วิธีการออมเงินของนักเรียนแบบไม่เครียด แต่มีเงินเก็บ !

Posted On 23 ตุลาคม 2568
By Krungsri The COACH
การออมเงินตั้งแต่ในวัยเรียนเป็นวิธีที่ดีในการสร้างฐานการเงินในอนาคต โดยการตั้งเป้าหมายการออมที่ชัดเจน เช่น ออมเพื่อซื้อของที่ต้องการ หรือการศึกษาต่อจะช่วยให้มีแรงจูงใจในการออม นักเรียนและนักศึกษาสามารถเริ่มต้นได้ง่าย ๆ ด้วยการจดบันทึกรายรับ-รายจ่าย และการแบ่งเงินออกเป็นส่วน ๆ เพื่อนำไปออม
ในช่วงวัยเรียน หลายคนอาจรู้สึกว่า “เงินเก็บ” เป็นเรื่องที่ไกลตัว เพราะรายได้ส่วนใหญ่ยังมาจากค่าขนมที่คุณพ่อ คุณแม่ หรือผู้ปกครองให้มา บางคนอาจมีรายได้เสริมเพียงเล็กน้อย แต่ในความเป็นจริงแล้วนี่คือช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการฝึกสร้างวินัยทางการเงิน เพราะหากรู้จักวิธีเก็บเงินให้ได้เร็วตั้งแต่ในวัยเรียน ก็จะช่วยให้การจัดการเงินในอนาคตเป็นเรื่องง่ายขึ้น อีกทั้งยังทำให้มีเงินสำรองไว้ใช้ยามฉุกเฉินโดยไม่ต้องพึ่งพาคนอื่น แล้วน้อง ๆ นักเรียนล่ะ จะมีแนวทางในการออมเงินอย่างไร ? บทความนี้จะพามาไขเคล็ดลับและหาคำตอบกัน
ทำไมวัยเรียนควรเริ่มออมเงินตั้งแต่วันนี้
วัยเรียนมักเจอปัญหาคลาสสิกคือเงินไม่พอใช้จ่ายในแต่ละเดือน ทำให้ต้องขอเงินเพิ่มจากที่บ้านอยู่เสมอ รายจ่ายที่ดูเหมือนเล็กน้อย เช่น ค่าอาหาร ค่าเดินทาง ค่าเรียนเสริม หรือแม้แต่ค่าเที่ยวเล่นกับเพื่อน รวมกันแล้วอาจกลายเป็นก้อนใหญ่โตโดยไม่รู้ตัว การศึกษา
ความรู้เรื่องเงินสำหรับน้องวัยเรียนและเริ่มต้นออมตั้งแต่ตอนนี้ ไม่เพียงช่วยให้มีเงินเก็บ แต่ยังปลูกฝังวินัยและทักษะการจัดการที่มีค่ามากในอนาคตด้วย โดยประโยชน์ที่รออยู่ เช่น
- มีเงินสำรองยามฉุกเฉิน เช่น เจ็บป่วย หรือต้องซื้ออุปกรณ์การเรียนด่วน การมีเงินเก็บสำรองจะช่วยให้สามารถจัดการสถานการณ์ได้อย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องรบกวนคุณพ่อคุณแม่
- สร้างโอกาสในอนาคต การออมเงินช่วยให้มีเงินทุนเล็ก ๆ น้อย ๆ เพื่อลงทุนให้ตัวเอง เช่น สมัครคอร์สเรียนเสริมทักษะที่สนใจ หรือเข้าร่วมกิจกรรมที่ช่วยพัฒนาความสามารถ ไปจนถึงเริ่มต้นทดลองทำธุรกิจเล็ก ๆ น้อย ๆ ผ่านช่องทางออนไลน์ ซึ่งจะเปิดประตูสู่โอกาสใหม่ ๆ ในอนาคต
- มีอิสระทางการเงิน เพราะเมื่อมีเงินเก็บเป็นของตัวเอง ก็จะสามารถตัดสินใจใช้จ่ายได้ด้วยตัวเอง โดยไม่ต้องคอยขอเงินจากใคร ซึ่งนับเป็นการเริ่มต้นที่ดีสู่การเติบโตเป็นผู้ใหญ่
วิธีเก็บเงินให้อยู่นั้นทำได้จริงในวัยเรียน
การจะทำยังไงให้มีเงินในวัยเรียน ไม่ใช่เรื่องยากอย่างที่คิด เพียงแค่เริ่มต้นจากเทคนิคออมเงินฉบับนักเรียนมัธยมปลายและมหาวิทยาลัยที่ทำได้ทุกวัน ดังนี้
1. จดบันทึกรายรับ-รายจ่ายทุกวัน
เริ่มต้นง่าย ๆ ด้วยการจดบันทึกทุกวันว่าเงินเข้ามาจากทางไหนบ้างและใช้จ่ายไปกับอะไรบ้าง เมื่อทำไปสักพักจะช่วยให้เห็นพฤติกรรมการใช้เงินของตัวเองและสามารถตัดรายจ่ายที่ไม่จำเป็นออกไปได้ หรืออย่างน้อยก็ช่วยเตือนใจไม่ให้ใช้จ่ายเกินตัว
2. ตั้งเป้าหมายการออมที่จับต้องได้
การมีเป้าหมายที่ชัดเจนจะช่วยสร้างแรงบันดาลใจในการออมเงินได้มากขึ้น ลองเริ่มจากการตั้งเป้าหมายเล็ก ๆ เช่น เก็บเงิน 1,000 บาท เพื่อซื้อเกมที่อยากได้ หรือเก็บเงินให้ได้ 5,000 บาท เพื่อไปเที่ยวกับเพื่อนตอนปิดเทอม เมื่อเห็นเป้าหมายอยู่ตรงหน้า ก็จะรู้สึกสนุกกับการออมมากขึ้น
3. ใช้วิธีแบ่งสัดส่วนเงิน
เมื่อได้เงินมา ลองแบ่งเงินออกเป็นส่วน ๆ ทันที โดยมีการจัดการเงินค่าขนมและวิธีแบ่งสัดส่วนเพื่อออมสำหรับนักเรียน ด้วยกฎง่าย ๆ เช่น กฎ 50-30-20
- 50% สำหรับค่าใช้จ่ายจำเป็นในแต่ละวัน เช่น ค่าอาหารและค่าเดินทาง
- 30% สำหรับค่าใช้จ่ายส่วนตัวและความบันเทิง
- 20% สำหรับการออมเงิน
เมื่อเงินส่วนไหนหมด ให้หยุดใช้ทันที เพื่อช่วยควบคุมรายจ่ายโดยไม่บานปลาย
4. หารายได้เสริมเล็ก ๆ น้อย ๆ
หากค่าขนมไม่พอใช้ หรืออยากมีเงินเก็บมากขึ้น ลองใช้วิธีหารายได้เสริมสำหรับนักเรียนเพื่อเก็บเงิน เช่น
- รับสอนการบ้าน หรือติวออนไลน์ ใช้ความรู้ที่มีมาสร้างรายได้
- ทำรีวิวสินค้า หรือขายของผ่านโซเชียล โดยใช้ช่องทางออนไลน์ให้เป็นประโยชน์
- ทำงานพาร์ตไทม์เล็ก ๆ ในวันหยุด เช่น ร้านกาแฟ ร้านสะดวกซื้อ หรือร้านอาหาร
5. ฝึกออมแบบอัตโนมัติ
เป็นวิธีการออมเงินของนักเรียนที่ได้ผลจริง เมื่อคุณพ่อคุณแม่โอนเงินค่าขนมมาให้ ลองตั้งโอนเงินส่วนหนึ่งไปยังบัญชีออมเงินทันที วิธีนี้จะช่วยให้มีเงินเก็บโดยไม่ต้องคิดมาก และยังช่วยป้องกันไม่ให้เผลอใช้เงินทั้งหมดไป
แล้วน้อง ๆ นักเรียนจะมีแนวทางในการออมเงินอย่างไรให้ไม่เครียดเกินไป
nn การออมเงินไม่ใช่เรื่องของการอดออมจนตัวเองต้องลำบาก แต่คือการสร้างสมดุลระหว่างการใช้จ่ายและการเก็บออม เพื่อให้มีเงินใช้ในวันนี้และมีเงินเก็บในอนาคต จึงมีคำแนะนำในการออมเงินแบบไม่เครียด ดังนี้
- ตั้งเป้าแบบพอดี ไม่ควรเก็บจนตึงเกินไป เช่น ถ้ามีค่าขนมวันละ 100 บาท เก็บเพียง 20-30 บาทก็เพียงพอแล้วแบบสบาย ๆ
- ให้รางวัลตัวเองเมื่อเก็บได้ตามเป้า เช่น ซื้อขนม หรือของชิ้นเล็ก ๆ ที่อยากได้ จะทำให้มีกำลังใจเก็บเงินต่อ
- เลือกตัวช่วยการออมที่เหมาะสม เช่น บัญชีเงินฝากที่ให้ดอกเบี้ยและตั้งเป้าหมายได้ จะช่วยให้ออมเงินได้ง่ายขึ้น
“มีแต่ได้” บัญชีออมเงินมีเป้าหมาย จากกรุงศรี ช่วยให้การออมเงินเป็นเรื่องง่าย ได้ดอกเบี้ยสูง !
แม้จะมีวินัย แต่การออมด้วยตัวเองเพียงอย่างเดียวอาจทำให้ท้อได้ง่าย ถ้ามีตัวช่วยที่ออกแบบมาเพื่อการออมโดยเฉพาะ จะทำให้เก็บเงินได้สนุกและเห็นผลชัดเจนขึ้น
เปิดบัญชีออนไลน์ “มีแต่ได้” แอปพลิเคชันช่วยออมเงินสำหรับนักเรียนกับ
ธนาคารกรุงศรี
- บัญชีออมทรัพย์แบบไม่มีสมุดคู่ฝาก
- ดอกเบี้ยสูง 1.5%* ต่อปี
- รับดอกเบี้ยรายเดือน
- ไม่กำหนดจำนวนเงินฝากขั้นต่ำ
มาพร้อมความสะดวกในการทำธุรกรรมที่สามารถโอน จ่าย และช้อปได้ง่าย ๆ ผ่าน krungsri app พร้อมทั้งได้ดอกเบี้ยสูงตั้งแต่บาทแรก แถมรับดอกเบี้ยรายเดือนอีกต่างหาก ช่วยให้น้อง ๆ นักเรียนฝึกเก็บเงินได้เป็นระบบมากขึ้น เพิ่มโอกาสสร้างเงินงอกเงยในขณะที่ยังอยู่ในวัยเรียน คลิกดูรายละเอียดและสมัคร
ฝากออมทรัพย์ออนไลน์กับธนาคารกรุงศรีได้เลย
*สำหรับยอดเงินฝากน้อยกว่า หรือเท่ากับ 2 ล้านบาท
ข้อมูลอ้างอิง :
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
การมีเป้าหมายที่ชัดเจนจะช่วยสร้างแรงจูงใจในการออมเงิน ลองตั้งเป้าหมายง่าย ๆ ที่อยากได้จริง ๆ เช่น
- เป้าหมายระยะสั้น อย่างการออมเงินเพื่อซื้อ Gadget ชิ้นใหม่ที่อยากได้ ซื้อหนังสือเล่มโปรด หรือเก็บเงินไปเที่ยวกับเพื่อน ๆ ในวันหยุด
- เป้าหมายระยะยาว เช่น ออมเงินเพื่อเป็นทุนสำหรับคอร์สเรียนพิเศษ ซื้ออุปกรณ์การเรียนที่จำเป็น หรือเก็บไว้เป็นเงินทุนเพื่อการศึกษาต่อในอนาคต
แม้การออมเงินจะเป็นเรื่องสำคัญ แต่สำหรับน้อง ๆ วัยเรียนแล้วก็มักจะเจออุปสรรคที่ทำให้การออมเงินไม่สำเร็จอย่างที่ตั้งใจ โดยมีปัญหาที่พบบ่อย เช่น
- ใช้เงินเพลินจนเงินหมดก่อนสิ้นเดือน มีวิธีแก้ไขคือ ลองจดทุกอย่างที่จ่ายไป ไม่ว่าจะเป็นค่าขนม ค่าเดินทาง หรือค่าของเล่นเล็ก ๆ น้อย ๆ เพื่อให้รู้ว่าเงินหายไปไหนและควบคุมการใช้จ่ายได้ดีขึ้น
- ไม่เห็นความสำคัญของการออมเงิน เพราะหลายคนอาจคิดว่าการออมเงินในวัยเรียนเป็นเรื่องไกลตัว หรือมองว่าเงินที่ได้มาน้อยเกินไปจนไม่รู้จะเก็บไปทำไม ควรปรับความคิดและลองตั้งเป้าหมายที่อยากได้ โดยเริ่มจากเป้าหมายง่าย ๆ เพื่อให้การออมเงินกลายเป็นเรื่องที่มีเหตุผลและน่าตื่นเต้นมากขึ้น
- รู้สึกว่าการออมเงินเป็นเรื่องยากและน่าเบื่อ บางครั้งการตั้งเป้าหมายที่สูงเกินไปก็ทำให้รู้สึกท้อและถอดใจได้ง่าย จึงควรเริ่มต้นจากจำนวนเงินเล็ก ๆ ที่ไม่ทำให้รู้สึกอึดอัด เช่น วันละ 10 บาท หรือ 20 บาท และให้รางวัลตัวเองบ้าง เพื่อสร้างกำลังใจ
ไม่มีคำว่าเร็วเกินไปสำหรับการออมเงิน ยิ่งเริ่มเร็วเท่าไรก็ยิ่งดีเท่านั้น เพราะการออมเงินในระยะยาวจะช่วยให้น้อง ๆ มีเงินก้อนใหญ่ในอนาคตได้ง่ายขึ้น
ควรเลือกบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ที่ไม่มีค่าธรรมเนียมในการเปิดบัญชี หรือใช้บริการรายปี มีการทำธุรกรรมที่สะดวก และอาจมีอัตราดอกเบี้ยที่น่าสนใจเพื่อช่วยให้เงินงอกเงยไปในตัว