ข้อควรรู้! คู่รัก LGBTQ สร้างบ้านในฝัน ต้องเตรียมอะไรบ้าง?
รอบรู้เรื่องบ้าน
icon-Facebook icon-Twitter icon-line

ข้อควรรู้! คู่รัก LGBTQ สร้างบ้านในฝัน ต้องเตรียมอะไรบ้าง?

icon-access-time Posted On 10 กรกฎาคม 2566
By Krungsri The COACH
การมีบ้านสักหลังเป็นสิ่งที่ใครหลาย ๆ ต้องการ เช่นเดียวกันกับคู่รัก LGBTQ ที่มีความฝันอยากใช้ชีวิตร่วมกันไปนาน ๆ แน่นอนว่าการได้มีบ้านสักหลังในการอยู่ร่วมกันนี้ ก็เป็นอีกหนึ่งความสุขที่ไม่สามารถหาที่ไหนได้อีกแล้ว แล้วคู่รัก LGBTQ ถ้าอยากซื้อบ้านจะทำร่วมกันได้ไหม? แล้วจะมีเอกสารอะไรที่ต้องเตรียม? หรือสินเชื่อบ้านใหม่แบบไหน? ที่น่าสนใจกันบ้าง วันนี้เราจะสานฝันคู่เพื่อน LGBTQ ไปสู่บ้านที่จะสร้างครอบครัวด้วยกัน
 
คู่รัก LGBTQ อยู่ในบ้านในฝัน

การเลือกซื้อบ้านนั้นหากเราไม่ได้ซื้อเป็นเงินสด ก็จะต้องเลือกสินเชื่อบ้านใหม่ที่มีความคุ้มค่าและมีคุณภาพเหมาะกับการอยู่อาศัยในระยะยาว และในช่วงของเดือน Pride Month นี้ เราจึงอยากมาบอกต่อเรื่องของการซื้อบ้านของคู่รัก LGBTQ สักหน่อยว่าการที่คุณจะทำการซื้อบ้านร่วมกันนั้นมีอะไรที่ควรรู้ และต้องศึกษาเพิ่มเติมบ้าง

รู้จักวิธีการกู้ร่วม ช่วยกันสองคน ผ่อนหมดไว ๆ

สำหรับการกู้ร่วม ก็คือการขอสินเชื่อมากกว่าหนึ่งคนพร้อม ๆ กัน โดยผู้ที่ทำการกู้ร่วมควรเป็นคนที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกัน เช่น คนในครอบครัว พ่อ แม่ พี่ น้อง หรือสามี ภรรยา โดยการกู้ร่วมนั้นสามารถทำได้ตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป ซึ่งประโยชน์ของการกู้ร่วมนี้จะทำให้เกิดการเพิ่มรายได้ต่อหัวเมื่อนำรายได้ของแต่ละคนมารวมกันก็จะช่วยให้สามารถเข้าถึงยอดของสินเชื่อที่มากขึ้นได้ตามไปด้วยนั่นเอง
 
เตรียมตัวขอสินเชื่อบ้านใหม่

เลือกสินเชื่อบ้านใหม่อย่างไร? ให้เหมาะกับคู่เพื่อน

นอกจากการเลือกสินเชื่อบ้านสำหรับคู่รัก LGBTQ แล้ว ก็ยังมีสินเชื่อสำหรับคู่เพื่อนที่ต้องการใช้ชีวิต หรือซื้อบ้านใหม่อยู่ร่วมกัน รวมไปถึงอสังหาริมทรัพย์ในการทำธุรกิจ ซึ่งในปัจจุบันธนาคารที่มีสินเชื่อนี้อยู่นั้นก็คือ ธนาคารกรุงศรีอยุธยานั่นเอง แล้วจะมีวิธีการเลือกสินเชื่อบ้านใหม่สำหรับคู่เพื่อนให้ถูกใจ และคุ้มค่าอย่างไรกันบ้าง? มาดูกัน


1. เลือกสินเชื่อบ้านให้ถูกประเภท

สำหรับการซื้อบ้านที่คุณต้องการจะเลือกสินเชื่อบ้านใหม่กับคู่เพื่อนนั้น ก่อนอื่นจะต้องดูก่อนว่าทางธนาคารมีสินเชื่อบ้านแบบไหนบ้างที่เหมาะกับกลุ่ม LGBTQ ซึ่งในตอนนี้ก็มีอย่างเช่น สินเชื่อคู่เพื่อนจากธนาคารกรุงศรี ที่คุณสามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้เลย หากว่าเราเลือกสินเชื่อได้ถูกประเภท จะยิ่งเพิ่มโอกาสในการยื่นขอสินเชื่อสำหรับการเลือกซื้อบ้านใหม่ผ่านได้ง่ายขึ้น โอกาสมีบ้านในฝันเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งสเต็ป


2. โปรโมชั่นดอกเบี้ย ให้โดนใจ

เรื่องของดอกเบี้ยบ้านก็มีส่วนในการช่วยตัดสินใจการเลือกสินเชื่อบ้านใหม่ด้วยเหมือนกัน เราควรพิจารณาโปรโมชั่นดอกเบี้ยจากสถาบันการเงินต่าง ๆ เพื่อนำมาเปรียบเทียบให้ตรงกับความต้องการเราให้มากที่สุด ยกตัวอย่างเช่น สินเชื่อบ้านคู่เพื่อนของธนาคารกรุงศรีอยุธยาจะมีอัตราดอกเบี้ยในอัตราพิเศษ เพื่อสานฝันให้คู่เพื่อน LGBTQ สามารถมีบ้านในฝันได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม


3. ดูยอดเงินที่จ่ายไหวต่อเดือน

ในส่วนของยอดเงินที่ต้องจ่ายต่องวดนั้น ก็จะมีการพิจรณาในเรื่องของเงินเดือนของเรา และคู่เพื่อน LGBTQ ที่ร่วมกู้ร่วมกัน ซึ่งผู้กู้หลักต้องมีรายได้ 30,000 บาทต่อเดือนขึ้นไป และเมื่อรวมรายได้ของผู้กู้ร่วมแล้วต้องไม่น้อยกว่า 50,000 บาทต่อเดือน โดยหากต้องการจ่ายค่างวดแต่ละเดือนในราคาที่ถูกลงนั้นก็จะมีหลักการคล้าย ๆ กับการซื้อรถยนต์โดยการวางดาวน์นั่นเอง ซึ่งการทำแบบนี้จะยิ่งช่วยเพิ่มโอกาสขอสินเชื่อผ่านได้ง่ายขึ้น

ซึ่งหลังจากการเลือกสินเชื่อบ้านใหม่ ยื่นเอกสารครบถ้วน ก็ยังมีธุระอีกมากมายที่ยังต้องจัดการอยู่อีกเล็กน้อย ดังนั้นเราจึงได้นำเอาเรื่องควรรู้หลังการเลือกสินเชื่อบ้านใหม่ของคู่เพื่อน LGBTQ มาฝากกันว่าจะมีเรื่องอะไรบ้าง? รวมไปถึงเคล็ดลับในการบริหารเงินเพื่อการผ่อนบ้านที่ไม่มีสะดุด และทำให้สามารถใช้ชีวิตร่วมกันได้อย่างมีความสุข ทำตามนี้ได้เลย

โอนกรรมสิทธิ์บ้าน หรือการทำสัญญากู้ซื้อบ้าน

ขั้นตอนนี้จะเกิดขึ้นหลังจากที่ทางธนาคารที่เราขอสินเชื่อได้ทำการอนุมัติการกู้ซื้อบ้านใหม่ของเราแล้ว โดยจะต้องทำสัญญาภายใน 30-45 วัน ซึ่งการทำสัญญานี้สามารถที่จะทำนอกธนาคาร หรือทำที่โครงการบ้านที่เราได้เลือกเอาไว้ได้เลย และเมื่อเราเซ็นต์เอกสารยินยอมทุกอย่างแล้ว เราก็จะมีสถานะเป็นลูกหนี้ของธนาคารทันที และจะต้องทำการผ่อนชำระค่างวดบ้านตามที่ได้ตกลงกันไว้ตามสัญญา จนเมื่อผ่อนชำระครบแล้วสินทรัพย์ทั้งหมดก็จะตกเป็นของผู้ซื้อนั่นเอง
 
คู่รัก LGBTQ ได้ใช้เวลาร่วมกัน

ซึ่งการทำสัญญากู้บ้าน และจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ สามารถทำพร้อมในวันเดียวกันได้เลย โดยเราสามารถไปพร้อมกับคู่เพื่อนของเรา ไปเจอตัวแทนโครงการหมู่บ้าน และเจ้าหน้าที่ธนาคารที่เราขอกู้สินเชื่อบ้านใหม่ ที่สำนักงานที่ดิน และนัดทำสัญญาให้เสร็จ และเริ่มขั้นตอนการโอนกรรมสิทธิ์บ้านต่อที่สำนักงานที่ดินได้เลย แต่ถ้าเราไม่สะดวกที่จะไปด้วยตัวเอง ก็สามารถทำหนังสือมอบอำนาจให้แก่ผู้ที่เป็นเจ้าของโครงการบ้านที่เราได้เลือกซื้อไว้ไปทำแทนได้ และอย่าลืมเตรียมเงินค่าโอน ค่าอาการแสตมป์ และค่าจดจำนองเอาไว้ด้วย จะได้ไม่เสียเวลา เพราะขั้นตอนนี้จะใช้เวลาค่อนข้างนาน เตรียมเผื่อไว้ดีที่สุด

4 วิธีบริหารเงินผ่อนบ้านแบบไหนให้ เงินไม่มีคำว่าสะดุด


1. มีรายได้หลายช่องทาง ผ่อนไหวชัวร์

เรื่องของการเงินเป็นสิ่งสำคัญที่สุด เพราะเรื่องผ่อนบ้านเป็นภาระที่ใช้เวลายาวนานเป็นสิบ ๆ ปี และเราต้องใช้เงินจำนวนมากต่อเดือนในการผ่อนชำระ การมีรายได้ทางเดียวจากเงินเดือนอาจไม่พอแล้ว ตรงนี้อาจมองหาช่องทางการสร้างรายได้เสริมออนไลน์ ยกตัวอย่างเช่น เปิดร้านขายของบน TikTok Shop หรือการรับงานเสริม หลังเวลาเลิกงาน ถึงจะเหนื่อยหน่อยแต่เราจะมีเงินมาโปะบ้านให้หมดได้ไว ๆ และมีเหลือใช้ชีวิตได้สบายทุกเดือน


2. สร้างประวัติในเครดิตบูโรให้ดี

สำหรับข้อนี้คือเรื่องของการสร้างเครดิตทางการเงินให้ดี ซึ่งสามารถทำได้ง่าย ๆ ด้วยการเปิดใช้บัตรเครดิต หากเราชำระหนี้ในแต่ละเดือนอย่างสม่ำเสมอ ทางสถาบันการเงินจะมองว่าเรามีความสามารถในการชำระหนี้ได้ คะแนนเครดิตของเราจะมีคะแนนที่เป็นบวก เมื่อเราทำธุรกรรมการเงินเกี่ยวกับบ้าน จะยิ่งช่วยโอกาสในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้มากกว่าเดิม


3. เลือกโครงการบ้านในราคาที่เอื้อมถึง

การเลือกซื้อบ้านนอกจากความสวยแล้วก็ต้องดูในราคาที่เราเอื้อมถึงด้วย ตัวอย่างเรามีเงินเดือนอยู่ประมาณ 40,000 บาท ต้องการซื้อบ้านในราคา 2 ล้านบาท ก็จะต้องดูว่ามีค่าผ่อนเท่าไหร่ โดยหากมีเงินเดือนเท่านี้ก็จะต้องผ่อนประมาณ 16,000 บาท นั่นเอง หรือคิดค่าผ่อนเป็นสองเท่าของเงินเดือน คำนวณเงินตรงนี้ให้ดี เราจะได้มีเงินใช้จ่ายระหว่างเดือนแบบไม่ลำบาก และใช้ชีวิตในบ้านของเราอย่างมีความสุข


4. ออมเงิน 20% ของราคาบ้าน

สำหรับข้อนี้ก็คือการวางเงินดาวน์คล้าย ๆ กับการซื้อรถยนต์เลย โดยหากเราวางดาวน์ในราคาที่สูงก็จะช่วยลดอัตราดอกเบี้ยให้ถูกลง และยังลดภาระหนี้สินในแต่ละเดือนตามไปด้วย อย่างเช่น เราอยากจะซื้อบ้าน 3 ล้านบาท ก็ควรมีเงินเก็บประมาณ 20% หรือประมาณ 600,000 บาท ซึ่งเราก็จะนำเงินส่วนนี้ไปทำการวางดาวน์ก่อนที่จะทำการกู้ซื้อบ้านของเงินที่เหลือกับธนาคาร ซึ่งก็จะช่วยลดดอกเบี้ยได้ส่วนหนึ่งทำให้ได้ราคาผ่อนบ้านแต่ละเดือนที่คุ้มค่ากว่าไปในตัว

เพราะฉะนั้นหากคุณเองก็เป็นหนึ่งในคู่รัก LGBTQ ที่มีความฝันอยากมีร่วมกันสักหนึ่งหลังนั้น วันนี้มันจะไม่ใช่เพียงความฝันที่มันจับต้องไม่ได้อีกต่อไปแล้ว เลือกสินเชื่อบ้านให้เหมาะกับความต้องการของเรา รับรองว่าคุณทั้งคู่จะมีบ้านที่ใฝ่ฝันเป็นของตัวเองได้ไม่ยากอย่างแน่นอน
ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง
บทความที่เกี่ยวข้อง
พิมพ์สิ่งที่ต้องการค้นหา