ปรับกลยุทธ์ลงทุนในกองทุนตราสารหนี้ พิชิตดอกเบี้ยผันผวน
รอบรู้เรื่องลงทุน
icon-Facebook icon-Twitter icon-line

ปรับกลยุทธ์ลงทุนในกองทุนตราสารหนี้ พิชิตดอกเบี้ยผันผวน

icon-access-time Posted On 24 กรกฎาคม 2568
By Krungsri The COACH
ในช่วงที่อัตราดอกเบี้ยผันผวน การลงทุนแบบเดิมอาจไม่ตอบโจทย์เสมอไป “กองทุนตราสารหนี้” เป็นกองทุนรวมที่ไปลงทุนในตราสารหนี้ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในสินทรัพย์ที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการความเสี่ยงค่อนข้างต่ำ แต่เปิดโอกาสได้รับผลตอบแทนสม่ำเสมอ โดยส่วนใหญ่ผลตอบแทนจะอยู่ในรูปของดอกเบี้ย (Interest) นักลงทุนจึงจำเป็นต้องเข้าใจว่า “อัตราดอกเบี้ย” มีผลต่อมูลค่าของทั้งตราสารหนี้ และกองทุนตราสารหนี้อย่างไร เพราะจะเป็นตัวแปรสำคัญในการกำหนดทิศทางการลงทุนในสินทรัพย์ดังกล่าว

บทความนี้ Krungsri The COACH ได้สรุปเกี่ยวกับกองทุนตราสารหนี้เอาไว้แบบเข้าใจง่าย ๆ พร้อมเทคนิคการปรับกลยุทธ์ให้สอดคล้องกับภาวะดอกเบี้ยทั้งขาขึ้นและขาลง เพื่อช่วยให้คุณลงทุนได้อย่างมั่นใจมากยิ่งขึ้น

กองทุนตราสารหนี้ (Fixed Income Fund) คืออะไร ?

กองทุนตราสารหนี้

กองทุนตราสารหนี้ คือ กองทุนรวมประเภทหนึ่งที่มีนโยบายนำเงินของผู้ลงทุนไปลงทุนในตราสารหนี้ ซึ่งเป็นตราสารทางการเงินประเภทหนึ่งที่เปรียบเสมือนการที่เราให้บุคคลอื่นยืมเงิน ผู้ถือหรือนักลงทุนมีสถานะเป็นเจ้าหนี้ และผู้ออกมีสถานะเป็นลูกหนี้ โดยเจ้าหนี้จะได้รับผลตอบแทนในรูปของ “ดอกเบี้ย” อย่างสม่ำเสมอตามระยะเวลาที่กำหนดไว้ และจะได้รับ “เงินต้น” คืนเมื่อครบกำหนดอายุ

กองทุนที่ลงทุนในตราสารหนี้จึงมีความเสี่ยงต่ำกว่ากองทุนที่ลงทุนในหุ้น จึงเหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการสภาพคล่องสูง รับความเสี่ยงได้ไม่มากนัก และคาดหวังโอกาสสร้างกระแสเงินสดที่สม่ำเสมอในรูปแบบของดอกเบี้ย

ตราสารหนี้มีหลากหลายประเภท อาจแบ่งได้จากรูปแบบการจ่ายผลตอบแทน แบ่งตามลำดับสิทธิเรียกร้องการชำระหนี้ แบ่งตามเงื่อนไขพิเศษที่แฝงในตราสารหนี้ หรือแบ่งตามผู้ออกตราสาร เป็นต้น โดยตัวอย่างตราสารหนี้ที่แบ่งตามประเภทผู้ออก เช่น พันธบัตรรัฐบาล พันธบัตรรัฐวิสาหกิจ และหุ้นกู้เอกชน

ข้อดีของการลงทุนตราสารหนี้

การลงทุนในตราสารหนี้มีข้อดีหลายประการ ดังนี้
  • ช่วยกระจายความเสี่ยง : ตราสารหนี้จัดเป็นสินทรัพย์การลงทุนที่มีความเสี่ยงน้อย จึงเป็นที่นิยมใช้จัดกลุ่มสินทรัพย์ลงทุน (Asset Allocation) เพื่อลดความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนโดยรวม
  • สร้างโอกาสรับรายได้สม่ำเสมอ : ตราสารหนี้ส่วนใหญ่จะมีการจ่ายดอกเบี้ยตามงวดที่กำหนดไว้อย่างสม่ำเสมอ ช่วยให้พอร์ตของเราสามารถสร้างกระแสเงินสดได้แม้ในสภาวะที่ตลาดผันผวน
  • สามารถซื้อขายเปลี่ยนมือได้ก่อนครบอายุ : ตราสารหนี้บางประเภทสามารถซื้อขายเปลี่ยนมือในตลาดรองได้ โดยไม่ต้องรอให้ถึงวันครบกำหนดอายุ ทำให้มีความยืดหยุ่นในการลงทุน

ความสัมพันธ์ของอัตราดอกเบี้ยกับตราสารหนี้เป็นอย่างไร

อัตราดอกเบี้ยกับตราสารหนี้

อัตราดอกเบี้ยในตลาด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “อัตราดอกเบี้ยนโยบาย” คือปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อราคาของตราสารหนี้ และมูลค่าหน่วยลงทุน (NAV) ของกองทุนตราสารหนี้ โดยจะมีความสัมพันธ์ในลักษณะที่ “ตรงกันข้าม” กันเสมอ
  • เมื่อดอกเบี้ยในตลาดปรับขึ้น : ตราสารหนี้ที่ออกใหม่ก็จะให้ผลตอบแทน (ดอกเบี้ย) สูงขึ้นตามไปด้วย ทำให้ตราสารหนี้เดิมที่ให้ดอกเบี้ยต่ำกว่าดูไม่น่าสนใจนัก ส่งผลให้ราคาของตราสารหนี้เดิมลดลง
  • แต่ถ้าดอกเบี้ยในตลาดลดลง : ตราสารหนี้เดิมที่เคยให้ดอกเบี้ยสูงกว่าจะกลายเป็นที่ต้องการมากขึ้น เพราะให้ผลตอบแทนดีกว่าของใหม่ ทำให้ราคาของตราสารหนี้เดิมปรับตัวสูงขึ้น

เทคนิคลงทุนตราสารหนี้ ไม่หวั่นอัตราดอกเบี้ยขึ้นหรือลง

เมื่อเข้าใจความสัมพันธ์แบบสวนทางกันระหว่างราคาตราสารหนี้กับอัตราดอกเบี้ยแล้ว นักลงทุนสามารถนำความรู้เรื่องนี้มาวางกลยุทธ์เพื่อสร้างโอกาสทำกำไรได้ในทุกสภาวะตลาด ไม่ว่าจะเป็นช่วงดอกเบี้ยขาขึ้น หรือขาลง
 

การลงทุนตราสารหนี้ในช่วงดอกเบี้ยขาลง

ในช่วงที่คาดการณ์ว่าอัตราดอกเบี้ยกำลังจะปรับตัวลดลง ถือเป็น “โอกาสทอง” ของการลงทุนในตราสารหนี้ เนื่องจากราคาของตราสารหนี้ที่ถือลงทุนอยู่จะปรับตัวสูงขึ้น ทำให้ผู้ลงทุนมีโอกาสได้รับกำไรจากส่วนต่างของราคา (Capital Gain) เพิ่มเติมนอกเหนือจากดอกเบี้ยปกติ

กลยุทธ์ที่แนะนำ คือ การเลือกลงทุนในตราสารหนี้หรือกองทุนตราสารหนี้ระยะยาว (Long-Term Bond Fund) ที่มีอายุเฉลี่ยของตราสารในพอร์ต (Portfolio Duration) มากกว่า 1 ปีขึ้นไป ซึ่งจะเหมาะกับช่วงที่ดอกเบี้ยมีแนวโน้มลดลง เพราะเมื่อดอกเบี้ยปรับลดลง ราคาตราสารหนี้ หรือราคาหน่วยลงทุนมีโอกาสจะปรับขึ้นได้มากกว่าตราสารหนี้ระยะสั้น ส่งผลให้คุณมีโอกาสได้รับผลแทนตอบมากขึ้นนั่นเอง
 

การลงทุนในตราสารหนี้ช่วงดอกเบี้ยขาขึ้น

ในช่วงที่อัตราดอกเบี้ยมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น ราคาของตราสารหนี้ที่ออกมาก่อนหน้านั้นจะลดลง โดยเฉพาะกองทุนที่ลงทุนในตราสารหนี้ระยะยาว มูลค่าหน่วยลงทุนก็อาจลดลงตามไปด้วย

กลยุทธ์ที่เหมาะสม คือ ลงทุนในตราสารหนี้ หรือกองทุนตราสารหนี้ระยะสั้น (Short-Term Bond Fund) ซึ่งมีอายุเฉลี่ยของตราสารในพอร์ตไม่เกิน 1 ปี เพราะเมื่อดอกเบี้ยสูงขึ้น ราคาตราสารหนี้ระยะสั้นจะผันผวนน้อยกว่าตราสารหนี้ระยะยาว ทำให้พอร์ตของเราได้รับผลกระทบในด้านราคาไม่มากนัก

และเมื่อตราสารหนี้ระยะสั้นครบกำหนด ผู้จัดการกองทุนจะสามารถนำเงินไปลงทุนในตราสารหนี้รุ่นใหม่ ที่ให้ดอกเบี้ยสูงขึ้นได้ ซึ่งเป็นการช่วยลดความเสี่ยงด้านราคา และเพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนที่สูงขึ้นในอนาคต
 

ลงทุนตราสารหนี้อย่างฉลาด ต้องคิดแบบ Krungsri The COACH

“การลงทุนในตราสารหนี้เป็นทางเลือกที่ดีในการสร้างความสมดุลในพอร์ตการลงทุน ช่วยกระจายความเสี่ยงในสภาวะที่ตลาดทุนมีความผันผวนและไม่แน่นอนสูง อย่างไรก็ตาม ควรจัดสรรสัดส่วนให้เหมาะสมตามความเสี่ยงที่ยอมรับได้ หากลงมากเกินไปอาจทำให้พอร์ตเติบโตช้า ควรเลือกลงทุนในตราสารหนี้ที่มีความน่าเชื่อถือสูง หรือมีอันดับเรตติงดี (Investment Grade) หรือกองทุนรวมตราสารหนี้ที่บริหารโดย บลจ. ชั้นนำ”

Krungsri The COACH แนะนำ : กองทุนรวมตราสารหนี้น่าลงทุน พิชิตอัตราดอกเบี้ยผันผวน

หากนักลงทุนกำลังมองหากองทุนที่มีนโยบายลงทุนใน ตราสารหนี้ระยะกลางถึงยาว และมีคุณภาพดี สำหรับนักลงทุนที่สนใจคว้าโอกาสนี้ ทางกรุงศรีมีกองทุนที่น่าสนใจมาแนะนำ ดังนี้
 

กองทุนเปิดกรุงศรีโกลบอลคอลเล็คทีฟสมาร์ทอินคัม (KF-CSINCOME)

  • นโยบายการลงทุน : กองทุนที่เน้นลงทุนในตราสารหนี้หลากหลายประเภททั่วโลกผ่านกองทุนรวมต่างประเทศ PIMCO GIS Income Fund (Class I-Acc) มีแนวทางบริหารการลงทุนเชิงรุก และมีการปรับสัดส่วนการลงทุนตราสารหนี้แต่ละประเภท และอายุของตราสารที่ลงทุน (Duration) ให้เหมาะกับสภาวะตลาดที่เปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว
  • อายุเฉลี่ยตราสารหนี้ในพอร์ต : 0 – 8 ปี (ณ 31 พ.ค. 68 อายุประมาณ 5 ปี)
  • ระดับความเสี่ยง : 5 (เสี่ยงปานกลางค่อนข้างสูง) – ป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนไม่น้อยกว่า 90% ของเงินลงทุนในต่างประเทศ
  • เหมาะกับใคร : สำหรับนักลงทุนที่คาดหวังการเติบโตของเงินลงทุนจากตราสารหนี้คุณภาพดีทั่วโลก โดยสามารถรับความผันผวนได้ปานกลาง และลงทุนได้นาน 2 ปีขึ้นไป
 

กองทุนเปิดกรุงศรีแอคทีฟตราสารหนี้ ชนิดสะสมมูลค่า (KFAFIX-A)

  • นโยบายการลงทุน : กองทุนที่เน้นลงทุนในประเทศและ/หรือต่างประเทศ ในตราสารหนี้ และ/หรือเงินฝาก หรือตราสารเทียบเท่าเงินฝากที่ออกรับรอง รับอาวัล หรือค้ำประกันการจ่ายเงิน โดยภาครัฐบาล รัฐวิสาหกิจ สถาบันการเงิน และ/หรือภาคเอกชน
  • อายุเฉลี่ยตราสารหนี้ในพอร์ต : 0 - 5 ปี (ณ 31 พ.ค. 68 อายุประมาณ 2 ปี 6 เดือน)
  • ระดับความเสี่ยง : 4 (เสี่ยงปานกลางค่อนข้างต่ำ)
  • เหมาะกับใคร : นักลงทุนที่ต้องการโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดีกว่าตราสารหนี้ระยะสั้น โดยสามารถรับความผันผวนได้ปานกลาง และลงทุนได้นาน 1 ปีขึ้นไป

หรือหากนักลงทุนกำลังมองหากองทุนที่มีนโยบายลงทุนใน ตราสารหนี้ระยะสั้นและมีคุณภาพดี ทางกรุงศรีมีกองทุนที่น่าสนใจมาแนะนำ
 

กองทุนเปิดกรุงศรีสมาร์ทตราสารหนี้-สะสมมูลค่า (KFSMART-A)

  • นโยบายการลงทุน : กองทุนจะลงทุนในประเทศและ/หรือต่างประเทศ ในตราสารหนี้ และ/หรือเงินฝาก หรือตราสารเทียบเท่าเงินฝาก ที่ออกรับรอง รับอาวัล หรือค้ำประกันการจ่ายเงินโดยภาครัฐบาล รัฐวิสาหกิจ สถาบันการเงิน และ/หรือภาคเอกชน ซึ่งมักมีอันดับความน่าเชื่อถือของตราสาร หรือของผู้ออกตราสารอยู่ในอันดับที่สามารถลงทุนได้ (Investment Grade)
  • อายุเฉลี่ยตราสารหนี้ในพอร์ต : 3 เดือน –1ปี (ณ 31 พ.ค. 68 อายุประมาณ 4 เดือน)
  • ระดับความเสี่ยง : 4 (เสี่ยงปานกลางค่อนข้างต่ำ)
  • เหมาะกับใคร : นักลงทุนที่ต้องการโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดีกว่าเงินฝาก โดยสามารถรับความผันผวนระยะสั้นได้ และสามารถลงทุนได้นาน 3 เดือนขึ้นไป
 
กองทุนรวมตราสารหนี้

การลงทุนในกองทุนตราสารหนี้ ไม่ได้เป็นเพียงที่พักเงิน แต่ยังสามารถสร้างโอกาสรับผลตอบแทนที่ดีได้หากเข้าใจกลไกของตราสาร ติดตามทิศทางอัตราดอกเบี้ยอย่างใกล้ชิด และปรับเปลี่ยนกลยุทธ์การลงทุนให้สอดคล้องกับภาวะตลาด จะช่วยให้นักลงทุนสามารถพิชิตความผันผวน และเปิดโอกาสสร้างผลตอบแทนที่น่าสนใจ ให้กับพอร์ตการลงทุนได้ในระยะยาว

ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน


อ้างอิง
pym logo
ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง
บทความที่เกี่ยวข้อง
พิมพ์สิ่งที่ต้องการค้นหา