เมื่อคุณผ่อนบ้านมาได้สักระยะหนึ่งแล้ว อัตราดอกเบี้ยสินเชื่อตามสัญญากู้มักจะปรับเพิ่มขึ้น ทำให้ยอดเงินที่ชำระในแต่ละเดือนสามารถตัดเงินต้นได้เพียงน้อยนิด เพราะต้องไปจ่ายดอกเบี้ยที่เพิ่มมากขึ้นนั่นเอง ซึ่งเมื่อคำนวณอัตราดอกเบี้ยตลอดระยะเวลาผ่อนชำระ อัตราดอกเบี้ยอาจสูงกว่าเงินต้นถึง 2 - 3 เท่า ดังนั้นการ Refinance บ้าน จึงเป็นทางออกที่คนผ่อนบ้านแทบทุกคนเลือกใช้เพื่อลดภาระหนี้สิน นอกจากนี้ ประโยชน์ของการ Refinance บ้านยังมีอีกหลายข้อที่สามารถสรุปเป็นเหตุผล 5 ข้อ ว่าทำไมจึงควร Refinance บ้าน
1. เพื่อลดภาระดอกเบี้ย
เหตุผลหลักข้อแรกที่ทุกคนที่ต้องการ Refinance บ้านก็คือ เพื่อลดภาระดอกเบี้ยสินเชื่อ เพราะอย่างที่ทราบกันดีว่า ระยะเวลาที่ธนาคารคิดอัตราดอกเบี้ยต่ำๆ นั้น คือ ช่วง 1 - 3 ปีแรก และเมื่อช่วงเวลาโปรโมชั่นหมดลง ธนาคารจะปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นและมักจะคงที่ไปอีกหลายปี การเปลี่ยนเจ้าหนี้ไปยังที่ที่คิดอัตราดอกเบี้ยถูกกว่าจึงดูสมเหตุสมผลและประหยัดเงินได้
นอกจากนี้ ตามสัญญาผ่อนชำระหนี้สินเชื่อบ้านโดยทั่วไป จะมีเงื่อนไขว่าไม่สามารถ Refinance บ้านกับที่อื่นได้ภายในระยะเวลา 3 - 5 ปี ดังนั้น เวลาที่เราจะคิดอัตราดอกเบี้ยเพื่อคำนวณหาจำนวนที่ต้องจ่ายดอกเบี้ยจริงๆ จึงต้องคิดอัตราดอกเบี้ยแบบเฉลี่ย 3 ปี เช่น ธนาคาร A คิดดอกเบี้ยปีแรก 0.99% ปีที่ 2 4.5% และปีที่ 3 ขึ้นไป 7% ซึ่งค่าเฉลี่ย 3 ปีที่ได้คือ 4.16% และหลังจากปีที่ 3 เราก็ต้องจ่ายดอกเบี้ยถึง 7% ต่อปีไปตลอด ดังนั้น จึงควรหาธนาคารที่ให้โปรโมชั่นหรืออัตราดอกเบี้ยที่ถูกกว่าดอกเบี้ยปัจจุบัน
ตัวอย่าง การคิดคำนวณและเปรียบเทียบดอกเบี้ยที่ต้องชำระก่อนและหลัง Refinance บ้าน
ยอดกู้ตั้งต้น 1,500,000 บาท ระยะเวลากู้ 30 ปี ผ่อนมาแล้ว 3 ปี เหลือยอด 1,300,000 บาท
1) หากผ่อนต่อโดยไม่ Refinance อัตราดอกเบี้ย คือ 6.75% ต่อปีเหลือระยะเวลาผ่อนชำระ 27 ปี
ดอกเบี้ยที่ต้องชำระทั้งหมด = 1,300,000 บาท x 6.75% x 27 (ปี)
ดอกเบี้ยที่ต้องชำระทั้งหมด = 1,154,762 บาท
2) หาก Refinance ธนาคารอื่น โดยอัตราดอกเบี้ยโปรโมชั่นเฉลี่ย 3 ปี คือ 4.25% และหลังจากปีที่ 3 อัตราดอกเบี้ยคงที่ 6% ต่อปี
ดอกเบี้ยที่ต้องชำระ 3 ปีแรก = 1,300,000 บาท x 4.25% x 3 (ปี)
ดอกเบี้ยที่ต้องชำระทั้งหมด = 155,536 บาท
เหลือยอดเงินต้นหลังจากครบ 3 ปีแรก = 1,131,536 บาท
ดอกเบี้ยที่ต้องชำระหลังจากปีที่ 3 เป็นต้นไป จนครบอายุสัญญา = 1,131,536 บาท x 6% x 24 (ปี) = 655,931 บาท
รวมดอกเบี้ยตลอดสัญญา 811,467 บาท
เมื่อเปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ยระหว่างไม่ Refinance กับเมื่อ Refinance บ้าน จะประหยัดอัตราดอกเบี้ยได้ถึง 1,154,762 – 811,467 = 343,295 บาท
หมายเหตุ : การคำนวณข้างต้นเป็นตัวอย่างการคำนวณในเบื้องต้นเพื่อการเปรียบเทียบดอกเบี้ยเท่านั้น
2. เพื่อเพิ่มระยะเวลาผ่อนชำระหนี้และลดภาระหนี้ต่อเดือน
การ Refinance บ้าน คือ การเริ่มผ่อนสินเชื่อกับเจ้าหนี้หรือธนาคารแห่งใหม่ ซึ่งหมายความว่าเราจะเริ่มนับระยะเวลาในการผ่อนชำระใหม่เช่นกัน เช่น เราผ่อนสินเชื่อกับธนาคารเดิมมาแล้ว 5 ปี และต้องการ Refinance บ้าน เราก็สามารถตกลงขอผ่อนในระยะเวลา 20 - 30 ปี อีกรอบได้ (ขึ้นอยู่กับอายุของผู้กู้)
การได้
ระยะเวลาผ่อนชำระที่ยาวนานขึ้นจะช่วยให้ค่างวดผ่อนชำระต่อเดือนลดลงด้วย รวมทั้ง จำนวนเงินต้นลดลงจากการผ่อนชำระธนาคารเดิมประมาณหนึ่งแล้ว ค่างวดผ่อนจึงต่ำกว่าธนาคารเดิม ทำให้ในแต่ละเดือน คุณอาจมีเงินเหลือในกระเป๋าเพื่อใช้จ่ายมากขึ้นได้หลักพันบาท
เหตุผลในการ Refinance ข้อนี้เหมาะสำหรับคนที่ต้องผ่อนชำระสินเชื่ออื่นๆ เพิ่มจากเดิม หรือมีความจำเป็นที่จะต้องใช้จ่ายอื่นๆ มากขึ้น นอกจากนี้ เรายังสามารถนำเงินที่เหลือไปเก็บออมเพื่อความมั่นคงในระยะยาว และสามารถนำไปลงทุนต่อได้ เพราะต่อให้มีหนี้ เราก็ควรเก็บออมและแบ่งลงทุนเสมอ
3. เพื่อให้ได้เงินส่วนต่างจากวงเงินที่สูงขึ้น
อีกเหตุผลหนึ่งที่หลายคนนิยมใช้วิธี Refinance บ้านก็คือ เพื่อให้ได้เงินส่วนต่างจากวงเงินที่ได้มากขึ้น เพราะราคาของอสังหาริมทรัพย์โดยทั่วไปมักจะมีราคาสูงขึ้นทุกปี ซึ่งในระยะเวลา 3 - 5 ปี หากมีมูลค่าเพิ่มขึ้นถึง 1,000,000 บาท ได้ ทำให้ราคาประเมินของบ้านสูงขึ้น ธนาคารจึงสามารถให้วงเงินมากกว่าที่การขอสินเชื่อในครั้งแรกได้
นอกจากนี้ หากรายได้ของเรามากขึ้น ธนาคารก็จะประเมินว่าเรามีศักยภาพในการกู้มากขึ้น การ Refinance ช่วยให้คุณมีเงินส่วนต่างจากวงเงินกู้ เช่น เหลือยอดผ่อนเดิม 1,300,000 บาท แต่ได้วงเงินสินเชื่อใหม่ถึง 1,800,000 บาท เป็นต้น ทั้งนี้ จำนวนวงเงินที่อนุมัติขึ้นอยู่กับการพิจารณาของธนาคารตามแต่กรณี จึงไม่ควรคาดหวังกับเงินส่วนต่างจากการ Refinance มากนัก
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าการ Refinance จะคล้ายกับการกู้เงินเพิ่มโดยที่ได้อัตราดอกเบี้ยบ้านซึ่งต่ำกว่าสินเชื่อประเภทอื่น แต่การมีหนี้สินเพิ่มมากขึ้นก็ยังคงหมายถึงภาระหนี้สินที่หนักขึ้น
ประโยชน์จากส่วนต่างนั้น ถือเป็นเพียงผลพลอยได้ หากไม่จำเป็นจริงๆ ไม่แนะนำให้ Refinance บ้านเพราะเหตุผลนี้
4. เพื่อเพิ่มศักยภาพทางการเงินและการชำระหนี้
ด้วยข้อดีหรือเหตุผลข้อต่างๆ ข้างต้นที่กล่าวมาแล้ว จะช่วยให้เรามีสภาพคล่องทางการเงินมากขึ้นจากเงินคงเหลือในแต่ละเดือนที่มากขึ้น เราสามารถนำเงินที่เหลือไปบริหารให้งอกเงยได้ด้วยการนำเงินไป
ลงทุน เช่น นำเงินมาต่อเติมหรือปรับปรุงกิจการ
5. เพื่อปิดหนี้สินเชื่อบ้านให้เร็วยิ่งขึ้น
หลายคนอาจจะคิดว่าการ Refinance ที่มักจะขอระยะเวลาผ่อนชำระที่ยาวนานขึ้นนั้นหมายความว่าจะต้องชดใช้หนี้นานขึ้นจริงๆ แต่สำหรับเหตุผลในข้อนี้เป็นเหตุผลที่หลายคนไม่นึกถึง นั่นคือ การ Refinance บ้านช่วยให้สามารถปิดหนี้สินเชื่อบ้านได้เร็วยิ่งขึ้น
สาเหตุที่ทำให้สามารถปิดหนี้ได้เร็วยิ่งขั้นนั้น ก็มาจากเหตุผลข้อต่างๆ ที่ควร Refinance บ้านรวมกัน ทำให้อัตราดอกเบี้ยลดลง สามารถตัดเงินต้นได้มากขึ้น มีเงินเหลือเพื่อสร้างรายได้มากขึ้นและนำเงินที่ได้มา “โปะ” หรือขอตัดยอดเงินต้นโดยตรงได้ ซึ่งหากรู้จัก
วางแผนสินเชื่อและรู้
เทคนิคการ Refinance บ้านเป็นอย่างดี เราอาจปิดหนี้ได้เร็วขึ้น 3 - 5 ปี หรือมากกว่านั้นได้ ซึ่งก็หมายความว่าจะประหยัดดอกเบี้ยตลอดระยะเวลาผ่อนตามสัญญาลงได้
หากคุณกำลังผ่อนชำระสินเชื่อบ้านอยู่ และต้องประสบกับดอกเบี้ยที่ปรับตัวสูงขึ้นทุกปี การ Refinance บ้านคือทางที่จะช่วยให้คุณลดอัตราดอกเบี้ย ประหยัดเงินในกระเป๋า หรือแม้กระทั่งช่วยให้สามารถปิดภาระหนี้ได้เร็วขึ้น รวมทั้ง หากจัดสรรหรือบริหารเงินที่เหลือดีๆ ก็สามารถสร้างความมั่นคงยั่งยืนแม้จะมีหนี้สินอยู่ก็ตามได้ โดยเหตุผลที่ควร Refinance บ้านที่สรุปมาทั้ง 5 นี้ น่าจะทำให้คุณอยากจะเริ่มต้นวางแผนปลดภาระหนี้ของตัวเองลงได้ หากคุณกำลังต้องการวางแผนทางการเงิน กรุงศรีมีที่ปรึกษาทางการเงินพร้อมบริการให้คำปรึกษาเพื่อการเงินที่มั่นคง
บทความโดย
ปริตา ธิติปรีชาพล
กลุ่มบริการที่ปรึกษาทางการเงินส่วนบุคคล
ธนาคารกรุงศรีอยุธยา