ปลดหนี้ VS ลงทุน เลือกทางไหนดี มีเงินก้อนควรทำอะไรก่อน

Posted On 19 ธันวาคม 2568
By Krungsri The COACH
เมื่อมีเงินก้อนอยู่ในมือ หลายคนคงแอบคิดเหมือนกันว่า จะเอาไปลงทุนดีไหม ? หรือปลดหนี้ให้จบไปเลยจะดีกว่า ? คำตอบของเรื่องนี้ไม่มีสูตรตายตัว เพราะแต่ละคนมีเป้าหมายและภาระทางการเงินที่แตกต่างกัน สิ่งสำคัญที่สุดคือการเข้าใจสถานะทางการเงินของตัวเองให้ชัด และรู้ว่าทางเลือกไหนจะช่วยให้ใช้เงินก้อนนี้ได้คุ้มค่าที่สุด
ในบทความนี้ Krungsri The COACH อยากชวนคุณมาดูแนวทางดี ๆ ที่จะช่วยให้คุณตัดสินใจได้อย่างมั่นใจ ว่าทางไหนเหมาะกับคุณที่สุด และทำให้เงินก้อนนี้สร้างทั้ง “อิสระ” และ “ความสบายใจ” ไปพร้อมกัน
สำรวจ และจำแนกหนี้สิน เพื่อจัดการให้ถูกจุด
ก่อนตัดสินใจว่าจะปลดหนี้หรือเอาเงินไปลงทุน สิ่งแรกที่ควรทำคือ
“สำรวจสุขภาพหนี้สินของตัวเอง” ให้ชัด การแยกประเภทหนี้ออกเป็นหมวด ๆ จะช่วยให้เราเห็นภาพรวม จัดลำดับความสำคัญ และวางแผนจัดการหนี้ได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
จากตารางด้านบนจะเห็นว่า หากคุณมีหนี้อยู่ในโซนสีเขียว เช่น หนี้บ้าน ซึ่งมีดอกเบี้ยต่ำ และระยะเวลาผ่อนยาว คุณอาจจะแบ่งเงินบางส่วนไปโปะหนี้อื่นเพื่อเพิ่มสภาพคล่อง และนำเงินส่วนที่เหลือไปลงทุนต่อยอดได้ แต่ถ้าหนี้ของคุณอยู่ในโซนสีแดงหรือสีเหลือง คุณควรรีบจัดการหนี้เหล่านี้ก่อน เพราะเป็นหนี้ที่มีดอกเบี้ยสูง การปิดหนี้ให้หมดจะช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายรายเดือน และทำให้คุณพร้อมลงทุนได้อย่างมั่นใจมากขึ้นในอนาคต
Krungsri The COACH ขอแนะนำ : บริการรวมหนี้เป็นก้อนเดียว ตัวช่วยปลดหนี้หลายก้อนอย่างมีประสิทธิภาพ
หากคุณมีหนี้หลายก้อน และต้องการรวมหนี้ที่มีดอกเบี้ยสูงให้กลายเป็นก้อนเดียว “
สินเชื่อหมุนเวียนส่วนบุคคลกรุงศรี เพื่อรวมหนี้เป็นก้อนเดียว” เป็นหนึ่งในทางเลือกที่ตอบโจทย์ เพราะช่วยให้คุณวางแผนผ่อนชำระได้ง่ายขึ้น ด้วยยอดผ่อนต่อเดือนที่ลดลง และอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่าเดิม ส่งผลให้คุณสามารถปลดหนี้ได้เร็วขึ้น และพร้อมก้าวสู่การลงทุนได้ไวกว่าเดิม
กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว | อัตราดอกเบี้ยลดต้นลดดอกปกติ 21% - 25% ต่อปี
ศึกษารายละเอียด เงื่อนไข และอัตราดอกเบี้ยพิเศษเพิ่มเติมที่ www.krungsri.com
เลือกลงทุน หรือโปะหนี้ดี ? ลองจัดสรรเงิน 2 สไตล์
เมื่อประเมินสถานะหนี้ของตัวเองแล้วพบว่ายังมีเงินเหลือสำหรับลงทุน ขั้นตอนต่อไปคือการวางแผนจัดสรรเงินให้เหมาะกับเป้าหมายของตัวเอง โดยเรามีแนวทางการจัดสรรเงินที่แตกต่างกัน 2 สไตล์ตาม ระดับดอกเบี้ยหนี้ ความเสี่ยงที่ยอมรับได้ และวินัยทางการเงินของแต่ละคน
สไตล์ที่ 1 : เน้นลดหนี้สร้างความสบายใจ (โปะหนี้ 60% / ลงทุน 40%)
เหมาะกับผู้ที่มีหนี้สินอยู่ในโซนสีเหลืองหรือสีแดง (หนี้ดอกเบี้ยสูง) หรือ ต้องการลดความกดดันด้านภาระหนี้ คุณสามารถเลือกแบ่งเงินสำหรับโปะหนี้ 60% และสามารถแบ่งเงินอีก 40% สำหรับลงทุนเพื่อโอกาสสร้างผลตอบแทนแบบค่อยเป็นค่อยไปได้ด้วย
แนะนำตัวเลือกลงทุนที่น่าสนใจ
สำหรับเงิน 40% ที่แบ่งมาลงทุนในสไตล์นี้ ควรเน้นสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำถึงปานกลาง เพื่อให้สอดคล้องกับเป้าหมายที่เน้นความสบายใจเป็นหลัก
- บัญชีเงินฝากดิจิทัลดอกเบี้ยสูง : ให้ผลตอบแทนสูงกว่าบัญชีออมทรัพย์ทั่วไป มีสภาพคล่องสูง สามารถถอนออกมาใช้ได้สะดวก
- กองทุนรวมตราสารหนี้ : เป็นการลงทุนในตราสารหนี้คุณภาพดีเพื่อโอกาสรับผลตอบแทนที่ดีกว่าเงินฝากออกทรัพย์ทั่วไป โดยมีผู้เชี่ยวชาญบริหารจัดการให้ มีความเสี่ยงค่อนข้างต่ำ ผลตอบแทนจะอยู่ในรูปส่วนต่างราคา
- ตราสารหนี้ (หุ้นกู้/พันธบัตร) : เปรียบเสมือนการที่เราให้บริษัทเอกชนหรือรัฐบาลยืมเงิน โดยเราจะได้รับผลตอบแทนในรูปของดอกเบี้ยอย่างสม่ำเสมอ
สไตล์ที่ 2 : เน้นลงทุนสร้างผลตอบแทน (ลงทุน 60% / โปะหนี้ 40%)
สไตล์นี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีภาระหนี้ส่วนใหญ่อยู่ในโซนสีเขียว (หนี้ดอกเบี้ยต่ำ) มีวินัยทางการเงินดี และยอมรับความผันผวนจากการลงทุนได้ โดยคาดหวังผลตอบแทนระยะยาวที่ “มีโอกาส” สูงกว่าอัตราดอกเบี้ยหนี้ โดยเป้าหมายคือการเปิดโอกาสให้เงินลงทุนเติบโตอย่างเต็มที่ เพื่อนำดอกผลที่ได้จากการลงทุนมาใช้ลดภาระหนี้ในระยะถัดไป
แนะนำตัวเลือกลงทุนที่น่าสนใจ
สำหรับผู้ที่พร้อมรับความเสี่ยงเพื่อโอกาสสร้างผลตอบแทนที่สูงขึ้น การลงทุนในกองทุนรวมหุ้น หรือกองทุนผสมที่มีสัดส่วนหุ้นเป็นหลัก ซึ่งมีโอกาสสร้างผลตอบแทนระยะยาวได้สูงกว่าเงินฝากและตราสารหนี้ทั่วไป ถือเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ แต่เนื่องจากการลงทุนในสินทรัพย์ประเภทหุ้นมีความผันผวนสูง จึงเหมาะกับผู้ที่มีเป้าหมายระยะยาว (5–10 ปีขึ้นไป) และไม่มีความจำเป็นต้องใช้เงินก้อนนี้ในระยะสั้น หากสนใจลงทุนแต่ต้องการขอรับข้อมูลเพิ่มเติม สามารถปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านการวางแผนชีวิต การเงิน และการลงทุนจากธนาคารกรุงศรีอยุธยาได้ที่ ฮอตไลน์ 02-296-5959 (จันทร์–ศุกร์ เวลา 9.00–17.00 น.) หรือ
ฝากข้อมูลเพื่อให้เจ้าหน้าที่ติดต่อกลับได้เช่นกันก็ได้เช่นกัน
ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน
สุดท้ายนี้ เราอาจจะไม่มีคำตอบที่ตายตัวว่า ระหว่างปลดหนี้กับลงทุนอะไรคือทางเลือกที่ดีที่สุด เพราะคำตอบที่ดีที่สุดขึ้นอยู่กับสถานการณ์หนี้สิน และเป้าหมายทางการเงินของแต่ละคน สิ่งสำคัญที่สุดคือการเริ่มต้นสำรวจ และทำความเข้าใจภาระหนี้ของตนเองอย่างละเอียด จากนั้นจึงเลือกแนวทางที่เหมาะสมกับสไตล์ และความสบายใจของคุณ ไม่ว่าคุณจะเลือกเส้นทางไหน การมีวินัย และลงมือทำอย่างสม่ำเสมอคือหัวใจสำคัญที่จะนำคุณไปสู่เป้าหมายทางการเงินที่วางไว้ได้สำเร็จ สร้างทั้งความมั่นคงในปัจจุบัน และความมั่งคั่งที่ยั่งยืนในอนาคต
อ้างอิง