เมื่อพิจารณาถึงความสะดวก ปลอดภัย และคุ้มค่า บัตรเครดิต ดูจะเป็นเครื่องมือทางการเงินที่ตอบโจทย์ที่สุด และเข้ากับ Lifestyle ของคนในยุคปัจจุบันได้เป็นอย่างดี ด้วยรูปแบบการใช้งานที่ง่าย และหลากหลาย แถมดีลพิเศษส่งเสริมการขายมากมาย แต่คุณประโยชน์เหล่านี้จะกลายเป็น “โทษ” ทันทีเมื่อเราใช้จ่ายอย่างไม่มีสติ หรือใช้จ่ายเกินรายได้ที่มี เมื่อถึงเวลาใบแจ้งหนี้มาทำให้ต้องจ่ายขั้นต่ำบัตรเครดิตทุกเดือน
หากคุณกำลังจ่ายหนี้บัตรเครดิตแบบขั้นต่ำทุกเดือน และมองหาทางออกที่ทำได้ง่ายและทำได้เลย
Krungsri The COACH อยากชวนคุณมาเรียนรู้เทคนิคปิดหนี้บัตรเครดิตอย่างเป็นขั้นตอน เพื่อหยุดวงจรจ่ายขั้นต่ำ ลดภาระหนี้ กลับมาตั้งหลักทางการเงินได้อย่างมั่นใจ
หนี้บัตรเครดิตคืออะไร?
หนี้บัตรเครดิต คือ หนี้ที่เกิดจากการที่เราไม่ได้ชำระหนี้บัตรเครดิตตามระเวลาที่กำหนดหรือชำระคืนไม่เต็มจำนวนที่ใช้ ทำให้เกิดยอดค้างชำระ ซึ่งจะถูกคิดดอกเบี้ย และค่าธรรมเนียมต่าง ๆ ตามมา เมื่อเราไม่สามารถชำระหนี้บัตรได้ตามเวลาจะต้องจ่ายดอกเบี้ยให้กับบริษัทสินเชื่อ หรือบริษัทเครดิต จนกว่าจะสามารถจะจ่ายเงินที่ค้างไว้จนหมด
ผลกระทบของการหนี้เป็นหนี้บัตรเครดิต
- ดอกเบี้ยสะสมสูง ยิ่งจ่ายขั้นต่ำนานเท่าไร ดอกเบี้ยจะยิ่งเพิ่มมากขึ้น
- เสียประวัติเครดิตบูโร ทำให้ขอสินเชื่อเพื่อกู้เงินอื่น ๆ ได้ยากขึ้นในอนาคต
- ถูกฟ้องร้อง ในกรณีที่หลีกเลี่ยงการจ่ายหนี้ ธนาคารหรือผู้ออกบัตรเครดิตมีสิทธิดำเนินคดีทางกฎหมายได้
เมื่อไรที่เราต้องมองหาวิธีปิดหนี้บัตรเครดิต
การใช้บัตรเครดิตอย่างขาดความระมัดระวัง อาจนำไปสู่ปัญหาหนี้สินที่บานปลายได้ มาดูกันว่า มีสัญญาณเตือนอะไรบ้างที่บ่งบอกว่าถึงเวลาแล้วที่เราต้องจริงจังกับการมองหาวิธีปิดหนี้บัตรเครดิต
- จ่ายเฉพาะยอดขั้นต่ำติดต่อกันหลายเดือน และยอดหนี้รวมไม่ลดลงหรือลดลงน้อยมาก
- เริ่มหมุนเงินไม่ทัน ใช้บัตรใบใหม่กดเงินสดไปจ่ายหนี้บัตรใบเก่า
- รู้สึกเครียด หรือ กังวลทุกครั้งที่ใบแจ้งหนี้บัตรเครดิตมาถึง
- ยอดหนี้รวมทุกบัตรสูงเกินกว่าจะจัดการไหว
- รายได้เริ่มไม่เพียงพอสำหรับค่าใช้จ่ายที่จำเป็น หลังจากหักยอดจ่ายบัตรเครดิต
4 ขั้นตอนปิดหนี้บัตรเครดิตอย่างเป็นระบบ หยุดวงจรจ่ายขั้นต่ำบัตรเครดิตได้จริง
เมื่อตระหนักว่ากำลังเผชิญกับปัญหาหนี้บัตรเครดิต การหยุดจ่ายขั้นต่ำ และเริ่มต้นกระบวนการปิดหนี้บัตรเครดิตอย่างเป็นระบบ ด้วย 4 ขั้นตอนปิดหนี้บัตรเครดิต ที่จะช่วยให้คุณแก้ปัญหาหนี้ที่มีได้ทันเวลา และหลุดพ้นวงจรหนี้ได้ไวขึ้น
ขั้นตอนที่ 1 สำรวจรายได้และรายจ่ายของตัวเอง
ลองสำรวจว่าเรามีรายได้เท่าไร แต่ละเดือนมีค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง สามารถจ่ายเพิ่มได้อีกเท่าไร แล้วมีเงินเหลือเก็บไหม คำถามเหล่านี้ล้วนเป็น Checklist ที่ต้องมีทุกครั้งก่อนคิดเพิ่มค่าใช้จ่าย
ดังนั้น การเริ่มสำรวจตัวเองเพื่อเข้าใจปัญหาจะช่วยให้มองภาพรวมของปัญหาได้ดียิ่งขึ้น วิธีที่จะทำให้รู้จักตัวเองมากขึ้น คือ ควรทำงบรายรับรายจ่ายของตัวเองให้ละเอียด โดยเฉพาะค่าบัตรเครดิตที่ต้องจ่ายคืนในแต่ละเดือน
ยกตัวอย่าง นาย A ที่มีหนี้บัตรเครดิตถึง 3 ใบ เรามาดูรายรับ รายจ่ายประจำเดือนของนาย A กัน
เราจะพบว่า นาย A
มีรายรับน้อยกว่ารายจ่าย ทำให้เงินทุกเดือนติดลบ อยู่เดือนละ 1,750 บาท จากการเป็นหนี้บัตรเครดิต 3 ใบ และผ่อนจ่ายขั้นต่ำบัตรเครดิตรวมกันเดือนละ 10,000 บาท (ขั้นต่ำบัตรเครดิต 8% จากยอดคงค้างรวม 125,000 บาท)
ซึ่งทำให้เห็นว่านาย A ไม่สามารถชำระขั้นต่ำไหวอีกต่อไป เพราะหากยังจ่ายขั้นต่ำไหวและเงินรายเดือนยังไม่ติดลบ แสดงว่ายังอยู่ในระดับที่ควบคุมได้ เราไปดูขั้นตอนต่อไปกันเลย
ขั้นตอนที่ 2 หยุดวงจรหนี้
ง่าย ๆ ก็คือไม่ก่อหนี้ใหม่ หาต้นเหตุของหนี้เพื่อหยุดพฤติกรรมดังกล่าว เริ่มใช้จ่ายอย่างระมัดระวัง หยุดพฤติกรรมฟุ่มเฟือย ไม่แก้หนี้ด้วยวิธีที่ไม่ถูกต้อง โดยเฉพาะการจ่ายขั้นต่ำบัตรเครดิตที่อาจทำให้หนี้พอกพูน โดยเฉพาะการกดเงินจากบัตรเครดิตใบที่ 1 ไปจ่ายใบท่ 2 และ 3 วนไปเรื่อย ๆ หารู้ไม่ว่าจะกำลังก่อหนี้เพิ่มพูนสะสมโดยไม่รู้ตัว
ตัวอย่างเช่น กดเงินจากบัตรใบที่ 1 จำนวน 10,000 บาท เพื่อไปจ่ายค่าบัตรใบที่ 2 เมื่อถึงเวลาที่ต้องจ่ายคืนบัตรใบที่ 1 เราจะไม่ได้จ่ายคืนแค่ 10,000 บาท แต่เราต้องจ่าย 10,000 + 300 ค่าธรรมเนียมบัตร ทำให้ นาย A ต้องจ่ายขั้นต่ำบัตรเครดิตสูงขึ้น และติดลบหนักขึ้นวนเป็นวงจร จนไปสิ้นสุดที่วงเงินบัตรเครดิตก็จะเต็มทั้ง 3 ใบ และกู้เพิ่มไม่ได้แล้ว
จากตัวอย่างจะทำให้เห็นว่าแม้จะพยายามหาเงินมาจ่ายหนี้เท่าไร แต่หนี้ก็ไม่มีทีท่าว่าจะลดลงเลย ดังนั้นเราควรหยุดใช้บัตรเครดิตทุกใบทันที เมื่อพบว่าตัวเองไม่สามารถชำระหนี้ขั้นต่ำได้อีกแล้ว ควรหยุดวงจรหนี้เหล่านี้ ก่อนไปปิดหนี้ในขั้นตอนต่อไป
ขั้นตอนที่ 3 หาแหล่งเงินเพื่อจัดการหนี้บัตรเครดิต
หากต้องการปิดหนี้บัตรเครดิตให้เร็วที่สุด อาจต้องพิจารณาหาแหล่งเงินมาลดยอดหนี้เพื่อให้ภาระลดลง เช่น ดูว่ามีเงินฝาก เงินลงทุนที่เก็บไว้ หรือของใช้ส่วนตัวที่มีมูลค่าที่สามารถแปลงเป็นเงินสดได้ แปรสภาพเอามาใช้หนี้ก่อน ไว้ปลดหนี้ได้ค่อยสร้างขึ้นมาใหม่
นอกจากนี้ การขอความช่วยเหลือจากคนในครอบครัวหรือคนรู้จัก มาใช้หนี้ก่อนเพราะไม่มีดอกเบี้ย ลดต้นทุนหนี้ในการจ่ายหนี้บัตรเครดิต (แต่ยืมแล้วต้องคืนด้วยนะ!!) หรืออาจเลือกทำงานพิเศษ เพิ่มรายได้ในการปิดหนี้บัตรเครดิตให้รวดเร็วขึ้น แต่หากแก้ปัญหาในขั้นตอนนี้ได้ดีปัญหาก็จะจบ แต่ถ้ายังไม่ไหวจำเป็นต้องใช้ขั้นตอนสุดท้าย
ขั้นตอนที่ 4 รวมหนี้บัตรเครดิต
หากขั้นตอนที่ 1-3 ยังไม่สามารถแก้ปัญหาได้เห็นผล หรือยังคงมีปัญหาเหล่านี้อยู่ เช่น
- รายรับติดลบรายจ่ายเท่าเดิม
- จ่ายขั้นต่ำบัตรเครดิตไม่ไหว
- จ่ายหนี้บัตรเครดิตล่าช้า หมุนเงินลำบาก
เป็นสัญญาณที่รู้ว่าจำเป็นต้องนำหนี้บัตรเครดิตที่เรามีอยู่จากหลาย ๆ ที่ เอามารวมไว้ที่เดียวกัน เรียกว่าการ
รวมหนี้บัตรเครดิต
การรวมหนี้คืออะไร และ มีประโยชน์อย่างไรบ้าง
การรวมหนี้ คือการขอสินเชื่อกับสถาบันการเงินเดียวเพื่อมาจ่ายหนี้บัตรเครดิตหรือหนี้สินอื่น ๆ ที่มีอยู่ทั้งหมด และเป็นหนี้กับสถาบันการเงินแห่งเดียว ประโยชน์ของการรวมหนี้ จะทำให้มีภาระในการผ่อนชำระเพียงแห่งเดียวจากเดิมที่จ่ายกระจัดกระจายหลายที่ ลดปัญหาการจ่ายล่าช้าหรือลืมชำระหนี้ และที่สำคัญช่วยให้ยอดขั้นต่ำในการผ่อนชำระต่อเดือนลดลง
3 ขั้นตอนเตรียมตัวก่อนการรวมหนี้เพื่อปิดหนี้บัตรเครดิต
การรวมหนี้เป็นหนึ่งในวิธีปลดหนี้บัตรเครดิตที่มีประสิทธิภาพ แต่ก่อนจะตัดสินใจรวมหนี้ การเตรียมตัวที่ดีจะช่วยให้กระบวนการราบรื่น และได้ผลลัพธ์ตามที่คาดหวัง มี 3 ขั้นตอนสำคัญที่ควรทำ ดังนี้
1. สรุปยอดหนี้ทั้งหมด
สำรวจยอดรวมทั้งหมดเป็นจำนวนเงินเท่าใด และการผ่อนในปัจจุบันเดือนละเท่าไหร่ ไม่ว่าจะเป็นหนี้บัตรเครดิตหรือสินเชื่อส่วนบุคคล
2. ประเมินความสามารถในการจ่ายหนี้บัตรเครดิตต่อเดือน
เพื่อให้รู้ว่ามีกำลังผ่อนไหวเดือนละเท่าไร โดยความสามารถในการผ่อนประเมินได้จากรายรับรายจ่ายประจำเดือน หากนาย A มียอดผ่อนต่อเดือนลดลงเดือนละ 2,000 บาท จากเดิมที่ผ่อน 10,000 บาท ต่อเดือน จะทำให้แต่ละเดือนไม่ติดลบ นาย A จึงมีความสามารถผ่อนชำระได้ไม่เกินเดือนละ 8,000 บาท
3. หาข้อมูลสถาบันการเงินที่ให้บริการรวมหนี้บัตรเครดิต
เมื่อทราบยอดหนี้ทั้งหมด และประเมินความสามารถในการผ่อนชำระของตนเองแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการค้นหาข้อมูลสถาบันการเงินที่ให้บริการรวมหนี้ เพื่อปิดหนี้บัตรเครดิต ควรพิจารณาเลือกแหล่งสินเชื่อที่เสนออัตราดอกเบี้ยต่ำ และที่สำคัญใน
หลักการรวมหนี้ปิดหนี้บัตรคือ ยอดผ่อนชำระต่อเดือนต้องลดลงมาอยู่ในระดับที่คุณสามารถจ่ายไหวจริง ๆ เพื่อให้การจัดการหนี้บัตรเครดิตในแต่ละเดือนเป็นไปได้อย่างไม่ตึงเครียด และเป็นวิธีปิดบัตรเครดิตที่ยั่งยืน ช่วยให้คุณปลดหนี้บัตรเครดิตได้สำเร็จตามแผนที่วางไว้ได้จริง
Krungsri The COACH แนะนำ : Krungsri iFIN ตัวช่วยเพิ่มสภาพคล่องทางการเงิน
จากตัวอย่างด้านบน หากนาย A ตัดสินใจรวมหนี้ไว้ที่ Krungsri iFIN ยอดหนี้รวม 100,000 บาท จะทำให้การผ่อนชำระขั้นต่ำ ลดลงเหลือ 3,596 บาทต่อเดือน (ดอกเบี้ย 24% ระยะเวลา 60 เดือน ลดต้นลดดอก) จากการประเมินความสามารถในการจ่าย นาย A สามารถผ่อนชำระได้เดือนละ 8,000 บาท หากสามารถผ่อนชำระได้ทุกเดือน จะทำให้ยอดหนี้หมดไวขึ้นภายใน 20 เดือน และประหยัดดอกเบี้ยจากการลดต้นลดดอกได้ประมาณ 60,000 บาท จะเห็นได้ว่าการ
รวมหนี้บัตรเครดิตช่วยให้สะดวกในการผ่อนชำระคืนหนี้ จากเดิมต้องจ่ายเดือนละ 10,000 บาททำให้เงินติดลบทุกเดือน กลายเป็นจ่ายขั้นต่ำเพียงเดือนละไม่ถึง 4,000 บาท และจากเดิมที่ต้องชำระหนี้สามครั้งต่อเดือน รวมหนี้มาจ่ายเจ้าหนี้เพียงรายเดียว ลดโอกาสที่จะหลุดหรือลืมชำระหนี้
กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว | อัตราดอกเบี้ยลดต้นลดดอกปกติ 21% - 25% ต่อปี*
*ศึกษารายละเอียด เงื่อนไข และอัตราดอกเบี้ยพิเศษเพิ่มเติมที่ www.krungsri.com
สรุปเรื่องการปิดหนี้บัตรเครดิต
การเลือกใช้บัตรเครดิตเป็นอีกทางเลือกที่ดีในการใช้จ่ายสินค้าและบริการต่าง ๆ เพราะมีสิทธิประโยชน์มากมาย เพียงแค่เราระมัดระวังและใช้โดยอย่างมีประสิทธิภาพ แต่หากขาดวินัยทางการเงิน และใช้จ่ายเกินตัว อาจทำให้เกิดปัญหาต้องจ่ายขั้นต่ำบัตรเครดิต เมื่อพลาดไปแล้วการสำรวจตัวเอง หยุดวงจรปัญหาเดิมโดยเร็ว และรวมหนี้บัตรเครดิต จะช่วยปิดหนี้บัตรเครดิตให้กับคุณ ผ่อนต่อเดือนได้ง่ายมากขึ้น และรักษาสถานะการเงินที่ดีของคุณให้มั่นคง
อ้างอิง