แชร์ทริคกู้เงินสร้างบ้านในฝัน เตรียมตัวอย่างไรให้ผ่านฉลุย

Posted On 14 ตุลาคม 2568
By Krungsri The COACH
บ้าน คือ สถานที่ที่เราจะสามารถใช้เวลาได้อย่างมีความสุขกับครอบครัวของเรา แต่การสร้างบ้านในสมัยนี้มีค่าใช้จ่ายที่สูงมาก หลาย ๆ คนจึงเลือกที่จะกู้เงินสร้างบ้านแทนการใช้เงินสด โดยในบทความนี้ Krungsri The COACH จะมาแนะนำวิธีการเตรียมพร้อมในการกู้เงินสร้างบ้าน จะต้องทำอย่างไรเพื่อให้ธนาคารอนุมัติเงินกู้ได้แบบชิล ๆ พร้อมมีบ้านในฝันได้ดังใจ
การขอกู้เงินสร้างบ้านใหม่มีกี่รูปแบบ ?
เราสามารถแบ่งรูปแบบของการกู้เงินสร้างบ้านได้เป็น 2 กรณี ดังนี้
1. กู้เงินสร้างบ้านใหม่บนที่ดินของตัวเอง
ในกรณีแรกเราจะเป็นการกู้เงินปลูกบ้านในที่ดินตัวเอง ที่ต้องมีที่ดินเปล่าเพื่อใช้ในการ
ปลูกบ้าน โดยที่ดินนี้จะต้องมีการระบุว่าเราเป็นเจ้าของหรือเจ้าของร่วม หากเรามีที่ดินพร้อมก็สามารถขอกู้สร้างบ้านได้ และในกรณีนี้เราจะสามารถขอวงเงินได้เฉพาะค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการปลูกบ้านได้เท่านั้น ไม่รวมค่าถมที่ดิน
2. กู้เงินสร้างบ้านใหม่พร้อมซื้อที่ดิน
หากเราอยากกู้เงินปลูกบ้านแต่ไม่มีที่ดินเป็นของตัวเอง และต้องการกู้สร้างบ้านร่วมกับการซื้อที่ดินไปพร้อม ๆ กัน ก็สามารถขอเงินกู้กับทางธนาคารสำหรับสร้างบ้านและซื้อที่ดินพร้อมกันได้เช่นกัน ธนาคารก็จะอนุมัติวงเงินเพื่อให้เรานำไปใช้จ่ายในวัตถุประสงค์ทั้ง 2 เรื่องดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม หากเรามีที่ดินของครอบครัวที่พร้อมนำมาใช้ในการปลูกบ้าน แต่ไม่ได้เป็นชื่อของเราเอง เช่น เป็นที่ดินของพ่อแม่หรือเป็นที่ดินในกองมรดกของครอบครัว Krungsri The COACH ขอแนะนำให้โอนกรรมสิทธิ์ที่ดินเป็นของผู้ยื่นกู้ก่อน เพื่อให้ธนาคารได้มั่นใจว่าที่ดินนี้จะตกเป็นของผู้ยื่นกู้จริง ๆ และทำให้ธนาคารมั่นใจได้ว่าการขอกู้ธนาคารสร้างบ้านในครั้งนี้มีที่ดินเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน
เช็กลิสต์ เอกสารสำคัญที่ต้องเตรียมให้พร้อมก่อนกู้เงินสร้างบ้าน
หลังจากที่เราได้รู้ข้อมูลเบื้องต้นที่สำคัญแล้ว ขั้นตอนต่อไปที่ขาดไม่ได้เลยในวิธีกู้เงินสร้างบ้านก็คือการเตรียมเอกสารให้ครบถ้วน เพื่อให้การยื่นกู้เงินสร้างบ้านเป็นไปอย่างรวดเร็ว และราบรื่นที่สุด
1. เอกสารส่วนบุคคล
สามารถเช็กได้จากธนาคารที่ยื่นกู้ โดยหลัก ๆ แล้วจะเป็นเอกสารที่เกี่ยวข้องกับตัวเรา และคู่สมรส (ถ้ามี) เช่น
- สำเนาบัตรประชาชน และสำเนาทะเบียนบ้าน
- เอกสารของคู่สมรส(ถ้ามี) เช่น ทะเบียนสมรส สำเนาทะเบียนสมรส สำเนาบัตรประชาชน ใบเปลี่ยนชื่อ-สกุลและทะเบียนบ้านของคู่สมรส ในกรณีที่คู่สมรสเสียชีวิตไปแล้วก็ต้องเตรียมทะเบียนสมรสและใบมรณบัตรของคู่สมรสที่เสียชีวิตไปแล้ว หรือในกรณีที่มีการหย่าร้างอย่าลืมเตรียมทะเบียนหย่ามาด้วย
- เอกสารเพิ่มเติม เช่น สำเนาใบประกอบวิชาชีพที่ถือไม่น้อยกว่า 2 ปี และยังไม่หมดอายุ สำหรับกลุ่มอาชีพพิเศษ(ถ้ามี) ก็สามารถเตรียมไว้เพื่อยื่นกู้กับทางธนาคาร
2. เอกสารแสดงรายได้
ให้เตรียมเอกสารที่แสดงรายได้ของเรา เช่น
- กรณีมีรายได้ประจำ : ให้เตรียมหนังสือรับรองการทำงาน หรือสลิปเงินเดือน (ฉบับล่าสุด และเตรียมสลิปเงินเดือนย้อนหลัง 12 เดือนในกรณีมีรายได้เป็น commission), สำเนาบัญชีธนาคารย้อนหลัง 6 เดือน (ย้อนหลัง 12 เดือนในกรณีมีรายได้เป็น commission), เอกสารทางภาษี เช่น แบบภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา (50 ทวิ และ ภงด.90/91) พร้อมใบเสร็จการชำระภาษีย้อนหลัง 2 ปี
- กรณีที่ประกอบธุรกิจส่วนตัว : ให้เตรียมสำเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียนหรือใบทะเบียนการค้า ไม่เกิน 3 เดือน หนังสือบริคณห์สนธิ (หนังสือแสดงความประสงค์ขอจัดตั้งบริษัท) และบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีชื่อผู้กู้ ไม่เกิน 3 เดือน สำเนาบัญชีธนาคารย้อนหลัง 6 เดือน (ทั้งในนามบุคคลและกิจการ) และเอกสารที่เกี่ยวข้องกับภาษี
3. เอกสารที่เกี่ยวกับที่ดินและหลักประกัน
ให้เตรียมสำเนาโฉนดที่ดินขนาดเท่าตัวจริง สัญญาจะซื้อจะขายที่ดิน ใบอนุญาตปลูกสร้างหรือหนังสือแสดงกรรมสิทธิ์สิ่งปลูกสร้าง และแผนที่ตั้งหลักประกัน
4. เอกสารอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการสร้างบ้าน
- แบบแปลนบ้าน/แบบพิมพ์เขียวที่ได้รับอนุญาตจากทางราชการ
- ใบแสดงรายการวัสดุและค่าใช้จ่ายในการสร้างบ้าน (BOQ)
- สัญญาจ้างรับเหมาก่อสร้าง โดยว่าจ้างผู้รับเหมาที่ไม่มีประวัติทิ้งงาน
- ใบอนุญาตสิ่งก่อสร้าง เพื่อให้เราสามารถดำเนินการสร้างบ้านได้อย่างถูกกฎหมาย
เอกสารที่กล่าวนั้นเป็นเอกสารเบื้องต้นที่จะต้องจัดเตรียมเพื่อใช้ในการ
กู้เงินสร้างบ้าน ทางผู้กู้สามารถสอบถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับเอกสารได้กับทางธนาคารหรือทางเว็บไซต์ของธนาคารที่ต้องการยื่นกู้
ค่าใช้จ่ายที่ควรเตรียมนอกเหนือจากค่าสร้างบ้าน
หลายคนมักเข้าใจว่าค่าสร้างบ้านคือค่าใช้จ่ายก้อนเดียวที่ระบุในสัญญาผู้รับเหมา แต่ในความเป็นจริงยังมีค่าใช้จ่ายแฝงอื่น ๆ ที่เราต้องเตรียมเงินสดสำรองไว้ส่วนหนึ่ง เพราะธนาคารมักจะจ่ายเงินกู้งวดแรกหลังจากที่การก่อสร้างเริ่มไปแล้ว ยกตัวอย่างเช่น
- ค่าจ้างจัดทำแบบแปลนบ้านและ BOQ : โดยทั่วไปจะคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ของงบก่อสร้างทั้งหมด เริ่มต้นที่ประมาณ 2-5%
- ค่าธรรมเนียมขออนุญาตก่อสร้าง : ขึ้นอยู่กับข้อกำหนดของแต่ละท้องที่ ควรเตรียมไว้ประมาณ 5,000 - 10,000 บาท
- ค่ามัดจำผู้รับเหมา และค่าก่อสร้างงวดแรก : เป็นเงินก้อนแรกที่ต้องจ่ายเพื่อให้ผู้รับเหมาเริ่มงาน เช่น งานลงเสาเข็ม เทพื้น ซึ่งอาจอยู่ที่ 5-10% ของมูลค่างานทั้งหมด
- ค่าธรรมเนียมธนาคาร : เช่น ค่าสำรวจ และประเมินหลักประกัน ค่าอากรแสตมป์ ซึ่งแต่ละธนาคารอาจมีโปรโมชันยกเว้นให้
- ค่าประกันอัคคีภัย : เป็นประกันภาคบังคับที่ต้องทำเมื่อขอสินเชื่อบ้าน
เพื่อให้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายเหล่านี้ แนะนำให้เตรียมเงินก้อนแรกไว้ประมาณ 10-20% ของงบก่อสร้างทั้งหมด ก็จะดีที่สุด
อ่านก่อนกู้ เทคนิคเลือกธนาคารกู้เงินสร้างบ้านในฝันให้คุ้มค่าที่สุด
เมื่อเตรียมความพร้อมด้านเอกสาร และค่าใช้จ่ายเบื้องต้นแล้ว หัวใจสำคัญต่อมาคือการเลือกธนาคารที่จะมาเป็นพาร์ทเนอร์ทางการเงินกับเราในการกู้เงินทำบ้านครั้งนี้ ซึ่งมีเทคนิคการพิจารณาที่ไม่ควรมองข้ามเพื่อให้ได้ข้อเสนอที่ดีที่สุด ดังนี้
1. อัตราดอกเบี้ยบ้าน
ให้ดูว่าธนาคารไหนที่คิดดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรกให้เราได้ต่ำที่สุด เพื่อให้เราสามารถผ่อนบ้านได้อย่างประหยัดที่สุดและมีภาระทางการเงินน้อยที่สุด ตัวอย่างเช่น ดอกเบี้ย
สินเชื่อบ้านกรุงศรีเพื่อปลูกสร้างบ้านที่มีดอกเบี้ยคงที่ 1 ปีแรก 2.00% และอัตราดอกเบี้ยลดต้นลดดอกตลอดอายุสัญญาอยู่ระหว่าง 4.260%-4.779% ต่อปี* สามารถผ่อนได้สบาย ๆ ด้วยระยะเวลาผ่อนสูงสุด 30 ปี และมีส่วนลดอัตราดอกเบี้ยปีแรก 0.25% สำหรับลูกค้าที่มีบัญชีรับเงินเดือนกรุงศรี หรือเมื่อซื้อประกันชีวิตตามเงื่อนไขที่กำหนด
2. ค่าใช้จ่ายต่าง ๆ
ลองเปรียบเทียบดูว่าแต่ละธนาคารมีการเก็บค่าธรรมเนียมอะไรบ้าง เช่น ค่าธรรมเนียมการยื่นกู้ ค่าสำรวจและประเมินหลักประกัน เป็นต้น และตรวจสอบว่าธนาคารไหนมีโปรโมชันอย่างไร
3. วงเงินที่ได้รับ
ดูว่าแต่ละธนาคารให้วงเงินกู้เท่าใด เพียงพอกับการซื้อบ้านหรือไม่ หรือเป็นวงเงินที่สามารถขอได้ทั้งค่าสร้างบ้านและค่าตกแต่ง แผนการผ่อนชำระเงินเป็นอย่างไร โดยพิจารณาวงเงินที่ได้รับที่เหมาะสมกับเรามากที่สุด
4. เงื่อนไขการรีไฟแนนซ์
โดยปกติแล้วเมื่อเราผ่อนไประยะหนึ่งเราจะสามารถทำเรื่องขอรีไฟแนนซ์ได้ ดังนั้นเราจึงต้องตรวจสอบก่อนว่าเงื่อนไขของธนาคารเป็นอย่างไร เพื่อให้สามารถตัดสินใจทำรีไฟแนนซ์ได้ง่ายในอนาคต
เคล็ดลับยื่นกู้สร้างบ้านให้อนุมัติง่ายขึ้น ไม่ว่าใครก็ทำได้
การอนุมัติสินเชื่อสร้างบ้านไม่ได้ขึ้นอยู่กับเอกสารเพียงอย่างเดียว แต่ยังรวมถึงความน่าเชื่อถือ และความพร้อมของผู้กู้ด้วย เคล็ดลับสำคัญคือ การสร้างวินัยทางการเงินที่ดี ก่อนยื่นกู้ประมาณ 6-12 เดือน พยายามปิดหนี้บัตรเครดิตหรือสินเชื่อส่วนบุคคลที่ไม่จำเป็น เพื่อลดภาระหนี้และสร้างประวัติเครดิตที่ดี
นอกจากนี้ การมีเงินออมสำรอง อย่างน้อย 10-20% ของงบก่อสร้าง จะเป็นเครื่องยืนยันให้ธนาคารเห็นว่าเรามีความพร้อมทางการเงิน และสามารถรับมือกับค่าใช้จ่ายที่ไม่คาดคิดได้
ข้อควรระวังคือ การเลือกผู้รับเหมา ควรเลือกบริษัทที่น่าเชื่อถือ มีสัญญาว่าจ้างที่ชัดเจน และแบ่งจ่ายเงินเป็นงวดตามความคืบหน้าของงาน เพื่อป้องกันปัญหาผู้รับเหมาทิ้งงาน ซึ่งอาจกระทบต่อการเบิกเงินกู้งวดถัดไปจากธนาคารได้
สรุป 6 ขั้นตอนการกู้เงินสร้างบ้าน Step by Step ฉบับเข้าใจง่าย
เพื่อให้เห็นภาพรวมทั้งหมด และไม่พลาดขั้นตอนสำคัญ Krungsri The COACH ได้สรุปกระบวนการกู้เงินสร้างบ้านมาเป็น 6 ขั้นตอนง่าย ๆ ที่สามารถทำตามได้เลย
- ประเมินความพร้อม และวางแผนการเงิน : สำรวจรายรับ-รายจ่ายของตัวเอง เพื่อประเมินความสามารถในการผ่อน และวงเงินที่น่าจะกู้ได้
- เตรียมที่ดิน และเลือกแบบบ้าน : จัดการเรื่องกรรมสิทธิ์ที่ดินให้เรียบร้อย และเลือกแบบบ้านที่ต้องการพร้อมให้สถาปนิกจัดทำแบบแปลน และ BOQ
- หาผู้รับเหมา และทำสัญญา : เปรียบเทียบผู้รับเหมาอย่างน้อย 2-3 ราย เลือกเจ้าที่ไว้ใจได้ และทำสัญญาว่าจ้างที่ระบุรายละเอียดงานและงวดการจ่ายเงินชัดเจน
- ขอใบอนุญาตก่อสร้าง : นำแบบแปลนไปยื่นขออนุญาตกับสำนักงานเขตหรือเทศบาลในพื้นที่ให้ถูกต้องตามกฎหมาย
- เลือกธนาคาร และยื่นเอกสาร : เปรียบเทียบข้อเสนอสินเชื่อจากธนาคารต่าง ๆ และยื่นเอกสารที่เตรียมไว้ทั้งหมด
- รออนุมัติ และทำสัญญา : เมื่อธนาคารอนุมัติวงเงิน ให้เข้าไปทำสัญญาเงินกู้ และสัญญาจดจำนองที่ดิน จากนั้นธนาคารจะเริ่มจ่ายเงินให้ผู้รับเหมาเป็นงวดตามสัญญา
Krungsri The COACH แนะนำ : สานฝันให้เป็นจริง ด้วยสินเชื่อบ้านกรุงศรีเพื่อปลูกสร้างบ้าน
สำหรับใครที่เตรียมตัวมาถึงขั้นตอนนี้ และกำลังมองหาสินเชื่อที่ตอบโจทย์การสร้างบ้านในฝัน Krungsri The COACH ขอแนะนำ “สินเชื่อบ้านกรุงศรีเพื่อปลูกสร้างบ้าน” ที่ออกแบบมาเพื่อสานฝันของคนอยากมีบ้านโดยเฉพาะ ให้คุณสร้างสรรค์บ้านได้ตรงใจ พร้อมเงื่อนไขที่เข้าใจง่าย และยืดหยุ่น
- วงเงินกู้สูงสุด 100% : ของราคาค่าจ้างปลูกสร้างบ้าน ช่วยลดภาระเงินก้อนแรก
- ผ่อนสบาย ๆ ได้นานสูงสุด 30 ปี : ทำให้ยอดผ่อนต่อเดือนไม่สูงเกินไป
- มอบส่วนลดอัตราดอกเบี้ยปีแรก : 0.25% สำหรับลูกค้าบัญชีเงินเดือนกรุงศรี หรือเมื่อซื้อประกันชีวิตตามเงื่อนไข
- ตอบโจทย์หลากหลาย : ไม่ว่าจะสร้างบ้านใหม่บนที่ดินตัวเอง หรือกู้ซื้อที่ดินพร้อมสร้างบ้าน ก็สามารถยื่นขอสินเชื่อได้
กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว l อัตราดอกเบี้ยลดต้นลดดอกตลอดอายุสัญญาระหว่าง 4.260% - 4.779% ต่อปี****
*สำหรับวงเงินกู้ตั้งแต่ 3 ลบ.ขึ้นไป
**เฉพาะปีที่ 1 เมื่อซื้อประกัน MRTA/MLTA ตามเงื่อนไขที่กำหนด หรือ ใช้บัญชีเงินเดือนผ่านธนาคารกรุงศรีอยุธยา
***วงเงินกู้สูงสุด 100% ของค่าจ้างปลูกสร้าง กรณีขอสินเชื่อเพื่อปลูกสร้างบ้านบนที่ดิน หรือ วงเงินกู้รวมสูงสุด 90% ของราคาประเมินที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง กรณีขอสินเชื่อเพื่อปลูกสร้างบ้าน พร้อมสินเชื่อกรุงศรีโฮมฟอร์แคชบนที่ดิน
*****สมมติฐานการคำนวณมาจากอัตราดอกเบี้ย MRR ณ วันที่ 18 ส.ค. 68 = 6.870% ต่อปี ทั้งนี้อัตราดอกเบี้ยลอยตัวสามารถเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้นหรือลดลงได้ รายละเอียดดอกเบี้ยและการคำนวณเพิ่มเติมดูได้ใน Fact sheet
การวางแผนสร้างบ้านอาจมีรายละเอียดหลายขั้นตอน แต่ก็ไม่ใช่เรื่องยากเกินความสามารถ การเตรียมตัวให้พร้อมตั้งแต่เนิ่น ๆ ทั้งเรื่องการเงิน เอกสาร และการเลือกพาร์ทเนอร์ทางการเงินที่ดี จะช่วยให้การสร้างบ้านในฝันของคุณเป็นจริงได้อย่างราบรื่น และมีความสุข เพราะบ้านไม่ได้เป็นเพียงแค่ที่อยู่อาศัย แต่เป็นพื้นที่แห่งความทรงจำ และความมั่นคงของครอบครัว การลงทุนวางแผนอย่างรอบคอบตั้งแต่วันนี้ จึงเป็นการสร้างรากฐานที่แข็งแกร่งให้กับอนาคต และทำให้ทุกช่วงเวลาในบ้านหลังใหม่ของคุณเต็มไปด้วยรอยยิ้มอย่างแท้จริง