริการที่โรงพยาบาลรัฐได้ ช่วยลดระยะเวลารอคิวนาน และทำให้ผู้เข้าใช้บริการบริหารจัดการเวลาได้ง่ายขึ้น

2. EdTech : นวัตกรรมการศึกษาเพื่อลดความเหลื่อมล้ำ

EdTech
เทคโนโลยีเพื่อการศึกษา หรือ EdTech (Education Technology) คืออีกหนึ่งกลุ่ม Social Tech ที่เติบโตอย่างรวดเร็ว เข้ามามีบทบาทสำคัญในการลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา ช่วยให้ทุกคนสามารถเข้าถึงแหล่งความรู้ที่มีคุณภาพได้อย่างเท่าเทียม

ในปัจจุบัน EdTech ไม่ได้จำกัดอยู่แค่การเรียนการสอนในห้องเรียน แต่ยังรวมถึงการนำเทคโนโลยี AI มาใช้สร้างเส้นทางการเรียนรู้ที่เหมาะกับแต่ละบุคคล (Personalized Learning) และยังตอบโจทย์เทรนด์การเรียนรู้ตลอดชีวิต (Lifelong Learning) ของคนวัยทำงานที่ต้องการพัฒนาทักษะใหม่ ๆ (Upskill/Reskill) เพื่อให้ทันต่อโลกที่เปลี่ยนแปลงไปด้วย

ตัวอย่าง Social Tech Startup ในเทรนด์ EdTech
  • insKru : ชุมชนออนไลน์สำหรับครูทั่วประเทศ สามารถมาแบ่งปันไอเดียการสอนดี ๆ ได้ฟรี
  • StartDee : แพลตฟอร์มรวมบทเรียนออนไลน์ต่าง ๆ ในฉบับที่สนุก เข้าใจง่าย และเข้าถึงง่าย
  • SkillLane : แหล่งรวมคอร์สเรียนออนไลน์สำหรับคนวัยทำงานที่ต้องการเพิ่มทักษะต่าง ๆ ที่จำเป็นกับอาชีพโดยเฉพาะ
  • Duolingo : แอปพลิเคชันเรียนภาษาที่ทำให้การเรียนรู้เป็นเรื่องสนุกเหมือนการเล่นเกม สามารถเข้าถึงได้จากทุกที่ทุกเวลา

3. AgriTech : เทคโนโลยีการเกษตรเพื่อเกษตรกรไทยยุคใหม่

AgriTech
AgriTech หรือเทคโนโลยีการเกษตร ถือเป็นความหวังครั้งสำคัญของเกษตรกรไทย ซึ่งเป็นดั่งกระดูกสันหลังของชาติ การเติบโตของตลาดนี้ได้รับแรงขับเคลื่อนจากความจำเป็นในการสร้างความมั่นคงทางอาหาร (Food Security) และการรับมือกับผลกระทบจากสภาวะโลกร้อน

เทรนด์ที่โดดเด่นคือ “เกษตรแม่นยำ” (Precision Agriculture) ที่ใช้ข้อมูลมาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต และโมเดล “การทำฟาร์มในรูปแบบบริการ” (Farming-as-a-Service) ที่ช่วยให้เกษตรกรรายย่อยเข้าถึงเทคโนโลยีสมัยใหม่ได้ง่ายขึ้น แต่ยังมีความท้าทายตรงที่ต้องทำให้เทคโนโลยีเหล่านี้มีราคาที่จับต้องได้ และใช้งานง่ายมากขึ้น เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้เกษตรกรกล้าปรับเปลี่ยนสู่วิถีเกษตรยุคใหม่

ตัวอย่าง Social Tech Startup ในเทรนด์ AgriTech
  • Ricult : ใช้ Big Data และภาพถ่ายดาวเทียมมาวิเคราะห์เพื่อสร้างคะแนนเครดิต (Credit Score) ให้เกษตรกรสามารถกู้เงินในระบบได้ง่ายขึ้น
  • HG Robotics : ใช้โดรนเพื่อเทคโนโลยีกับการเกษตรสมัยใหม่ โดยช่วยชาวไร่อ้อยสำรวจ และวางแผนการเก็บเกี่ยวเพื่อให้ได้ผลผลิต และราคาสูงสุด

เริ่มลงทุนใน Social Tech Startup ได้อย่างไร ?

สำหรับนักลงทุนที่สนใจอยากเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลง มีช่องทางที่หลากหลายตามระดับความเสี่ยงและขนาดเงินทุน ดังนี้

การลงทุนโดยตรง (Venture Capital และ Angel Investor)

เป็นช่องทางสำหรับนักลงทุนรายใหญ่ที่มีความเข้าใจในธุรกิจสตาร์ทอัพ สามารถลงทุนผ่านกองทุน Venture Capital (VC) ที่มีผู้จัดการกองทุนมืออาชีพดูแล เช่น Krungsri Finnovate หรือลงทุนในฐานะ Angel Investor ซึ่งเป็นการใช้เงินทุน และประสบการณ์ส่วนตัวเข้าไปช่วยสตาร์ทอัพในระยะเริ่มต้น

การระดมทุนแบบสาธารณะ (Equity Crowdfunding)

ช่องทางนี้เปิดโอกาสให้นักลงทุนรายย่อยสามารถร่วมลงทุนในสตาร์ทอัพได้ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ที่ได้รับอนุญาตจาก ก.ล.ต. เช่น Funding Societies หรือ Investree โดยนักลงทุนจะให้เงินทุนเพื่อแลกกับหุ้น หรือหุ้นกู้ของบริษัท ซึ่งมีกลไกคุ้มครองและจำกัดวงเงินลงทุนสำหรับนักลงทุนรายย่อย

กองทุนที่เน้นสร้างผลกระทบ (Impact Funds)

คือกองทุน VC ที่ตั้งขึ้นโดยมีเป้าหมายชัดเจนในการลงทุนเพื่อสร้างผลกระทบด้านสังคม และสิ่งแวดล้อม ควบคู่กับผลตอบแทนทางการเงิน เช่น กองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน (Thai ESG) หรือ Raisewell Ventures
กองทุนรวม กรุงศรี

FAQ : ถาม-ตอบข้อสงสัยเกี่ยวกับ Social Tech Startup กับ Plearn เพลิน

Plearn เพลินได้รวบรวมคำถามที่หลายคนสงสัยเกี่ยวกับ Social Tech Startup มาตอบให้หายข้องใจกัน

Social Tech Startup ต่างจากธุรกิจเพื่อสังคม (Social Enterprise) ทั่วไปอย่างไร ?

Social Tech Startup ใช้เทคโนโลยีเป็นหัวใจหลักในการสร้างโซลูชันที่สามารถขยายผล เพื่อแก้ปัญหาในวงกว้างได้อย่างรวดเร็ว ในขณะที่ Social Enterprise ทั่วไปอาจไม่ได้มีเทคโนโลยีเป็นแกนหลัก

การลงทุนใน Social Tech มีความเสี่ยงสูงกว่าสตาร์ทอัพทั่วไปหรือไม่ ?

มีความเสี่ยงเช่นเดียวกับการลงทุนในสตาร์ทอัพทั่วไป แต่บางครั้งอาจมีความท้าทายเฉพาะตัวเพิ่มเข้ามา เช่น การสร้างรายได้ในตลาดที่รัฐให้บริการฟรี หรือข้อจำกัดทางการเมือง

เราจะวัดผลกระทบทางสังคมของการลงทุนได้อย่างไร ?

สตาร์ทอัพที่ดีจะมีการกำหนดตัวชี้วัดผลกระทบ (Impact Metrics) ที่ชัดเจน นอกเหนือจากตัวเลขทางการเงิน เช่น จำนวนผู้ป่วยที่เข้าถึงบริการสุขภาพ จำนวนนักเรียนในพื้นที่ห่างไกลที่ได้ใช้แพลตฟอร์ม หรือปริมาณคาร์บอนที่ลดลงได้จากการใช้เทคโนโลยีการเกษตร

การลงทุนใน Social Tech Startup ไม่ใช่แค่เทรนด์ชั่วคราว แต่คือวิวัฒนาการที่สำคัญของโลกการลงทุน ที่เปลี่ยนจากการมองหา “ผลกำไร” เพียงมิติเดียว สู่การสร้าง “คุณค่า” ที่ครอบคลุมทั้งเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม เทรนด์ในกลุ่ม HealthTech, EdTech และ AgriTech ได้ชี้ให้เห็นถึงโอกาสการลงทุนในธุรกิจที่สามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืน เพราะกำลังแก้ปัญหาที่จำเป็นต่อผู้คน สำหรับนักลงทุนที่มองการณ์ไกล นี่คือโอกาสครั้งสำคัญที่จะได้เป็นเจ้าของธุรกิจที่ไม่เพียงสร้างผลตอบแทนทางการเงิน แต่ยังได้ร่วมสร้างโลกที่ดีกว่าสำหรับคนรุ่นต่อไปด้วย

ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน
 
ขอบคุณข้อมูลจาก: -
พิมพ์สิ่งที่ต้องการค้นหา