อีกไม่กี่ปีข้างหน้าประเทศไทยจะเข้าสู่ “สังคมผู้สูงอายุเต็มรูปแบบ” (Aged Society) ก็คือประเทศของเรานั้นจะมีประชากรวัย 60 ปีขึ้นไปเกินกว่า 20% ของจำนวนประชากรช่วงปี 2567 พร้อมแล้วหรือยังที่จะเป็นผู้สูงอายุที่มีคุณภาพและเลี้ยงดูตนเองได้ยามเกษียณ
กองทุน RMF เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยในช่วยในการออมที่รัฐบาลสนับสนุนโดยการให้เป็นตัวช่วยในการลดหย่อนภาษี เรามารู้จัก RMF ให้ดีขึ้น
RMF คืออะไร? ทำไมถึงเป็นตัวเลือกที่ดีในการลงทุนเพื่ออนาคต
RMF (Retirement Mutual Fund) หรือ กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ คือ กองทุนที่ถูกจัดตั้งขึ้นด้วยวัตถุประสงค์เพื่อการเก็บออมในระยะยาวของคนไทยสำหรับใช้จ่ายในยามเกษียณอายุ หรือถ้าแปลแบบตรงตัวก็คือกองทุนเพื่อการเกษียณนั่นเอง โดยมีเงื่อนไขคือ ผู้ลงทุนจะต้องถือครอง และลงลงทุนต่อเนื่องจนถึงอายุ 55 ปี จึงจะสามารถขายคือหน่วยลงทุนได้ นอกจากนี้ยังสามารถนำสิทธิจำนวนเงินที่ซื้อกองทุนไปใช้ลดหย่อนภาษีได้ตามจำนวนที่ซื้อในแต่ละปี สูงสุดไม่เกิน 30% ของเงินได้ และเลือกลงทุนได้ตามความสามารถในการยอมรับความเสี่ยง และตามภาวะตลาดในแต่ละช่วงเวลาด้วย
กองทุน RMF เหมาะกับใคร
ด้วยกองทุน RMF ถูกกำหนดให้ต้องถือยาวจนถึงอายุ 55 ปี จึงจะขายได้อาจไม่ถูกใจวัยรุ่นซักเท่าไร ทำให้ RMF มักจะถูกมองข้ามไปยังทางเลือกอื่น ๆ ก่อนเสมอ แต่ที่จริงแล้วกองทุน RMF เป็นตัวเลือกที่ดีเลยทีเดียวสำหรับผู้ที่ต้องการวางแผนเพื่อให้มีเงินก้อนหลังเกษียณ และอาจจะเป็นก้อนโตเลยก็ได้ถ้าคุณเริ่มออมตั้งแต่เริ่มต้นทำงาน โดยเฉพาะ
มนุษย์เงินเดือนที่ควรซื้อกองทุน RMF เป็นอย่างยิ่ง นั่นก็เพราะว่า กองทุน RMF จะช่วยให้คุณมั่นใจได้ว่า จะมีเงินก้อนใช้หลังเกษียณแน่นอน
กองทุน RMF ซื้อได้ถึงอายุเท่าไร
มีหลายคนที่อายุ 55 ปีไปแล้ว เข้าใจผิดว่า RMF ซื้อได้ถึงอายุ 55 ปี แต่จริง ๆ แล้ว
RMF สามารถซื้อได้ถึงแม้อายุจะเกิน 55 ปีไปแล้ว เพียงแค่ต้องซื้อต่อเนื่อง 5 ปีติดต่อกัน โดยซื้อเท่าไรก็ได้ไม่ได้กำหนดขั้นต่ำ และข้อดีอีกอย่างของการซื้อ RMF หลังอายุ 55 ปีคือ เมื่อครบ 5 ปีไปแล้วก็สามารถขายได้ เช่น ซื้อตอนอายุ 55-60 ทุกปี เมื่ออายุครบ 61 ปีสามารถขายได้ทั้งหมด
หากคุณยังมีรายได้และต้องการลดหย่อนภาษีด้วย RMF ก็ยังสามารถซื้อต่อเนื่องไปจนกว่าคุณไม่ต้องการใช้สิทธิลดหย่อนภาษี หรือไม่มีรายได้แล้ว จะเห็นได้ว่า กองทุน RMF เป็นตัวช่วยที่ดีในการจัดการทางการเงิน จะอายุเท่าไรก็สามารถเริ่มซื้อได้ เพียงต้องศึกษาเงื่อนไขให้ละเอียดให้เข้าใจ เพื่อให้คุณไม่พลาดโอกาส และสิทธิประโยชน์ที่ได้รับ
4 จุดเด่นที่ทำให้กองทุน RMF ตอบโจทย์การลงทุนเพื่อการเกษียณ
เพื่อให้ทุกคนเห็นถึงประโยชน์ของการลงทุนเพื่อการเกษียณด้วยกองทุน RMF มากขึ้น Krungsri The COACH ได้รวม 4 จุดเด่นสำคัญของกองทุนนี้มาให้แล้ว ดังนี้
1. สิทธิประโยชน์ในการลดหย่อนภาษี
เงินที่ใช้ลงทุนใน RMF สามารถนำไปหักลดหย่อนภาษีได้ตามที่จ่ายจริง โดยเมื่อรวมเข้ากับผลิตภัณฑ์ทางการเงินเพื่อการเกษียณอายุอื่น ๆ กองทุนเพื่อการออม (SSF) กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กองทุนการออมแห่งชาติ หรือประกันชีวิตแบบบำนาญ จะต้องไม่เกิน 500,000 บาท และสูงสุดจะต้องไม่เกิน 30% ของเงินได้พึงประเมินที่ต้องเสียภาษี
ถ้าอยากทราบว่าเงินที่คุณลงทุนใน RMF จะลดอัตราภาษีได้เท่าไหร่ สามารถคำนวณด้วยตัวเองผ่าน
เครื่องมือคำนวณภาษีได้เลยครับ
2. เสริมความมั่นคงวัยเกษียณ
ด้วยปัจจัยต่าง ๆ ที่ตามมาพร้อมกับอายุที่มากขึ้น โดยเฉพาะด้านสุขภาพ ทำให้การทำงานหาเงินตามเดิมมีความยากลำบากขึ้นพอสมควร ซึ่งตรงตามวัตถุประสงค์หลักของ RMF ที่มีไว้เพื่อสนับสนุนให้มีเงินไว้ใช้จ่ายในยามที่ไม่มีรายได้ และสามารถดำรงชีวิตได้อย่างมั่นคงแม้เข้าวัยเกษียณ
3. สามารถเลือกระดับความเสี่ยงของกองทุนที่ต้องการได้
เนื่องจาก RMF เป็นกองทุนที่ต้องลงทุนติดต่อกันจนถึงอายุ 55 ปี หรือถ้าเรายังคงมีรายได้ต่อเนื่องก็ยังสามารถลงทุนใน RMF ต่อไปได้ ดังนั้นผู้ลงทุนจึงสามารถเลือกที่จะควบคุมความเสี่ยง หรือสลับบริหารกองทุนได้โดยที่ไม่จำเป็นต้องขายออกไป จึงไม่ต้องกังวลเรื่องภาวะเศรษฐกิจที่มีการเปลี่ยนแปลงแล้วจะพลาดโอกาสในการลงทุน หรือบางท่านไม่ต้องการลงทุนในกองทุนที่มีความเสี่ยงสูงอย่างหุ้นก็สามารถเลือกลงทุนในกองทุนที่ความเสี่ยงต่ำได้
4. จัดสรรสินทรัพย์ในการลงทุนได้หลากหลาย
จัดสรรทรัพย์สินไปลงทุนในหลักทรัพย์ที่แตกต่างกันไปเพื่อเป็นการกระจายความเสี่ยง และบรรลุเป้าหมายในการลงทุนระยะยาว ในยุคที่เศรษฐกิจตกต่ำตลาดเงินตลาดทุนมีความผันผวนแบบนี้
ไม่มีอะไรที่รับประกันได้ว่า เงินที่คุณมีอยู่จะเหลือใช้ไปจนหมดอายุขัย การกระจายความเสี่ยงบางส่วนมาลงทุนเพื่อการเกษียณ เป็นวิธีที่ดีที่สุดสำหรับบริหารการเงินในอนาคต
จริง ๆ แล้ว RMF มีให้เลือกหลากหลายกองทุนให้คุณปรับเลือกตามความเสี่ยงที่คุณรับได้ ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งกับการทำ Asset Allocation ที่เป็นการจัดการสินทรัพย์เพื่อกระจายความเสี่ยงและจัดการกำไรจากการลงทุน
วางแผน Asset Allocation ของคุณผ่านเครื่องมือจัดการสินทรัพย์แบบมืออาชีพของกรุงศรี
เช็กลิสต์ 3 ข้อสำคัญที่ต้องรู้ก่อนลงทุน RMF
สำหรับนักลงทุนท่านใดที่สนใจลงทุนในกองทุน RMF แล้วสงสัยว่า
เกณฑ์การซื้อ RMF มีอะไรบ้าง? RMF มีขั้นต่ำไหม? ต้องซื้อทุกปีหรือเปล่า? เราได้สรุป
เรื่องที่ควรรู้ก่อนลงทุนในกองทุนรวมมาให้แล้ว ดังนี้
เกณฑ์การซื้อ RMF ทั้งเงื่อนไขขาเข้าและขาออก
- กองทุน RMF ไม่มีขั้นต่ำในการซื้อ
- ซื้อได้ไม่เกิน 30% ของเงินได้พึงประเมินที่ต้องเสียภาษี และเมื่อรวมกับกองทุนการออมเพื่อการเกษียณอื่น ๆ แล้ว ต้องไม่เกิน 500,000 บาท ในปีภาษีนั้น ๆ
- ต้องถือหน่วยลงทุนไม่น้อยกว่า 5 ปี นับตั้งแต่วันที่ซื้อครั้งแรก และสามารถขายคืนหน่วยลงทุนได้เมื่อมีอายุครบ 55 ปีบริบูรณ์
- เงินที่ถอนในกรณีทุพพลภาพ หรือเสียชีวิต จะได้รับการยกเว้นภาษี
- กรณีที่ลงทุนไม่ถึง 5 ปี แล้วต้องการขายคืนหน่วยลงทุน จะต้องคืนเงินภาษีทั้งหมดทุกปีที่ได้รับการยกเว้นมา และกำไรที่ได้จากการขายคืนที่ผิดเงื่อนไข จะถูกนำไปคิดรายได้ในปีที่ขายคืน และถูกนำไปรวมคำนวณภาษีด้วย
- กรณีที่ลงทุนเกิน 5 ปีขึ้นไป แต่ต้องการขายหน่วยลงทุนก่อนอายุครบ 55 ปีบริบูรณ์ จะต้องคืนเงินภาษีที่ได้รับยกเว้น 5 ปีย้อนหลัง แต่กำไรที่ได้จากการขายคืน จะไม่ถูกนำไปคำนวณเพื่อเสียภาษี
การสับเปลี่ยนกองทุน RMF
ความถี่ในการซื้อกองทุน RMF
- ต้องลงทุนต่อเนื่องทุกปี แต่ถ้ามีเหตุจำเป็นให้ไม่สามารถลงทุนได้จริง ๆ สามารถเว้นได้ไม่เกิน 1 ปี
Krungsri The COACH แนะนำ : ซื้อ RMF ได้ง่าย ๆ ด้วยตัวคุณเองผ่าน krungsri app
ปัจจุบันการลงทุนกับ
RMF ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป คุณสามารถทำการซื้อ ขาย หรือสับเปลี่ยนกองทุนได้ทางแอปพลิเคชัน
krungsri app (กรุงศรีแอป) ทางสมาร์ตโฟน ที่รวมทุกบริการด้านกองทุนไว้ในแอปพลิเคชันเดียว ไม่ว่าจะเป็นซื้อ ขาย หรือสับเปลี่ยนกองทุนก็สามารถทำได้ ไม่ต้องเสียเวลาดำเนินการยุ่งยาก
สำหรับใครที่ยังไม่รู้ว่า จะลงทุนกองรวมตัวไหนดี อ่านเพิ่มเติมได้เลยที่บทความ
5 กองทุนรวมที่น่าสนใจ ปีมะเส็ง 2568 Krungsri The COACH ได้รวมกองทุนรวมที่น่าจับตามองมาให้แล้ว ครบทั้งกองทุนสำหรับสายวิเคราะห์ที่ชอบบริหารความเสี่ยงด้วยตนเอง และสายมือใหม่ ที่ต้องการคนช่วยดูแลพอร์ตให้ หรือถ้าหากยังไม่มั่นใจด้านการลงทุน สามารถส่งข้อมูลของคุณผ่าน
บริการให้คำปรึกษาการออมการลงทุน เพื่อรับการติดต่อกลับจากผู้เชี่ยวชาญด้านกองทุน หรือติดต่อด้วยตัวเองทางเบอร์โทรศัพท์ 02-296-5959 ในวันจันทร์- ศุกร์ เวลา 9.00 - 17.00 น.
บทความโดย
สิรภัทร เกาฏีระ CFP®
กลุ่มบริการที่ปรึกษาทางการเงินส่วนบุคคล
ธนาคารกรุงศรีอยุธยา