กระแสรถยนต์ไฟฟ้าในไทยยังคงร้อนแรงอย่างต่อเนื่อง เราจะเห็นยอดขายถล่มทลายของแบรนด์ใหญ่อย่างต่อเนื่อง แต่ขณะเดียวกันก็มีข่าวที่ชวนให้ต้องคิด เช่น ปัญหาด้านการเงินของบางแบรนด์ที่เคยมาแรงในตลาด EV จนต้องปิดตัวลง
สถานการณ์เหล่านี้ทำให้หลายคนเริ่มตั้งคำถามว่า
ปี 2025 นี้… รถยนต์ไฟฟ้ายังเป็นตัวเลือกที่ “คุ้มค่า” และ “ประหยัด” อยู่หรือไม่ ? ควรซื้อรถไฟฟ้าดีไหม ?
วันนี้
Krungsri The COACH จะพาคุณมาดู Checklist สำคัญ ก่อนตัดสินใจซื้อรถ EV เพื่อประเมินให้แน่ใจว่ารถ EV คือตัวเลือกที่ใช่ เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคุณ
ภาพรวมตลาดรถยนต์ไฟฟ้าปี 2025 ไปต่อหรือจอดยาว ?
ก่อนจะตัดสินใจ เรามาส่องภาพรวมตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในไทยกันก่อน ว่าทิศทางในปี 2025 เป็นอย่างไร
การเติบโตของรถยนต์ไฟฟ้าที่เข้าสู่ภาวะสมดุล
ภาพรวมยอดจดทะเบียนรถยนต์ไฟฟ้า 100% (BEV : Battery Electric Vehicle) ยังคงเติบโตสูงขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า แต่หากมองเป็นรายเดือนจะเริ่มเห็นความผันผวน อันเนื่องมาจากการปล่อยโปรโมชันรายเดือน หรือการแข่งขันในด้านราคา ซึ่งเป็นสัญญาณว่าตลาดไม่ได้เติบโตแบบก้าวกระโดดเหมือนช่วงแรก แต่กำลังเข้าสู่ภาวะสมดุล
แบรนด์จีนยังคงครองตลาด
ปฏิเสธไม่ได้ว่าผู้เล่นหลักในตลาดมาจากประเทศจีน โดยมีส่วนแบ่งตลาดรวมกันสูงกว่า 80% นำทัพโดยแบรนด์ใหญ่อย่าง BYD, MG, GAC Aion และ Changan ที่มีการเปิดตัวรุ่นใหม่ และแข่งขันกันอย่างดุเดือด เพื่อครองใจผู้บริโภคชาวไทย
นโยบายจากภาครัฐยังเป็นปัจจัยหนุน
มาตรการสนับสนุนยานยนต์ไฟฟ้า หรือ EV 3.5 ซึ่งมีผลบังคับใช้ไปจนถึงปี 2568 ยังคงเป็นแม่เหล็กชิ้นสำคัญที่ดึงดูดผู้ซื้อ ด้วยการมอบเงินอุดหนุน ลดภาษีสรรพสามิต และลดอากรนำเข้า ซึ่งส่งผลโดยตรงให้ราคารถยนต์ไฟฟ้าเข้าถึงได้ง่ายขึ้น
มุมมองจากงานวิจัยกรุงศรี
รายงานการวิเคราะห์แนวโน้มอุตสาหกรรมจากวิจัยกรุงศรี ได้คาดการณ์ว่า ตลาดยานยนต์ไฟฟ้าในไทยจะยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าจะมียอดจดทะเบียนใหม่เฉลี่ยปีละ 190,000 คัน ในช่วงปี 2567-2569 ซึ่งในจำนวนนี้คาดว่าจะเป็นรถยนต์ไฟฟ้า 100% (BEV) ประมาณ 96,000 คันต่อปี สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นว่าตลาดยังไปต่อได้อย่างแน่นอน
“สมรภูมิสงครามราคา” โอกาสของผู้ซื้อ หรือความเสี่ยงที่มองไม่เห็น ?
การแข่งขันที่รุนแรงได้จุดชนวน “สงครามราคา” ที่เราเห็นแบรนด์ต่าง ๆ ลดราคาเพื่อแย่งชิงส่วนแบ่งตลาด แม้ในมุมหนึ่งจะดูเป็นโอกาสของผู้ซื้อที่สามารถเป็นเจ้าของรถไฟฟ้า EV ได้ในราคาที่ถูกลง แต่มันคือดาบสองคม การลดราคาอย่างหนักอาจเป็นสัญญาณของภาวะการแข่งขันที่รุนแรง และที่สำคัญคือ มีแนวโน้มส่งผลกระทบโดยตรงต่อราคาขายต่อในตลาดมือสองอย่างเห็นได้ชัด
ฟันธง ! ปี 2025 ซื้อรถไฟฟ้าดีไหม ?
คำตอบคือ
“น่าซื้อ...แต่ต้องเลือกให้เป็น และเข้าใจความเสี่ยง”
สำหรับผู้บริโภคที่มีความพร้อม ปี 2025 ยังคงเป็นปีที่น่าสนใจในการตัดสินใจซื้อรถยนต์ไฟฟ้า หนึ่งในข้อดีของรถไฟฟ้า คือเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้น ตัวเลือกที่หลากหลาย และต้นทุนการใช้งานที่ยังคงต่ำกว่ารถยนต์สันดาปอย่างชัดเจน อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ของบางแบรนด์ได้เปลี่ยนกฎของเกมไปแล้ว การตัดสินใจวันนี้จึงต้องอาศัยความรอบคอบ และการประเมินความเสี่ยงที่สูงขึ้นกว่าเดิมนั่นเอง
เปิดคู่มือตัดสินใจ ใครบ้างที่เหมาะกับการซื้อรถยนต์ไฟฟ้า ?
ลองมาเช็กตัวเองกันดูว่าไลฟ์สไตล์ และความพร้อมของคุณ เหมาะกับการใช้รถยนต์ไฟฟ้าแล้วหรือยัง
Checklist 1 : พฤติกรรมการขับขี่ และไลฟ์สไตล์ของคุณ
หากคุณใช้รถส่วนใหญ่ในเมือง มีเส้นทางไป-กลับที่ทำงาน หรือบ้านที่แน่นอนในแต่ละวัน และมีระยะทางวิ่งเฉลี่ยไม่เกิน 200-300 กิโลเมตร รถยนต์ไฟฟ้าคือคำตอบที่เหมาะสมอย่างยิ่ง เพราะสามารถวางแผนการชาร์จที่บ้านได้อย่างสะดวก แต่หากคุณต้องเดินทางไกลข้ามจังหวัดบ่อยครั้งในเส้นทางที่ไม่คุ้นเคย อาจต้องพิจารณาถึงความครอบคลุมของสถานีชาร์จสาธารณะอย่างรอบคอบ
Checklist 2 : ความพร้อมด้านที่อยู่อาศัย และการชาร์จ
หากคุณอาศัยในบ้านเดี่ยว หรือทาวน์โฮมที่มีที่จอดรถส่วนตัว และสามารถติดตั้ง EV Charger (Wallbox) ได้ จะง่ายและสะดวกกับคุณที่สุด เพราะการชาร์จกว่า 90% จะเกิดขึ้นที่บ้านตอนกลางคืน แต่หากคุณอาศัยในคอนโดหรืออพาร์ตเมนต์ที่ไม่มีที่จอดประจำ การพึ่งพาสถานีชาร์จสาธารณะเพียงอย่างเดียวอาจสร้างความไม่สะดวก และมีค่าใช้จ่ายสูงกว่า
Checklist 3 : การวางแผนการเงิน และค่าใช้จ่ายแฝง
การเป็นเจ้าของรถยนต์ไฟฟ้าไม่ได้มีค่าใช้จ่ายแค่เพียงราคาซื้อรถ แต่ยังมีรายจ่ายแฝงซึ่งเป็นข้อด้อยของรถไฟฟ้าที่ต้องคำนึงถึงด้วย ไม่ว่าจะเป็น ค่าเบี้ยประกันภัยที่มักจะสูงกว่ารถยนต์สันดาปในระดับเดียวกัน ค่าติดตั้ง EV Charger ที่บ้านซึ่งอาจมีค่าใช้จ่ายหลายหมื่นบาท ความเสี่ยงเรื่องแบตเตอรีที่แม้จะมีการรับประกันยาวนาน แต่ค่าเปลี่ยนนอกระยะประกันยังคงสูง และสุดท้ายคือราคาขายต่อ (Resale Value) ที่อาจมีความผันผวนสูงจากสงครามราคา
หลังจากที่ได้ลองนำ Checklist ทั้ง 3 ข้อไปสำรวจตัวเองแล้ว ทั้งในด้านพฤติกรรมการขับขี่ ความพร้อมของที่อยู่อาศัย และการวางแผนการเงินสำหรับค่าใช้จ่ายแฝงต่าง ๆ หากคุณพบว่าไม่มีข้อไหนที่เป็นอุปสรรคสำคัญ และรู้สึกว่า ไลฟ์สไตล์ของคุณลงตัวกับเงื่อนไขเหล่านี้ ก็ถือเป็นสัญญาณที่ดีว่าการเป็นเจ้าของรถยนต์ไฟฟ้าในปี 2025 ยังคงเป็นคำตอบที่ใช่ และตอบโจทย์การใช้งานของคุณได้นั่นเอง
ส่องรถไฟฟ้า EV น่าสนใจในงาน Motor Expo 2025
สำหรับผู้ที่ประเมินแล้วว่าพร้อมและสนใจ ลองมาดูไลน์อัพรถยนต์ไฟฟ้าที่น่าจับตาในงาน Motor Expo 2025 กัน
1. BYD Sealion 7
BYD Sealion 7 คือรถ C-SUV ไฟฟ้าที่โดดเด่นด้วยดีไซน์ Ocean X และเทคโนโลยี Blade Battery มีให้เลือกทั้งรุ่นขับหลัง และรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อ (AWD) ที่ให้กำลังสูงสุดถึง 530 แรงม้า ตอบโจทย์ทั้งการใช้งานในเมือง และผู้ที่ต้องการสมรรถนะสูง
2. XPENG G6
XPENG G6 ชูจุดเด่นด้านเทคโนโลยีล้ำสมัย ด้วยแพลตฟอร์ม 800V ที่ช่วยให้ชาร์จไฟได้รวดเร็ว มาพร้อมดีไซน์สไตล์หุ่นยนต์ และระบบช่วยเหลือการขับขี่ขั้นสูงที่ประมวลผลด้วยชิป Nvidia Orin X ตอบโจทย์ผู้ที่มองหานวัตกรรมยานยนต์ และประสบการณ์ขับขี่ที่เหนือกว่า
3. JAECOO 6
JAECOO 6 สร้างความแตกต่างด้วยดีไซน์ทรงกล่องสไตล์ออฟโรดที่แข็งแกร่ง และบึกบึน มีให้เลือกทั้งระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ และ 4 ล้อ ตอบโจทย์สายลุยที่มองหารถไฟฟ้าที่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร
4. AION V 2025
AION V 2025 เป็น SUV ไฟฟ้าที่เน้นฟังก์ชันอำนวยความสะดวกสบายในห้องโดยสาร ชูจุดเด่นที่ไม่เหมือนใคร เช่น เบาะนั่งที่ปรับเอนได้เต็มที่ ตู้เย็นในตัว และหลังคาพาโนรามิคขนาดใหญ่ ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของครอบครัวยุคใหม่ที่ต้องการความผ่อนคลายในทุกการเดินทาง
5. Deepal S05
Deepal S05 มาพร้อมทางเลือกที่ยืดหยุ่นด้วย 2 รูปแบบพลังงาน ทั้งรุ่นไฟฟ้า 100% (BEV) และรุ่น REEV ที่ใช้น้ำมันช่วยขยายระยะทางได้ไกลถึง 1,000 กม. สร้างความน่าเชื่อถือด้วยการเป็นแบรนด์ในเครือ Changan และการรับประกันตัวรถที่ยาวนาน
Krungsri The COACH แนะนำ : ซื้อรถไฟฟ้า EV ใหม่ป้ายแดงด้วยสินเชื่อกรุงศรี นิว คาร์
การเลือกซื้อรถยนต์คันใหม่เป็นการตัดสินใจทางการเงินครั้งสำคัญ หากคุณมีที่ปรึกษาที่เชี่ยวชาญคอยให้คำแนะนำ และผลิตภัณฑ์สินเชื่อที่เหมาะสมจะช่วยให้คุณวางแผนซื้อรถยนต์ได้อย่างมั่นใจยิ่งขึ้น สินเชื่อกรุงศรี นิว คาร์ คือตัวช่วยที่พร้อมสนับสนุนให้คุณเป็นเจ้าของรถไฟฟ้า EV คันใหม่ได้ง่ายขึ้น
- ให้วงเงินสูงสุดถึง 95% ของราคารถยนต์
- ผ่อนสบาย นานสูงสุด 84 เดือน
- ดาวน์น้อย เริ่มต้นเพียง 5%
- ไม่ต้องมีผู้ค้ำประกัน (สำหรับผู้สมัครที่มีคุณสมบัติตามเกณฑ์)
- สมัครง่าย ผ่านช่องทางออนไลน์ของกรุงศรี ออโต้
*กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว
**อัตราดอกเบี้ยแบบคงที่ 1.98% - 5.25% ต่อปี เทียบเท่าอัตราดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอก 3.81% - 9.80% ต่อปี การตัดสินใจซื้อรถไฟฟ้า EV ในปี 2025 ยังคงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ และให้ความคุ้มค่าด้านพลังงาน แต่มาพร้อมกับการบ้านที่ผู้ซื้อต้องทำมากขึ้นกว่าเดิม การใช้ Checklist ที่เรานำมาฝากในบทความนี้ ไม่ว่าจะเป็นการประเมินไลฟ์สไตล์ ความพร้อมด้านที่อยู่อาศัย การวางแผนการเงิน และที่สำคัญคือการเลือกแบรนด์ที่มีความมั่นคง จะช่วยให้คุณสามารถก้าวเข้าสู่โลกยานยนต์ไฟฟ้าได้อย่างมั่นใจ และมีความสุขกับการใช้งานในระยะยาว
อ้างอิง