ในยุคข้าวยากหมากแพงจากผลกระทบทางเศรษฐกิจที่ต้องเผชิญ ไม่ว่าจะเป็นภาวะเงินเฟ้อ เศรษฐกิจชะลอตัว ส่งผลให้ข้าวของแพงขึ้นเกือบทุกอย่างโดยเฉพาะเรื่องของ “น้ำมัน” ทุกวันนี้ใครที่ยังคงใช้รถยนต์ส่วนตัวต้องเคยเผชิญเหตุการณ์ที่ทำให้คิดหนักทุกครั้งที่เติมน้ำมัน ไม่เพียงแต่เท่านั้น หลาย ๆ คนยังคงต้องผ่อนชำระรถอยู่ แต่เริ่มมีปัญหาส่งรถไม่ไหว หรือรู้สึกผ่อนรถไม่ไหว หรือต้องการเปลี่ยนสัญญาเช่าซื้อรถยนต์เพื่อให้สามารถจัดการกับภาระค่าใช้จ่ายที่มีได้ดีขึ้น ต้องทำอย่างไร
ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับ
รถยนต์ที่หนักพอควร โดยเฉพาะผู้ที่ต้องผ่อนรถอยู่ ซึ่งทำให้ในแต่ละเดือนเราต้องเผชิญกับค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับรถที่ค่อนข้างสูง รวมถึงบางคนอาจกำลังประสบปัญหารายได้ที่ไม่เท่าเดิมอยู่อีกด้วย
พอมาฉุกคิดในตอนนี้ทางออกเหล่านั้นอาจจะเป็นการขายรถ หรือเปลี่ยนสัญญาเช่าซื้อรถยนต์ให้กับบุคคลอื่น เพื่อรักษารถคันนี้ไว้โดยการเปลี่ยนชื่อคนผ่อนรถ และถ้าหากเราผ่อนรถไม่ไหวจริง ๆ จนจำเป็นต้องขาย ต้องทำยังไง แตกต่างจากเวลาเปลี่ยนชื่อเจ้าของรถเวลาผ่อนหมดแล้วหรือไม่ บทความนี้จะแนะนำทุกท่านไปสู่ทางออกสำหรับคนที่กำลังเผชิญปัญหาผ่อนรถไม่ไหว อยากคืนรถ ทำไงดี
3 ทางออกสำหรับคนผ่อนรถไม่ไหว อยากคืนรถ
หากคุณกำลังประสบปัญหาผ่อนรถไม่ไหวหรือรู้สึกว่าภาระการชำระเริ่มเกินกำลัง การเปลี่ยนสัญญาเช่าซื้อรถยนต์อาจเป็นตัวเลือกหนึ่งที่ช่วยให้คุณจัดการภาระนี้ได้ และยังช่วยรักษาประวัติเครดิตในระยะยาวเช่นกัน
1. ติดต่อไฟแนนซ์ปรับโครงสร้างหนี้
เมื่อเรารู้แล้วว่าเราผ่อนรถไม่ไหวแน่ ๆ แต่เรารักรถคันนี้ยังคงอยากใช้รถคันนี้อยู่ แน่นอนว่าคงมีคนลังเลว่า หรือตัดสินใจเปลี่ยนสัญญาเช่าซื้อรถยนต์ดี จริง ๆ แล้วนี่อาจจะตอบโจทย์เรามากกว่าก็ได้ เพียงแค่เราอาจจะต้องรีบติดต่อไฟแนนซ์ของเราเพื่อขอปรับโครงสร้างหนี้ และชื่อรถก็ยังคงเป็นชื่อเราอยู่ด้วย อีกทั้งโดยส่วนใหญ่แล้ว ไฟแนนซ์มีแนวทางในการช่วยเหลือลูกหนี้ เช่น การปรับลดค่างวด ยืดเวลาการผ่อนชำระออกไป หรืออาจจะเสนอการผ่อนชำระแบบขั้นบันได ที่หมายถึงการผ่อนจำนวนน้อย ๆ ในช่วงที่มีปัญหา และค่อย ๆ ปรับเพิ่มสูงขึ้นเมื่อปัญหาเบาลง เพื่อให้เหมาะสมกับความสามารถของเราในการผ่อนตามระยะเวลา
ในส่วนของการเปลี่ยนสัญญาเช่าซื้อรถยนต์ให้เป็นการผ่อนชำระแบบขั้นบันไดนี้โดยส่วนใหญ่แล้วมักจะต้องเจอกับ
ดอกเบี้ยที่เพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อย ๆ จึงไม่ค่อยเป็นทางเลือกที่ดีเท่าไหร่นักในระยะยาว และถ้าหากว่าเราต้องการปรับโครงสร้างหนี้ ก็ควรรีบดำเนินการก่อนที่จะเริ่มค้างชำระเพื่อเป็นการรักษาประวัติเครดิตของตัวเราเอง เพราะประวัตินี้จะไปปรากฏอยู่ในข้อมูลของบริษัทและข้อมูลเครดิตแห่งชาติด้วย หรือที่เรียกว่า เครดิตบูโร นั่นเอง และหากเรายิ่งรีบปรับก็จะทำให้โครงสร้างนี้ของเรากลายเป็น NPL ที่ยังได้รับการยกเว้น และไม่ต้องรายงานการปรับโครงสร้างหนี้ไปยังบริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติด้วยเช่นกัน
2. รีไฟแนนซ์ค่างวดรถ
หลาย ๆ คนอาจจะเคยได้ยินเพียงแค่คำว่ารีไฟแนนซ์บ้าน แต่จริง ๆ แล้วการรีไฟแนนซ์ค่างวดรถยนต์ก็มีเช่นกัน และวิธีนี้อาจทำให้เราต้องทำการเปลี่ยนสัญญาเช่าซื้อรถยนต์ ซึ่งการรีไฟแนนซ์รถยนต์ก็คล้าย ๆ กับการที่เรารีไฟแนนซ์บ้าน โดยการรีไฟแนนซ์รถยนต์นั้นมีทางเลือกหลัก ๆ ให้เราอีก 2 ทาง คือ
- รีไฟแนนซ์กับธนาคารเดิม เป็นการเปลี่ยนสัญญาเช่าซื้อรถยนต์ในการเช่าซื้อใหม่ โดยเราต้องศึกษารายละเอียดต่าง ๆ เช่น เงื่อนไขหรืออัตราดอกเบี้ยปัจจุบัน หรือการประเมินราคารถยนต์ ซึ่งเราอาจจะได้รับดอกเบี้ยที่ถูกลงอีกด้วย
- ไฟแนนซ์ด้วยการย้ายธนาคารหรือสถาบันการเงินแห่งใหม่ ที่มีเงื่อนไขตรงตามความต้องการ ข้อดีหลัก ๆ ในการรีไฟแนนซ์ก็จะมาในรูปแบบ ช่วยให้เงินผ่อนต่องวด/เดือน น้อยลง รวมถึงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ครั้งใหม่ที่ลดลง และที่เด่นชัดสำหรับใครที่ฉุกเฉินเรื่องเงินอยู่เพราะเรามีโอกาสได้เงินส่วนต่างเพื่อนำมาใช้จ่ายได้ ก็จะมีผลต่าง ๆ ตามมา เช่น ทำให้ระยะเวลาผ่อนชำระนานขึ้น หรือมีค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นในการดำเนินการรีไฟแนนซ์ใหม่ ซึ่งในบางกรณีอาจมีค่าปรับในการไถ่ถอนก่อนกำหนดนั่นเอง
3. การเปลี่ยนโอนสิทธิ์ผู้เช่าซื้อหรือเปลี่ยนชื่อคนผ่อนรถ
การเปลี่ยนโอนสิทธิ์ผู้เช่าซื้อ หรือการเปลี่ยนสัญญาเช่าซื้อรถยนต์ เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับผู้ที่กำลังเผชิญปัญหาการผ่อนรถไม่ไหวหากใครที่ไม่ต้องการเก็บรถคันนี้ไว้แล้วก็สามารถใช้วิธีนี้ได้ และหากเราต้องการรถคันนี้อยู่ เราก็สามารถเปลี่ยนชื่อคนผ่อนรถด้วยวิธีนี้นั่นเอง ซึ่งจริง ๆ แล้ววิธีการเปลี่ยนโอนสิทธิ์ผู้เช่าซื้อเป็นวิธีการที่ผู้เช่าซื้อต้องการโอนสิทธิ์หรือการเปลี่ยนสัญญารถ ให้กับผู้อื่นมาเป็นผู้เช่าซื้อรถแทน โดยผู้เช่าซื้อคนใหม่จะเข้ามาเป็นคู่สัญญาโดยตรงกับผู้ให้เช่าซื้อ และต้องรับไปซึ่งหน้าที่และสิทธิ์เรียกร้องในสัญญาเช่าซื้อ
โดยบุคคลที่เข้ามารับโอนสิทธิ์จะเป็นผู้ผ่อนชำระค่างวดเช่าซื้อ และเป็นผู้ครอบครองและใช้รถที่เช่าซื้อ และเราสามารถประมาณการเปลี่ยนสัญญาเช่าซื้อรถยนต์เป็นคนที่เราขายรถให้ก็ย่อมได้ หรือเราจะเปลี่ยนชื่อคนผ่อนรถให้เป็นคนในครอบครัวก็สามารถทำได้ด้วยวิธีนี้ แล้วค่อยเปลี่ยนชื่อเจ้าของรถอีกที เมื่อผ่อนหมดแล้ว วิธีนี้ยังสามารถรักษาประวัติการผ่อนชำระของเราได้ หากเรากังวลถึงการผ่อนชำระวิธีนี้ก็เป็นอีกหนึ่งในทางเลือกดี ๆ นั่นเอง
สำหรับใครที่ยังสนใจในวิธีการเปลี่ยนโอนสิทธิ์ผู้เช่าซื้อต่อ Krungsri The COACH “ผ่อนรถไม่ไหว ขายต่อได้แค่โอนสิทธิ์” ก็เตรียมข้อมูลไว้รอคุณแล้วเช่นกัน คลิกเลย
และนี่ก็เป็น “3 ทางออกสำหรับคนผ่อนรถไม่ไหว ” โดยเราสามารถเลือกทางออกได้ตามความต้องการของเรา อย่างไรก็ตามความจริงแล้วทุกคนก็อาจอยู่ในช่วงที่เกิดปัญหาที่ไม่คาดคิดกันได้ และถ้าหากเกิดช่วงเวลาแบบนั้น การที่เราสามารถคำนวณค่างวดรถที่เราผ่อนไหว ก็จะทำให้สามารถเลือกทางเลือกที่ดีสำหรับเราได้นั่นเอง