Negative Income Tax ปี 2570 ระบบภาษีใหม่ที่คนไทยต้องเข้าใจ

Posted On 10 พฤศจิกายน 2568
By Krungsri The COACH
เตรียมพร้อมรับมือการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของระบบภาษีไทยในปี 2570 กับ “Negative Income Tax” หรือ “ภาษีเงินได้ติดลบ” ระบบภาษีรูปแบบใหม่ที่กำหนดให้คนไทยทุกคนต้องยื่นภาษี ไม่ว่ารายได้จะถึงเกณฑ์หรือไม่ก็ตาม การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้อาจสร้างทั้งความกังวลและความสับสนว่าใครได้ ใครเสีย และจะกระทบกับชีวิตประจำวันอย่างไร
Krungsri The COACH พร้อมอยู่เคียงข้างคุณในทุกก้าวสำคัญทางการเงิน เราจึงอยากพาคุณมาทำความเข้าใจแนวคิดภาษีรูปแบบใหม่นี้อย่างตรงไปตรงมา เพื่อให้คุณเตรียมตัวและปรับแผนการเงินได้ทันก่อนกฎหมายมีผลบังคับใช้จริง
Negative Income Tax คืออะไร ?
Negative Income Tax คือ แนวคิดด้านภาษีและสวัสดิการที่ช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย โดยพิจารณารายได้ผ่านระบบการยื่นภาษีที่ครอบคลุมประชาชนทุกคน โดยหากพบว่าผู้ใดมีรายได้ต่ำกว่าเกณฑ์ หรืออยู่ในกลุ่มเปราะบาง รัฐก็จะมอบเงินสวัสดิการเยียวยาให้ กลายเป็น “ภาษีติดลบ” แต่ถ้ารายได้สูงกว่าเกณฑ์ก็ยังต้องเสียภาษีตามปกติ
แนวคิดนี้จะช่วยให้ประชาชนที่เดือดร้อน และต้องการการเยียวยาจากภาครัฐเข้าถึงการช่วยเหลือได้อย่างแม่นยำ โดยเฉพาะแรงงานนอกระบบที่ไม่ได้อยู่ในระบบการคุ้มครองของรัฐ
แนวคิดนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่ถูกเสนอขึ้นครั้งแรกโดย Milton Friedman นักเศรษฐศาสตร์ชาวอเมริกัน และได้ถูกนำไปปรับใช้จริงในหลายประเทศทั่วโลกภายใต้ชื่อเรียกที่แตกต่างกัน เช่น ระบบ Earned Income Tax Credit (EITC) ในสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร และแคนาดา ซึ่งล้วนพิสูจน์แล้วว่า สามารถใช้กลไกทางภาษีเพื่อช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ตารางเปรียบเทียบ : ระบบภาษีเดิม VS Negative Income Tax
เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนขึ้น เราได้สรุปความแตกต่างที่สำคัญระหว่างระบบภาษีที่คุ้นเคยกับระบบใหม่ที่กำลังจะเกิดขึ้น ดังนี้
Negative Income Tax จะถูกนำมาใช้งานในไทยเมื่อไร ?
จากข้อมูลของกระทรวงการคลัง ได้มีการตั้งเป้าหมายเริ่มใช้ระบบ Negative Income Tax ในไทยภายใน ปี พ.ศ. 2570 โดยในปัจจุบันยังอยู่ในขั้นตอนพัฒนา และเชื่อมโยงฐานข้อมูลขนาดใหญ่ (Data Lake) ของหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อให้มีข้อมูลรายได้ของประชาชนที่ครอบคลุม และแม่นยำที่สุด ก่อนจะเริ่มบังคับใช้จริง
ชี้ 3 กลุ่มที่ได้รับผลกระทบจาก Negative Income Tax
เมื่อทุกคนต้องเข้าสู่ระบบภาษีตามแนวทางใหม่นี้แล้ว ผลกระทบที่เกิดขึ้นจะแตกต่างกันไปตามระดับรายได้ ซึ่งสามารถแบ่งออกได้เป็น 3 กลุ่มหลัก ดังนี้
กลุ่มที่ 1 : ผู้มีรายได้สูงกว่าเกณฑ์ (เสียภาษีตามปกติ)
สำหรับกลุ่มคนที่เสียภาษีเป็นประจำอยู่แล้ว การเปลี่ยนแปลงนี้นับว่าส่งผลกระทบน้อยที่สุด เพราะยังคงมีหน้าที่ต้องยื่นภาษี และชำระภาษีตามอัตราเดิม แต่สิ่งที่อาจเปลี่ยนไปคือกระบวนการตรวจสอบที่เข้มข้นขึ้น ในทางกลับกัน ผู้ที่มีรายได้สูง แต่ไม่เคยยื่นภาษีมาก่อนจะถูกดึงเข้าสู่ระบบอย่างสมบูรณ์ และต้องเริ่มทำหน้าที่เสียภาษีอย่างถูกต้อง
ถ้าเสียภาษีอยู่แล้ว ต้องเสียภาษีเพิ่มไหม ?
“ไม่จำเป็นต้องเสียเพิ่ม” ระบบ Negative Income Tax ไม่ได้เป็นการปรับขึ้นอัตราภาษี แต่เป็นการขยายฐานข้อมูลผู้เสียภาษีให้ครอบคลุมมากขึ้น ดังนั้น ภาระภาษีของคุณจะยังคงคำนวณจากรายได้สุทธิตามหลักการ
คำนวณภาษีขั้นบันไดเช่นเดิม
กลุ่มที่ 2 : ผู้มีรายได้ต่ำกว่าเกณฑ์ (ได้รับสวัสดิการ)
กลุ่มนี้ถือเป็นผู้ที่จะได้รับประโยชน์โดยตรงจากระบบใหม่ โดยเฉพาะกลุ่มแรงงานนอกระบบที่มักจะตกหล่นจากสวัสดิการภาครัฐ เมื่อพวกเขาเข้าสู่ระบบ และยื่นภาษีเพื่อยืนยันรายได้ จะทำให้รัฐสามารถโอนเงินช่วยเหลือเข้าไปได้อย่างแม่นยำ ช่วยลดขั้นตอนการลงทะเบียนที่ซับซ้อน และทำให้การคัดกรองผู้มีสิทธิ์รับสวัสดิการมีประสิทธิภาพสูงสุด
รายได้น้อยไม่ถึงเกณฑ์ แต่ต้องยื่นภาษี จะต้องเสียภาษีไหม ?
“ไม่ต้องเสียภาษี” การยื่นภาษีสำหรับผู้มีรายได้น้อย เป็นเพียงกระบวนการยืนยันข้อมูลเพื่อให้รัฐทราบสถานะทางการเงินของคุณเท่านั้น หากรายได้สุทธิของคุณไม่เกิน 150,000 บาทต่อปี จะได้รับการยกเว้นภาษีตามกฎหมายปัจจุบัน และภายใต้ระบบใหม่ คุณอาจมีสิทธิ์ได้รับเงินช่วยเหลือจากรัฐเพิ่มเติมอีกด้วย
กลุ่มที่ 3 : ผู้มีรายได้ใกล้เคียงเกณฑ์ (กลุ่มเสี่ยง)
สำหรับกลุ่มผู้มีรายได้ใกล้เคียงเกณฑ์ที่ต้องเสียภาษี ถือเป็นกลุ่มที่ต้องจับตา และวางแผนการเงินอย่างรอบคอบมากที่สุด เพราะมีความเป็นไปได้ที่รายได้อาจขยับขึ้นจนเข้าข่ายต้องเริ่มเสียภาษี จากเดิมที่อาจเคยได้รับเงินช่วยเหลือ การปรับตัว และวางแผนทางการเงินล่วงหน้าจึงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับคนกลุ่มนี้
เงินเดือนเท่าไร ต้องเสียภาษี ?
ตามหลักเกณฑ์ปัจจุบัน ผู้ที่มีเงินได้สุทธิ (รายได้หลังหักค่าใช้จ่าย และค่าลดหย่อน) เกิน 150,000 บาทต่อปี จะต้องเริ่มเสียภาษีในอัตรา 5% ดังนั้น ผู้ที่มีรายได้ใกล้เคียงเกณฑ์นี้จึงควรวางแผนการเงิน และศึกษา
รายการลดหย่อนภาษีต่าง ๆ เพื่อใช้สิทธิ์อย่างเต็มที่
4 ขั้นตอนเตรียมความพร้อมรับ Negative Income Tax
เพื่อให้การปรับตัวเข้าสู่ระบบภาษีใหม่เป็นไปอย่างราบรื่น โดยเฉพาะสำหรับคนที่ไม่เคยยื่นภาษีมาก่อน การเตรียมตัวตั้งแต่เนิ่น ๆ จะช่วยลดความกังวลใจ และทำให้คุณพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงได้เป็นอย่างดี
1. รู้รายได้จริงของตัวเอง
ขั้นตอนแรกที่สำคัญที่สุดคือ การรวบรวม และบันทึกรายรับจากทุกช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นเงินเดือน ค่าจ้างงานฟรีแลนซ์ หรือรายได้จากการค้าขาย เพื่อให้คุณมีข้อมูลที่ถูกต้องสำหรับแจ้งต่อกรมสรรพากร
2. เข้าใจค่าใช้จ่าย และค่าลดหย่อน
รายได้ทั้งหมดไม่ใช่จำนวนเงินที่ต้องนำไปคำนวณภาษีทันที คุณสามารถหักค่าใช้จ่าย และค่าลดหย่อนต่าง ๆ ออกไปก่อนได้ ซึ่งจะช่วยให้คุณเสียภาษีน้อยลงได้อีก ยกตัวอย่างเช่น
- ค่าลดหย่อนส่วนตัว : 60,000 บาท
- ค่าลดหย่อนคู่สมรส (ที่ไม่มีเงินได้) : 60,000 บาท
- ค่าลดหย่อนบุตร : คนละ 30,000 - 60,000 บาท
- ค่าลดหย่อนบิดามารดา (ที่อายุเกิน 60 ปี) : คนละ 30,000 บาท
- ค่าลดหย่อนผู้พิการ หรือทุพพลภาพ : คนละ 60,000 บาท
- ค่าฝากครรภ์ และทำคลอด : จ่ายตามจริงไม่เกินท้องละ 60,000 บาท
- เงินสมทบกองทุนประกันสังคม : ตามที่จ่ายจริง สูงสุดไม่เกิน 9,000 บาท
- เบี้ยประกันชีวิต และประกันสะสมทรัพย์ : ตามที่จ่ายจริง สูงสุด 100,000 บาท
3. วางแผนการเงินระยะยาว
ภาษีคือภาระผูกพันประจำปี หากไม่วางแผนไว้ล่วงหน้า อาจเจอภาระก้อนใหญ่กระทบเงินเก็บหรือการลงทุน ดังนั้น ควรเริ่มวางแผนการเงิน เช่น การออม การลงทุน หรือการซื้อประกัน เพื่อสร้างความมั่นคง และยังสามารถใช้เป็นสิทธิประโยชน์ทางภาษีได้อีกด้วย
4. ติดตามข่าวสาร และเตรียมปรับตัวอยู่เสมอ
ระบบภาษี Negative Income Tax ยังอยู่ในช่วงของการพัฒนา ควรติดตามประกาศอย่างเป็นทางการจากกระทรวงการคลัง และกรมสรรพากรอย่างใกล้ชิด เพื่อทำความเข้าใจหลักเกณฑ์ และเตรียมเอกสารให้พร้อมสำหรับการยื่นภาษี
Negative Income Tax คือ การปฏิรูประบบภาษี และสวัสดิการครั้งสำคัญของไทย ที่จะเปลี่ยนให้การยื่นภาษีเป็นหน้าที่ของคนไทยทุกคนภายในปี 2570 โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างฐานข้อมูลรายได้ที่สมบูรณ์ และจัดสรรความช่วยเหลือไปยังผู้มีรายได้น้อยได้อย่างตรงจุด แม้ว่าการเปลี่ยนแปลงนี้อาจสร้างผลกระทบให้กับผู้ที่ไม่เคยอยู่ในระบบมาก่อน แต่ก็เป็นโอกาสที่ดีในการรับสวัสดิการที่เท่าเทียม และสร้างวินัยทางการเงินให้เกิดขึ้นในสังคม การทำความเข้าใจ และเตรียมตัวตั้งแต่วันนี้ จะช่วยให้คุณพร้อมรับมือ และใช้ประโยชน์จากระบบใหม่นี้ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
อ้างอิง