เข้าสู่ช่วงปีใหม่ หลายคนคงกำลังเตรียมตัวเพื่อทำการลดหย่อนภาษีในรอบปีถัดไป ซึ่งสำหรับใครที่ปีที่ผ่านมาไม่ทันใช้ตัวช่วยลดหย่อนภาษี ในปีนี้มาเริ่มต้นวางแผนลดหย่อนภาษีกันใหม่ โดยใช้ตัวช่วยดี ๆ ช่วยหักค่าลดหย่อนภาษีกับมาตรการช้อปดีมีคืน ที่นอกจากช่วยลดหย่อนได้แล้ว เรายังได้เงินคืนกลับมาตามขั้นบันไดภาษี ที่มากสุดหลักหมื่นบาทเลยทีเดียว นอกจากการใช้โปรโมชั่นของรัฐแล้ว ยังมีตัวช่วยอื่น ๆ ที่ช่วยลดหย่อนภาษี แล้วสร้างผลตอบแทนเพิ่มให้เราอีกด้วย
สำหรับคนที่เพิ่ง
เริ่มวางแผนภาษีของตัวเองจะต้องทำอย่างไร? แล้วมาตรการช้อปดีมีคืนจะมีเงื่อนไขเป็นแบบไหน และตัวช่วยลดหย่อนภาษีอื่น ๆ ที่จะทำให้แผนลดหย่อนภาษีของเรามีประสิทธิภาพสูงสุดได้ยังไง วันนี้มาหาคำตอบไปพร้อมกันเลย
รู้จักตัวช่วยลดหย่อนภาษี “ช้อปดีมีคืน 2566”
ช้อปดีมีคืน เป็นมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายภายในประเทศจากทางภาครัฐ สำหรับบุคคลที่เสียเงินได้บุคคลธรรมดา โดยสามารถซื้อของ จับจ่าย สินค้า หรือบริการที่เข้าร่วมกับทางภาครัฐเพื่อนำมาใช้ลดหย่อน
ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาซึ่งในรอบปี 2566 สามารถลดหย่อนภาษีใช้ยอดได้สูงสุดถึง 40,000 บาทต่อคน โดยเงื่อนไขมาตรการช้อปดีมีคืน 2566 จะเป็นไปดังนี้
เงื่อนไขมาตรการช้อปดีมีคืน 2566
- ผู้ใช้สิทธิลดหย่อนภาษี ต้องซื้อสินค้าและบริการกับผู้ประกอบการที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT)
- ต้องมีใบเสร็จรับเงิน หรือใบกำกับภาษีเต็มรูปแบบทั้งรูปแบบกระดาษ และใบเสร็จอิเล็กทรอนิกส์ (e-Tax) เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการขอลดหย่อนภาษี
*ใบเสร็จรูปแบบกระดาษจะใช้สิทธิลดหย่อนได้สูงสุด 30,000 บาท และใบเสร็จอิเล็กทรอนิกส์ (e-Tax) จะใช้สิทธิลดหย่อนได้สูงสุด 40,000 บาท ในกรณีที่ใช้ใบเสร็จแบบกระดาษครบแล้ว เราอาจต้องใช้ใบเสร็จอิเล็กทรอนิกส์ (e-Tax) เพิ่มอีก 10,000 บาท ถึงจะได้สิทธิลดหย่อนสูงสุดตามที่รัฐกำหนด
- คนที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จะไม่สามารถใช้สิทธิช้อปดีมีคืนได้
- เราสามารถใช้สิทธิได้ตั้งแต่ วันที่ 1 มกราคม – 15 กุมภาพันธ์ 2566 เท่านั้น และสามารถยื่นแบบภาษีเงินได้ในช่วงต้นปี 2567 เท่านั้น
สินค้าหรือบริการแบบไหน? ที่ใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้
สำหรับสินค้าหรือบริการที่เปิดโอกาสให้เราได้ใช้
สิทธิลดหย่อนภาษี สามารถหาซื้อได้ทั่วไปทั้งในห้าง ร้านสะดวกซื้อ หรือร้านค้าตามแพลตฟอร์มออนไลน์ ขอเพียงแค่ทางร้านจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) อย่างเช่น ซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าในห้างสรรพสินค้า ซื้อสินค้า OTOP ในร้านค้าของฝากตามแหล่งท่องเที่ยว หรือเติมน้ำมันจากปั๊มน้ำมันใกล้บ้าน เป็นต้น ก็สามารถเข้าร่วมมาตรการลดหย่อนภาษีช้อปดีมีคืนจากภาครัฐได้ โดยเราสามารถดูได้จากตารางนี้ได้เลย
และก่อนซื้อทุกครั้งก็อย่าลืมขอใบกำกับภาษีทุกครั้งที่ใช้จ่าย หรือใช้เอกสาร e-Tax ที่ออกโดยร้านค้า หากใครอยากรู้ว่ามีร้านไหนที่สามารถออกใบกำกับภาษีแบบ e-Tax ได้สามารถตรวจสอบโดยตรงได้ที่
เว็บไซต์ของกรมสรรพากรได้เลย หากซื้อของชิ้นใหญ่ แนะนำว่าให้ร้านค้าออก e-Tax ให้จะดีกว่าเพราะสามารถใช้ได้ทีเดียวเลยสูงสุดที่ 40,000 บาท สะดวกกว่ามาก
ใช้ช้อปดีมีคืนแบบเต็มที่ ได้เงินได้คืนเท่าไหร่กันแน่?
จากที่อ่านมาช้อปดีมีคืนนี่มันดีสุด ๆ เลย แต่เราอยากให้ทำความเข้าใจให้ดีก่อนใช้
สิทธิลดหย่อนภาษีช้อปดีมีคืน 2566 คนที่เข้าร่วมจะลดหย่อนและได้เงินคืนแบบมีประสิทธิภาพคือคนที่อัตราขั้นภาษีสูงที่สุด โดยเราสามารถดูตารางอัตราเงินภาษีได้คืนตามนี้เลย
เราจะเห็นว่าถึงเราจะใช้สิทธิลดหย่อนภาษีเต็มที่ 40,000 บาท แต่ถ้าอัตราภาษีของเราน้อยอยู่ที่ 5% เราก็ไม่ได้รับเงินคืนภาษี แต่กลับกันยิ่งมีอัตราภาษีสูงขึ้น เงินได้คืนก็มากขึ้นสูงสุดอยู่ที่ 14,000 บาทเลยทีเดียว นั่นหมายความว่า หากเราเป็นคนที่เพิ่งเริ่มต้นทำงานใหม่ ๆ การใช้สิทธิลดหย่อนภาษีอันนี้อาจไม่ตอบโจทย์ แต่ถ้าเราเป็นคนทำงานที่มีฐานภาษีสูง ในแต่ละปีต้องจ่ายภาษีครั้งละมาก ๆ แน่นอนว่าโปรโมชั่นช้อปดีมีคืน เราต้องห้ามพลาดเลย เพราะเราจะได้ภาษีเงินได้คืนอย่างมากเลยทีเดียว เอาเป็นว่า หากใครที่อยากใช้สิทธิเข้าร่วมลดหย่อนภาษี ช้อปดีมีคืน 2566 ลองคิดดูก่อน เพราะบางทีการเสียเงินอาจได้ไม่คุ้มเสีย ถ้าฐานภาษีเราน้อยเก็บเงินไว้ก่อนน่าจะดีกว่า
ลงทุนในกองทุนรวม ก็ใช้สิทธิลดหย่อนภาษีตามมาตรการช้อปดีมีคืน 2566 ได้
นอกเหนือจากการจับจ่ายใช้สอยสินค้า หรือบริการที่ได้รับสิทธิลดหย่อนภาษีตามมาตรการช้อปดีมีคืนแล้ว การ
ลงทุนในกองทุนรวม ก็สามารถนำในส่วนของค่าธรรมเนียมการซื้อ (Front-end Fee) มาใช้สิทธิลดหย่อนภาษี
มาตรการช้อปดีมีคืน ได้เช่นกัน
หากสนใจลงทุนแต่ยังไม่รู้ว่าจะเลือกลงทุนในกองทุนอะไร? ลองพิจารณากองทุนแนะนำจากธนาคารกรุงศรีฯ ได้
ที่นี่
สำหรับการลดหย่อนภาษีนี้สามารถลดหย่อนได้หลากหลายวิธีตามแต่เราสะดวกเลย มาตรการจากภาครัฐที่ออกมาอย่าง ช้อปดีมีคืน 2566 ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การใช้จ่ายในปัจจุบัน ท้ายที่สุดนี้หากใครที่กำลังอยากเริ่มต้นวางแผนลดหย่อนภาษีตั้งแต่ต้นปี อาจใช้ช่วงเวลานี้เตรียมตัวศึกษาตัวช่วยลดหย่อนภาษี แล้วถึงเวลายื่นภาษีครั้งต่อไป รับรองได้ว่าตัวช่วยต่าง ๆ ที่เราได้เรียนรู้จะช่วยเราในเรื่องวางแผนลดหย่อนภาษีได้มากเลยทีเดียว เพราะเรื่องภาษีเป็นเรื่องที่พวกเราทุกคนควรรู้จัก และเข้าใจเพื่อชีวิตดี ๆ ในอนาคต
คำเตือน
ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน
- เงื่อนไขการลดหย่อนภาษีตามมาตรการช้อปดีมีคืน 2566 เป็นไปตามที่กรมสรรพากรกำหนด