ในปัจจุบัน คนส่วนใหญ่มักมีบัตรเครดิตติดตัวไว้หลายใบ หากวางแผนการใช้เงินเป็นระบบก็ถือเป็นตัวช่วยเพิ่มความสะดวกสบายโดยไม่ต้องพกเงินสด แถมยังได้สิทธิประโยชน์ต่าง ๆ มากมายจากบัตรอีกด้วย แต่สำหรับคนที่ใช้บัตรเครดิตโดยไม่ได้วางแผนอาจติดกับดัก Lifestyle Inflation ยิ่งรายได้เยอะ ก็ยิ่งใช้เงินเกินกำลัง ผ่านไปเรื่อย ๆ อาจส่งผลให้เกิดเป็นหนี้ก้อนใหญ่จนผ่อนไม่ไหว เมื่อเกิดเหตุการณ์เช่นนี้แล้ว "การรวมหนี้บัตรเครดิต" หรือการรวมหนี้เป็นก้อนเดียวอาจเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่สามารถช่วยปลดหนี้บัตรเครดิตให้คุณได้
รวมหนี้เป็นก้อนเดียว คืออะไร ?
การรวมหนี้เป็นก้อนเดียว คือ การขอสินเชื่อก้อนใหม่เพื่อนำไปชำระหนี้เก่าทั้งหมดที่เคยมีอยู่กระจัดกระจาย ทำให้เรามีภาระผ่อนชำระหนี้เหลือเพียงที่เดียว ค่างวดเดียว และมีกำหนดเวลาชำระที่ชัดเจน ซึ่งสถาบันการเงินที่ให้
บริการรวมยอดหนี้มักจะเสนออัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่า และเงื่อนไขที่ดีกว่าหนี้เดิมของเรา
รวมหนี้บัตรเครดิต คืออะไร ?
การรวมหนี้บัตรเครดิต คือ การที่เรานำหนี้บัตรเครดิตที่เรามีอยู่จากหลาย ๆ ที่ เอามารวมไว้ที่เดียวกัน โดยยื่นขอสินเชื่อกับสถาบันการเงินเดียวมาจ่ายหนี้ทั้งหมด ซึ่งวิธีนี้จะทำให้เรามีหนี้บัตรเครดิตเหลือแค่ที่เดียว หลังจากนั้นเราก็ค่อย ๆ ทยอยผ่อนเงินคืนเป็นรายงวด คืนเงินให้กับสถาบันการเงินนั้น ๆ เป็นทางออกหนึ่งของคนเป็นหนี้บัตรเครดิตเยอะ การรวมหนี้เป็นก้อนเดียวจึงเป็นตัวช่วยที่สำคัญให้เราปลดหนี้บัตรเครดิตได้ โดยไม่ต้องจ่ายขั้นต่ำไปเรื่อย ๆ แต่ไม่รู้ว่าจะหมดหนี้เมื่อไร
ข้อดีของการรวมหนี้เป็นก้อนเดียว
การรวมหนี้เป็นก้อนเดียวถือเป็นทางออกที่น่าสนใจสำหรับคนที่มีหนี้บัตรเครดิตหลายใบ เพราะมีข้อดีหลายด้านที่จะช่วยให้การบริหารจัดการหนี้ของคุณง่ายขึ้นมาก
1. รู้จำนวนหนี้ที่แท้จริง
การรู้จำนวนหนี้ที่แท้จริง ว่ามีจำนวนเท่าไร จะช่วยให้เราสามารถวางแผนในการจ่ายชำระในแต่ละเดือนได้อย่างรอบคอบ ทำให้เราไม่ลืมจ่ายหนี้บัตรเครดิต และไม่เกิดความสับสน
2. จ่ายดอกเบี้ยน้อยลง
การรวมหนี้มาไว้เป็นก้อนเดียว แล้วเลือกดูว่าสถาบันการเงินแห่งไหนให้ข้อเสนอดอกเบี้ยที่ดีที่สุด เราก็เลือกขอสินเชื่อรวมหนี้บัตรเครดิตของสถาบันการเงินนั้น จะช่วยเราลดการจ่ายดอกเบี้ยในอัตราที่สูงได้
3. ผ่อนชำระต่อเดือนลดลง
จํานวนเงินที่ต้องผ่อนชําระคืนต่อเดือนจะต่ำลงทำให้ภาระรายจ่ายต่อเดือนลดลงตามไปด้วย ซึ่งเป็น
การช่วยเพิ่มสภาพคล่องให้กับเราได้
ตัวอย่างเช่น นาย A มีรายได้ต่อเดือน 40,000 บาท มีหนี้บัตรเครดิต 3 ใบ จำนวน 20,000, 30,000 และ 40,000 บาท ตามลำดับ รวมยอดหนี้ คือ 90,000 บาท หากปกติ นาย A จ่ายหนี้ขั้นต่ำ 10% จะเท่ากับ 9,000 บาท ต่อเดือน
แต่หากนาย A
รวมหนี้เป็นก้อนเดียว ให้บัตรทุกใบรวมอยู่ที่เดียว โดยขอวงเงิน
สินเชื่อส่วนบุคคลแทน เป็นจำนวน 90,000 บาท จะทำให้นาย A ผ่อนชำระยอดหนี้เหลือเดือนละ 3,579 บาทเท่านั้น (คำนวณจากเงินต้น 90,000 บาท สมมติอัตราดอกเบี้ยเงินกู้อยู่ที่ 25% ต่อปี ระยะเวลาการผ่อน 3 ปี คำนวณดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอก)
4. รู้ระยะเวลาการผ่อนที่แน่นอน
ข้อดีที่สำคัญมากของการรวมหนี้เป็นก้อนเดียวคือ ทำให้เรามองเห็นเส้นชัยในการปลดหนี้ได้ชัดเจน แตกต่างจากการจ่ายขั้นต่ำบัตรเครดิตที่เหมือนการผ่อนไปเรื่อย ๆ แบบไม่มีกำหนด แต่สินเชื่อรวมหนี้จะมีการกำหนดระยะเวลาผ่อนชำระที่แน่นอน เช่น 36 เดือน หรือ 60 เดือน ทำให้เรา
หยุดจ่ายขั้นต่ำบัตรเครดิตได้สำเร็จ และวางแผนการเงินระยะยาวได้ง่ายขึ้น ซึ่งการมีเป้าหมายที่ชัดเจนถือเป็น
เทคนิคปลดหนี้ที่มีประสิทธิภาพมาก
5. ลดความสับสนในการชำระหนี้
การมีหนี้บัตรเครดิตหลายใบหมายถึงเราต้องจำวันครบกำหนดชำระหลายวัน ยอดชำระที่แตกต่างกัน และเงื่อนไขของแต่ละบัตรที่อาจไม่เหมือนกัน ทำให้เกิดความสับสน และเสี่ยงต่อการจ่ายล่าช้าหรือจ่ายผิดพลาดได้ง่าย
6. ลดความเสี่ยงในการเสียเครดิต
เมื่อลดความสับสนในการชำระหนี้ ก็ย่อมลดความเสี่ยงในการชำระล่าช้า หรือผิดนัดชำระ ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ประวัติข้อมูลเครดิตของเราเสียหาย
7. ช่วยเพิ่มสภาพคล่องทางการเงิน
ดังที่เห็นจากตัวอย่างของนาย A การรวมหนี้เป็นก้อนเดียวมักจะทำให้ยอดผ่อนต่อเดือนลดลงอย่างเห็นได้ชัด เงินส่วนต่างที่เหลือจากการผ่อนชำระนี้เองคือสภาพคล่องที่เพิ่มขึ้น เราสามารถนำเงินส่วนนี้ไปใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน จัดการค่าใช้จ่ายฉุกเฉิน หรือเก็บออมเพื่อเป้าหมายอื่น ๆ ได้อย่างสบายใจมากขึ้น ช่วยให้เรามีกำลังใจในการ
ปิดยอดหนี้บัตรเครดิตก้อนนี้ให้สำเร็จ
เช็กลิสต์ 4 สิ่งที่ควรทำก่อนรวมหนี้เป็นก้อนเดียว
ก่อนตัดสินใจรวมหนี้เป็นก้อนเดียว ควรมีการเตรียมตัว และวางแผนให้ดี เพื่อให้กระบวนการเป็นไปอย่างราบรื่น และได้รับประโยชน์สูงสุด
1. สรุปยอดหนี้บัตรเครดิตที่ต้องจ่ายทั้งหมด
เราต้องจดรายการหนี้บัตรเครดิตทั้งหมดที่เรามีอยู่ สรุปยอดว่ามีบัตรเครดิตทั้งหมดกี่ใบ แต่ละใบมียอดหนี้เท่าไร เพื่อประเมินเบื้องต้นว่าเราจะต้องขอสินเชื่อรวมหนี้จำนวนเท่าไร เช่น จากตัวอย่าง นาย A ข้างต้น มีหนี้บัตรเครดิตทั้งหมด 3 ใบ ยอดหนี้ จำนวน 20,000, 30,000 และ 40,000 บาท ตามลำดับ เท่ากับว่าต้องได้สินเชื่อรวมหนี้บัตรเครดิตอย่างน้อย 90,000 บาท เพื่อให้ครอบคลุมที่จะปิดหนี้บัตรเครดิตทั้งหมด
2. เตรียมเอกสารที่เกี่ยวข้องให้พร้อม
เอกสารที่ว่านี้คือ เอกสารหลักฐานแสดงรายได้ของเรา เพื่อที่ว่าสถาบันการเงินที่เรากำลังขอรวมหนี้บัตรเครดิต จะได้เอาไปประเมินความสามารถในการผ่อนชำระคืนแต่ละเดือน
3. คำนวณค่างวดการผ่อน
เราอาจจะประเมินรายได้ของเรา หักลบค่าใช้จ่ายทั้งหมดของเรา เพื่อประเมินดูตัวเองคร่าว ๆ ว่าต่อเดือน เราจ่ายไหวเท่าไร เช่น เรามีเงินเดือน 40,000 บาท หักค่าใช้จ่ายต่าง ๆ เหลือ 10,000 บาท เราสามารถนำเงินส่วนนี้ ไปทยอยชำระค่างวดได้แบบไม่มีปัญหา ถ้ายิ่งเหลือเยอะ เราก็ยิ่งปิดหนี้บัตรเครดิตได้ไว
ตัวอย่างข้างต้น นาย A มีเงินเดือน 40,000 บาท หลังหักค่าใช้จ่ายต่าง ๆ มีเงินเหลือ 10,000 บาท ต้องผ่อนชำระขั้นต่ำ หนี้บัตรเครดิตทุกใบ รวม 9,000 บาท (ยอดหนี้ 90,0000 บาท) หากรวมหนี้บัตรเครดิตทุกใบเป็นก้อนเดียว ทำให้การผ่อนชำระคืนลดลง เหลือ 3,579 บาท (ดอกเบี้ย 25% ระยะเวลา 36 เดือน คำนวณดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอก)
แต่หากนาย A เห็นว่าตัวเองมีเงินเหลือ 10,000 บาท ทุกเดือน และมีเป้าหมายอยากที่จะหมดหนี้บัตรเครดิตให้เร็วขึ้น อาจจะผ่อนชำระจากเดิม 36 เดือน เป็นเหลือ 12 เดือนก็ย่อมได้ (ผ่อนต่อเดือน 8,554 บาท)
ดังนั้น การรวมหนี้บัตรเครดิตหลายใบเป็นใบเดียว ทำให้นาย A เพิ่มทางเลือกให้ตัวเองได้มากขึ้น โดยเลือกได้ว่าต้องการบริหารสภาพคล่องหรือมีเป้าหมายหมดหนี้บัตรเครดิตให้ไวขึ้น
4. เลือกประเภทสินเชื่อที่เหมาะสม
เราสามารถหาข้อมูลธนาคารที่ให้บริการรวมหนี้บัตรเครดิต และเปรียบเทียบดูว่าธนาคารไหนให้สินเชื่อรวมหนี้ ที่คิดดอกเบี้ยต่ำที่สุด และมีเงื่อนไขตรงกับที่เราต้องการบ้าง ขอแนะนำว่าสำหรับใครที่มีหนี้บ้านอยู่แล้ว ให้ใช้วิธีรวมหนี้บ้านเข้ากับหนี้บัตรเครดิต เพราะจะได้ดอกเบี้ยที่ต่ำกว่าดอกเบี้ยสินเชื่อส่วนบุคคล แต่ถ้าเราไม่มีหนี้สินเชื่อบ้าน ก็ให้
รวมหนี้บัตรเครดิตเป็น
สินเชื่อส่วนบุคคลแทน อย่าง
สินเชื่อ Krungsri iFIN เป็นสินเชื่อบุคคล ที่ให้วงเงินสินเชื่อสูงสุด 2 ล้านบาท ดอกเบี้ยคิดแบบลดต้นลดดอก เลือกผ่อนได้สบาย 12-60 เดือน*
- กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว | อัตราดอกเบี้ยลดต้นลดดอกปกติ 21% - 25% ต่อปี*
*ศึกษารายละเอียด เงื่อนไข และอัตราดอกเบี้ยพิเศษเพิ่มเติมที่
www.krungsri.com
แบบนี้ก็ช่วยลดภาระดอกเบี้ยลง และบริหารจัดการหนี้ได้ง่ายขึ้น เมื่อพิจารณาครบถ้วนแล้ว ก็สามารถเข้าไปปรึกษาเพื่อดำเนินการรวมหนี้บัตรเครดิตได้เลย หรือแนะนำยื่นขอกู้สินเชื่อ
Krungsri iFIN ผ่าน krungsri app ซึ่งเป็นแอปฯ ของธนาคารกรุงศรี เงินกู้ถูกกฎหมาย เชื่อถือได้ ปลอดภัย สามารถยื่นกู้ด้วยตัวเองได้เลย ดอกเบี้ยต่ำ วงเงินสูง รู้ผลไวใน 1 วัน* เท่านั้น แค่นี้เราก็สามารถจัดการหนี้บัตรเครดิตไว้เป็นก้อนเดียว และชำระหนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีสภาพคล่องเพิ่มขึ้น ปลดหนี้ได้ไว มีอิสรภาพทางการเงินเพิ่มขึ้น