เจาะลึกสินเชื่อวิชาชีพเฉพาะ พร้อมโซนหมู่บ้านทำเลทองน่าลงทุน
รอบรู้เรื่องบ้าน
icon-Facebook icon-Twitter icon-line

เจาะลึกสินเชื่อวิชาชีพเฉพาะ พร้อมโซนหมู่บ้านทำเลทองน่าลงทุน

icon-access-time Posted On 30 พฤษภาคม 2568
By Krungsri The COACH
บ้านสวยทำเลทอง ไม่ใช่แค่ความฝันอีกต่อไป เพราะปัจจุบันนี้สถาบันการเงินได้เปิดโอกาสสำหรับผู้ประกอบวิชาชีพเฉพาะ ด้วยสินเชื่อพิเศษที่เข้าใจความต้องการบ้านหรูของคุณ วันนี้ Krungsri The COACH จะชวนคุณเจาะลึกสินเชื่อบ้านสำหรับวิชาชีพเฉพาะ และข้อดีของการมีบ้านหรูในทำเลยอดฮิต ซึ่งไม่เพียงแต่ตอบโจทย์ชีวิตที่สะดวกสบาย แต่ยังเป็นสินทรัพย์ที่มีโอกาสเติบโตสูง และสร้างผลตอบแทนได้ดีในท้องตลาด พร้อมเปิดลิสต์อาชีพมั่นคงที่สามารถคว้าโอกาสนี้ เพื่อวางแผนสู่การเป็นเจ้าของบ้านหรูในฝัน ที่คุ้มค่าทั้งการอยู่อาศัย และการลงทุน

ทำความรู้จักกับวิชาชีพเฉพาะ

วิชาชีพเฉพาะ เป็นกลุ่มอาชีพที่มีลักษณะพิเศษ ซึ่งต้องอาศัยความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน ต้องผ่านการศึกษา และการฝึกอบรมในระดับสูง รวมถึงต้องได้รับการรับรองจากองค์กรวิชาชีพที่ได้รับการยอมรับตามกฎหมาย ผู้ประกอบวิชาชีพเหล่านี้มักดำเนินงานภายใต้จรรยาบรรณวิชาชีพที่เข้มงวด และมีความรับผิดชอบสูงต่อสังคม ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อความปลอดภัย และคุณภาพชีวิตของประชาชน
 
วิชาชีพเฉพาะ

กลุ่มวิชาชีพเฉพาะที่เราพบเห็นได้ในชีวิตประจำวัน ได้แก่ แพทย์ ทันตแพทย์ พยาบาลวิชาชีพ เภสัชกร สัตวแพทย์ นักกฎหมาย (ทนายความ ผู้พิพากษา อัยการ) วิศวกร สถาปนิก นักบัญชี และนักบินพาณิชย์ เป็นต้น ซึ่งทั้งหมดนี้มักมีจุดเด่นตรงที่เป็นอาชีพที่มีรายได้มั่นคง มีเส้นทางอาชีพชัดเจน และมีโอกาสเติบโตในแวดวงการทำงาน จึงเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้สถาบันการเงินพิจารณามอบสิทธิพิเศษในการขอสินเชื่อบ้านให้กับกลุ่มอาชีพพิเศษ เหล่านี้

สินเชื่อบ้านสำหรับอาชีพพิเศษคืออะไร?

สินเชื่ออาชีพพิเศษ คือ บริการทางการเงินพิเศษที่สถาบันการเงินออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ประกอบวิชาชีพเฉพาะโดยเฉพาะ มีเงื่อนไขและสิทธิประโยชน์ที่เหนือกว่าสินเชื่อบ้านทั่วไป เนื่องจากผู้ที่อยู่ในกลุ่มอาชีพพิเศษเหล่านี้มักมีรายได้สูงและมั่นคง มีแนวโน้มการเติบโตในอนาคตที่ดี จึงถือว่ามีศักยภาพในการผ่อนชำระที่ดี และมีความเสี่ยงในการผิดนัดชำระหนี้ต่ำกว่าลูกค้าทั่วไป

สินเชื่อประเภทนี้เปรียบเสมือนกุญแจสำคัญที่จะไขประตูสู่ที่อยู่อาศัยคุณภาพเยี่ยมในทำเลเลิศ แม้จะเป็นบ้านหรือคอนโดราคาสูง ด้วยเงื่อนไขพิเศษที่ธนาคารมอบให้ อาทิ วงเงินกู้สูงถึง 100% ของราคาประเมิน อัตราดอกเบี้ยพิเศษต่ำกว่าลูกค้าทั่วไป นอกจากนี้ หลายธนาคารยังมีที่ปรึกษาทางการเงินคอยให้คำแนะนำเป็นพิเศษสำหรับกลุ่มวิชาชีพเฉพาะ เพื่อช่วยวางแผนทางการเงิน และการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์อย่างมีประสิทธิภาพและคุ้มค่าที่สุด

3 ข้อดีของการขอสินเชื่อบ้านสำหรับวิชาชีพเฉพาะ

สินเชื่อวิชาชีพเฉพาะมีข้อได้เปรียบเหนือสินเชื่อบ้านทั่วไปหลายประการ ทำให้กลุ่มวิชาชีพเฉพาะมีโอกาสเป็นเจ้าของบ้านได้เร็วขึ้น ภายใต้เงื่อนไขที่ดีกว่า ซึ่งเป็นการเปิดโอกาสให้คุณได้บ้านคุณภาพดี ทำเลดี ในราคาที่จับต้องได้ ลองมาดูข้อดีสำคัญ ๆ ของการขอสินเชื่อบ้านประเภทนี้กัน
 

1. ให้วงเงินสูง

หนึ่งในข้อได้เปรียบที่โดดเด่นของสินเชื่อบ้านสำหรับวิชาชีพเฉพาะ คือการให้วงเงินกู้ที่สูง โดยส่วนใหญ่ธนาคารจะให้วงเงินสูงถึง 100% ของราคาประเมิน ต่างจากสินเชื่อบ้านทั่วไปที่มักให้เพียง 80-90% เท่านั้น ความพิเศษนี้ช่วยให้คุณสามารถเป็นเจ้าของบ้านได้โดยไม่ต้องมีเงินดาวน์ หรือใช้เงินดาวน์น้อยกว่าปกติ

ไม่เพียงเท่านั้น หลายธนาคารยังมีเงื่อนไขพิเศษให้กู้เพิ่มอีก 10% ของวงเงินกู้ เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการตกแต่งบ้านหรือซื้อเฟอร์นิเจอร์ ทำให้คุณสามารถปรับแต่งบ้านให้ตรงใจได้ทันทีหลังได้รับกุญแจบ้าน โดยไม่ต้องรอสะสมเงินเพิ่ม จึงเป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับผู้ที่ต้องการความพร้อมในการเข้าอยู่
 

2. รับอัตราดอกเบี้ยสุดพิเศษ

จุดเด่นอีกประการของสินเชื่อบ้านสำหรับวิชาชีพเฉพาะ คืออัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่าสินเชื่อบ้านทั่วไป โดยธนาคารมักเสนออัตราดอกเบี้ยเริ่มต้นพิเศษในช่วงปีแรกที่ต่ำกว่าลูกค้าทั่วไป

นอกจากนี้ ในบางธนาคารยังมีช่วงโปรโมชันพิเศษที่อาจเสนออัตราดอกเบี้ยคงที่ต่ำพิเศษในช่วง 3-5 ปีแรก ซึ่งช่วยให้คุณบริหารค่าใช้จ่ายได้แน่นอนในช่วงเริ่มต้นของการผ่อนบ้าน และมีเวลาปรับตัวก่อนที่อัตราดอกเบี้ยจะเปลี่ยนเป็นลอยตัวในปีถัดไป
 

3. ผ่อนสบายได้นานสูงสุด 30 ปี

สินเชื่อบ้านสำหรับวิชาชีพเฉพาะยังมอบความยืดหยุ่นด้านระยะเวลาการผ่อนชำระที่ยาวนานกว่า โดยหลายธนาคารให้ระยะเวลาผ่อนสูงสุดถึง 30 ปี การมีระยะเวลาผ่อนนานขึ้นช่วยลดภาระค่างวดต่อเดือนให้น้อยลง ทำให้สามารถซื้อบ้านที่มีราคาสูงได้ง่ายขึ้น

ตัวอย่างเช่น สินเชื่อ 10 ล้านบาท ดอกเบี้ย 3.99% ถ้าผ่อน 20 ปี จะมีค่างวดประมาณ 60,500 บาทต่อเดือน แต่ถ้าขยายเป็น 30 ปี ค่างวดจะลดลงเหลือประมาณ 47,700 บาทต่อเดือน ทำให้ประหยัดเงินได้ถึง 12,800 บาทต่อเดือน ซึ่งเงินส่วนนี้สามารถนำไปวางแผนการเงินในด้านอื่นได้ เช่น การลงทุน การท่องเที่ยว หรือการศึกษาของบุตร

ราคาอสังหาริมทรัพย์ในย่านพระราม 9 แตกต่างกันไปตามประเภท และตำแหน่งที่ตั้ง คอนโดมิเนียมระดับหรูมีราคาประมาณ 150,000 บาทต่อตารางเมตร ขึ้นไป ในขณะที่บ้านแนวราบมีราคาต่อตารางเมตรประมาณ 65,000-90,000 บาท (คิดจากขนาดที่ดิน) หรือสูงถึง 150,000 บาทต่อตารางเมตร (คิดจากพื้นที่ใช้สอย) สำหรับโครงการระดับบน บ้านหรูในย่านนี้มีราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 30 ล้านบาทไปจนถึง 100 ล้านบาท ขึ้นอยู่กับขนาด และคุณภาพของโครงการ

เปิดพิกัด 4 โซนสุดฮอต แหล่งบ้านหรู ทำเลทอง น่าลงทุน

โซนหมู่บ้านทำเลทอง

การเลือกทำเลที่ตั้งของบ้านนับเป็นปัจจัยสำคัญที่สุดในการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ เพราะทำเลดีไม่เพียงแต่ให้ความสะดวกสบายในการอยู่อาศัย แต่ยังรับประกันการเติบโตของมูลค่าทรัพย์สินในอนาคตอีกด้วย Krungsri The COACH ได้รวม 4 ทำเลทองยอดนิยมในกรุงเทพมหานคร โลเคชั่นในอนาคตที่เหมาะสำหรับการลงทุนในบ้านหรูมาฝาก
 

1. สุขุมวิท แหล่งบ้านหรูทำเลทองยอดนิยมตลอดกาล

สุขุมวิท

สุขุมวิทเป็นทำเลระดับพรีเมียมที่ได้รับความนิยมตลอดกาล ครอบคลุมพื้นที่สำคัญใจกลางเมือง ทั้งชิดลม เพลินจิต นานา อโศก ทองหล่อ และเอกมัย ซึ่งล้วนเป็นศูนย์กลางธุรกิจ และไลฟ์สไตล์ชั้นนำของกรุงเทพฯ ทำเลสุขุมวิทโดดเด่นด้วยการเข้าถึงที่สะดวกสบายผ่านรถไฟฟ้า BTS และเครือข่ายทางด่วนที่เชื่อมต่อกับทุกส่วนของเมือง รายล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกระดับเวิลด์คลาส ทั้งศูนย์การค้าหรู ร้านอาหารระดับมิชลิน โรงพยาบาลนานาชาติ และอาคารสำนักงานชั้นนำ

สุขุมวิทมีประวัติการเติบโตของมูลค่าทรัพย์สินที่โดดเด่น และมีความต้องการเช่าสูงจากทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ ถือเป็นการลงทุนที่มั่นคงในระยะยาว อสังหาริมทรัพย์ส่วนใหญ่ในย่านนี้จะเป็นคอนโดมิเนียมระดับลักซ์ชัวรี่ เพนท์เฮาส์ หรือโครงการ Branded Residence โดยบ้านเดี่ยวมีจำนวนจำกัดมาก ส่วนใหญ่เป็นบ้านเก่าในซอยย่อย หรือโครงการใหม่ที่มีจำนวนยูนิตน้อย ราคาอสังหาริมทรัพย์ในทำเลนี้จึงสูงที่สุดในกรุงเทพฯ โดยคอนโดหรูมีราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 250,000 บาทต่อตารางเมตร และอาจสูงถึง 500,000 บาทต่อตารางเมตรสำหรับโครงการระดับซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่ ในขณะที่บ้านเดี่ยว หรือทาวน์โฮมในพื้นที่มีราคาประมาณ 70,000-90,000 บาทต่อตารางเมตร
 

2. กรุงเทพกรีฑา ชุมชนหรูแห่งใหม่ที่เติบโตอย่างรวดเร็ว

กรุงเทพกรีฑากำลังเป็นทำเลมาแรงในฝั่งตะวันออกของกรุงเทพฯ โดดเด่นด้วยการพัฒนาเป็นคอมมูนิตี้ขนาดใหญ่ที่มีการวางผังอย่างดี มีพื้นที่สีเขียวกว้างขวาง และสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ทำเลนี้ได้รับการยกระดับด้วยการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ ทั้งการตัดถนนใหม่ รถไฟฟ้าสายสีเหลือง (ลาดพร้าว-สำโรง) ที่เปิดให้บริการแล้ว และรถไฟฟ้าสายสีส้ม (ศูนย์วัฒนธรรมฯ-มีนบุรี) ที่กำลังก่อสร้าง รวมถึงการเชื่อมต่อกับ Airport Rail Link ที่ช่วยให้การเดินทางสะดวกรวดเร็ว
 
กรุงเทพกรีฑา

ปัจจัยสำคัญที่ทำให้กรุงเทพกรีฑากลายเป็นทำเลที่อยู่อาศัยยอดนิยม คือการเป็นที่ตั้งของโรงเรียนนานาชาติชื่อดังหลายแห่ง ซึ่งเป็นแม่เหล็กดึงดูดครอบครัวที่มีกำลังซื้อสูง ทำให้เกิดหมู่บ้านทำเลทองระดับลักซ์ชัวรี่จำนวนมาก อสังหาริมทรัพย์ส่วนใหญ่ในพื้นที่นี้เป็นบ้านเดี่ยวในโครงการจัดสรรระดับหรู มีราคาเริ่มต้นตั้งแต่ประมาณ 30 ล้านบาท ไปจนถึง 150 ล้านบาทหรือมากกว่า ขึ้นอยู่กับขนาด และคุณภาพของวัสดุ ราคาต่อตารางเมตรโดยเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 90,000-130,000 บาท (คิดจากพื้นที่ใช้สอย) หรือประมาณ 20,000-100,000 บาท (คิดจากขนาดที่ดิน)
 

3. บางนา ระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก แหล่งรวมไลฟ์สไตล์

บางนาเป็นพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจสำคัญทางทิศตะวันออกของกรุงเทพฯ ต่อเนื่องจากสุขุมวิท มีจุดเด่นด้านการคมนาคมที่สะดวกผ่านถนนบางนา-ตราด ทางด่วนบูรพาวิถี และความใกล้ชิดกับสนามบินสุวรรณภูมิ ทำให้เป็นทำเลที่ได้รับความสนใจจากนักลงทุน และผู้อยู่อาศัยที่ต้องการความสะดวกในการเดินทาง โดยเฉพาะผู้ที่ทำงานในนิคมอุตสาหกรรม หรือย่านธุรกิจฝั่งตะวันออก รวมถึงผู้ที่ต้องเดินทางผ่านสนามบินสุวรรณภูมิบ่อยครั้ง
 
บางนา

ทำเลบางนากำลังได้รับการพัฒนาด้วยเมกะโปรเจกต์สำคัญที่จะยกระดับมูลค่าอสังหาริมทรัพย์ในพื้นที่ เช่น Bangkok Mall ที่คาดว่าจะเป็นศูนย์การค้าที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยเมื่อแล้วเสร็จประมาณปี 2571 และ The Forestias โครงการมิกซ์ยูสมูลค่ากว่า 125,000 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังมีโครงสร้างพื้นฐานที่เพียบพร้อม ทั้งศูนย์การค้าขนาดใหญ่ โรงเรียนนานาชาติ และโรงพยาบาลชั้นนำ

อสังหาริมทรัพย์ในทำเลบางนามีความหลากหลาย แต่โดดเด่นด้วยบ้านเดี่ยวขนาดใหญ่ และวิลล่าระดับซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่ในโครงการแบบปิด ราคามีช่วงกว้างมาก โดยโครงการระดับไฮเอนด์เริ่มต้นที่ประมาณ 10 ล้านบาท แต่โครงการระดับบนมีราคาตั้งแต่ 40 ล้านบาทไปจนถึง 300 ล้านบาทหรือมากกว่า ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรสำหรับบ้านหรูในย่านนี้อยู่ที่ประมาณ 70,000-90,000 บาทต่อตารางเมตร (คิดจากพื้นที่ใช้สอย)
 

4. พระราม 9 ศูนย์กลางธุรกิจแห่งใหม่ (New CBD) ที่ทันสมัย

พระราม 9

พระราม 9 ได้รับการยอมรับว่า เป็นศูนย์กลางธุรกิจแห่งใหม่ (New CBD) ของกรุงเทพฯ ที่กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง เป็นพื้นที่ที่มีการผสมผสานระหว่างอาคารสำนักงาน ที่อยู่อาศัย และแหล่งบันเทิงอย่างลงตัว ครอบคลุมพื้นที่ถนนรัชดาภิเษก พระราม 9 และพื้นที่ต่อเนื่องไปยังโซนใกล้เคียง เช่น เหม่งจ๋าย โดยมีจุดเด่นด้านทำเลที่ตั้งเชิงกลยุทธ์ที่เชื่อมต่อระหว่าง CBD เดิม (สุขุมวิท/สาทร) กับพื้นที่เติบโตทางฝั่งตะวันออก อีกทั้งยังเดินทางสะดวกสบายด้วยรถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงิน, Airport Rail Link และทางด่วนหลายสาย

ราคาอสังหาริมทรัพย์ในย่านพระราม 9 แตกต่างกันไปตามประเภท และตำแหน่งที่ตั้ง คอนโดมิเนียมระดับหรูมีราคาประมาณ 150,000 บาทต่อตารางเมตร ขึ้นไป ในขณะที่บ้านแนวราบมีราคาต่อตารางเมตรประมาณ 65,000-90,000 บาท (คิดจากขนาดที่ดิน) หรือสูงถึง 150,000 บาทต่อตารางเมตร (คิดจากพื้นที่ใช้สอย) สำหรับโครงการระดับบน บ้านหรูในย่านนี้มีราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 30 ล้านบาทไปจนถึง 100 ล้านบาท ขึ้นอยู่กับขนาด และคุณภาพของโครงการ

Krungsri The COACH แนะนำ : ซื้อบ้านในฝันกับสินเชื่อบ้านกรุงศรีเพื่อซื้อที่อยู่อาศัย สำหรับกลุ่มอาชีพพิเศษ

สินเชื่อวิชาชีพเฉพาะ

สำหรับผู้ที่ประกอบวิชาชีพเฉพาะอย่างกลุ่มอาชีพแพทย์(แพทย์, สัตวแพทย์, ทันตแพทย์, เภสัชกร), ผู้พิพากษา และนักบินพาณิชย์ แล้วกำลังมองหาสินเชื่อบ้านเพื่อซื้อที่อยู่อาศัย หรือรีไฟแนนซ์บ้านเดิม Krungsri The COACH ขอแนะนำ สินเชื่อบ้านกรุงศรีเพื่อซื้อที่อยู่อาศัย สำหรับกลุ่มอาชีพพิเศษ ที่ออกแบบมาเพื่อ 3 วิชาชีพเฉพาะนี้ มาพร้อมกับโซลูชั่นทางการเงิน และสิทธิประโยชน์มากมายที่ตอบโจทย์ความต้องการของคุณ
  • อัตราดอกเบี้ยพิเศษ คงที่ปีแรก 1.99% ต่อปี*
  • วงเงินสูงสุดถึง 100% ของราคาประเมิน
  • ระยะเวลาผ่อนชำระนานสูงสุด 30 ปี
  • ช่วยให้คุณสามารถผ่อนบ้านได้อย่างสบายใจ และคุ้มค่า

นอกจากนี้ ยังมีสิทธิพิเศษอื่น ๆ อีกมากมาย เช่น การยกเว้นค่าธรรมเนียมการประเมินราคาหลักประกัน และบริการให้คำปรึกษาด้านการวางแผนการเงินจากผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้คุณสามารถบริหารจัดการการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว l อัตราดอกเบี้ยลดต้นลดดอกตลอดอายุสัญญาอยู่ระหว่าง 4.043% - 4.572% ต่อปี*
*สมมติฐานการคำนวณมาจากอัตราดอกเบี้ย MRR ณ วันที่ 16 มี.ค. 68 = 7.120 % ต่อปี ทั้งนี้อัตราดอกเบี้ยลอยตัวสามารถเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้นหรือลดลงได้ รายละเอียดดอกเบี้ยและการคำนวณเพิ่มเติมดูได้ใน www.krungsri.com
**ฟรี! ค่าประเมินหลักประกัน มูลค่า 3,210 บาท (วันที่ 1 พ.ค. 68 – 31 ส.ค. 68)
***ฟรีค่าจดจำนอง 1% ของวงเงินกู้อนุมัติ หรือสูงสุดไม่เกิน 200,000 บาท เฉพาะลูกค้าที่ซื้อ MRTA/MLTA ตามเงื่อนไขที่กำหนด และเลือกดอกเบี้ยทางเลือกฟรีค่าจดจำนองเท่านั้น
****เฉพาะปีที่ 1 เมื่อซื้อประกัน MRTA/MLTA ตามเงื่อนไขที่กำหนด หรือ ใช้บัญชีเงินเดือนผ่านธนาคารกรุงศรีอยุธยา


การตัดสินใจเลือกสินเชื่อบ้านที่เหมาะสมเป็นก้าวสำคัญในการสร้างความมั่นคงทางการเงินในระยะยาว สำหรับผู้ประกอบวิชาชีพเฉพาะ การเลือกใช้สินเชื่อบ้านที่ออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการเฉพาะกลุ่มจะช่วยให้คุณได้รับประโยชน์สูงสุด ทั้งในแง่ของอัตราดอกเบี้ย วงเงิน และระยะเวลาการผ่อนชำระ ดังนั้น หากคุณอยู่ในกลุ่มวิชาชีพเฉพาะ และกำลังมองหาบ้านหลังใหม่ อย่าลืมพิจารณาสินเชื่อวิชาชีพเฉพาะเป็นตัวเลือกแรก ๆ เพื่อให้ได้สิทธิประโยชน์สูงสุด และสามารถสานฝันการมีบ้านหรูในทำเลทองได้อย่างง่ายดาย และคุ้มค่า


อ้างอิง
ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง
บทความที่เกี่ยวข้อง
พิมพ์สิ่งที่ต้องการค้นหา