หากจะพูดถึงการลงทุน ผมมองว่า ชีวิตการเป็นมนุษย์เงินเดือนกับการลงทุนมันเป็นของคู่กัน เพราะเราไม่ควรจะมีเงินเดือนที่เป็นรายได้ทางเดียว ควรจะมีหลาย ๆ ทางเข้ามาเสริม จะมากจะน้อย ให้คุณหันไปมองรายจ่ายของคุณว่ามันมากน้อยแค่ไหน นั่นแหละครับคือคำตอบ
แค่ไม่เพิ่มรายได้ ก็พยายามลดรายจ่าย
ดูเหมือนง่ายแต่พอลองทำจริง ไม่ง่ายเลยใช่ไหมครับ
ผมยังมองว่าการลงทุนเป็นอะไรที่เหมาะกับคนทำงานประจำ ที่จะทำให้ตัวเองมีรายได้เพิ่มเข้ามาในขณะที่เราก็นั่งทำงานไปตามปกติ (แต่ไม่ใช่ว่าเอาเวลางานมาจดจ่อกับเรื่องนี้ จนจัดการเวลาไม่ได้นะครับ) หากจะว่าไปแล้ว การลงทุนมันก็มีอิสระในการจัดการ ไม่ว่าจะเลือกลงทุนกับอะไร ก็อยู่ที่ตัวเราเป็นคนตัดสินใจ ไม่มีใครบังคับ ถนัดในการลงทุนเกี่ยวกับอะไร และสามารถทำกำไรจากสิ่งนั้นได้ ก็ถือว่าประสบความสำเร็จ และเข้าใกล้อิสรภาพทางการเงินแล้ว
เรามาดูกันว่า ก่อนที่เราจะมีอิสรภาพทางการเงินเพื่อไปลงทุน เราควรจะมีทุนก่อนจริงไหม ถึงจะไปจุดนั้นได้ โดยเราต้องเข้าใจและทำให้ได้ตามขั้นตอนดังต่อไปนี้
- “เริ่มเก็บ” เราจะไม่มีทุนเลย ถ้าเราไม่เริ่มลงมือทำ เริ่มที่จะเก็บออม โดยเอามาจากเงินเดือนนี่แหละครับ จัดการแบ่งออกมาตั้งแต่ต้นเดือน เพื่อมนุษย์เงินเดือนจะได้นำไปลงทุน โดยจะหั่นออกมากี่เปอร์เซ็นต์ก็ลองคำนวณรายจ่าย และเหลือเท่าไหร่ที่คาดว่าจะเก็บไว้ลงทุน ยังไงผมแนะนำให้หักตั้งแต่เงินเดือนออกเลยจะดีที่สุด เพราะไปว่ากันปลายเดือนอาจจะไม่เหลืออะไรให้เอาไปลงทุนต่อ และจะทำให้เกิดการผัดผ่อนไปเรื่อย ๆ แต่สำหรับใครมีเงินก้อน หรือมีเงินออมมาตั้งแต่เด็กจากพ่อแม่ให้มา ก็ถือว่าโชคดีที่ช่วยให้มีเวลาในการเก็บออม และสามารถนำไปเริ่มลงทุนได้เลย
- “เก็บให้อยู่” เมื่อเริ่มตั้งต้นที่จะเก็บได้แล้ว การ “เก็บให้อยู่” ก็ลำบากเหมือนกันนะครับ ถ้าทำตัวมีอิสรภาพทางการเงินจนเกินไป ใช้จ่ายแบบตามใจก็คงจะรักษาเงินทุนได้ยาก อันนี้ก็อยากได้ อันนั้นก็ผ่อนจ่ายไปก่อน เรื่องเที่ยวก็ต้องมีเพื่อให้ความสุขกับชีวิต กินเลี้ยงก็ต้องมาเพราะต้องอยู่กับสังคม และอะไรอีกมากมายที่เราต้องใช้เงินซื้อมันมา ให้ลองชั่งน้ำหนักดูครับ ค่อย ๆ เอาออก ค่อย ๆ ลดส่วนที่พอจะลดได้ ไม่เช่นนั้นมนุษย์เงินเดือนลงทุนไม่สำเร็จแน่นอน เงินที่ออมเพื่อการลงทุน ก็ต้องตัดเงินออกมาให้ชัดเจน อย่าไปยุ่งรวมกับใคร ถ้าเราสามารถปกป้องเงินก้อนนี้ได้ ไม่ถูกนำไปใช้ มันก็ทำให้เราสามารถลงทุนตามแผนได้ง่ายขึ้น
- “เก็บให้เยอะขึ้น” เมื่อรักษาเงินทุนที่เกิดจากการออมได้แล้วด้วยความยากลำบาก ผมว่ามันลำบากจริง ๆ นะ สมัยนี้มีอะไรเชิญชวนให้เราเสียเงินมากมาย สื่อโฆษณาก็ใกล้ตัวมากเหลือเกิน บางทีเราก็เผลอคล้อยตามไป มารู้ตัวอีกที อ้าว…ผ่อนไปแล้ว เงินที่จะเก็บไว้ลงทุนก็จบกัน แต่ถ้าคุณพยายามจนรักษามันได้ และไม่ถูกเอาไปใช้ ขั้นต่อไปก็คือทำให้มันมากขึ้น นั่นคือการสะสมในแต่ละเดือน ๆ ให้มีปริมาณเพิ่มขึ้น จะตัดเงินเดือนมาเพื่อลงทุน ก็ทำทุกเดือนให้เป็นนิสัย อย่ามีข้ออ้างเยอะ แบบว่าเดือนนี้เอาไว้ก่อน ถ้าเป็นแบบนี้เงินทุนไม่เยอะขึ้นแน่นอน ฝึกออมให้เป็นนิสัยครับ จนได้เงินก้อน ก็พร้อมเอาไปลงทุนตามแผน เพื่ออิสรภาพทางการเงินที่รออยู่
เมื่อคุณพร้อมที่จะลงทุน ผมยังคงยืนยันว่า มันมีอิสระในการที่มนุษย์เงินเดือนจะลงทุนอะไรก็ได้ขึ้นอยู่กับเรา ไม่มีใครมาบังคับเรา โดยสิ่งสำคัญ คือ ต้องมีสติและความรู้ในสิ่งที่เราสนใจเป็นตัวควบคุม อย่าเพลิน อย่าหลงไปกับผลกำไรที่เขาบอกจะได้รับก้อนโต โดยไม่ศึกษาให้ดีก่อน เชื่อเขาไปหมด อย่าลืมว่าได้ผลตอบแทนมาก ก็เสี่ยงมาก และประเภทที่บอกว่าได้ผลตอบแทนแบบสูงมาก แบบนี้ก็เตรียมตัวได้เลย เงินทุนของคุณหายสาบสูญแน่นอน ก็มีตัวอย่างให้เห็นที่เป็นข่าว
ผมให้หลักการง่าย ๆ ถ้าคุณมีความรู้ไม่มากพอ จะลงทุนอะไรดีที่สุด คุณก็ต้องประเมินความเสี่ยงตัวเองด้วยว่า รับความเสี่ยงได้มากน้อยแค่ไหน ถ้าคุณรับความเสี่ยงได้น้อย ให้คุณไปลงทุนในกองทุน มันมีหลากหลายตามความเสี่ยงและให้ผู้เชี่ยวชาญจัดการให้ เราก็รอรับผลตอบแทนอย่างเดียว แต่ถ้าคุณเป็นประเภทชอบลุยเอง การลงทุนในหุ้นก็เป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจ หรือมนุษย์เงินเดือนจะลงทุนในกองทุนไปด้วยพร้อม ๆ กันก็ทำได้ เพื่อเป็นการกระจายความเสี่ยง
หากคุณลงทุนในหุ้น ก็ต้องตอบตัวเองให้ได้ว่าจะเก็งกำไรหรือจะถือยาว จะได้เดินไม่หลงทาง ยิ่งมาลงทุนในหุ้นมันยิ่งมีอิสระในการลงทุน เพราะว่าเวลามนุษย์เงินเดือนจะซื้อหุ้นลงทุน เมื่อดูแล้วตัวนี้อนาคตไม่สดใส ก็ขายออกมาแล้วไปเข้าหุ้นตัวอื่นที่กิจการดูดีกว่าแล้วถือยาวกินปันผล หรือจะแค่ขอเก็งกำไรสั้น ๆ ก็จัดการขายทำกำไรออกมาแล้วไปเข้าตัวอื่นต่อ หรือสถานการณ์ตลาดไม่ค่อยดี ก็ถือเงินสดไว้ก่อน เห็นไหมครับว่า มันสามารถโยกย้ายไปมาได้อย่างง่ายดาย ทั้งหมดก็อยู่ที่เราจัดการให้ไปสู่เป้าหมาย คือ การทำกำไรให้เงินทุนเรางอกเงยมากขึ้น มีใช้ในปัจจุบันจนถึงวัยเกษียณโดยมีอิสรภาพทางการเงิน และอย่าลืมว่า
การลงทุนมีความเสี่ยง ผลตอบแทนมาก ก็เสี่ยงมาก ต้องระมัดระวังให้ดีนะครับ