สวัสดีครับ…. วันนี้ผมได้รับโอกาสดี ๆ จากกรุงศรี เพลิน เพลิน ให้เขียนบทความ เพื่อให้ความรู้กับลูกค้าในหัวข้อ “วิธีสร้างเงินล้านภาคปฏิบัติ” ผมพยายามนึกอยู่หลายตลบว่าจะเขียนบทความยังไง ให้เข้าถึงผู้อ่านได้จริง ๆ แล้วสามารถนำไปปฏิบัติได้ในชีวิตจริง
คำถามที่ผมมักได้รับเสมอ คือ “
มนุษย์เงินเดือน เก็บเงินล้านแรกได้ภายในกี่ปี แล้วล้านต่อ ๆ ไป ใช้เวลากี่ปี มีวิธีเก็บเงินหรือใช้ชีวิตยังไงกันบ้าง”
ลองยกตัวอย่างง่าย ๆ คนเงินเดือน 1 หมื่น กับ 1 แสนบาทต่อเดือน ไม่มีรายจ่ายอะไรเลย คุณคิดว่าใครจะมีเงินล้านได้เร็วกว่ากัน แน่นอน….ก็ต้องคนเงินเดือน 1 แสนอยู่แล้ว แต่ผมถามผู้อ่านนิดนึงว่า “คุณคิดว่าคนรวยมีโอกาสจนไหม” แล้วคุณคิดว่า “ถ้าคุณจนแล้วคุณจะไม่มีโอกาสรวยเลยหรือ” วันนี้ผมมีประสบการณ์กับข้อมูลดี ๆ มาแชร์ให้อ่านครับ
หัวใจของการสร้างเงินล้านคือ “ควบคุมรายจ่าย เพิ่มรายได้”
หลักการไม่ยากเลยใช่ไหมครับ ทีนี้ก็เหลือแค่ว่า เราจะเพิ่มรายได้จากทางไหน และควบคุมรายจ่ายยังไงแค่นั้นเอง
1. ควบคุมรายจ่าย
การควบคุมรายจ่ายสำคัญที่สุด เพราะต่อให้มีรายได้มากเท่าไหร่ก็ตาม ถ้ารายจ่ายมากกว่ารายได้เมื่อไร โอกาสเห็นเงินล้านจะยิ่งริบหรี่ครับ ขอยกตัวอย่าง 2 รายจ่ายสำคัญที่ควรถูกควบคุมมากที่สุด คือ
- ค่างวดสินเชื่อบ้าน ค่างวดสินเชื่อรถ ฯลฯ รายจ่ายเหล่านี้ไม่ควรมีเกิน 40% ของรายได้ต่อเดือน
ตัวอย่างเช่น คนเงินเดือน 15,000 ค่างวดบ้าน/รถรวมกันไม่ควรเกิน 6,000 บาท เหลือ 9,000 บาทไว้ใช้ตลอดเดือน ซึ่งถือว่าเหลือไม่มากแล้ว
- การใช้บัตรเครดิต ควบคุมให้ดี เลือกใช้บัตรเครดิตเท่าที่เราจะมีกำลังจ่ายคืนได้จริง จะได้ประโยชน์มากมาย เช่น ส่วนลด แต้มสะสม แต่ถ้าควบคุมไม่ดีจะกลายเป็นสร้างภาระหนี้
ผมมีตัวอย่างเคสที่เคยไปให้คำปรึกษา คือ คนเงินเดือนเพียง 15,000 บาทแต่มีบัตรเครดิตมากถึง 10 ใบ จากหลายสถาบันการเงินและธนาคาร แถมรูดบัตรเครดิตเต็มวงเงินพร้อมกันทุกใบด้วย ปัจจุบันมียอดหนี้คงค้างมากกว่า 1 แสนบาท สถานการณ์แบบนี้ไม่ควรเอาเป็นตัวอย่างนะครับ ดังนั้นก่อนใช้บัตรเครดิต ควรแน่ใจว่าสามารถชำระได้เต็มจำนวนเมื่อครบกำหนดครับ
2. หารายได้เสริม
ผมมีตัวอย่างดี ๆ จากรุ่นน้องคนหนึ่งที่เป็นมนุษย์เงินเดือนมาแชร์ให้ฟังครับ น้องคนนี้ทำงานประจำเงินเดือน 18,000 บาท ลงทุนซื้อเสื้อผ้ามาขายช่วงวันเสาร์-อาทิตย์ที่ตลาดแล้วเจ๊ง ต้องขายเสื้อแบบเหมาขาดทุนให้แม่ค้าคนอื่นไป เลยเปลี่ยนมาขายของแบบพรีออเดอร์ (มีออเดอร์ก่อน ค่อยซื้อมาขายอีกที) แรก ๆ ก็ไม่รู้จะขายอะไร แต่เขานึกถึงครีมบำรุงผิวที่ตัวเองใช้อยู่ ก็เลยแนะนำเพื่อนใช้ก่อน เพื่อนใช้แล้วดีก็บอกต่อเพื่อนอีกคนให้มาซื้อ จากนั้นเปิดเพจเฟซบุ๊ก ลงอินสตาแกรม ก็เริ่มมีลูกค้าข้างนอกสนใจ คนซื้อก็มากขึ้น รายได้ก็เพิ่มขึ้นตามไปด้วย จนเดี๋ยวนี้น้องเขามีรายได้เสริมเพิ่มเดือนละ 2 หมื่นบาท ทำให้มีรายได้รวมต่อเดือน 38,0000 บาท
อ่านแล้วรู้สึกอย่างไรครับ ผมรู้ว่ามีหลายความรู้สึกหรือคำถามที่ปน ๆ กันอยู่ในสมอง เช่น เราจะขายอะไร เราจะเริ่มตรงไหน กลัวเจ๊ง ไม่มีเวลา ไม่มีเงินลงทุน ไม่มีคนช่วย ผมเข้าใจถูกใช่ไหมครับ อ่านบทความนี้จบแล้ว กลับไปนอนคิดดูครับว่า เราชอบอะไร เราสนใจด้านไหน เราหาผลประโยชน์จากมันทางไหนได้บ้าง แล้วลองเริ่มง่าย ๆ ก่อน เอาแบบไม่ต้องลงทุนเยอะมากก่อนครับ มีรายได้เสริมซัก 2 หมื่นต่อเดือน ไม่ถึง 5 ปี ก็มีเงินล้านแล้วครับ
3. หลักการออมที่ดีคือ ออมอย่างน้อยเดือนละ 10% ของรายได้
การออมอย่างสม่ำเสมอ คือ การที่เราแบ่งรายได้บางส่วน นำไปฝากหรือลงทุนในผลิตภัณฑ์ทางการเงินต่าง ๆ เช่น เงินฝาก กองทุนรวม ฯลฯ เพื่อสร้างผลตอบแทนให้กับเงินออมเรา โดยผลตอบแทนคาดหวังและระดับความเสี่ยงการลงทุนก็จะแตกต่างไปตามแต่ละบุคคล
จากรูป หากออมเดือนละ 3,000 รับความเสี่ยงได้น้อยมาก สามารถคาดหวังโอกาสสร้างผลตอบแทนได้ประมาณ 1% ในเงินฝากอย่างเช่น เงินฝากออมทรัพย์ (ฝากเกิน 1 แสนบาทขึ้นไป) กว่าจะมีเงินถึง 1 ล้าน อาจต้องใช้เวลาถึง 25 ปี แต่หากรับความเสี่ยงได้สูงขึ้นโดยลงทุนในผลิตภัณฑ์อย่างเช่น กองทุนรวมหุ้น ที่สามารถคาดหวังโอกาสสร้างผลตอบแทนได้ประมาณ 7% จะใช้เวลาเพียง 16 ปีเพื่อพิชิตเงินล้านแรก อย่างไรก็ตามรูปนี้ เป็นเพียงภาพจำลองเท่านั้น แนะนำว่า ควรติดต่อที่สาขาธนาคารกรุงศรีอยุธยาใกล้บ้านท่าน เพื่อทำแบบประเมินความเสี่ยงก่อนเริ่มลงทุน สาขามีเจ้าหน้าที่ให้บริการพร้อมแนะนำผลิตภัณฑ์การลงทุนที่เหมาะสมกับตัวท่านเองครับ
อย่าลืมนะครับ ขอเน้นย้ำอีกครั้ง หัวใจของการสร้างเงินล้านอยู่ที่ “ควบคุมรายจ่าย เพิ่มรายได้” คุณสามารถเพิ่มรายได้จากงานเสริมและการลงทุน แต่ในขณะเดียวกัน คุณก็ต้องควบคุมรายจ่ายไม่ให้สูงกว่ารายได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งค่าใช้จ่ายจากสินเชื่อต่าง ๆ และสินค้าฟุ่มเฟือย ไม่อย่างนั้นหาเงินมาได้มากแค่ไหนก็หมดครับ
หากต้องการวางแผนการออมเบื้องต้นก่อน ก็สามารถเข้าไปอ่าน
บทความได้ด้วยตัวเองที่เว็บไซต์
Plan Your Money หรือ โทร. 1572 กด 5 ระหว่างวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 9.00 – 17.00 น. เพื่อรับคำแนะนำแบบส่วนบุคคลได้เลยครับ