“เดือน ๆ นึง หาเงินได้หลักหมื่น เก็บเงินได้หลักพัน แล้วเมื่อไหร่จะมีเงินล้านเสียที” เงินล้าน ฟังดูเป็นเงินก้อนโตของหลาย ๆ คนเลยใช่ไหมครับ… วันนี้ เรามีวิธีการสร้างเงินล้านมาฝากกัน แล้วเพื่อน ๆ จะพบว่า การเป็นเจ้าของเงินล้าน ไม่ได้ยากอย่างที่คิด
โดยหัวใจในการสร้างเงินล้าน มีสี่ส่วนดังนี้
- ดูแลรายได้
- ควบคุมรายจ่าย
- ใช้งานเงินเก็บ
- ทำตามแผนอย่างมีวินัย
สิ่งที่จะช่วยทำให้แผนสร้างเงินล้านของเราเป็นรูปเป็นร่างชัดเจน คือ แผนการเงิน ซึ่งจะเป็นเครื่องมือที่ทำให้เราเห็นว่า เราสามารถเก็บเงินได้จำนวนปีละเท่าไหร่ และจะต้องใช้เวลากี่ปีถึงจะมีเงินล้าน โดยเราจำเป็นต้องมีการตั้งสมมติฐานในบางส่วนต่อไปนี้ครับ
- % การเพิ่มขึ้นของเงินเดือนในแต่ละปี
- ความสามารถในการเก็บเงินเป็นสัดส่วนคงที่หรือมากขึ้น เช่น 30% ของรายรับในแต่ละปี
- ผลตอบแทนจากการลงทุน
ตัวอย่างเช่น
นายมุ่งมั่น อายุ 22 ปี พนักงานออฟฟิศ มีรายได้หลังหักภาษี 23,000 บาทต่อเดือน นายมุ่งมั่น ไม่มีภาระหนี้ ตั้งเป้าหมายเก็บเงินออมเป็นจำนวน 30% ของรายได้ทั้งหมด โดยแผนการเงินของนายมุ่งมั่นมีสมมติฐาน ดังนี้
- ได้โบนัส 1 เดือนต่อปี และรายได้เพิ่มขึ้น 3% ต่อปี
- มีค่าใช้จ่าย 70% ของรายได้ในแต่ละปี
- เงินส่วนที่เหลือจากค่าใช้จ่ายจะแบ่งไปลงทุนในกองทุนตราสารหนี้ 30% และกองทุนที่ลงทุนในหุ้น 70% ซึ่งให้ผลตอบแทน 3% และ 5% ตามลำดับ
ซึ่งหากนายมุ่งมั่นสามารถทำได้ตามสมมติฐานข้างต้น นายมุ่งมั่นจะมีเงินล้านได้ในปีที่ 9 หรือเมื่อเขาอายุ 30 ปี แต่หากเขารู้สึกว่า 9 ปีเป็นเวลาที่นานเกินไป เราก็สามารถปรับเปลี่ยนสมมติฐานได้ครับ โดย
- เพิ่มรายได้ หากคุณคิดว่าความสามารถของคุณตอนนี้มีมากกว่าเงินเดือนที่ได้รับ การหางานใหม่ที่เหมาะสมกับความสามารถอาจเป็นหนึ่งทางเลือก ไม่เช่นนั้น การเพิ่มรายได้จากการหารายได้พิเศษก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่ง งานบางอย่างถึงแม้จะให้เงินเดือนไม่สูง แต่ก็ทำให้เรามีเวลาว่างไปหารายได้ทางอื่น ทั้งนี้ หากคุณยังรู้สึกดีกับงานที่ทำอยู่ และผลตอบแทนที่ได้รับ อย่าลืมที่จะตั้งใจทำงาน เพื่อสร้างความมั่นคงให้กับรายได้นะครับ
- อย่ารีบเป็นหนึ้ การผ่อนชำระหนี้เป็นภาระผูกผันระยะยาว แทนที่เราจะทำงานเพื่ออนาคต แต่กลับต้องมาทำงานเพื่อมาจ่ายคืนดอกเบี้ย ดังนั้น หากการก่อหนี้ไม่ได้เป็นไปเพื่อความจำเป็นอันยิ่งยวด การอดทนต่อความอยากได้ แล้วค่อยซื้อเมื่อมีเงินสด เป็นวิธีการที่ดีกว่าเสมอนะครับ
- ใช้จ่ายเท่าที่จำเป็น อะไรตัดได้ก็ตัดครับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสมัครสมาชิกรายปีของบริการหลาย ๆ อย่างที่คุณไม่ได้ใช้บริการบ่อยจริง ๆ ลดการสังสรรค์ ลดการใช้ของแบรนด์เนม จากตัวอย่าง หากนายมุ่งมั่นสามารถลดค่าใช้จ่ายลงได้เหลือ 50% ของรายได้ทั้งปี นายมุ่งมั่นจะมีเงินล้านได้ในปีที่ 6 หรือตั้งแต่อายุ 27 ปี
- ปรับเปลี่ยนการลงทุน หากคุณมีความรู้ในการลงทุน มีช่องทางการลงทุนหลายช่องทางที่จะสร้างผลตอบแทนได้สูงกว่าการฝากธนาคาร หรือการซื้อตราสารหนี้ แต่อย่าลืมว่า ความเสี่ยงจะสูงสุด หากคุณลงทุนโดยไม่มีความรู้นะครับ จากตัวอย่าง หากนายมุ่งมั่นสามารถทำให้เงินออมก้อนที่ลงทุนในหุ้น มีผลตอบแทนได้ 10% เขาจะมีเงินล้านได้ตอนปีที่ 8 หรือเมื่ออายุ 29 ปี
หรือหากนายมุ่งมั่น ทั้งลดค่าใช้จ่ายเหลือ 50% และสร้างผลตอบแทนการลงทุนในหุ้นได้ 10 % เขาจะมีเงินล้านได้ตั้งแต่ปีที่ 5 หรือเมื่ออายุ 26 ปี !!
โดยเมื่อปรับเปลี่ยนการตั้งสมมติฐานจนได้แผนการเงินที่พอใจแล้ว สุดท้าย คือ การปฏิบัติตามอย่างมีวินัยครับ ไม่ว่าจะเป็นการสร้างรายได้ในแต่ละเดือน วินัยการใช้จ่าย วินัยการลงทุน เพียงเท่านี้ภารกิจพิชิตเงินล้าน ก็ง่ายนิดเดียวแล้วครับ
หวังว่าเพื่อน ๆ คงจะเห็นภาพแล้วว่า สมมติฐานของเรามีผลต่อการไปสู่เป้าหมายเงินล้านได้อย่างไร ทั้งนี้ ทุกสมมติฐานที่ตั้งขึ้น จำเป็นต้องตั้งอยู่บนพื้นฐานความเป็นไปได้ และปฏิบัติได้จริงนะครับ