สังคมไทยในปัจจุบัน ให้ความสนใจกับการ
วางแผนเกษียณอายุกันมากขึ้น ซึ่งโดยหลักการแล้วประเทศในแถบเอเชีย มักจะกำหนดให้บุคคลใด ๆ ที่มีอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ เป็นผู้ที่เกษียณและพ้นจากการทำงาน เพื่อให้ร่างกายและจิตใจได้รับการพักผ่อนจากการทำงานในช่วงชีวิตที่ผ่านมา แต่ในข้อเท็จจริงแล้ว คำว่าเกษียณของแต่ละคน มีความหมายที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับแนวความคิดและความพร้อม เพราะสำหรับผู้ที่มีการวางแผนเกษียณและปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด การเกษียณอายุจะเป็นเรื่องที่ไม่ก่อให้เกิดความกังวลใจ แต่กลับกันหากเป็นผู้ที่ไม่เคยวางแผนชีวิตมาก่อนเลย การเกษียณอายุอาจจะกลายเป็นเรื่องที่น่าหนักใจ ดังนั้นเริ่มต้นเตรียมความพร้อมวางแผนเกษียณอายุตั้งแต่วันนี้ เพราะคุณทราบหรือไม่ว่า การวางแผนเกษียณอายุที่ดีจะช่วยให้เรามีเงินใช้และเกษียณได้เร็วกว่าคนอื่น
เริ่มต้นวางแผนเกษียณอย่างมีประสิทธิภาพตั้งแต่วันนี้
เกษียณอายุสามารถอธิบายความหมายให้เข้าใจได้ คือ บุคคลใดบุคคลหนึ่งได้สิ้นสุดภาระหน้าที่ในการทำงาน ด้วยเหตุผลของแต่ละคน โดยที่ชีวิตหลังจากเกษียณอายุจะไม่มีรายได้ประจำเข้ามาอีก ดังนั้นจึงสามารถตีความได้ว่า การเกษียณนั้นไม่ได้กำหนดตายตัวว่าจะต้องมีอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์เสมอไป ทุกคนสามารถเกษียณเพื่อออกไปใช้ชีวิตตามต้องการในช่วงวัยที่กำหนดเองได้ แต่เพื่อให้การเกษียณมีประสิทธิภาพ คุณจะต้องมีการวางแผนการเกษียณอายุอย่างละเอียด รอบคอบ และชัดเจน
แผนการเกษียณอายุ หรือ Retirement Planning คือ
การวางแผนระยะยาวเพื่อความสุขในการใช้ชีวิตอย่างอิสระ โดยเป้าหมายนี้หากจะประสบผลสำเร็จได้ ต้องมีการวางแผนการเงินหลังเกษียณอย่างรอบคอบ และเร่งลงมือทำตั้งแต่ยังอยู่ในวัยทำงาน เพราะการเริ่มต้นวางแผนในวัยใกล้เกษียณจะก่อให้เกิดความกดดันและความเครียด ซึ่งนอกจากจะส่งผลเสียต่อสุขภาพร่างกายแล้ว แผนการเกษียณที่ตั้งใจจะทำก็มีโอกาสที่จะไม่ประสบความสำเร็จ โดยการเริ่มต้น
วางแผนเกษียณสไตล์มนุษย์เงินเดือนจะต้องประกอบไปด้วย
1. อายุที่ต้องการเกษียณ และอายุขัยของตัวเอง
โดยปกติแล้ววิถีชีวิตของมนุษย์เงินเดือน จะถูกกำหนดให้ทำงานถึงอายุ 60 ปี และถึงแม้จะครบอายุเกษียณแล้ว แต่อายุขัยก็ยังคงเดินหน้าต่อไป หลายคนมีอายุถึง 80 ปี และบางคนมีอายุยืนถึง 90 ปี ดังนั้นการเร่งวางแผนเกษียณจึงควรลงมือทำตั้งแต่วันนี้ เพื่อให้มีเวลาเหลือมากพอที่จะเผื่อเงินออมให้เพียงพอตลอดอายุขัยของตัวเอง
2. คำนวณหาค่าใช้จ่ายหลังเกษียณ
ค่าใช้จ่ายหลังเกษียณอายุเป็นหนึ่งในเรื่องสำคัญที่ต้องมีอยู่ในการวางแผนเกษียณ คำนวณเพื่อประเมินค่าใช้จ่ายสามารถทำได้ด้วยการอ้างอิงจากค่าใช้จ่ายในปัจจุบัน บวกกับค่าใช้จ่ายที่อาจจะเกิดขึ้นหลังเกษียณ เช่น ค่าเดินทางท่องเที่ยวปีละ 1 ครั้ง เงินสำรองฉุกเฉินยามเจ็บป่วย และเงินทุนสำหรับการทำธุรกิจเล็ก ๆ ของตัวเอง เป็นต้น ประการสำคัญอย่าลืมบวกอัตราเงินเฟ้อเอาไว้ด้วย เพราะเงินเฟ้อจะทำให้ค่าครองชีพ รวมไปถึงค่าใช้จ่ายต่าง ๆ มีราคาสูงขึ้น โดยวิธีการบวกอัตราเงินเฟ้อที่มีประสิทธิภาพที่สุด คือ การหมั่นติดตามความเคลื่อนไหวของอัตราเงินเฟ้อ และนำไปปรับในส่วนของค่าใช้จ่ายอยู่เสมอ
3. สำรวจเงินออมของตัวเอง
เมื่อมีค่าใช้จ่ายแล้วก็ต้องมีเงินออมสำหรับใช้จ่ายในชีวิตหลังเกษียณ โดยการสำรวจเงินออมให้รวบรวมจากแหล่งที่ได้ทำการออมเงินเอาไว้ทั้งหมด เช่น เงินฝากธนาคาร, เงินจากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ, เงินจากการลงทุนในหุ้น และเงินจากกองทุนประกันสังคม เป็นต้น เพื่อให้เราได้ทราบว่าปัจจุบันเรามีเงินอยู่เท่าไหร่ และเมื่อนำไปคำนวณกับค่าใช้จ่าย เรามีเงินเพียงพอที่จะใช้ตลอดอายุขัยหรือไม่ หากยังขาดสภาพคล่องอยู่จะต้องออมเงินเพิ่มอีกเท่าไหร่
4. วางแผนออมเงินเพื่อเสริมสภาพคล่อง
เมื่อเราได้สำรวจเงินออมทั้งหมดและทราบว่า ยังคงขาดสภาพคล่องสำหรับการวางแผนชีวิตหลังเกษียณอยู่ ให้เรานำเอาจำนวนเงินที่ยังคงขาดอยู่นั้น มาตั้งเป็นเป้าหมายเพื่อการออมเงินเพิ่มเติม ด้วยวิธีศึกษาและเลือกการลงทุนที่เหมาะสมกับตัวเอง จากนั้นให้เริ่มลงมือทำอย่างมีวินัย เพื่อให้การลงทุนเป็นตัวช่วยสะสมความมั่นคงและสามารถเปลี่ยนมาเป็นเงินเกษียณอายุได้
5. หมั่นตรวจสอบเป้าหมายอยู่เป็นประจำ
เมื่อเราเริ่มต้นวางแผนชีวิตหลังเกษียณแล้ว ควรหมั่นทบทวนและอัปเดตเป้าหมายอยู่เสมอ เพื่อให้เราเท่าทันกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป ไม่ว่าจะเป็นความเคลื่อนไหวของอัตราเงินเฟ้อ ความผันผวนของสินทรัพย์ที่ลงทุน หรือแม้แต่ความตั้งใจของเราเองว่า ยังมั่นคงต่อเป้าหมายที่ได้วางไว้อยู่หรือไม่
เมื่อสำรวจตัวเองครบทั้ง 5 ข้อแล้ว ก็ให้นำตัวเลขทั้งหมดมาคำนวณโดยใช้สูตรง่าย ๆ ดังนี้
เงินก้อนที่ต้องมีก่อนเกษียณ = (ค่าใช้จ่ายรายเดือนหลังเกษียณ x 12 เดือน x จำนวนปีอายุขัย ) – เงินออมปัจจุบัน
อายุช่วงไหนที่เรียกว่า “เกษียณอายุเร็ว”
ดังที่ได้กล่าวไปข้างต้นว่า การเกษียณอายุนั้นไม่ได้กำหนดตายตัวว่าจะต้องมีอายุเท่าไหร่ ทุกคนสามารถวางแผนเกษียณได้ในทุกช่วงอายุที่ต้องการ เพราะสิ่งสำคัญของการเกษียณไม่ใช่เร็วหรือช้า แต่เป็นคุณภาพชีวิตหลังเกษียณมากกว่าว่าจะเป็นอย่างไร ซึ่งแต่ละคนจะมีแนวคิดเกี่ยวกับการเกษียณที่ไม่เหมือนกัน และทุกคนก็มีความพร้อมที่แตกต่างกัน
ดังนั้นต้องสร้างความมั่นคงจนมั่นใจว่า เราได้เตรียมแผนการเกษียณสำหรับการสร้างรายได้หลังเกษียณเอาไว้เรียบร้อยแล้ว และเราได้ปฏิบัติตามแผนการเกษียณทั้งหมดอย่างเคร่งครัด จนเมื่อบรรลุเป้าหมายที่ได้วางเอาไว้ เราจะสามารถยุติการทำงานประจำ และเกษียณตัวเองออกมาเพื่อใช้ชีวิตอย่างมีความสุข และได้ทำทุกอย่างที่ใจต้องการ แบบนี้จึงจะเรียกว่าเป็นการเกษียณที่มีคุณภาพ
วางแผนเกษียณเร็ว สร้างความได้เปรียบให้ชีวิตได้จริงไหม
การวางแผนเกษียณเร็ว เรียกได้ว่าเป็นการชิงความได้เปรียบในการใช้ชีวิต เพราะเราจะสามารถจัดสรรเวลา วางแผนการเงิน และวางแผนการลงทุนได้ก่อน อีกทั้งเรายังสามารถเกษียณตัวเองได้ตามช่วงอายุที่ต้องการ เป็นการออกแบบชีวิตที่ไม่ต้องรอให้ถึงอายุ 60 ปี
เพราะการเริ่มต้นวางแผนเกษียณก่อน จะทำให้เราได้รับสิ่งที่มีค่ามากกว่าคนอื่น นั่นคือ “เวลา” สิ่งล้ำค่าที่สร้างความได้เปรียบให้เรา มีเวลาสำหรับการลงทุนเพื่อต่อยอดเงินทุน ให้กลายเป็นผลตอบแทนที่ค่อย ๆ เติบโตสำหรับรองรับชีวิตหลังเกษียณ นอกจากนี้เรายังมีเวลาสำหรับการศึกษาการลงทุน การลองผิดลองถูก และการสะสมประสบการณ์ เพื่อนำไปปรับใช้ในแผนการเกษียณอายุได้อย่างเหมาะสม ดังนั้นความได้เปรียบของการเริ่มต้นวางแผนเกษียณเร็ว จึงเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้ นอกจากเวลาที่เรามีมากกว่าคนอื่น
ตัวช่วยวางแผนเกษียณ ให้คุณได้ออกไปใช้ชีวิตตามใจเร็วขึ้น
หัวใจสำคัญที่จะช่วยให้เราสามารถเกษียณอายุได้เร็ว คือ การวางแผนการเงินหลังเกษียณ เพราะเงินที่เพียงพอต่อการใช้ชีวิต จะช่วยให้เราไม่ลำบาก อีกทั้งยังมีเงินเหลือ เผื่อไว้เป็นมรดกให้ลูกหลานด้วย ซึ่งสิ่งที่จะช่วยให้แผนการเงินของเราสำเร็จก็คือ ช่องทางการลงทุนรูปแบบต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นกองทุนรวม หุ้น สินทรัพย์โภคภัณฑ์ หรือแม้แต่การเริ่มบ่มเพาะแหล่งรายได้แบบ Passive Income ทั้งหมดนี้จะสร้างผลตอบแทนเป็นเงินสะสมที่เพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อย ๆ ได้ และเมื่อการเงินของเรามีความเติบโต นั่นเท่ากับว่าเราจะสามารถเกษียณอายุได้เร็วมากขึ้น
โดยธนาคารกรุงศรีอยุธยา ขอเป็นอีกหนึ่งแรงสนับสนุนให้ทุกคนวางแผนเกษียณอายุได้เร็ว เพื่อการใช้ชีวิตที่เหนือระดับ ด้วยผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ด้านการวางแผนการเงินมากมาย ให้ทุกคนได้เลือกลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสอดคล้องกับความต้องการ โดยเฉพาะในกลุ่ม
กองทุนรวมเพื่อการออมและการเกษียณอายุอย่าง SSF และ RMF ซึ่งธนาคารได้คัดสรรกองทุนตัวเด็ด แยกตามความเสี่ยงและสินทรัพย์ที่ลงทุนให้แล้ว เป็นอีกหนึ่งช่องทางการลงทุนที่ใช้สำหรับการวางแผนหลังเกษียณ ที่จะช่วยให้ช่วงเวลาแห่งการเกษียณมาถึงเร็วขึ้นได้
การวางแผนเกษียณอายุให้เร็วขึ้น เพื่อให้เราได้มีช่วงเวลาของการใช้ชีวิตตามต้องการให้เร็วขึ้น ไม่ได้อยู่ที่การกำหนดตัวเลขอายุขึ้นมาแล้วกดดันตัวเองให้บรรลุเป้าหมาย แต่เป็นการวางแผนอย่างเป็นขั้นตอน เพื่อให้เราได้ดำเนินการตามแผนเกษียณอย่างเคร่งครัด เมื่อเรามีวินัยต่อแผนที่ได้ออกแบบไว้ การเกษียณอย่างมีความสุขจะเข้ามาหาเราเอง ธนาคารกรุงศรีอยุธยาพร้อมร่วมเป็นหนึ่งในแผนเกษียณเร็วของคุณ ด้วยทีมงานผู้เชี่ยวชาญด้านการวางแผนการเงิน ที่จะช่วยออกแบบเส้นทางไปสู่วัยเกษียณของคุณให้มีความสมบูรณ์แบบ สามารถติดต่อเพื่อขอรับคำแนะนำได้ที่ช่องทางฮอตไลน์ 02-296-5959 ทุกวันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 9.00 น. - 17.00 น. หรือ
ฝากข้อมูลเพื่อให้เจ้าหน้าที่ติดต่อกลับก็ได้เช่นกัน
บทความโดย
สิรภัทร เกาฏีระ CFP®
กลุ่มบริการที่ปรึกษาทางการเงินส่วนบุคคล
ธนาคารกรุงศรีอยุธยา