ลงทุนซื้อคอนโดเลี้ยงสัตว์ได้ ทำกำไรรับเทรนด์ Pet Friendly
เปิดโลกธุรกิจ
icon-Facebook icon-Twitter icon-line

ลงทุนซื้อคอนโดเลี้ยงสัตว์ได้ ทำกำไรรับเทรนด์ Pet Friendly

icon-access-time Posted On 21 กรกฎาคม 2568
By Krungsri The COACH
ปัจจุบัน “Pet Humanization” หรือเทรนด์ที่ผู้คนดูแลสัตว์เลี้ยงเสมือนสมาชิกในครอบครัวกำลังมาแรงอย่างต่อเนื่อง ด้วยความน่ารักน่าเอ็นดูทำให้บรรดาเจ้าของพร้อมที่จะเปย์ความสะดวกสบายให้กับลูกน้อยสี่ขากันแบบไม่อั้น ซึ่งส่งผลให้ตลาดปล่อยเช่าคอนโดเลี้ยงสัตว์ได้กลายเป็นอีกหนึ่งทรัพย์สินที่น่าลงทุนตามไปด้วย สำหรับคนที่มองหาโอกาสลงทุน ทั้งปล่อยเช่าให้เจ้าของสัตว์เลี้ยง และสร้างกำไรจากราคาคอนโดที่มีแนวโน้มเติบโตในอนาคต บทความนี้ Krungsri The COACH จะพาไปเจาะลึกทุกแง่มุมที่ต้องรู้ก่อนตัดสินใจซื้อคอนโดเพื่อปล่อยเช่ากัน

ส่องแนวโน้มการเพิ่มขึ้นของคอนโดเลี้ยงสัตว์ได้

แนวโน้มคอนโดเลี้ยงสัตว์

ตลาดคอนโดเลี้ยงสัตว์ได้ในประเทศไทยมีการขยายตัวอย่างน่าทึ่ง ข้อมูลจาก L.W.S. Wisdom and Solutions สะท้อนให้เห็นการเติบโตแบบก้าวกระโดดของตลาดคอนโดเลี้ยงสัตว์ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ในปี 2566 ความต้องการคอนโดเลี้ยงสัตว์ได้พุ่งสูงถึง 23,000 ยูนิต จากเพียง 500 ยูนิตในปี 2554 หรือเติบโตมากถึง 4,600% สะท้อนให้เห็นถึงพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปอย่างชัดเจน ปัจจุบันผู้คนเลือกใช้ชีวิตโสดมากขึ้น หากแต่งงานก็เลือกที่จะไม่มีลูก และหันมาเลี้ยงสัตว์เป็นหนึ่งในสมาชิกครอบครัวแทน (Pet Humanization) ทำให้ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ต่างปรับตัวเพื่อตอบสนองความต้องการนี้อย่างจริงจัง

เปิดลิสต์ 5 คอนโดเลี้ยงสัตว์ได้จากแบรนด์ชั้นนำในไทย

ลิสต์คอนโดเลี้ยงสัตว์ได้

Krungsri The COACH รวบรวมตัวอย่างโครงการคอนโดเลี้ยงสัตว์ได้ที่น่าสนใจจากผู้พัฒนารายใหญ่มาให้ดู เพื่อเป็นไอเดียสำหรับคนที่กำลังมองหาการลงทุนคอนโดสำหรับปล่อยเช่า ซึ่งแต่ละโครงการจะมีจุดเด่นที่แตกต่างกันไป ดังนี้
 

1. LIFE เจเจ อินเตอร์เชนจ์ เพ็ทพอล จาก AP Thai

โครงการคอนโด Low-Rise จาก AP Thai ที่ออกแบบเพื่อคนรักสัตว์โดยเฉพาะภายใต้แนวคิด “Unapologetic Pet Comfort” โดดเด่นด้วยทำเลที่เชื่อมต่อย่านจตุจักร-อารีย์-บางซื่อ ใกล้สวนสาธารณะขนาดใหญ่ พร้อมส่วนกลางสำหรับสัตว์เลี้ยงครบครัน และทุกยูนิตสามารถเลี้ยงสัตว์ได้
 

2. The Base รัชดา 19 จากแสนสิริ

คอนโด Low-Rise จากแสนสิริในย่านรัชดาภิเษกที่ตอบโจทย์คนเลี้ยงสัตว์อย่างตรงจุด ด้วยการจัดอาคาร B ให้เป็นโซน Pet-Friendly โดยเฉพาะ เพื่อความเป็นสัดส่วน โครงการตั้งอยู่ใจกลางทำเล เดินทางสะดวกสบายใกล้ MRT สถานีรัชดาภิเษก พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกที่รองรับทั้งคนและสัตว์เลี้ยง
 

3. Origin Play Sri Udom Station จาก Origin Vertical

โครงการ Pet-Friendly แห่งแรกในย่านอุดมสุข-ศรีนครินทร์จาก Origin ที่มีจุดเด่นคือการแยกอาคารสำหรับผู้เลี้ยงสัตว์ (Pet-Friendly Tower) ออกมาอย่างชัดเจน เพื่อความเป็นส่วนตัวสูงสุด ทำเลสะดวกสบายใกล้รถไฟฟ้าสายสีเหลือง สถานีศรีอุดม และจัดเต็มส่วนกลางเพื่อเอาใจคนรักสัตว์โดยเฉพาะ
 

4. MARU CHULA จาก Major Development

คอนโด High-Rise จาก Major Development ผู้บุกเบิกคอนโดเลี้ยงสัตว์ได้ในไทย ชูจุดเด่นด้วยทำเลศักยภาพใจกลางเมือง ใกล้จุฬาฯ และถนนบรรทัดทอง เพียง 200 เมตร อีกทั้งยังเดินทางสะดวก ใกล้ MRT หัวลำโพง และทางด่วนศรีรัช โดยเป็นโครงการ Pet Friendly หนึ่งเดียวบนทำเล จุฬาสามย่าน มีการจัดสรรในส่วนของ Pet Zone ควบคู่ไปกับสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับคนเมืองอย่างครบครัน ตอบโจทย์ทั้งคนทำงานและนักศึกษา จะอยู่เองหรือปล่อยเช่าก็คุ้ม
 

5. Metris District Ladprao จาก Major Development

อีกหนึ่งคอนโดใหม่ ที่มีส่วนกลางสำหรับสัตว์เลี้ยงแบบจัดเต็ม จาก Major Development ทำเลใจกลางห้าแยกลาดพร้าว ใกล้ MRT พหลโยธิน เพียง 230 ม. และ BTS ห้าแยกลาดพร้าว โดดเด่นด้วยเฟอร์นิเจอร์ครบทั้งห้อง และ Home Automation ครบเซต พร้อมส่วนกลางกว่า 6 ชั้น ที่ตอบโจทย์ทั้งผู้อยู่อาศัย และสัตว์เลี้ยงอย่างลงตัว

ทำไมคอนโดเลี้ยงสัตว์ได้ถึงน่าลงทุนซื้อเพื่อปล่อยเช่าในปี 2568

การลงทุนซื้อคอนโดเพื่อปล่อยเช่าสำหรับคอนโด Pet Friendly มีแนวโน้มที่จะสร้างผลตอบแทนที่ดีในอนาคต ด้วย 2 เหตุผลสำคัญ
  1. ตอบโจทย์ตลาดเฉพาะกลุ่ม (Niche Market) : กลุ่มคนรักสัตว์เป็นตลาดที่มีกำลังซื้อสูง และมีความต้องการที่ชัดเจน การปล่อยเช่าคอนโดเลี้ยงสัตว์ได้ จึงเป็นการตอบสนองอุปสงค์ของตลาดกลุ่มนี้โดยตรง ซึ่งเป็นกลุ่มที่ยอมจ่ายเพื่อความสุขของสัตว์เลี้ยงเสมือนสมาชิกในครอบครัว
  2. โอกาสในการปล่อยเช่าสูงขึ้น : ด้วยอุปทาน (Supply) ที่ยังจำกัดเมื่อเทียบกับความต้องการ (Demand) ที่สูงขึ้น ทำให้คอนโดประเภทนี้มีโอกาสปล่อยเช่าได้ง่าย และด้วยจำนวนโครงการที่ยังมีไม่เยอะทำให้มีแนวโน้มได้รับผลตอบแทนค่าเช่าที่ดีกว่าคอนโดทั่วไปในทำเลเดียวกัน

6 เช็กลิสต์สำคัญ ก่อนลงทุนซื้อคอนโดเลี้ยงสัตว์ได้เพื่อปล่อยเช่า

ลงทุนซื้อคอนโดเลี้ยงสัตว์ได้

ก่อนตัดสินใจลงทุนซื้อคอนโดเลี้ยงสัตว์ได้เพื่อปล่อยเช่า เราควรตรวจสอบรายละเอียดต่าง ๆ ให้รอบคอบ เพื่อให้แน่ใจว่าคอนโดที่เลือกนั้นเหมาะสม และไม่มีปัญหาตามมาในภายหลัง โดย Krungsri The COACH ได้สรุป 6 เช็กลิสต์สำคัญมาให้แล้ว
 

1. กฎระเบียบการเลี้ยงสัตว์ในคอนโด

สิ่งแรกและสำคัญที่สุดที่เราต้องตรวจสอบคือ ข้อบังคับและกฎระเบียบต่าง ๆ ซึ่งแบ่งได้เป็น 2 ระดับ ได้แก่ กฎหมายจากหน่วยงานภาครัฐ และกฎระเบียบเฉพาะของตัวคอนโดเอง
 

1.1 ข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร

เรื่องสำคัญที่ต้องจับตาคือ “ข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่อง การควบคุมการเลี้ยงหรือปล่อยสัตว์” ซึ่งจะเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 10 มกราคม 2569 เป็นต้นไป โดยมีข้อกำหนดที่ส่งผลโดยตรงต่อผู้อยู่อาศัยในคอนโด เช่น การจำกัดจำนวนสัตว์เลี้ยงตามขนาดห้องพัก โดยกำหนดให้ห้องชุดที่มีพื้นที่เกิน 80 ตร.ม. จะเลี้ยงสุนัขหรือแมวได้ไม่เกิน 2 ตัว นอกจากนี้ เจ้าของยังมีหน้าที่ต้องนำสัตว์เลี้ยงไปขึ้นทะเบียน และฝังไมโครชิปด้วย
 

1.2 กฎระเบียบเฉพาะของคอนโด

แต่ละโครงการจะมีนโยบายของนิติบุคคลอาคารชุดที่แตกต่างกัน และอาจมีเงื่อนไขที่เข้มงวดกว่าข้อบัญญัติของ กทม. ได้ ควรตรวจสอบให้แน่ชัดในประเด็นต่าง ๆ เช่น
  • จำนวนสัตว์เลี้ยง : บางโครงการอาจอนุญาตให้เลี้ยงได้เพียง 1 ตัวต่อห้อง แม้ว่าห้องจะมีขนาดใหญ่
  • ขนาด และน้ำหนัก : อาจมีการกำหนดน้ำหนักของสัตว์เลี้ยง เช่น ไม่เกิน 15 หรือ 20 กิโลกรัม
  • สายพันธุ์ : อาจมีข้อห้ามสำหรับสุนัขบางสายพันธุ์ที่ถูกจัดว่าเป็นสายพันธุ์ควบคุมพิเศษ หรือสัตว์ประเภทอื่น
  • พื้นที่อนุญาต (Pet-Friendly Zones) : ตรวจสอบว่ามีการแบ่งแยกอาคารหรือชั้นสำหรับผู้เลี้ยงสัตว์โดยเฉพาะหรือไม่ และสัตว์เลี้ยงสามารถเข้าใช้พื้นที่ส่วนใดได้บ้าง
  • การใช้พื้นที่ส่วนกลาง : โดยทั่วไปสัตว์เลี้ยงจะต้องอยู่ในสายจูงหรือรถเข็นเสมอ และอาจต้องใช้ลิฟต์บริการที่กำหนดไว้
  • เอกสารยืนยัน : ควรขอสำเนานโยบาย และกฎระเบียบการเลี้ยงสัตว์ของคอนโดเป็นลายลักษณ์อักษรทุกครั้งเพื่อเป็นหลักฐาน
 

2. ขนาดและการออกแบบภายในห้อง

ขนาดและการออกแบบห้องส่งผลโดยตรงต่อคุณภาพชีวิตของผู้เช่า และสัตว์เลี้ยง ซึ่งเป็นปัจจัยที่มีผลต่อการตัดสินใจเช่าด้วย
  • พื้นที่ใช้สอย : หากต้องการปล่อยเช่าให้กลุ่มเป้าหมายที่เลี้ยงสัตว์ 2 ตัว ควรเลือกห้องชุดขนาดมากกว่า 80 ตร.ม. เพื่อให้สอดคล้องกับข้อบัญญัติ กทม. และให้สัตว์เลี้ยงมีพื้นที่เพียงพอ
  • วัสดุปูพื้น : ควรเป็นวัสดุที่ทนทานต่อรอยขีดข่วน และทำความสะอาดง่าย เช่น กระเบื้องหรือไวนิลคุณภาพดี
  • การระบายอากาศ : ระบบระบายอากาศที่ดีเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อจัดการเรื่องกลิ่น และขนสัตว์
  • ความปลอดภัยบริเวณระเบียง : ควรตรวจสอบว่าราวระเบียงแข็งแรง และสามารถติดตั้งตาข่ายนิรภัยเพิ่มเติมได้หรือไม่ เพื่อป้องกันอุบัติเหตุ
 
คอนโด Pet Friendly
 

3. สิ่งอำนวยความสะดวก หรือส่วนกลาง

คอนโด Pet Friendly ที่ดีควรมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ออกแบบมาเพื่อรองรับสัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะ ซึ่งเป็นจุดขายสำคัญในการดึงดูดผู้เช่าอย่างมีประสิทธิภาพ
  • Pet Park : พื้นที่สีเขียวปลอดภัยให้สัตว์เลี้ยงได้วิ่งเล่นออกกำลังกาย
  • Pet Shower / Grooming Room : ห้องอาบน้ำหรือตัดแต่งขนสำหรับสัตว์เลี้ยง ช่วยเพิ่มความสะดวกสบาย
  • จุดทิ้งมูลสัตว์ : มีถังขยะ และอุปกรณ์ทำความสะอาดจัดเตรียมไว้ให้เป็นสัดส่วน
  • ลิฟต์สำหรับสัตว์เลี้ยง : บางโครงการมีลิฟต์แยกเพื่อลดการรบกวนผู้อยู่อาศัยท่านอื่น
 

4. ค่าส่วนกลางคอนโดเลี้ยงสัตว์ได้

โดยทั่วไป คอนโดเลี้ยงสัตว์อาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม โดยผู้ซื้อต้องนำมาคำนวณในแผนการเงินเอง
  • ค่าส่วนกลาง : อาจมีอัตราสูงกว่าคอนโดทั่วไปเล็กน้อย เพื่อนำไปบำรุงรักษาส่วนกลางสำหรับสัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะ
  • ค่าธรรมเนียมเฉพาะสำหรับสัตว์เลี้ยง : บางโครงการอาจเรียกเก็บค่าลงทะเบียนแรกเข้า ค่าธรรมเนียมรายปีต่อตัว หรือกำหนดให้เจ้าของต้องทำประกันภัยสำหรับสัตว์เลี้ยง
 

5. สิ่งอำนวยความสะดวกโดยรอบ

ทำเลที่ตั้งที่ดีควรรายล้อมไปด้วยสถานที่ที่จำเป็นสำหรับการดูแลสัตว์เลี้ยง เพื่อให้ผู้เช่าและสัตว์เลี้ยงได้รับความสะดวกสบายมากที่สุด
  • คลินิก และโรงพยาบาลสัตว์ : เป็นปัจจัยสำคัญอันดับต้น ๆ เพื่อความสะดวกในการดูแลสุขภาพ และรับมือเหตุฉุกเฉิน
  • ร้านค้า Pet Shop : ร้านขายอาหาร อุปกรณ์ และบริการตัดแต่งขน ช่วยให้การดูแลสัตว์เลี้ยงเป็นเรื่องง่าย
  • พื้นที่สาธารณะ : การอยู่ใกล้สวนสาธารณะ หรือพื้นที่ที่สามารถพาสัตว์เลี้ยงไปเดินเล่นได้ถือเป็นข้อได้เปรียบอย่างมาก
 

6. ก่อนปล่อยเช่าคอนโดเลี้ยงสัตว์ได้ วางแผนการเงินให้ดี ไม่มีเจ็บตัว

การวางแผนทางการเงินให้ดี เป็นหัวใจสำคัญในการลงทุนปล่อยเช่าคอนโดเลี้ยงสัตว์ได้ให้ประสบความสำเร็จ โดยจะมี 2 ส่วนหลัก ๆ ที่ต้องพิจารณา ดังนี้
 

6.1 งบประมาณสำหรับการซื้อหรือเช่า

การแจกแจงงบประมาณ และค่าใช้จ่ายทั้งหมดให้ชัดเจน จะช่วยให้เราเห็นต้นทุนที่แท้จริงของสินทรัพย์ เข้าใจค่าใช้จ่ายของผู้เช่าในอนาคตที่ต้องแบกรับ และสามารถคำนวณค่าเช่าที่ตอบโจทย์ผู้เช่า และทำกำไรได้อย่างแม่นยำ
  • ค่างวดผ่อนคอนโด หรือค่าเช่า : ค่าใช้จ่ายหลักที่ต้องประเมินตามกำลังทรัพย์ของผู้ให้เช่า
  • ค่าส่วนกลาง : ควรตรวจสอบให้แน่ชัดว่ามี ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมสำหรับสัตว์เลี้ยงหรือไม่ ซึ่งคอนโด Pet Friendly หลายแห่งอาจมีการเรียกเก็บเพิ่มเพื่อบำรุงรักษาสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับสัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะ
  • ค่าใช้จ่ายในการดูแลสัตว์เลี้ยง : ต้องประเมินค่าใช้จ่ายส่วนนี้ที่ผู้เช่าต้องรับผิดชอบด้วย เช่น ค่าอาหาร ของเล่น ทรายแมว และโดยเฉพาะค่ารักษาพยาบาลยามเจ็บป่วย ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง
 

6.2 การพิจารณาสินเชื่อคอนโด

สินเชื่อคอนโดคือเครื่องมือทางการเงินที่ทรงพลัง ช่วยให้เราสามารถใช้เงินก้อนจากสถาบันการเงิน (Leverage) มาสร้างรายได้จากการปล่อยเช่าคอนโดได้ แต่การจะใช้เครื่องมือนี้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดนั้น การเลือกสินเชื่อที่เหมาะสมจึงมีความสำคัญไม่แพ้การเลือกตัวคอนโดเอง
  • อัตราดอกเบี้ย และเงื่อนไข : ควรเปรียบเทียบข้อเสนอสินเชื่อคอนโดจากสถาบันการเงินต่าง ๆ อย่างละเอียด ทั้งอัตราดอกเบี้ยในช่วงโปรโมชัน และอัตราดอกเบี้ยหลังหมดโปรโมชัน (MRR/MLR) รวมถึงเงื่อนไขปลีกย่อย เช่น ค่าธรรมเนียมต่าง ๆ หรือเงื่อนไขการไถ่ถอนก่อนกำหนด เพื่อให้ได้ข้อเสนอที่คุ้มค่าที่สุด
  • ความสามารถในการผ่อนชำระ : คำนวณสัดส่วนภาระหนี้ต่อรายได้ของตนเอง เพื่อประเมินความสามารถในการผ่อนชำระ เพื่อให้มั่นใจว่าคุณจะสามารถบริหารจัดการภาระผ่อนได้อย่างสบาย และมีสภาพคล่องเหลือสำหรับค่าใช้จ่ายอื่น ๆ
  • เอกสารที่จำเป็น : การเตรียมเอกสารให้พร้อมจะช่วยให้กระบวนการอนุมัติสินเชื่อเป็นไปอย่างรวดเร็ว ควรเตรียมเอกสารแสดงตน เอกสารแสดงรายได้ (สลิปเงินเดือน, หนังสือรับรองเงินเดือน, รายการเดินบัญชี) และข้อมูลด้านเครดิตให้ครบถ้วน
  • ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ : หากคุณไม่แน่ใจหรือต้องการคำแนะนำเพิ่มเติม การปรึกษาเจ้าหน้าที่ธนาคาร หรือที่ปรึกษาทางการเงินที่มีประสบการณ์เป็นทางเลือกที่ดีที่สุด เพราะเจ้าหน้าที่ธนาคารจะสามารถให้ข้อมูลเชิงลึก และช่วยคุณเลือกผลิตภัณฑ์สินเชื่อคอนโดที่ตอบโจทย์ความต้องการ และเป้าหมายการลงทุนของคุณได้อย่างแม่นยำ

Krungsri The COACH แนะนำ : สินเชื่อคอนโด ผ่อนสบาย ๆ ด้วยดอกเบี้ยต่ำ

ไม่ว่าคุณจะเป็นคนรักสัตว์ที่กำลังมองหาคอนโดเพื่ออยู่กับสัตว์เลี้ยง หรือเป็นนักลงทุนคอนโดที่ต้องการคว้าโอกาสจากตลาด Pet Friendly ที่กำลังโตแรง Krungsri The COACH ขอแนะนำ “สินเชื่อคอนโด” จากธนาคารกรุงศรีอยุธยา ที่ตอบโจทย์ทั้งการอยู่อาศัยและการลงทุน ด้วยข้อเสนอสุดพิเศษ
  • ดอกเบี้ยต่ำ สบายใจปีแรก เริ่มต้นเพียง 1.99% ต่อปี
  • ระยะเวลาผ่อนชำระนานสูงสุดถึง 30 ปี
  • วงเงินกู้สูงสุด 100% ของราคาประเมิน และกู้เพิ่มได้อีกสูงสุด 10% สำหรับค่าตกแต่ง
  • ค่าประเมินหลักประกัน มูลค่า 3,210 บาท (วันที่ 16 พ.ค. 68 – 31 ส.ค. 68)

ฟรีค่าจดจำนอง 1% ของวงเงินกู้อนุมัติ หรือสูงสุดไม่เกิน 200,000 บาท เฉพาะลูกค้าที่ซื้อ MRTA/MLTA ตามเงื่อนไขที่กำหนด และเลือกดอกเบี้ยทางเลือกฟรีค่าจดจำนองเท่านั้น
 
สินเชื่อคอนโด ธนาคารกรุงศรีอยุธยา

กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว l อัตราดอกเบี้ยลดต้นลดดอกตลอดอายุสัญญาอยู่ระหว่าง 4.043% - 5.732% ต่อปี สมมติฐานการคำนวณมาจากอัตราดอกเบี้ย MRR ณ วันที่ 16 พ.ค. 68 = 7.120% ต่อปี ทั้งนี้อัตราดอกเบี้ยลอยตัวสามารถเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้นหรือลดลงได้ รายละเอียดดอกเบี้ยและการคำนวณเพิ่มเติมดูได้ใน สินเชื่อคอนโด

การลงทุนในคอนโดเลี้ยงสัตว์ได้เพื่อปล่อยเช่า ไม่ได้เป็นเพียงการตามกระแส แต่คือการตัดสินใจลงทุนบนเมกะเทรนด์ที่แข็งแกร่ง จากพฤติกรรม “Pet Parent” ที่ผู้คนพร้อมทุ่มเทเพื่อสัตว์เลี้ยงเสมือนสมาชิกในครอบครัว ซึ่งผลักดันให้ตลาดสัตว์เลี้ยงในไทยมีแนวโน้มมูลค่าสูงถึงกว่า 66,000 ล้านบาทในปี 2026 ปรากฏการณ์นี้ได้ดึงดูดให้ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ต่างเข้ามาแข่งขันพัฒนาโครงการคุณภาพเพื่อตอบโจทย์ตลาดนี้โดยเฉพาะ สำหรับนักลงทุน นี่จึงเป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่า คอนโด Pet Friendly คือสินทรัพย์ที่มีจุดขายเฉพาะตัว เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายกำลังซื้อสูง และมีศักยภาพยอดเยี่ยมในการสร้างผลตอบแทนที่ดีทั้งในรูปแบบค่าเช่า (Rental Yield) และมูลค่าที่เพิ่มขึ้นในระยะยาว (Capital Gain) ถือเป็นโอกาสสำคัญในการเปลี่ยนไลฟ์สไตล์ของผู้คนให้กลายเป็นพอร์ตการลงทุนที่เติบโตอย่างยั่งยืน


อ้างอิง
ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง
บทความที่เกี่ยวข้อง
พิมพ์สิ่งที่ต้องการค้นหา