ก่อนจะหมดปียังมีอีกหลายอย่างที่ต้องจัดการให้เรียบร้อย หนึ่งในนั้น คือ การวางแผนการเงิน ที่จะเป็นพื้นฐานสำคัญในก้าวต่อไปสู่ปีหน้า รู้แล้วอย่าช้า เพราะเวลาผ่านไปเร็วกว่าที่คิด
เหลือบมองนาฬิกาที่มุมขวาล่างของจอแล้วก็นึกขึ้นได้ว่า ใกล้จะสิ้นปีแล้ว! ยังมีอะไรหลาย ๆ อย่างที่อยากทำ แต่ไม่ได้ทำสักที เราลองมาลิสต์กันดูครับว่า ถ้าเป็นเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ การเงินเรื่องง่าย ๆ แล้ว มีอะไรที่เราควรทำกันบ้าง
1. เตรียมเครื่องคิดเลขให้พร้อมสำหรับการคำนวณภาษี
เรื่องนี้อาจจะเป็นเรื่องทั่วไปสำหรับมนุษย์เงินเดือนที่มีประสบการณ์การทำงานหลายปี แต่สำหรับน้องใหม่ที่เพิ่งก้าวเข้าสู่วงการนี้ ผมแนะนำให้ลองศึกษา
หลักภาษีเบื้องต้นให้ดีเสียก่อน คิดเลขดี ๆ ว่า รายได้รวมทั้งปีเราอยู่ที่เท่าไหร่ และมีรายการอะไรที่เราสามารถนำมาลดหย่อนได้บ้าง เช่น ค่าลดหย่อนของบิดามารดา เบี้ยประกัน กองทุน เป็นต้น นอกจากนั้น ลองมาดูว่า อัตราภาษีที่เราต้องจ่ายจะอยู่ในเรทไหน
ตัวอย่าง สิ้นปีนี้ มิวหักค่าใช้จ่ายได้สูงถึง 60,000 บาท และสามารถลดหย่อนสำหรับผู้มีเงินได้อีก 60,000 บาท เมื่อรวมกับการหักค่าลดหย่อนเบี้ยประกันชีวิต 9,600 บาท จึงถือว่ามีเงินคงเหลือ 250,000 บาท ดังนั้น มิวจึงต้องเสียภาษีที่อัตรา 5% เป็นต้น ทั้งนี้ทั้งนั้น ผมแนะนำให้เช็กอัตราภาษีของทุกปีนะครับ เพราะอาจจะมีการเปลี่ยนแปลง
2. เช็กให้รอบคอบว่า คนแบบเราจะลงทุนแบบไหนดี
ใกล้สิ้นปีแล้ว ก็ได้เวลาทำอะไรใหม่ ๆ ใครที่ยังไม่เคยลงทุน หรือยังลงทุนกับอะไรแบบเดิม ๆ อยู่ ลองศึกษาวิธีการลงทุนแนวใหม่ดูไหมครับ อย่างเรื่องหุ้นที่หลาย ๆ คนพูดถึงกัน ถ้าคุณเป็นคนที่ใจเต้นแรง อารมณ์แปรผันตามกราฟที่ขึ้น ๆ ลง ๆ ก็อาจจะพิจารณาการซื้อหุ้นแบบ DCA หรือซื้อกองทุนแล้วถือยาว ๆ แทน เช่น
กองทุน RMF, LTF ซึ่งกองทุนสองอย่างหลังเนี่ย สามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้อีกด้วยนะครับ
ตัวอย่าง แทคสนใจเรื่องหุ้น แต่ด้วยการทำงานแล้วเขาไม่มีเวลานั่งดูกราฟตลอดเวลา ครั้นจะติดต่อโบรกเกอร์ก็ไม่อยาก เพราะด้วยสไตล์การใช้ชีวิตของเขาที่ชอบทำอะไรด้วยตัวเองมากกว่า เขาจึงหันมาถือกองทุน LTF ที่อาจจะมีระยะเวลานานในการถือ แต่ก็มีความมั่นคงกว่า เพราะกองทุน LTF มักลงทุนในหุ้นใหญ่ ๆ ของอุตสาหกรรม และบางกองทุนกระจายซื้อหุ้นหลายตัว ทั้งยังมีการจัดการโดยมืออาชีพ และการถือกองทุนนาน ๆ เนี่ยล่ะ จะเป็นระยะเวลาที่ทำให้กองทุนนั้นมีกำไรงอกงาม
3. ซื้อประกันชีวิตดีไหม เป็นอะไรไป คนที่บ้านจะได้ไม่ลำบาก
แม้จะดูมองโลกในแง่ลบ แต่ถ้าจะคิดตามหัวข้อผมก็ไม่ว่าอะไรครับ เพราะเราก็ต้องยอมรับความจริงว่า ความแน่นอนคือความไม่แน่นอน ถ้าเกิดเราเป็นอะไรไป ก็คงจะดีถ้ามีเงินสักก้อนเหลือให้คนที่เรารัก หากมองในอีกมุมหนึ่ง ประกันชีวิตก็ถือเป็นเคล็ดลับการออมเงินอีกอย่างนะครับ เพราะเมื่อครบระยะเวลาแล้ว เราจะได้เงินก้อนคืนมา โดยช่วงเวลาที่เราชำระค่าประกัน เราก็จะได้ความคุ้มครองเป็นการตอบแทน ประกันชีวิตบางแบบยังมีเงินปันผล และระยะความคุ้มครองที่ยาวนานด้วยนะครับ ใครสนใจลองศึกษาดูนะครับ
ตัวอย่าง แตมอยากสมัครประกันชีวิตแบบที่ได้รับเงินคืนทุกปี และได้เงินก้อนในปีสุดท้าย เธอเลยเลือกซื้อประกันชีวิตกรุงศรี สุดคุ้ม 11/5 แบบมีเงินปันผล เพราะมีรูปแบบที่ตรงตามที่เธอต้องการ ทั้งการรับเงิน และระยะเวลาการชำระค่าเบี้ยเพียง 5 ปี แต่ได้รับความคุ้มครองถึง 11 ปี ทั้งยังสามารถนำไปลดหย่อนภาษี และใช้สิทธิกู้เงินฉุกเฉินได้
4. ลงทุนกับอสังหาฯ อะไรดี จะได้มั่นคงในอนาคต
เทรนด์ใหม่มาแรงช่วงนี้ คือ
การลงทุนอสังหาฯ ที่หลาย ๆ คนน่าจะคุ้นเคยกัน แต่รู้ไหมครับว่า การลงทุนประเภทนี้ไม่ได้มีเพียงการปล่อยเช่าคอนโดอย่างเดียวนะครับ เพราะคุณสามารถลงทุนในที่ดิน อาคารสำนักงานให้เช่า เป็นต้น แค่คุณเป็นเจ้าของที่ดินหรืออาคารและมองเห็นถึงศักยภาพที่สามารถอัปเกรดราคา ให้เป็นพื้นที่ทำเงินของคุณได้ ก็สามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบหรือตกแต่งให้เข้าที่เข้าทางเพื่อต้อนรับลูกค้าได้เลยครับ
ตัวอย่าง มาร์ชได้มรดกเป็นที่ดินแปลงหนึ่งอยู่ต้นซอย และไม่ไกลจากปากซอยถนนเส้นหลักมากนัก เขาจึงจัดการตกแต่งหน้าดิน ตอนแรกเขาเกือบจะสร้างอพาร์ทเมนต์อยู่แล้วเชียว แต่โชคดีที่มีบริษัทอสังหาริมทรัพย์ยักษ์ใหญ่มาสะดุดตากับที่ดินแปลงนี้เข้า เลยขอซื้อต่อจากเขาด้วยราคาที่สูงกว่ามูลค่าเดิมหลายเท่าตัวเพื่อสร้างเป็นคอนโดแบบ Low Rise มาร์ชจึงตัดสินใจขาย และได้เงินก้อนใหญ่มาเพื่อนำไปลงทุนในที่ดินผืนอื่นต่อ
นี่เป็นเพียงตัวอย่างเล็ก ๆ น้อย ๆ ของการเริ่มต้นทำอะไรใหม่ ๆ ในช่วงสิ้นปี นอกเหนือจากการตั้งหน้าตั้งตารอช่วงหยุดยาวหรือโบนัสปลายปีแล้ว ผมก็อยากให้เพื่อน ๆ ลองวางแผนทางการเงินไปด้วยนะครับ เพราะสังเกตกันไหมว่า เวลาผ่านไป อะไร ๆ ก็แพงขึ้น ซึ่งเป็นสัญญาณตัวร้ายของเงินเฟ้อนั่นเองครับ ถ้าใครอยากเริ่มต้นออกตัวก่อนใคร อย่าลืมมาลองวางแผนทางการเงินกับ
Plan Your Money นะครับ ใช้ง่าย ใช้ฟรี ถูกใจแน่นอนครับ