5 กองทุน Active Fund มาแรง ปั้นพอร์ตให้เติบโตในปี 66
รอบรู้เรื่องลงทุน
icon-Facebook icon-Twitter icon-line

5 กองทุน Active Fund มาแรง ปั้นพอร์ตให้เติบโตในปี 66

icon-access-time Posted On 10 เมษายน 2566
By Krungsri The COACH
กองทุน Active Fund จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการลงทุนช่วงนี้ ที่เปิดโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดีในธีมการลงทุนที่หลากหลาย วันนี้เรามาอัปเดตเทรนด์ธุรกิจในอุตสาหกรรมอะไรบ้างที่น่าลงทุน พร้อมกองทุน Active Fund ที่น่าหยอดเงินเข้าไปลงทุน ถ้าไม่อยากเสียโอกาสทำกำไร มาดูไปพร้อมกันเลย
มารู้จักการกองทุน Active Fund แบบง่าย ๆ ดูเทรนด์ธุรกิจโลก แล้วเลือกกองทุน Active Fund ที่ชอบ 5 กองทุน Active Fund มาแรง ที่ไม่ควรพลาดในปีนี้

มารู้จักการกองทุน Active Fund แบบง่าย ๆ

กองทุน Active Fund คือ กองทุนที่มีการบริหารแบบเชิงรุก หรืออธิบายง่าย ๆ คือ กองทุนที่ลงทุนในสินทรัพย์ต่าง ๆ เช่น หุ้น ตราสารหนี้ เป็นต้น โดยที่ผู้จัดการกองทุน หรือคนที่คอยดูแลบริหารจัดการเงินของเรา ก็จะใช้ความสามารถในการคัดเลือกสินทรัพย์ที่จะเข้าลงทุน รวมถึงพยายามสร้างผลกำไร เพื่อให้เอาชนะค่ามาตรฐานที่กองทุนตั้งไว้ เช่น ดัชนี Set 50, ดัชนี Set 100 เป็นต้น ยิ่งเราทำผลตอบแทนได้มากกว่าตลาดเท่าไหร่ ก็นับเป็นกองทุนที่ดีมากเท่านั้น ทำให้นักลงทุนหลายคนชอบลงทุนในรูปแบบนี้ เพราะมีโอกาสได้รับผลตอบแทนที่สูง แต่ข้อควรระวังก็คือ ผู้จัดการกองทุนเลือกหุ้นผิด หรือคาดการณ์แนวโน้มของตลาดได้ไม่ถูกทาง ก็อาจสร้างผลขาดทุนให้กับกองทุนนั้น ๆ ได้

"เทรนด์ธุรกิจโลกในปัจจุบัน และกองทุน Active Fund ที่น่าลงทุน"

 
ธุรกิจชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า

ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับ EV

เราจะเห็นได้ว่าตั้งแต่ช่วงปีที่ผ่านมาจนมาถึงวันนี้รถยนต์ไฟฟ้าเป็นกระแสขึ้นมาจนสามารถสร้างยอดขายได้มากมายทั่วโลก ขึ้นมาเป็นคู่แข่งสำคัญกับรถยนต์น้ำมันแบบเดิม ๆ หรือในบ้านเราแม้แต่ Tesla ก็มาเปิดศูนย์อย่างเป็นทางการ เห็นได้ชัดว่าธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับ EV กำลังเติบโตในไปในทิศทางบวก ทั้งนี้ ไม่ได้มีเพียงแค่รถยนต์ EV เท่านั้น แต่อุปกรณ์สำคัญอย่างแบตเตอรี่ที่เป็นหัวใจหลักของรถยนต์ EV ก็มีการเติบโต ในบ้านเรา และประเทศเพื่อนบ้านก็มีการสร้างโรงงานผลิตแบตเตอรี่กันมากขึ้น เพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจ EV เป็นที่คาดการณ์กันว่าเทรนด์ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับ EV ยังมีโอกาสเติบโตอยู่อีกมาก
 
ธุรกิจเทคโนโลยี AI 

ธุรกิจเทคโนโลยี AI

ถึงแม้ในวงการเทคโนโลยีตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมามีการเลย์ออฟพนักงานในหลายบริษัทชั้นนำทั่วโลก เพื่อควบคุมในแง่ของต้นทุน แต่บริษัทส่วนใหญ่ยังคงลงทุนเพื่อการเติบโตในระยะยาว โดยหลายบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ เช่น Microsoft, Meta ต่างก็ได้ออกมาประกาศว่าจะพัฒนา AI เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการ อย่าง ChatGPT ซึ่งเป็นแชทบอท AI ของค่าย Microsoft ที่กำลังเป็นกระแสอยู่ในเวลานี้ ก็ถือเป็นตัวอย่างการนำเทคโนโลยี AI มาประยุกต์ใช้

ธุรกิจเพื่อความยั่งยืน

เทรนด์ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับแนวคิดความยั่งยืนเพื่อโลกของเราก็ยังคงมีโอกาสเติบโตได้ดี จะเห็นได้จากการที่หลายบริษัทในช่วงหลายปีมานี้หันมาเปลี่ยนกลยุทธ์ผลิตสินค้า หรือบริการที่สร้างความยั่งยืนให้กับโลกมากขึ้น อย่างการเปลี่ยนจากการใช้ถ่านหินผลิตกระแสไฟฟ้า ไปใช้แผงโซล่าเซลล์ หรือกังหันลมในการผลิตแทน หรือการเปลี่ยนมาใช้วัสดุรีไซเคิลในการผลิตสินค้ารุ่นใหม่ การลงทุนในเทรนด์ธุรกิจนี้จึงทำให้เราร่วมเป็นส่วนหนึ่งที่สร้างผลลัพธ์เชิงบวกต่อสภาพแวดล้อมและสังคม พร้อมโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว

5 กองทุน Active Fund มาแรง ที่ไม่ควรพลาดในปีนี้

 
เงินลงทุนในตลาดหุ้น

1. กองทุน KFHTECH

เรื่องของเทคโนโลยีแห่งอนาคต ก็เป็นอีกหนึ่งอุตสาหกรรมที่นักลงทุนทั้งหน้าใหม่ และมือเก๋าไม่ควรมองข้าม เพราะกองทุน Active Fund กองนี้เน้นกระจายลงทุนในบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำขนาดใหญ่ ที่มีศักยภาพเติบโตสูง เพื่อโอกาสสร้างผลตอบแทนในระยะยาวกับผู้ลงทุน

ระดับความเสี่ยง: เนื่องจากกองทุน Active Fund กองนี้เน้นลงทุนในกลุ่มอุตสาหกรรมเทคโนโลยีเพียงกลุ่มเดียว จึงมีความเสี่ยงสูง เหมาะกับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูง หรือรับความผันผวนของราคาหุ้นที่กองทุนลงทุนได้

ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ กองทุน KFHTECH
 
การปรับพอร์ตลงทุน

2. กองทุน KFCORE

สำหรับคนที่ไม่ชอบความยุ่งยากในการจัดพอร์การลงทุนเอง อยากให้ผู้เชี่ยวชาญอย่างผู้จัดการกองทุนเป็นคนบริหารจัดพอร์ตให้ แนะนำลงทุนกองทุน KFCORE โดยกองทุนนี้จะเน้นลงทุนในหลากหลายสินทรัพย์ทั่วโลก โดยมีการนำปัจจัยด้านความยั่งยืนที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม (Environmental) สังคม (Social) และธรรมาภิบาล (Governance) หรือ “ESG” ในการพิจารณาคัดเลือกสินทรัพย์เพื่อเข้าลงทุน

ระดับความเสี่ยง: เนื่องจากกองทุนมีการลงทุนหลากหลายสินทรัพย์ จึงเหมาะกับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ในระดับปานกลางค่อนข้างสูง รวมถึงสามารถรับความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนได้

ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ กองทุน KFCORE
 
หุ้นที่เกี่ยวกับรถยนต์ไฟฟ้า

3. กองทุน KFCLIMA

หากนักลงทุนคนกำลังสนใจลงทุนในธุรกิจพลังงานสะอาด เช่น รถยนต์ EV ติดพอร์ตไว้ กองทุน Active Fund นี้เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ เพราะกองทุน KFCLIMA เน้นเฟ้นหาผู้ชนะจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) อย่างรอบด้าน โดยเน้นการลงทุนในธุรกิจที่นำเทคโนโลยีมาช่วยลดผลกระทบ (เช่น ธุรกิจพลังงานสะอาด) หรือ ปรับรูปแบบธุรกิจ ให้สามารถเติบโตท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศได้

ระดับความเสี่ยง: เนื่องจากกองทุนมีการลงทุนหุ้น จึงเหมาะกับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ในระดับสูง รวมถึงสามารถรับความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนได้

ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ กองทุน KFCLIMA
 
หุ้นที่เกี่ยวกับพลังงานสะอาด

4. กองทุน KFESG

สำหรับนักลงทุนที่เป็นสายรักษ์โลก ESG ต้องไม่พลาดที่จะลงทุนในกองทุน Active Fund ตัวนี้ เพราะกองทุนนี้จะเน้นลงทุนในหุ้นของธุรกิจที่ดำเนินธุรกิจสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ของสหประชาชาติ เน้นลงทุนใน 3 ธีมการลงทุนหลักที่เกี่ยวข้องกับ สุขภาพอนามัย (Health) สภาพภูมิอากาศ (Climate) และการเพิ่มศักยภาพให้กับคนในสังคม (Empowerment) ซึ่งจะเป็นแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่กำลังเกิดขึ้นทั่วโลก จึงช่วยสร้างโอกาสเติบโตของเงินลงทุนในระยะยาว

ระดับความเสี่ยง: เนื่องจากกองทุนมีการลงทุนหุ้น จึงเหมาะกับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ในระดับสูง

ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ กองทุน KFESG

5. กองทุน K-CHANGE

ถ้านักลงทุนคนไหนสนใจอยากลงทุนในบริษัทชั้นนำที่มีอัตราการเติบโตสูงทั่วโลก และเป็นส่วนหนึ่งของการร่วมสร้างผลกระทบเชิงบวกให้แก่สังคม และสิ่งแวดล้อม (Positive Impact) หรือสนับสนุนให้สังคมเกิดการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นในด้านต่าง ๆ กองทุน Active Fund ตัวนี้ตอบโจทย์เลย

ระดับความเสี่ยง: เนื่องจากกองทุนมีการลงทุนหุ้น จึงเหมาะกับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ในระดับสูง รวมถึงสามารถรับความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนได้

ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ กองทุน K-CHANGE
 

คำเตือน

  • ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน
  • ผลการดำเนินงานในอดีต ไม่ได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
  • K-CHANGE ไม่ได้ป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน และ KFCORE, KFCLIMA ป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน จึงมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งอาจทำให้ผู้ลงทุนขาดทุน หรือได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน/หรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้
  • KFHTECH ลงทุนกระจุกตัวในหมวดอุตสาหกรรม จึงมีความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมาก ผู้ลงทุนควรขอคำแนะนำเพิ่มเติมก่อนทำการลงทุน
pym logo
ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง
บทความที่เกี่ยวข้อง
พิมพ์สิ่งที่ต้องการค้นหา