4 Soft Skills ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้กับคุณ

4 Soft Skills ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้กับคุณ

By Krungsri Plearn Plearn

ในโลกของการทำงาน ความรู้หรือ Hard Skill เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้การทำงานเป็นไปตามเป้าหมาย แต่มันก็ไม่ใช่สิ่งเดียวที่ทำให้คุณประสบความสำเร็จหรือก้าวหน้าทางอาชีพ การมี ‘Soft Skill’ หรือทักษะทางอารมณ์และสังคมก็มีความจำเป็นไม่แพ้กัน ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่ต้องการพัฒนาศักยภาพในการทำงานให้รอบด้าน ต้องไม่พลาดที่จะพัฒนา ‘4 Soft Skills’ นี้ติดตัวไว้เลย!

ความคิดสร้างสรรค์ (Creativity)

คุณอาจคิดว่าความคิดสร้างสรรค์สำคัญสำหรับการทำงานในแวดวงศิลปะ การออกแบบ หรือครีเอทีฟเพียงเท่านั้น แต่จริง ๆ แล้วมันเป็นทักษะที่สามารถอยู่ได้ในทุก ๆ ขั้นตอนการทำงาน ของทุก ๆ สายอาชีพ เพราะความคิดสร้างสรรค์คือกระบวนการหาการหาความเป็นไปได้และทางออกใหม่ ๆ ในการทำงาน ฉะนั้นไม่ว่าคุณจะทำงานเป็นนักบัญชี นักการตลาด หรือเกษตรกร ทักษะนี้ช่วยทำให้งานมีคุณค่า สร้างความแตกต่าง และเพิ่มมูลค่าให้กับงานของคุณ เช่น ถ้าคุณเป็นนักการตลาด คุณอาจทดลองนำเสนอสินค้าบริการรูปแบบใหม่ ๆ ในการเข้าถึงลูกค้า เพื่อสร้างความแตกต่างน่าสนใจ ที่ทำให้ผู้บริโภคสามารถจดจำสินค้าและบริการของคุณได้ ความคิดสร้างสรรค์จึงเป็น Soft Skill อันดับต้น ๆ ที่ควรมีติดตัวไว้
ทักษะนี้ไม่ได้เป็นพรสวรรค์อย่างที่หลาย ๆ คนเข้าใจ แต่สามารถฝึกฝนได้ ผ่านการตั้งคำถาม อาศัยความช่างสังเกต ความอยากรู้อยากเห็น การเปิดใจให้กว้าง รวมถึงการเสพข้อมูลที่หลากหลาย และพยายามมองหาความเชื่อมโยงหรือจุดร่วมที่แปลกใหม่ การออกไปท่องเที่ยวหรืออ่านหนังสือ จะช่วยกระตุ้นความคิดและจินตนาการ เปิดมุมมองให้คุณสร้างสรรค์ไอเดียใหม่ ๆ ได้ดีขึ้น

การทำงานร่วมกับผู้อื่น (Collaboration)

ธรรมชาติของการทำงานทุกวันนี้มีความซับซ้อนและต้องใช้ความรู้ที่หลากหลายมากขึ้น คนทำงานยุคนี้จึงต้องมีทักษะในการทำงานร่วมกับผู้อื่น เช่น การควบคุมอารมณ์ ความเห็นอกเห็นใจ มีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี และการสร้างทัศนคติเชิงบวกให้กับเพื่อนร่วมงาน ซึ่งจะทำให้คุณได้ทีมงานที่มีคุณภาพและช่วยให้การทำงานของคุณราบรื่นและสำเร็จได้ตามเป้าหมาย แถมได้มิตรภาพดี ๆ เพิ่มมากขึ้น แต่ในทางกลับกันถ้าคุณเป็นหัวหน้าทีม แต่ติดนิสัยชอบโวยวายเวลามีคนทำงานผิดพลาด สิ่งนี้ก็จะเป็นการสร้างแผลให้กับทีมของคุณ และทำให้ไม่มีใครอยากร่วมงานด้วย
สิ่งสำคัญที่สุดที่จะช่วยให้คุณร่วมงานกับผู้อื่นได้อย่างราบรื่น คือความเคารพซึ่งกันและกัน รู้จักเอาใจเขามาใส่ใจเรา และการสื่อสารพูดคุยกันอย่างตรงไปตรงมา ซึ่งจุดเริ่มต้นง่าย ๆ ที่จะช่วยฝึกให้คุณเข้าใจผู้อื่นได้ดีขึ้น คือการเปิดใจรับฟัง ถามเพื่อนร่วมงานของคุณว่า “คุณคิดยังไงกับเรื่องนี้?” ก่อนที่จะแสดงความคิดเห็นของตัวเอง

การปรับตัว (Adaptability)

สังคมการทำงานมีคนหลากหลายรูปแบบ บางที่เป็นแหล่งรวมคนที่มีบุคลิกที่สนุกสนาน ชอบทำงานผ่านการพูดคุยกับคนรอบข้าง หรือองค์กรที่เต็มไปด้วยคนทำงานอย่างจริงจัง ไม่พูดเล่นระหว่างทำงาน ซึ่งการจะหาองค์กรที่มีลักษณะตรงกับเราทุกอย่างนั้นคงเป็นไปได้ยาก ดังนั้นทักษะที่เราต้องงัดขึ้นมาใช้ทันทีที่ก้าวเข้าสู่การทำงานก็คือการเริ่มปรับตัวให้เข้ากับธรรมชาติขององค์กรซะก่อน
และไม่ใช่แค่เรื่องบรรยากาศภายในองค์กรเท่านั้น งานทุกรูปแบบมีการเปลี่ยนแปลงอยู่สม่ำเสมอตามช่วงเวลาที่เปลี่ยนไป ตัวคุณเองก็ต้องปรับตัวตามเทรนด์ให้ทัน รวมถึงการใช้เทคโนโลยีต่าง ๆ ที่เข้ามาเป็นเครื่องมือให้คุณได้ใช้งาน คุณก็ต้องหมั่นเรียนรู้อยู่สม่ำเสมอ เช่น การใช้ Chatbot เข้ามาตอบลูกค้า การจัดสรรสินค้าผ่านระบบ Cloud หรือแม้แต่เทรนด์สนุก ๆ ในโลกโซเชียลก็ต้องรู้จัก หากคุณต้องใช้การสื่อสารกับคนหลากหลายรูปแบบ เพราะถ้าคุณยังอยู่ในความคิดแบบเดิม ๆ ก็จะไม่มีความก้าวหน้าในหน้าที่การงานและทำให้เบื่องานได้

การบริหารเวลา (Time Management)

หากคุณเป็นคนหนึ่งที่มีปัญหาในเรื่องทำงานไม่ทัน เผางานเป็นประจำ คุณอาจกำลังมีปัญหาเรื่อง การบริหารเวลา ถ้าคุณไม่เปลี่ยนตัวเอง ไม่จัดสรรตารางเวลาให้ดีขึ้น งานของคุณก็จะไม่มีประสิทธิภาพ สร้างความเครียดให้กับตัวคุณเอง และส่งผลกระทบต่อการทำงานของคนอื่น ๆ ได้ ทางที่ดีคุณควรสร้างตารางการทำงานประจำวัน เพื่อจัดสรรเวลาในการทำงานให้เป็นระบบมากขึ้น เช่น ใช้เวลาว่างระหว่างเดินทางเพื่อบันทึกและสร้างตารางการทำงานประจำวัน ก็เป็นช่วงเวลาที่ดีให้เราได้จัดระเบียบงานของตัวเอง ทุกวันนี้มีตัวช่วยในการจัดการเวลามากมาย เช่น การสร้างปฏิทิน จดโน้ต และบันทึกการทำงานต่าง ๆ สามารถทำได้ผ่านซอฟแวร์หรือแอปพลิเคชั่นต่าง ๆ ขอเพียงแค่คุณมีวินัยในการสร้างบันทึกประจำวัน ลงมือทำมัน และกดเสร็จสิ้นให้แสดงสถานะว่าเราทำสำเร็จแล้ว ก็เป็นการสร้างวินัยกับเรื่องการบริหารเวลาได้เป็นอย่างดี
ประโยชน์ของการบริหารเวลาทำงานไม่ได้มีแค่เรื่องของการจัดสรรเวลาให้เหมาะสม แต่ยังช่วยให้คุณรู้อีกด้วยว่า ในหนึ่งวันคุณทำอะไรไปบ้าง สามารถทำอะไรได้อีกบ้าง เป็นแนวทางให้คุณสามารถพัฒนาตัวเอง โดยเลิกใช้ข้ออ้างว่า “ไม่มีเวลา!” ได้ซะที
ทั้ง 4 Soft Skills นี้ เป็นทักษะที่คนทำงานในยุคนี้ไม่ควรมองข้าม ลองสังเกตตัวเองดูนะครับ ว่าทักษะไหนที่เรายังขาดหรือยังทำได้ไม่ดีนัก แล้วลองพัฒนาตัวเองด้วยการลงมือทำมันอย่างจริงจัง เราเชื่อว่าถ้าคุณพัฒนาทุกทักษะได้ครบ คุณจะสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเติมเต็มศักยภาพของคุณ แล้วความสำเร็จที่คุณฝันและหวังเอาไว้ จะอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมอย่างแน่นอนครับ
 
ขอบคุณข้อมูลจาก: thebalancecareers.com, cogprints.org, marketingoops.com, positioningmag.com, nowasu.co, wealthmeup.com
พิมพ์สิ่งที่ต้องการค้นหา