เปลี่ยน
รอบรู้เรื่องลงทุน
icon-Facebook icon-Twitter icon-line

เปลี่ยน "เงินเย็น" ให้เป็นเงินงอกเงยนำไปลงทุนอะไรดี?

icon-access-time Posted On 16 สิงหาคม 2565
by Krungsri The COACH
เก็บเงินให้ได้เยอะ ๆ นี่คงเป็นเป้าหมายของใครหลาย ๆ คนแน่นอน และยิ่งเราสามารถเก็บได้ตามเป้าที่เราวางไว้แล้วละก็ คงเป็นความสำเร็จอีกขั้นหนึ่งของการเก็บเงิน แต่เราเองก็อย่าลืมว่าหากเรามีเป้าหมายเพียงเก็บเงินเท่านั้น ถ้าหากเราไม่ได้มีเป้าหมายที่จะใช้เงินเหล่านั้นก็จะกลายเป็นเงินที่เรียกว่า “เงินเย็น” โดยทันที
 
เปลี่ยน "เงินเย็น" ให้เป็นเงินงอกเงยนำไปลงทุนอะไรดี?

ซึ่งถ้าหากท่านใดที่มีเงินเย็นอยู่ในมือ และกำลังวางแผนการออมเงินเย็นของตัวเองอยู่ เรามาร่วมวางแผนไปพร้อม ๆ กันผ่านบทความนี้เลย
 

เริ่มแรก เงินเย็นคืออะไรเรามาเริ่มทำความรู้จักเงินเย็นกันก่อน


เงินเย็น คือ เงินที่ไม่มีต้นทุน เงินที่เราไม่ได้จำเป็นต้องใช้ทำอะไร หรือเงินที่ไม่มีภาระ เช่น เงินที่ไม่ต้องใช้เพื่อชำระค่าบริการต่าง ๆ รวมถึงไม่มีความจำเป็นจะต้องใช้แม้เราจะฉุกเฉินเราก็ยังมีเงินส่วนอื่นสำรองชำระได้ โดยไม่รบกวนเงินส่วนนี้ โดยเงินเย็นไม่จำเป็นจะต้องมีจำนวนเงินที่มากมาย แค่มีอยู่ในระดับที่เรารู้สึกว่าเพียงพอสำหรับเรานั่นเอง
 
เปลี่ยน "เงินเย็น" ให้เป็นเงินงอกเงยนำไปลงทุนอะไรดี?

หากใครที่ยังไม่มั่นใจว่าเงินเก็บที่มีมั่นใจพอที่จะกลายเป็น “เงินเย็น” ได้หรือยัง เรามี 3 วิธีมาแนะนำทุก ๆ ท่าน
 

3 วิธีเช็กเงินเก็บที่มีพอที่จะกลายเป็น “เงินเย็น” แล้วหรือยัง?

  1. เรามีเงินก้อนเผื่อสำรองฉุกเฉินหรือยัง ในส่วนนี้เราอาจจะลองสำรวจหากเราฉุกเฉินป่วย หรือเกิดเหตุการณ์อื่น ๆ ที่จำเป็นจะต้องใช้เงิน เรามีเงินส่วนอื่นเตรียมพร้อมไว้หรือเปล่า โดยเงินส่วนนั้นไม่เกี่ยวโยงกับเงินส่วนที่จำเป็นจะต้องใช้นี้นั่นเอง
  2. มีเงินเพียงพอชำระหนี้แล้วหรือยัง เราอาจจะต้องลองสำรวจว่าเรามีเงินที่เราจะชำระหนี้สินต่าง ๆ หรือยัง เช่นค่างวดบ้าน งวดรถ ที่ไม่ได้กระทบกับเงินส่วนนี้
  3. ทำรายรับรายจ่ายให้แน่นอน หากเราทำรายรับ รายจ่ายที่แน่นอนแล้ว เงินส่วนนี้ยังไม่ได้ถูกหยิบไปบันทึกใด ๆ ก็เท่ากับว่าเรามีเงินเย็นอยู่กับตัวแล้วนั่นเอง
ถ้าคุณเป็นคนชอบฟัง และอยากคลุกวงใน รู้จัก “เงินเย็น” ให้มากขึ้น คลิกมาที่ Krungsri The COACH “ทีเด็ดเงินเย็น เมื่อเปลี่ยนเป็นเงินลงทุน” ได้เลย


สำหรับใครที่มั่นใจแน่ ๆ แล้วว่าเรามีเงินเย็นอยู่ และสนใจที่จะนำเงินเหล่านี้ไปลงทุน เรามาทำความรู้จักวิธีลงทุนสำหรับเงินเย็น โดยหลัก ๆ แบ่งออกเป็น 5 แบบการลงทุน
 
เปลี่ยน "เงินเย็น" ให้เป็นเงินงอกเงยนำไปลงทุนอะไรดี?
 

5 รูปแบบวิธีลงทุนฉบับคนมีเงินเย็น มีอะไรบ้าง?

 

แบบที่ 1 ออมเงินด้วยบัญชีออมเงินดิจิทัล

เป็นการออมเงินที่ไม่มีสมุดบัญชี ซึ่งการออมเงินในรูปแบบนี้จะสามารถออมผ่านแอปพลิเคชันของธนาคารนั่นเอง โดยการออมเงินด้วยบัญชีออมเงินดิจิทัลจะทำให้เราได้รับดอกเบี้ยตั้งแต่ 0.5-1.5% เลยทีเดียว ซึ่งการออมเงินในรูปแบบนี้ นอกจากเราจะได้รับดอกเบี้ยที่สูงกว่าปกติแล้ว ยังสามารถทำให้เราฝาก-ถอนได้อย่างสะดวก หากเกิดเปลี่ยนใจนำเงินเย็นตรงนี้ไปลงทุนอย่างอื่นก็ย่อมได้ อย่างไรก็ตามการออมเงินดิจิทัลเองเหมาะสำหรับคนที่ไม่ได้ต้องการความเสี่ยงใด ๆ เพียงแค่ได้รับดอกเบี้ยเท่านั้นก็พอใจ และถ้าหากว่าใครที่กำลังมองหาบัญชีออมเงินดิจิทัลอยู่ เราขอแนะนำเงินฝากออมทรัพย์ มีแต่ได้ออนไลน์ อีกหนึ่งตัวเลือกดี ๆ ที่ธนาคารกรุงศรีมีให้คุณ
 

แบบที่ 2 ลงทุนกับกองทุนรวม

หากเรามีเงินเย็นอยู่แล้วการลงทุนในกองทุนก็เป็นอีกหนึ่งในทางเลือกที่เราจะนำเงินเย็นเหล่านี้ไปลงทุน โดยกองทุนเราสามารถเลือกความเสี่ยงได้ตามระดับความต้องการของเรา หากเราต้องการความเสี่ยงน้อย ๆ เราอาจจะเลือกนำเงินส่วนนี้ไปลงทุนในกองทุนตราสารหนี้ และเราอาจจะเลือกลงทุนในกองทุนเหล่านี้เพียง 2-3 ปีเพื่อให้ได้ผลกำไรที่เพิ่มขึ้น แต่ถ้าหากว่าใครที่ชอบในความเสี่ยงสูง เราอาจจะนำเงินเหล่านี้ไปลงทุนในกองทุนรวมสินทรัพย์ทางเลือก ซึ่งกองทุนเหล่านี้จะสามารถตอบแทนผลประโยชน์ให้กับเราได้มากถึง 10-50% ต่อปีเลยทีเดียว และเพื่อกระจายความเสี่ยงเราอาจจำเป็นจะต้องลงทุนราว ๆ 5 ปีขึ้นไป เพื่อกระจายความเสี่ยงของตลาด และเพื่อผลตอบแทนที่เราหวังด้วยนั่นเอง อย่างไรก็ตามกองทุนเป็นหนึ่งในการลงทุนที่มีความเสี่ยงผู้ลงทุนควรตัดสินใจก่อนเลือกลงทุนด้วยตัวเอง
 

แบบที่ 3 ลงทุนหุ้นไทยแบบ DCA

อย่างที่เรารู้ ๆ กันการลงทุนแบบ DCA (dollar-cost averaging) คือ การลงทุนเฉลี่ยเท่า ๆ กันทุกเดือน เพราะฉะนั้นแล้วการลงทุนแบบนี้อาจจะเหมาะกับใครที่เมื่อสรุปรายรับรายจ่ายแล้วมีเงินเย็นเหลือทุก ๆ เดือน และนำเงินเย็นตรงนี้ออมหุ้นไปเรื่อย ๆ เพื่อเป็นการลงทุน โดยเราสามารถเปิดโบรกเกอร์การลงทุนแบบ DCA กับธนาคารไหนก็ได้ที่เราเลือก ซึ่งส่วนใหญ่แล้วเราอาจจะเลือกหุ้นที่ถูกใจ และมั่นคงผ่าน SET 50 หรือ SET 100 ไว้ในพอร์ตการลงทุนของเรานั่นเอง
 

แบบที่ 4 ซื้อหุ้นกู้

หากเรามีเงินเย็น และนำเงินเหล่านี้ไปซื้อหุ้นกู้ในบริษัทเอกชนที่มีความมั่นคงสูง เงินปันผลที่เราจะได้อยู่ที่ประมาณ 4-5% ต่อ 6 เดือน ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วสัญญาของหุ้นกู้จะเป็นรายปีขึ้นไปจะเท่ากับว่าหากเราต้องการนำเงินเย็นไปลงทุนในหุ้นกู้ ก็จำเป็นจะต้องลงทุนยาว ๆ หลาย ๆ ปี เพื่อรับเงินปันผลที่สูงขึ้นเรื่อย ๆ ดังนั้นหุ้นกู้จึงเหมาะกับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงต่ำ แต่ต้องการรับผลตอบแทนประจำนั่นเอง
 

แบบที่ 5 ออมทอง

แน่นอนว่าทองคือหนึ่งในสินทรัพย์แห่งความปลอดภัย ใครหลาย ๆ คนคงเคยคิดแน่นอนว่าหากมีเงินเก็บก็จะนำไปซื้อทองมาเก็บไว้ เราจะเห็นได้จากมูลค่าของทองคำที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ทุกปี จึงทำให้การออมทองก็เป็นอีกหนึ่งในตัวเลือกที่เหมาะแก่การลงทุนเงินเย็นเช่นกัน เพราะทองคำนั้นสภาพคล่องสูง ซื้อขายสะดวก สามารถซื้อไว้เกร็งกำไรได้ จึงทำให้ทองคำเหมาะกับคนที่มีเงินเย็น และต้องการลงทุนกับรูปแบบที่มีสภาพคล่องที่ดี

และนี่ก็เป็น 5 รูปแบบการลงทุนที่เหมาะสำหรับคนมี “เงินเย็น” ท้ายที่สุดแล้วเราเชื่อว่าไม่ว่าคุณจะหาเงินได้มากเท่าไหร่ไม่สำคัญมากนัก แต่ที่สำคัญคุณเก็บได้มากเท่าไหร่ และสร้างผลตอบแทนจากการวางแผนการลงทุนให้คุณเท่าไหร่ต่างหาก
pym logo
ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง
บทความที่เกี่ยวข้อง
พิมพ์สิ่งที่ต้องการค้นหา