รวมเรื่องควรรู้การต่อภาษีรถยนต์ 2568
รอบรู้เรื่องรถ

รวมเรื่องควรรู้การต่อภาษีรถยนต์ 2568

icon-access-time Posted On 25 ตุลาคม 2565
By Krungsri The COACH
ปัจจุบัน รถยนต์กลายเป็นสิ่งจำเป็นของใครหลายคน ไม่ว่าจะซื้อเพราะเหตุผลด้านการเดินทางหรือความสะดวกสบาย แต่สิ่งสำคัญที่เจ้าของรถทุกคนต้องไม่มองข้ามคือ “การต่อภาษีรถยนต์ประจำปี” หรือที่หลายคนเรียกสั้น ๆ ว่า “การต่อทะเบียนรถ”

การละเลยเรื่องนี้อาจทำให้ถูกปรับ หรือเจอปัญหาที่ไม่คาดคิดได้ ดังนั้น Krungsri The COACH จะพาทุกคนมาทำความเข้าใจอย่างง่าย ๆ ถึงเอกสารที่ต้องใช้สำหรับการ ต่อภาษีรถยนต์ต้องใช้อะไรบ้างและมีช่องทางไหนบ้างที่สามารถดำเนินการได้สะดวกที่สุด?

เพราะการรู้ข้อมูลเหล่านี้ไว้ล่วงหน้า ไม่เพียงช่วยให้คุณหลีกเลี่ยงปัญหาทางกฎหมาย แต่ยังทำให้การใช้รถของคุณเป็นเรื่องที่มั่นใจ และสบายใจมากขึ้นอีกด้วย

การต่อภาษีรถยนต์สำคัญอย่างไร ?

นี่อาจเป็นคำถามที่หลายคนสงสัย ซึ่งคำตอบพื้นฐานก็คือ เป็นหน้าที่ที่กฎหมายกำหนดไว้ แต่หากมองให้ลึกกว่านั้น การใช้รถยนต์ย่อมทำให้ถนนเกิดการสึกหรอ และจำเป็นต้องได้รับการซ่อมแซมหรือสร้างเส้นทางใหม่ การที่เจ้าของรถทุกคนร่วมกันชำระภาษี จึงเปรียบเสมือนการช่วยสนับสนุนให้ภาครัฐสามารถพัฒนาถนนและระบบคมนาคมให้ดียิ่งขึ้น เพื่อความปลอดภัยและความสะดวกในการเดินทางของทุกคน

ดังนั้น การต่อภาษีรถยนต์ประจำปี ไม่ใช่แค่การทำตามกฎของกรมการขนส่งทางบกเท่านั้น แต่ยังเป็นความรับผิดชอบสำคัญของเจ้าของรถทุกคน โดยเฉพาะมือใหม่ ที่ต้องตระหนักว่า รถทุกคันที่จดทะเบียนแล้ว มีหน้าที่ต้องต่อภาษีอย่างต่อเนื่องทุกปี
 
ความสำคัญการต่อภาษีรถยนต์

ถ้าไม่ต่อภาษีรถยนต์จะเป็นอย่างไร ?

หากละเลยการต่อภาษีรถยนต์ย่อมถือเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย และถือเป็นเรื่องสำคัญที่คนใช้รถควรรู้ แต่ถ้าหากไม่ต่อภาษีจะต้องปฏิบัติ ดังนี้
 

1. เสียค่าปรับ

ตามปกติแล้ว การต่อภาษีรถยนต์ สามารถทำได้ล่วงหน้าก่อนทะเบียนรถยนต์ หมดอายุไม่เกิน 3 เดือน (หรือ 90 วัน) แต่ถ้าต่อภาษีรถยนต์ล่าช้าจะโดนค่าปรับ 1% ของภาษีรถยนต์/เดือน ยิ่งปล่อยไว้นาน ค่าปรับก็จะยิ่งเพิ่ม หากปล่อยไว้นาน อาจโดนค่าปรับย้อนจนหลังอ่วมแน่นอน
 

2. ถูกระงับทะเบียนรถยนต์

เมื่อปล่อยรถไว้นาน โดยไม่ได้ทำการต่อทะเบียนรถยนต์เกิน 3 ปี ทางขนส่งจะดำเนินการระงับทะเบียนรถทันที แต่ถ้าหากจะใช้รถคันเดิม จะต้องดำเนินการยื่นขอจดทะเบียนรถใหม่พร้อมคืนป้ายทะเบียนรถ รวมถึงดำเนินการชำระภาษีรถยนต์ย้อนหลัง สำหรับรถของใครที่มีการซ่อมเป็นเวลายาวนาน หรือจอดไว้ไม่ได้ใช้งาน ขนส่งก็ไม่ได้ใจร้ายขนาดนั้น เราสามารถยื่นแสดงการระงับใช้รถชั่วคราวล่วงหน้าที่ขนส่งได้ เพื่อที่จะได้ไม่ต้องเสียภาษีในช่วงเวลานั้น ๆ
 

3. เสียค่าใช้จ่ายจิปาถะ

นอกจากค่าปรับแล้ว การไม่ต่อภาษีรถยังมีค่าใช้จ่ายอื่น ๆ อีก เช่น ค่าตรวจสภาพ ค่าป้ายใหม่ เป็นต้น นี่ยังไม่นับค่าเดินทางไปๆ มาๆ กรณีเตรียมเอกสารไม่ครบหรือโดนเรียกเอกสารเพิ่มเติมอีก ซึ่งเทียบแล้วการยื่นต่อภาษีรถตามปกติ ยังมีแต่ข้อดีมากกว่าข้อเสีย

เพราะฉะนั้น ทุกคนควรดำเนินการต่อภาษีรถยนต์เป็นประจำทุกปี เพื่อที่จะให้ไม่ต้องเสียค่าปรับย้อนหลัง แถมประหยัดเวลาอีกด้วย

หากกลัวลืม สามารถต่อภาษีรถยนต์ล่วงหน้าได้ไหม ?

หมดกังวลเรื่องการลืมไปได้เลย เพราะคุณสามารถต่อภาษีรถยนต์ล่วงหน้าได้สูงสุดถึง 90 วัน หรือประมาณ 3 เดือนก่อนวันที่ป้ายภาษีจะหมดอายุ การวางแผนต่อภาษีล่วงหน้าไม่เพียงแต่ช่วยป้องกันการลืม แต่ยังทำให้คุณมีเวลาเตรียมเอกสาร และจัดการทุกอย่างได้อย่างสบายใจ ในทางกลับกัน หากปล่อยให้ขาดต่อภาษีแม้เพียงวันเดียว ก็จะถูกคิดค่าปรับในอัตราร้อยละ 1 ของค่าภาษีต่อเดือนทันที

อ่านมาถึงตรงนี้แล้วทุกคนคงสงสัยใช่ไหมว่าเอ๊ะ ! แล้วการต่อประกันภัยภาคบังคับ (พ.ร.บ) และการต่อประกันภัยภาคสมัครใจ ต้องทำยังไงบ้าง? เราขอแนะนำ “Krungsri The COACH Ep.31 3 ข้อเจ้าของรถต้องรู้ ถ้าไม่อยากถูกจับ ถูกปรับ” ดูคลิปเต็มแบบรวดเดียวจบเข้าใจเรื่องของการต่อภาษีรถยนต์ และเอกสารในการใช้ต่อภาษีรถยนต์

ต่อภาษีรถยนต์ทำได้ที่ไหนบ้าง ?

ในปัจจุบัน การต่อภาษีรถยนต์ไม่ใช่เรื่องยุ่งยากอีกต่อไป เพราะมีช่องทางอำนวยความสะดวกมากมายให้เลือกใช้บริการได้ตามความถนัด ทั้งแบบออนไลน์ และออฟไลน์ ดังนี้
 

ช่องทางออฟไลน์ (Walk-in)

  • สำนักงานขนส่งทั่วประเทศ : ไม่ว่ารถของคุณจะจดทะเบียนที่จังหวัดไหน ก็สามารถยื่นเรื่องได้ทุกสาขาใกล้บ้าน
  • บริการเลื่อนล้อ ต่อภาษี (Drive Thru for Tax) : สะดวกสบาย ไม่ต้องลงจากรถ เพียงยื่นเอกสาร และชำระเงินที่ช่องบริการพิเศษ ณ สำนักงานขนส่งบางแห่ง
  • ที่ทำการไปรษณีย์ไทย : สามารถยื่นเรื่องได้ที่ไปรษณีย์ใกล้บ้าน โดยมีค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมเล็กน้อย
  • เคาน์เตอร์เซอร์วิส : ในร้าน 7-Eleven หรือจุดบริการที่มีสัญลักษณ์เคาน์เตอร์เซอร์วิส
  • ห้างสรรพสินค้า : ที่เข้าร่วมโครงการ “ช้อปให้พอ แล้วต่อภาษี” ซึ่งมักจะเปิดให้บริการในวันเสาร์-อาทิตย์
  • ธนาคารเพื่อการเกษตร และสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) : อีกหนึ่งทางเลือกสำหรับผู้ที่สะดวกใช้บริการผ่านธนาคาร
 

ช่องทางออนไลน์

  • เว็บไซต์กรมการขนส่งทางบก (DLT e-Service) : เป็นช่องทางหลักที่สะดวกสบาย สามารถทำได้ทุกที่ ทุกเวลา ตลอด 24 ชั่วโมง
  • แอปพลิเคชัน DLT Vehicle Tax : ต่อภาษีผ่านสมาร์ตโฟนได้ง่าย ๆ เพียงไม่กี่ขั้นตอน

ต่อภาษีรถยนต์ ต้องเตรียมเอกสารอะไรบ้าง ?

การเตรียมเอกสารให้พร้อมจะช่วยให้ขั้นตอนการต่อภาษีรวดเร็ว และราบรื่น โดยเอกสารหลักที่ต้องใช้มีเพียงไม่กี่อย่างเท่านั้น
  • สมุดคู่มือจดทะเบียนรถยนต์ : หรือที่เรียกกันว่า “เล่มทะเบียน” สามารถใช้ได้ทั้งตัวจริงหรือสำเนา
  • เอกสาร พ.ร.บ. คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ : ต้องเป็นฉบับที่ยังไม่หมดอายุ เพราะหากไม่มี พ.ร.บ. จะไม่สามารถต่อภาษีได้
  • ใบรับรองการตรวจสภาพรถ (ตรอ.) : เอกสารนี้จำเป็นสำหรับรถยนต์ที่มีอายุการใช้งานเกิน 7 ปี หรือรถจักรยานยนต์ที่มีอายุการใช้งานเกิน 5 ปี นับจากวันจดทะเบียนครั้งแรก
 
ประกันภัยภาคบังคับ พ.ร.บ.รถยนต์

4 ขั้นตอนการต่อภาษีรถยนต์ ฉบับเข้าใจง่าย

เพื่อให้เห็นภาพรวมที่ชัดเจน เราได้สรุปขั้นตอนหลัก ๆ ในการต่อภาษีรถยนต์มาให้แล้ว รับรองว่าไม่ซับซ้อนอย่างที่คิด  
 

1. นำรถไปตรวจสภาพ (สำหรับรถที่เข้าเกณฑ์)

หากรถของคุณมีอายุเกิน 7 ปี (รถจักรยานยนต์เกิน 5 ปี) ให้นำรถไปตรวจสภาพที่สถานตรวจสภาพรถเอกชน (ตรอ.) ที่ได้รับอนุญาตจากกรมการขนส่งทางบก เพื่อรับใบรับรองมาประกอบการยื่นต่อภาษี
 

2. เตรียมเอกสารให้พร้อม

รวบรวมเอกสารสำคัญ 2-3 อย่างตามที่ระบุไว้ข้างต้น ได้แก่ เล่มทะเบียน พ.ร.บ. และใบตรวจสภาพรถ (ถ้ามี) ให้ครบถ้วน
 

3. เลือกช่องทาง และชำระภาษี

เลือกช่องทางที่คุณสะดวกที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางไปยื่นเอกสารด้วยตนเองตามจุดบริการต่าง ๆ หรือเลือกทำผ่านช่องทางออนไลน์ จากนั้นชำระค่าภาษีตามที่เจ้าหน้าที่ หรือระบบแจ้ง
 

4. รับเครื่องหมายแสดงการเสียภาษี

หลังจากชำระเงินเรียบร้อย คุณจะได้รับป้ายสี่เหลี่ยม หรือที่เรียกว่า “ป้ายวงกลม” ซึ่งเป็นหลักฐานการเสียภาษีประจำปี เพื่อนำไปติดที่กระจกหน้ารถให้เห็นได้ชัดเจน

ค่าใช้จ่ายในการต่อภาษีรถยนต์

อัตราค่าภาษีรถยนต์จะแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับประเภท ขนาดเครื่องยนต์ (CC) และน้ำหนักของรถ โดยมีหลักการคำนวณเบื้องต้น ดังนี้

รถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 ที่นั่ง (เช่น รถเก๋ง, SUV) : คิดตามความจุกระบอกสูบ (CC) ของเครื่องยนต์ ได้แก่
  • 600 ซีซีแรก : ซีซีละ 0.50 บาท
  • 601 - 1,800 ซีซี : ซีซีละ 1.50 บาท
  • 1,801 ซีซีขึ้นไป : ซีซีละ 4.00 บาท

ส่วนรถยนต์นั่งส่วนบุคคลเกิน 7 ที่นั่ง (เช่น รถตู้) จะคิดตามน้ำหนักของรถ  
 

เงื่อนไขในการได้รับส่วนลดภาษีรถยนต์

สำหรับรถยนต์ที่มีอายุการใช้งานหลายปี จะมีข่าวดีคือ การได้รับส่วนลดค่าภาษี ซึ่งจะช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายได้พอสมควร
  • รถยนต์อายุครบ 6 ปี : ได้รับส่วนลด 10%
  • รถยนต์อายุครบ 7 ปี : ได้รับส่วนลด 20%
  • รถยนต์อายุครบ 8 ปี : ได้รับส่วนลด 30%
  • รถยนต์อายุครบ 9 ปี : ได้รับส่วนลด 40%
  • รถยนต์อายุเกิน 10 ปีขึ้นไป : ได้รับส่วนลดสูงสุด 50%

ต่อภาษีรถยนต์ออนไลน์ กี่วันถึงจะได้เอกสาร ?

หลังจากชำระเงินผ่านช่องทางออนไลน์เรียบร้อยแล้ว กรมการขนส่งทางบกจะดำเนินการจัดส่งใบเสร็จรับเงิน และเครื่องหมายแสดงการเสียภาษี (ป้ายวงกลม) ให้คุณทางไปรษณีย์ตามที่อยู่ที่ได้ลงทะเบียนไว้ โดยปกติจะใช้เวลาประมาณ 3-5 วันทำการ ซึ่งคุณสามารถตรวจสอบสถานะการจัดส่งผ่านเว็บไซต์ของกรมการขนส่งทางบกได้เลย

การต่อภาษีรถยนต์ถือเป็นหน้าที่สำคัญของเจ้าของรถทุกคนที่ต้องปฏิบัติเป็นประจำทุกปี ซึ่งไม่เพียงแต่เป็นการปฏิบัติตามกฎหมายเพื่อหลีกเลี่ยงค่าปรับที่ไม่จำเป็น แต่ยังเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยพัฒนาเส้นทางคมนาคมของประเทศอีกด้วย ปัจจุบันมีช่องทางในการต่อภาษีที่สะดวกสบาย และหลากหลาย การเตรียมเอกสารให้พร้อม และดำเนินการต่อภาษีล่วงหน้า จะช่วยให้คุณจัดการทุกอย่างได้อย่างราบรื่น และใช้รถยนต์คันโปรดได้อย่างสบายใจไร้กังวล
พิมพ์สิ่งที่ต้องการค้นหา