เป็นเรื่องธรรมดาของการคนคู่ ที่มีทั้งด้านสุข มีรอยยิ้ม เติมพลังให้แก่กัน หรือในบางครั้งอาจมีด้านทุกข์ ความไม่เข้าใจกัน ซึ่งอาจนำพาความยุ่งยากให้ชีวิตได้ หนึ่งในสาเหตุหลักนั้นก็คือ เรื่องเงิน เพราะเรื่องเงินเป็นเรื่องสำคัญ และมักมีผลกระทบต่อความสัมพันธ์ของคู่รักหลาย ๆ คู่ การบริหารทั้งเงิน และความรักจึงเป็นสิ่งที่เราไม่ควรมองข้าม
ดังนั้นบทความนี้จะพามาเรียนรู้วิธีที่จะบริหารความสัมพันธ์ ความรัก และการเงิน ให้ 2 อย่างนี้เติบโตไปพร้อมกันได้ ซึ่งหากคู่รักแคร์กัน ใส่ใจในกันและกัน มั่นใจได้เลยว่าเรื่องการเงินจะเป็นเรื่องที่จัดการได้อยู่หมัดอย่างแน่นอน ทีนี้เรามาดูวิธีกันเลย
3 วิธีบริหารความรักพร้อมกับเงินในกระเป๋า
1. แบ่งกระเป๋าเงินให้ชัดเจน เงินส่วนไหนเป็นของใครบ้าง
คู่รักแม้จะใกล้ชิดกันแต่บางครั้งก็มีไลฟ์สไตล์ และความชอบส่วนตัวที่ไม่เหมือนกัน หากเป็นคู่ที่มีไลฟ์สไตล์ที่ต่างกันมาก ๆ การใช้เงินไปกับสิ่งที่ชื่นชอบส่วนตัว อาจเป็นจุดเริ่มต้นของความไม่เข้าใจ เช่น ฝ่ายชายชอบแต่งรถ แต่ฝ่ายหญิงชอบซื้อกระเป๋าแบรนด์เนม หากความชอบส่วนตัวนี้ไปกระทบหรือก้าวก่ายการเงินของอีกฝ่ายก็อาจเกิดปัญหาด้านการเงินได้
ดังนั้นควรแยกเงินสำหรับใช้ส่วนตัวออกจากเงินส่วนรวม และแบ่งสัดส่วนการใช้เงินส่วนรวมให้ชัดเจนว่าแต่ละส่วนจะถูกใช้สำหรับค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง การทำแบบนี้จะช่วยให้ทั้งคู่เห็นค่าใช้จ่ายที่ต้องใช้จ่ายร่วมกันว่ามีภาระหนี้สินอะไรบ้าง อีกทั้งการแบ่งเงินส่วนตัวออกมาจะทำให้แต่ละคนมีพื้นที่ในการใช้เงินให้กับสิ่งของที่ตัวเองชอบ เป็น
การหลีกเลี่ยงความขัดแย้งทางการเงินที่จะได้ไม่เกิดปัญหาค้างคาใจที่แก้ไขได้ยากในอนาคต
2. ทำบัญชีรายรับรายจ่าย
การทำบัญชีรายรับรายจ่ายจะช่วยให้เราเห็นค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นทั้งหมด รวมถึงภาระหนี้สินที่ต้องรับผิดชอบร่วมกัน ทำให้วางแผนการใช้เงินในชีวิตคู่ได้ดียิ่งขึ้น เห็นถึงสิ่งที่จำเป็นและไม่จำเป็น อะไรที่ไม่จำเป็นก็หันหน้าพูดคุยกันเพื่อตัดทอนสิ่งนั้นออกไป จากนั้นเปลี่ยนเงินค่าจ่ายที่ไม่จำเป็นนั้นมาเป็นเงินเก็บเผื่อยามฉุกเฉิน
3. กำหนดเป้าหมาย และวางแผนการเงินร่วมกัน
การกำหนดเป้าหมาย วางแผนการเงินร่วมกัน เป็นโอกาสที่จะทำให้ชีวิตคู่ของคน 2 คนได้ปรึกษาหารือกัน ถึงแม้ว่าทั้งคู่จะมีฐานะการเงินระดับไหน
การวางแผนการเงินร่วมกัน ก็ยังคงเป็นสิ่งที่สำคัญ เพื่อป้องกันความขัดแย้งที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต เช่น การจัดสรรงบประมาณโดยวางแผนว่ารายได้เท่านี้ จะเก็บออมเงินกันเท่าไร เพื่อนำมาจัดสรรเป็นค่าอะไรบ้างร่วมกัน เช่น จัดสรรวางแผนการเงินเพื่อการศึกษาลูก วางแผนการเงินสำหรับทำธุรกิจ เป็นต้น
เพราะวันใดที่ต้องเจอกับอุปสรรคการเงินสะดุด ระหว่างทาง การช่วยกันวางแผนการเงินล่วงหน้า อาจเป็นทางหลักที่จะช่วยประคองให้ชีวิตคู่ ให้ไปถึงปลายทางได้
ดังนั้นหากเป็นไปได้ เมื่อวางแผนจะใช้ชีวิตคู่ด้วยกันแล้ว อย่าลืมกำหนดเป้าหมายวางแผนการเงินร่วมกัน
เช่น คู่รักที่วางแผนจะเก็บเงินแต่งงานกัน หรือวางแผนเก็บเงินร่วมกันเพื่อจะดาวน์บ้านอยู่ร่วมกันในอนาคต สามารถที่จะเปิดบัญชีคู่ หรือบัญชีร่วมได้ ซึ่งเราธนาคารกรุงศรีมีผลิตภัณฑ์ทางการเงิน เงินฝากประจำ 24 เดือนปลอดภาษี ได้ดอกเบี้ยสูงกว่าฝากประจำปกติและไม่เสียภาษี ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้
ที่นี้เลย
หรือจะเลือกเปิดบัญชีกองทุนร่วมกันโดยมีชื่อของทั้งคู่เป็นเจ้าของบัญชี แล้วเลือกลงทุนสม่ำเสมอเท่ากันทุก ๆ เดือน (DCA) เป็นต้น
ตัวอย่างเพื่อให้เห็นเป็นภาพมากขึ้น
นาย A และ นางสาว B วางแผนที่จะแต่งงาน และดาวน์บ้าน ในอีก 2 ปีข้างหน้า ซึ่งเงินที่จะต้องใช้นั้นจำนวน 500,000 บาท
ดังนั้น หากทั้งคู่ต้องการเก็บเงินวันนี้ โดยฝากเงินบัญชีร่วม ได้ดอกเบี้ย 1.5% ต่อปี ทั้งคู่ต้องเก็บเงินร่วมกันเดือนละ 20,535 บาท เป็นต้น ซึ่งทั้งคู่ก็อาจตกลงร่วมกันว่า เงินในแต่ละเดือนจะออมกันคนละเท่าไหร่ เพื่อให้เป้าหมายที่หวังไว้ในอีก 2 ปี ข้างหน้าเป็นจริง
การจัดการความสัมพันธ์ในชีวิต และการบริหารเงิน เป็นสิ่งสำคัญของคู่รักที่จะบาลานซ์ ทั้งสองเรื่องนี้ให้เติบโตไปพร้อมกันได้
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องเงิน ซึ่งต้องมีการสื่อสาร พูดคุยกัน ช่วยกันปรับทั้งสองฝ่าย
ความรักเป็นสิ่งที่สวยงาม และความรักที่ดีเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เราอยากสร้างอนาคต หรือใช้ชีวิตคู่กับคนที่เรารัก ดังนั้นหากอยากให้ชีวิตคู่ไปถึงฝั่งฝัน นอกจากความรัก ความเข้าใจแล้ว
การวางแผนการเงินที่ดี อย่างเป็นรูปธรรม ก็เป็นปัจจัยสำคัญที่จะนำพาชีวิตคู่ของเราให้ราบรื่นต่อไปได้อย่างมั่นคง