มัดรวมทุกการลงทุนทองคำ หุ้นทองคำ กองทุนทองคำ แบบไหนใช่สำหรับคุณ?
รอบรู้เรื่องลงทุน
icon-Facebook icon-Twitter icon-line

มัดรวมทุกการลงทุนทองคำ หุ้นทองคำ กองทุนทองคำ แบบไหนใช่สำหรับคุณ?

icon-access-time Posted On 29 มีนาคม 2566
By Krungsri The COACH

ลงทุนทองคำ ซื้อทองจริง หุ้นทองคำ หรือกองทุนทองแบบไหนคุ้มสุด?

ลงทุนทองคำ เป็นหนึ่งในสินทรัพย์ที่ได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นหลังเกิดวิกฤตเศรษฐกิจและวิกฤตสงคราม ในช่วงที่ผ่านมาสินทรัพย์เสี่ยงต่างเจอกับความผันผวน การลงทุนในช่องทางต่าง ๆ เช่น พันธบัตร หุ้น หรือคริปโตเคอร์เรนซี และอีกหนึ่งสิ่งที่ไม่พูดถึงไม่ได้เพราะเป็นสินทรัพย์ที่มีความมั่นคงสูง หากเทียบกับสินทรัพย์เสี่ยงอื่น ๆ คือ ทองคำ ซึ่งการลงทุนทองคำนั้นมีหลายรูปแบบ ทั้งทองคำแท่ง กองทุนทองคำ หุ้นทองคำ หรือลงทุนแบบ Gold Futures จึงเกิดคำถามสำหรับนักลงทุนว่าเราควรเลือกลงทุนทองคำแบบไหนดี

แล้วทำไมต้องลงทุนทองคำ

ลงทุนทองคำดีอย่างไร? อาจเป็นคำถามที่หลายคนสงสัยเพราะการลงทุนรูปแบบอื่นนั้นมีมากมาย ทำไมถึงต้องลงทุนทองคำ เหตุผลมีดังต่อไปนี้
 

ลงทุนทองคำเอาชนะเงินเฟ้อ

ลงทุนทองคำ คือ วิธีที่สามารถเอาชนะเงินเฟ้อได้ หากย้อนไปดูราคาในช่วงตลอดหลายปีที่ผ่านมา จะแสดงให้เห็นราคาทองคำเมื่อ 10 ปีที่แล้ว
 
ราคาทองคำ

ในเวลา 10 ปีราคาทองคำเพิ่มขึ้นสูงถึง 4,850 บาท หรือคิดเป็น 19.4 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว เมื่อเทียบกับอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำของธนาคารที่ให้ผลตอบแทนอยู่ที่ 0.5 - 1.5 เปอร์เซ็นต์ต่อปี จะเห็นได้ว่าการลงทุนทองคำเป็นอาวุธในการต่อสู้กับอัตราเงินเฟ้อได้ดีกว่าและจัดได้ว่าเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย ที่มูลค่าไม่ลดลงแม้ในยามวิกฤตสงคราม จึงเหมาะเป็นสินทรัพย์ที่สามารถช่วยกระจายความเสี่ยงในการลงทุนได้
  • ราคาทองคำผันผวนต่ำ หากเทียบกับสินทรัพย์เสี่ยงอื่น ๆ ถ้าให้เห็นภาพชัด ๆ อย่างคริปโตเคอร์เรนซีที่อาจทำให้เงินต้นของคุณลดภายในวันเดียวได้หลายสิบเปอร์เซ็นต์ต่างจากทองคำที่ไม่ได้เป็นเช่นนั้น
  • ทองคำคือสินทรัพย์ปลอดภัย ประเทศส่วนใหญ่บนโลกล้วนถือทองคำไว้ในมือเป็นจำนวนมาก เพื่อเป็นกองทุนสำรองระหว่างประเทศ และถือไว้เพื่อสู้กับภาวะเงินเฟ้อ หรือเมื่อเกิดวิกฤติต่าง ๆ ซึ่งน่าจะเป็นเหตุผลที่สำคัญว่าทำไมผู้คนถึงหันมาลงทุนทองคำ

ลงทุนในทองคำอย่างไร

ลงทุนทองคำ เป็นสินทรัพย์ที่เป็นทุนสำรองระหว่างประเทศใช้รักษาเสถียรภาพทางการเงินและทุกประเทศให้การยอมรับ ต่างจากค่าเงินของแต่ละประเทศที่มีสกุลเงินต่างกันและยังเป็นตัวบ่งชี้สถานะทางเศรษฐกิจ ณ เวลานั้นได้อีกด้วย ทองคำจึงเป็นสินทรัพย์ที่มูลค่าไม่ลดลงแม้ในยามสงครามระหว่างรัสเซีย - ยูเครน ซึ่งต่างจากสินทรัพย์เสี่ยงอื่น ๆ อย่างชัดเจน การลงทุนทองคำในปัจจุบันนั้นมีหลากหลายรูปแบบแต่ในอดีตเราคงจะคุ้นตาภาพผู้คนต่อแถวหน้าร้านทองย่านเยาวราช เพื่อรอที่จะซื้อทองคำแท่งรวมถึงทองรูปพรรณ

ทองคำแท่ง ทองรูปพรรณ ต่างกันอย่างไร?

เราทุกคนน่าจะเคยเห็นป้ายตามร้านตู้แดง (ร้านทอง) ที่แปะราคาของทองคำในวันนั้น ที่มีการเปลี่ยนแปลงราคาเกือบตลอดเวลา ทั้งราคาซื้อและราคาขายของทองคำแท่งและทองรูปพรรณ จะมีความแตกต่างของราคาอยู่ และทองคำ 2 ประเภทนี้ยังมีรูปแบบที่ต่างกันอีกด้วย
 
ทองคำแท่ง

ทองคำแท่ง คือ ทองที่มีลักษณะตามชื่อของตัวมัน ทองที่ถูกหลอมในบล็อกสี่เหลี่ยมจนขึ้นรูปเป็นแท่ง โดยน้ำหนักจะเริ่มต้นตั้งแต่ไม่ถึง 1 บาท ไปจนถึงหลายสิบบาท ทองคำแท่งจะไม่มีค่ากำเหน็จเวลาทำการซื้อขายแต่จะมี “ค่าบล็อก” หากทำการซื้อทองคำแท่งไม่ถึง 5 บาทจะมีค่าบล็อคเพิ่มขึ้นมาในส่วนนี้

ทองรูปพรรณ คือ ทองคำที่ถูกนำมาขึ้นรูปเป็นรูปแบบต่าง ๆ ที่ต้องการ เพื่อใส่เป็นเครื่องประดับ หรือเพื่อความสวยงาม อาทิ สร้อย แหวน และกำไล ทองรูปพรรณจะมี “ค่ากำเหน็จ” หรือค่าแรงให้กับช่างทำทองที่ทำการออกแบบขึ้นรูปเป็นลวดลายจากทองคำแท่งเป็นทองรูปพรรณ ซึ่งค่ากำเหน็จนี้จะขึ้นอยู่กับความยากง่ายของแต่ละลวดลายของทองรูปพรรณ

หากต้องการลงทุนทองคำจะแนะนำให้ลงทุนทองคำแท่งมากกว่าทองรูปพรรณเพราะค่ากำเหน็จที่ต้องจ่ายเพิ่มของทองรูปพรรณนั้นมีราคาค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับค่าบล็อก ในส่วนของทองรูปพรรณจะนิยมซื้อมาเพื่อเป็นเครื่องประดับมากกว่าเพื่อการลงทุน แต่หากซื้อทองรูปพรรณมาแล้วอยากนำไปขายในอนาคตก็สามารถทำได้เช่นกัน แต่สำหรับนักลงทุนรายย่อยที่ไม่มีกำลังทรัพย์ที่จะซื้อทองคำแท่ง หรือไม่มีความรู้ในเรื่องของราคาทองคำก็ยังมีการลงทุนทองคำในรูปแบบอื่นเช่น การเลือกซื้อหุ้นทองคำในตลาดหลักทรัพย์

หุ้นทองคำคืออะไร?

หุ้นทองคำ คือการลงทุนประเภทหนึ่งที่เราเหมือนมีส่วนร่วมในการเป็นเจ้าของกิจการนั้น ๆ โดยสิทธิในกิจการนั้น จะขึ้นอยู่กับสัดส่วนการถือครองหุ้น เราสามารถเลือกลงทุนในหุ้นทองคำที่มีให้เลือกมากมายในตลาดหลักทรัพย์ เช่น หุ้นบริษัทที่ทำการซื้อขายทองคำโดยตรง ร้านทอง หรือหุ้นที่เป็นต้นน้ำในการผลิตอย่างหุ้นเหมืองทอง โดยปัจจัยในการขึ้นลงของราคาหุ้น จะไม่ได้ขึ้นอยู่กับแค่ราคาทองคำเท่านั้น จะมีปัจจัยอื่น ๆ อีกมากที่มีผลต่อราคา อาทิ สภาวะตลาดหุ้น ณ ขณะนั้น ผลประกอบการของบริษัท และแผนการลงทุนของบริษัทว่ามีแนวโน้มที่จะเติบโตมากน้อยแค่ไหนในอนาคต

ข้อดีของการลงทุนหุ้นทองคำ

การลงทุนหุ้นทองคำมีโอกาสได้กำไรจากส่วนต่างของราคาที่เพิ่มขึ้น หรือหากคุณต้องการถือหุ้นทองคำในระยะยาว ก็สามารถได้เงินปันผลจากการถือหุ้นทองคำนั้น โดยผลตอบแทนจะขึ้นอยู่กับบริษัทว่ามีนโยบายในการจ่ายปันผลเท่าไหร่ หากเราขาดทุนจากส่วนต่างของราคาที่อาจลดลงต่ำกว่าทุนที่เราซื้อ เรายังสามารถถือครองไว้เฉย ๆ เพื่อกินเงินปันผลในส่วนนี้ได้

การแบ่งไม้ขายเพื่อทำกำไร หากหุ้นทองคำที่เราถือครองมีราคาเพิ่มขึ้นเราสามารถล็อคความเสี่ยงด้วยการแบ่งขายออกมาก่อนได้ ซึ่งจุดนี้เป็นจุดที่ดีกว่าการถือทองคำแท่งหรือทองคำรูปพรรณแบบชัดเจน และอีกจุดหนึ่งที่คนอาจมองข้ามคือการถือหุ้นทองคำเรามีเอกสารสิทธิในการเป็นเจ้าของหุ้นที่ชัดเจน ต่างจากการถือครองทองคำแท่งที่เสี่ยงต่อการโดนโจรกรรม และนำไปขายต่อได้

ความเสี่ยงที่ต้องเจอในการลงทุนหุ้นทองคำ

หุ้นทองคำ คือ การมีส่วนร่วมในการเป็นเจ้าของแต่เราก็ไม่ได้เป็นเจ้าของร้อยเปอร์เซ็นต์ หากผู้ถือหุ้นรายใหญ่หรือคณะกรรมการบริหารดำเนินธุรกิจผิดพลาด หรือก่อหนี้โดยไม่จำเป็นเราก็จะได้รับผลกระทบในส่วนนี้ด้วย การลงทุนในหุ้นทองคำหรือหุ้นอื่น ๆ จึงมีหลายส่วนที่ต้องศึกษา หรือหากศึกษามาถี่ถ้วนแล้วก็ยังมีหลายปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบได้อย่างที่กล่าวไปในข้างต้น หากคุณไม่มีเวลาในการศึกษาหุ้นทองคำ หรือติดตามข่าวสารไม่มากพอก็อาจจะทำให้เงินลงทุนของคุณติดลบได้ แต่หากคุณยังชอบการลงทุนในลักษณะนี้แต่ไม่สามารถรับความเสี่ยงในระดับนี้ได้ยังมีการลงทุนอีกประเภทที่ตอบโจทย์ คือการลงทุนในกองทุนทองคำนั่นเอง
 
กองทุนทองคำ

กองทุนทองคำคืออะไร

กองทุนทองคำ (Gold Fund) คือ การลงทุนทองคำในอีกรูปแบบหนึ่ง ในรูปแบบกองทุนรวมที่มีนโยบายลงทุนในทองคำการแปรเปลี่ยนของมูลค่าจะอิงกับราคาทองคำในตลาดโลก ไม่ใช่ราคาทองคำในประเทศ ซึ่งความผันผวนของราคาจะไม่ได้มีแค่ค่าทองคำเท่านั้นแต่ต้องคำนึงถึงอัตราแลกเปลี่ยนของค่าเงินด้วย ทำให้อาจจะต้องพิจารณาปัจจัยในการซื้อขายมากยิ่งขึ้น

ข้อดีของลงทุนผ่านกองทุนทองคำ

มีข้อดีคือเหมาะกับผู้ที่ไม่มีเวลาติดตามตลาด หรือมีความรู้ในหลักทรัพย์ประเภทนี้ไม่มากนัก แต่มีความสนใจที่อยากจะลงทุนโดยมีมืออาชีพที่มีความเชี่ยวชาญด้านการลงทุนโดยเฉพาะคอยดูแลบริหารจัดการให้ ใช้เงินในการลงทุนน้อยกว่าการซื้อทองคำแท่งโดยตรง หากต้องการขายทำกำไรหรือทำการเข้าซื้อไม่จำเป็นต้องซื้อทั้งก้อน เราสามารถทยอยขายและเข้าซื้อได้เหมือนกับการเล่นหุ้นทองคำ

เลือกกองทุนทองคำควรดูอะไรบ้าง

กองทุนทอง มีให้เลือกหลายกองทุนด้วยกันเราควรพิจารณาปัจจัยใดบ้างหากต้องการที่จะเลือกกองทุนทอง อย่างแรกเลยที่เราต้องมองคือผลตอบแทนย้อนหลังซึ่งเป็นตัวสะท้อนความสามารถของผู้ดูแลกองทุนนั้นว่าสามารถสร้างกำไรให้กับผู้ลงทุนได้มากเพียงใด สิ่งต่อมาคือค่าใช้จ่ายและค่าธรรมเนียมของกองทุน บางกองทุนให้ผลตอบแทนที่ใกล้เคียงกันแต่มีค่าธรรมเนียมในการดูแลต่างกันตรงนี้ก็เป็นอีกหนึ่งความแตกต่างที่เราควรดูไว้ก่อนจะเลือกซื้อกองทุนทอง

กองทุนทองคำ

หากคุณสนใจที่จะเริ่มลงทุนในกองทุนทองแต่มีทุนทรัพย์ในการเริ่มต้นไม่มากเราขอแนะนำ กองทุนกรุงศรีโกลด์เฮดจ์ (KF-HGOLD) กองทุนที่คุณสามารถเริ่มลงทุนได้เพียงใช้เงินแค่ 500 บาท กองทุนทองกรุงศรีโกลด์เฮดจ์เป็นกองทุนรวมหน่วยลงทุนที่ลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งหน่วยลงทุนของกองทุนรวมเพียงกองทุนเดียว (Feeder Fund) ซึ่งเป็นกองทุนรวมทองคำแบบทั่วไป มีจุดประสงค์การลงทุนที่ชัดเจน โดยระดมทุนจากผู้ที่สนใจอยากร่วมลงทุนทองคำ ไปลงทุนในกองทุนทองคำต่างประเทศชื่อ SPDR GOLD TRUST ที่มีนโยบายลงทุนในทองคำแท่งเพื่อสร้างผลตอบแทนให้ใกล้เคียงกับราคาทองคำ

ทองคำยังคงเป็นสินทรัพย์ที่น่ามีติดพอร์ตการลงทุนไว้ สินทรัพย์ปลอดภัยในภาวะวิกฤต เป็นที่ยอมรับในระดับสากลประเทศพัฒนาแล้วทั่วโลกล้วนถือทองคำแท่งไว้เป็นทุนสำรองของประเทศ เพราะมีปริมาณจำกัดและเป็นสินทรัพย์ที่ช่วยป้องกันผลกระทบจากอัตราเงินเฟ้อ เหตุผลเพียงเท่านี้ก็คงเพียงพอที่จะให้คุณหันมาลงทุนทองคำ แต่จะลงทุนในรูปแบบใดก็ขึ้นอยู่กับความถนัดและไลฟ์สไตล์ของผู้ลงทุน แต่ถึงอย่างไรสิ่งที่สำคัญที่สุดในทุกการลงทุนคือ “ความรู้” หากเราไม่มีความรู้ในสินทรัพย์นั้น ๆ ต่อให้เป็นสินทรัพย์ปลอดภัยขนาดไหนก็สามารถทำให้คุณขาดทุนได้อยู่ดีครับ

หากคุณต้องการขอรับคำปรึกษาหรือคำแนะนำเพิ่มเติมในด้านวางแผนทางการเงิน ทางธนาคารกรุงศรีมีผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินและการลงทุนโดยเฉพาะ ที่สามารถปรึกษาผ่านช่องทางฮอตไลน์ได้ที่ 02-296-5959 จันทร์ - ศุกร์ เวลา 9.00 น. - 17.00 น. หรือฝากข้อมูลเพื่อให้ที่ปรึกษาทางด้านการเงินจากธนาคารกรุงศรี ติดต่อกลับ สามารถติดตามข่าวสารต่างๆ ได้ที่ Krungsri The COACH “โค้ชเรื่องเงิน ให้เป็นเรื่องง่าย”

ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน
  • ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุนรวม มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
  • กองทุน KF-HGOLD มีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน (ไม่น้อยกว่าร้อยละ 90 ของมูลค่าเงินลงทุนในต่างประเทศ)
  • กองทุน KF-HGOLD ลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุน SPDR Gold Trust ซึ่งซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ โดยบริษัทจัดการจะคำนวณมูลค่าหน่วยลงทุนของกองทุนด้วยราคาปิดของ SPDR Gold Trust ที่ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ ซึ่งราคาปิด ณ ตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ อาจจะมีราคาที่แตกต่างจากราคาปิดของทองคำ (Gold Commodities) หรือราคาปิดของ SPDR Gold Trust ที่ทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์อื่นๆ ดังนั้น ผู้ลงทุนอาจจะได้ราคาหน่วยลงทุนที่แตกต่างจากราคาทองคำ หรือราคาของ SPDR Gold Trust ที่ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์อื่นๆ ได้
  • ผู้ลงทุนควรขอคำแนะนำเพิ่มเติมก่อนทำการลงทุน

บทความโดย
สิรภัทร เกาฏีระ CFP®
กลุ่มบริการที่ปรึกษาทางการเงินส่วนบุคคล
ธนาคารกรุงศรีอยุธยา
pym logo
ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง
บทความที่เกี่ยวข้อง
พิมพ์สิ่งที่ต้องการค้นหา