รู้จักตัวช่วยลดหย่อนภาษีให้ครบ ใช้สิทธิ์ให้คุ้มก่อนหมดเวลา
รอบรู้เรื่องภาษี

รู้จักตัวช่วยลดหย่อนภาษีให้ครบ ใช้สิทธิ์ให้คุ้มก่อนหมดเวลา

icon-access-time Posted On 09 ธันวาคม 2568
By Krungsri The COACH
ช่วงปลายปีแบบนี้ หลายคนเริ่มวางแผนภาษี โดยการมองหาสิทธิลดหย่อนภาษีที่ตัวเองมีอยู่ เพื่อใช้ให้ครบและคุ้มค่าที่สุดก่อนสิ้นปี ในบทความนี้ Krungsri The COACH ชวนมาดู 5 สิทธิลดหย่อนภาษีสำคัญ ที่ช่วยประหยัดภาษี และเพิ่มเงินเก็บในกระเป๋าได้จริง พร้อมเคล็ดลับวางแผนภาษีปี 2568 แบบง่าย ๆ และต่อยอดการลงทุนให้งอกเงย มาดูกันเลย !

รวม 5 สิทธิลดหย่อนภาษีที่มนุษย์เงินเดือนต้องรู้จัก

สิทธิลดหย่อนภาษี

เพื่อให้การวางแผนภาษีของคุณง่ายขึ้น เราได้จัดประเภทสิทธิลดหย่อนภาษียอดนิยมที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ และเป้าหมายทางการเงินที่แตกต่างกัน มาดูกันว่ามีอะไรบ้าง
 

ประเภทที่ 1 : กองทุนลดหย่อนภาษี (Thai ESG/Thai ESGX & RMF)

กองทุนลดหย่อนภาษี

สำหรับสายลงทุนที่ต้องการสร้างการเติบโตให้เงินออมไปพร้อม ๆ กับการประหยัดภาษี กองทุนรวมสองประเภทนี้คือตัวเลือกอันดับต้น ๆ ที่ไม่ควรมองข้าม
 
ประเภทกองทุน เงื่อนไข และวงเงินลดหย่อน
Thai ESG / Thai ESGX
  • Thai ESG : ลดหย่อนได้ตามที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 30% ของเงินได้ที่ต้องเสียภาษี และไม่เกิน 300,000 บาท (สำหรับปี 2567-2569)
  • Thai ESGX (ต้องซื้อในช่วง 2 พ.ค. - 30 มิ.ย. 2568 เท่านั้น) : ลดหย่อนได้ตามที่จ่ายจริง แต่ต้องไม่เกิน 30% ของเงินได้ที่ต้องเสียภาษี และไม่เกิน 300,000 บาท
  • กรณีสับเปลี่ยน LTF มาเป็น Thai ESGX (ต้องสับเปลี่ยนในช่วง 13 พ.ค. - 30 มิ.ย. 2568 เท่านั้น) : ลดหย่อนเพิ่มเติมได้ตามมูลค่ากองทุนที่สับเปลี่ยน แต่ไม่เกิน 500,000 บาท โดยแบ่งเป็น 2 ส่วน ได้แก่

    • ค่าลดหย่อนภาษีปี 2568 : ลดหย่อนได้ตามมูลค่าที่สับเปลี่ยน แต่ไม่เกิน 30% ของเงินได้ที่ต้องเสียภาษี และไม่เกิน 300,000 บาท
    • ค่าลดหย่อนปีภาษี 2569 - 2572 : ลดหย่อนได้ตามมูลค่าส่วนที่เกินจาก 300,000 บาทมา แต่ไม่เกิน 500,000 บาท โดยสิทธิลดหย่อนเท่า ๆ กัน ปีละไม่เกิน 50,000 บาท
  • กรณีที่ซื้อกองทุน Thai ESG และ Thai ESGX : สามารถใช้ค่าลดหย่อนภาษีร่วมกันได้สูงสุด 600,000 บาท เช่น ถ้ามีเงินได้ที่ต้องเสียภาษีตลอดทั้งปี 1,000,000 บาท แล้วซื้อกองทุน Thai ESG 300,000 บาท และ Thai ESGX 300,000 ก็สามารถลดหย่อนได้ 600,000 บาท เลย
กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF)
  • ลดหย่อนได้ 30% ของเงินได้พึงประเมิน แต่ไม่เกิน 500,000 บาท (เมื่อรวมกับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ, กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ และประกันบำนาญ) ต้องลงทุนต่อเนื่องถึงอายุ 55 ปีบริบูรณ์ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการวางแผนเกษียณ
สำหรับนักลงทุนที่อยาก “ต่อยอดเงินลงทุน” ควบคู่ไปพร้อมกับ “การลดหย่อนภาษี” กองทุนเปิดกรุงศรีเอ็นแฮนซ์เซ็ทไทยเพื่อความยั่งยืน (KFTHAIESG) ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ โดยจะมีจุดเด่นตรงที่เน้นการลงทุนในหุ้นของบริษัทชั้นนำของไทยที่มีความโดดเด่นด้าน ESG ซึ่งได้รับการคัดเลือกจากดัชนี SETESG ของตลาดหลักทรัพย์ฯ มาพร้อมกลยุทธ์การลงทุนเชิงรุกประมาณ 10% ของพอร์ต เพื่อเพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทนส่วนเพิ่มให้เหนือกว่าดัชนีอ้างอิง

นอกจากนี้ยังสามารถเลือกลงทุนได้ 2 รูปแบบ คือ
  • KFTHAIESGA (ชนิดสะสมมูลค่า) สำหรับผู้ที่ไม่ต้องการรับเงินปันผลระหว่างทาง
  • KFTHAIESGD (ชนิดจ่ายเงินปันผล) สำหรับผู้ที่ต้องการกระแสเงินสดจากเงินปันผล

ทำให้คุณสามารถเลือกลงทุนที่ให้ได้ผลตอบแทนในรูปแบบที่ตอบโจทย์ความต้องการได้มากที่สุดนั่นเอง
 
กองทุนลดหย่อนภาษี กรุงศรี

ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยง และศึกษาสิทธิประโยชน์ทางภาษีในคู่มือการลงทุนก่อนตัดสินใจลงทุน

กองทุน Thai ESG เป็นกองทุนที่ส่งเสริมการออมระยะยาว และสนับสนุนการลงทุนเพื่อความยั่งยืนของประเทศไทย ผู้ลงทุนจะไม่ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี หากไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขการลงทุน

หมายเหตุ: ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ในฐานะตัวแทนจำหน่ายหน่วยลงทุนให้กับ บลจ. กรุงศรี เท่านั้น

 

ประเภทที่ 2 : ประกันชีวิตและสุขภาพ

ประกันชีวิตและสุขภาพ

สำหรับชาวออฟฟิศที่มักพบเจอปัญหาสุขภาพ การทำประกันไม่ได้เป็นเพียงการสร้างเกราะป้องกันความเสี่ยงในชีวิต แต่เบี้ยประกันยังเป็นหนึ่งในเครื่องมือลดหย่อนภาษีที่มีประสิทธิภาพ และช่วยสร้างวินัยทางการออมได้เป็นอย่างดี
 
ประเภทเบี้ยประกัน เงื่อนไข และวงเงินลดหย่อน
เบี้ยประกันชีวิต
  • ลดหย่อนได้ตามที่จ่ายจริงสูงสุดไม่เกิน 100,000 บาท (กรมธรรม์คุ้มครอง 10 ปีขึ้นไป) เหมาะกับเสาหลักของครอบครัว เพื่อสร้างหลักประกันให้คนข้างหลัง
เบี้ยประกันสุขภาพ
  • ลดหย่อนได้ตามที่จ่ายจริงสูงสุดไม่เกิน 25,000 บาท และเมื่อรวมกับเบี้ยประกันชีวิตแล้วต้องไม่เกิน 100,000 บาท
เบี้ยประกันบำนาญ
  • ลดหย่อนได้ 15% ของเงินได้ แต่ไม่เกิน 200,000 บาท (เมื่อรวมกับ RMF, กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ, กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ ต้องไม่เกิน 500,000 บาท) เหมาะสำหรับสร้างความมั่นคงวัยเกษียณ
หากคุณมองหาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ทั้งการออมเงินระยะสั้น และสิทธิลดหย่อนภาษี ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ กรุงศรี สุดคุ้ม 11/5 (มีเงินปันผล) คือคำตอบที่ใช่ ด้วยแนวคิด “คุ้ม สั้น ไว” แค่ชำระเบี้ยประกันเพียง 5 ปี แต่ได้รับความคุ้มครองยาวนานถึง 11 ปี ที่สำคัญคือสมัครง่าย ไม่ต้องตรวจ และไม่ต้องตอบคำถามสุขภาพ* พร้อมรับเงินคืนตั้งแต่สิ้นปีแรก และรับเงินก้อนใหญ่เมื่อครบกำหนดสัญญา ช่วยให้การวางแผนการเงินของคุณง่าย และคล่องตัวยิ่งขึ้น
 
ประกันสะสมทรัพย์ กรุงศรี

*การรับประกันภัยเป็นไปตามเงื่อนไขการพิจารณารับประกันภัยของบริษัท
 

ประเภทที่ 3 : ดอกเบี้ยเงินกู้ที่อยู่อาศัย

ดอกเบี้ยเงินกู้ที่อยู่อาศัย

สำหรับคนที่มีภาระผ่อนบ้าน หรือคอนโด อย่าลืมว่าดอกเบี้ยที่เราจ่ายไปในแต่ละปี สามารถนำมาใช้เป็นสิทธิลดหย่อนภาษีได้เช่นกัน
 
ตัวช่วยลดหย่อนภาษี รายละเอียด
ดอกเบี้ยเงินกู้เพื่อที่อยู่อาศัย
  • วงเงินลดหย่อน : สามารถนำดอกเบี้ยเงินกู้เพื่อซื้อหรือสร้างที่อยู่อาศัยมาลดหย่อนได้ตามจำนวนที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 100,000 บาท
  • เงื่อนไขสำคัญ : หากกู้ร่วม สิทธิลดหย่อน 100,000 บาทจะถูกหารเฉลี่ยตามจำนวนผู้กู้ร่วม
สำหรับลูกค้าสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยกับธนาคารกรุงศรีอยุธยา เพื่อให้ไม่พลาดสิทธิประโยชน์ทางภาษีจากดอกเบี้ยสินเชื่อบ้าน อย่าลืม “แจ้งความประสงค์ขอใช้สิทธิยกเว้นภาษีเงินได้ตามกฎหมายว่าด้วยภาษีอากร” เนื่องจากตามหลักเกณฑ์ของกรมสรรพากรสำหรับสัญญากู้ยืมตั้งแต่ปี 2564 เป็นต้นมา ผู้กู้จะต้องแจ้งความประสงค์ต่อธนาคาร เพื่อให้ธนาคารนำส่งข้อมูลดอกเบี้ยเงินกู้ยืมให้แก่กรมสรรพากร ซึ่งเป็นขั้นตอนสำคัญในการใช้สิทธิลดหย่อนภาษีให้ถูกต้อง และครบถ้วน
 

ประเภทที่ 4 : ประกันสังคม / กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ

ประกันสังคม

เป็นสิทธิลดหย่อนภาษีพื้นฐานที่หลายคนอาจมองข้ามไป เพราะเป็นการหักจ่ายจากเงินเดือนโดยอัตโนมัติในทุก ๆ เดือน อย่าลืมนำยอดเงินสมทบกองทุนประกันสังคม (สูงสุด 9,000 บาทต่อปี) และเงินสะสมกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (PVD) ที่เราจ่ายไปตลอดทั้งปีมารวมเป็นค่าลดหย่อนด้วย โดยสามารถตรวจสอบยอดรวมได้ง่าย ๆ จากหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย (ใบ 50 ทวิ) ที่ได้รับจากบริษัท

สำหรับผู้ที่วางแผนจะเปลี่ยนงานหรือลาออกจากงาน และยังไม่ต้องการนำเงินก้อนในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพออกมาใช้ ก็สามารถบริหารจัดการกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ เพื่อให้เงินลงทุนเติบโตต่อเนื่องได้หลายวิธี เช่น
  • การคงเงินไว้ในกองทุนเดิม : ในกรณีที่พอใจกับนโยบายการลงทุนอยู่แล้ว (อาจมีค่าธรรมเนียมรักษาสมาชิกรายปี)
  • โอนย้ายไปยังกองทุนของที่ทำงานใหม่ : ในกรณีที่ที่ทำงานใหม่มีกองทุนรองรับ สามารถโอนย้ายเงินไปได้เลย เพื่อให้ง่ายต่อการบริหารจัดการ และนับอายุสมาชิกต่อเนื่อง
  • โอนย้ายไปยังกองทุน RMF for PVD : เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ยืดหยุ่น ช่วยให้คุณมีอิสระในการเลือกนโยบายลงทุนที่หลากหลายตามความต้องการ
 

ประเภทที่ 5 : ค่าลดหย่อนครอบครัว

ค่าลดหย่อนครอบครัว

นอกเหนือจากการออม การลงทุน และการทำประกันแล้ว การดูแลครอบครัวก็สามารถนำมาใช้ลดหย่อนภาษีได้เช่นกัน
 
รายการลดหย่อน วงเงินลดหย่อน
คู่สมรส (ไม่มีเงินได้) 60,000 บาท
บุตร คนละ 30,000 บาท (บุตรคนที่ 2 เป็นต้นไปที่เกิดตั้งแต่ปี 2561 ลดหย่อนได้ 60,000 บาท)
อุปการะบิดามารดา คนละ 30,000 บาท (อายุ 60 ปีขึ้นไป และมีรายได้ไม่เกิน 30,000 บาท/ปี)
การวางแผนลดหย่อนภาษีไม่ใช่เรื่องที่ต้องทำตอนสิ้นปีเสมอไป แต่เป็นการวางแผนการเงินที่ควรทำตลอดทั้งปี การเริ่มต้นศึกษา และเลือกใช้สิทธิลดหย่อนต่าง ๆ ให้เหมาะสมกับเป้าหมายของตัวเอง ไม่เพียงจะช่วยให้คุณประหยัดภาษีได้มากขึ้น แต่ยังเป็นการสร้างความมั่นคงทางการเงินในระยะยาว ทั้งในด้านการออม การลงทุน และการสร้างหลักประกันให้ชีวิตอีกด้วย ลองสำรวจ และเลือกตัวช่วยที่ใช่ เพื่อให้เงินของคุณทำงานได้อย่างคุ้มค่าที่สุด

อ้างอิง
pym logo
พิมพ์สิ่งที่ต้องการค้นหา