เก็บเงินแต๊ะเอียให้ลูกยังไง โอกาสได้ดอกผลดีกว่าเดิม

ในเทศกาลตรุษจีน ผู้ใหญ่มักจะนิยมใช้ซองสีแดง หรือเรียกว่า “อั่งเปา” มอบให้ลูกหลาน เพราะสีแดงเป็นสีมงคลของชาวจีน และมักจะมีอักษรจีนที่มีความหมายดีๆ อย่างเช่น ความสุข ความร่ำรวย อายุยืนยาว ปรากฎอยู่ที่หน้าซองอั่งเปาเพื่อเพิ่มความสิริมงคลต้อนรับปีใหม่ ในซองอั่งเปานั้นจะมีเงินใส่อยู่ ซึ่งจะเรียกว่า “เงินแต๊ะเอีย” และตามธรรมเนียมปฏิบัติลูกหลานเชื้อสายจีนมักจะกล่าวประโยคอวยพรที่เป็นมงคลอย่าง “ซินเจียยู่อี่ ซินนี้ฮวดไช้” แก่ผู้ที่แต๊ะเอียให้

เด็กๆ มักจะเก็บเงินแต๊ะเอียที่ได้ไปซื้อของเล่นของที่อยากได้ อันนี้ก็แล้วแต่วัย แล้วแต่ครอบครัว ว่าจะให้เด็กๆ ใช้เงินได้ตามใจ หรือพ่อแม่หลายคนก็เก็บเงินแต๊ะเอียนี้ ไว้เป็นเงินก้อนให้ลูกๆ ในอนาคต

สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่ต้องการเก็บเงินแต๊ะเอียให้ลูกไว้ใช้ในอนาคต อาจจะมีวิธีบริหารจัดการที่ต่างกัน ปกติก็มักจะเปิดบัญชีออมทรัพย์ไว้ เพราะมีสภาพคล่องสูง สามารถถอนออกมาใช้ได้ทุกเมื่อที่ต้องการ แต่การออมเงินในบัญชีออมทรัพย์อาจจะได้ดอกเบี้ยไม่ได้สูงมากนัก ปัจจุบันนี้ มีตัวเลือกของบัญชีเงินฝากที่ให้ดอกเบี้ยเงินฝากดีกว่า และยังคงสภาพคล่องสูงเหมือนกัน อย่างบัญชีเงินฝากออมทรัพย์มีแต่ได้ ออนไลน์ ซึ่งให้ดอกเบี้ยสูงกว่าออมทรัพย์ปกติ หรืออีกหนึ่งทางเลือกหากไม่ได้ต้องการสภาพคล่องสูงแต่ได้ดอกเบี้ยสูงกว่าบัญชีเงินฝากออมทรัพย์มีแต่ได้ ออนไลน์ ขอแนะนำบัญชีเงินฝากประจำพิศษ 7 เดือน อัตราดอกเบี้ยสูง 1.80% ต่อปี และบัญชีเงินฝากประจำพิเศษ 14 เดือน อัตราดอกเบี้ยดีมาก ที่ 2.20%ต่อปี จากธนาคารกรุงศรี เพียงฝากขั้นต่ำ 10,000 บาทเท่านั้น และที่สำคัญ สำหรับบัญชีเงินฝากประจำพิเศษ 7 เดือน มีจ่ายดอกเบี้ยรายเดือนด้วย ดังนั้น ทุกสิ้นเดือน เด็กๆ ก็จะเห็นว่าเงินในบัญชีมีดอกเบี้ยเพิ่มเข้ามา ทำให้รู้สึกภูมิใจ ซึ่งเป็นวิธีปลูกฝังวินัยการเก็บเงินให้ลูกๆ ได้ซึมซับตั้งแต่เขายังเด็ก เพราะต้องยอมรับว่าเด็กสมัยใหม่โตมากับการใช้มากกว่าการรู้จักเก็บ

อีกทางเลือกหนึ่งที่ให้ผลประโยชน์ได้มากยิ่งขึ้นในระยะยาว มากกว่าการฝากเงินแบบออมทรัพย์ คือ การนำเงินไปซื้อกองทุนรวม ซึ่งเราสามารถเลือกลงทุนในกองทุนที่มีความเสี่ยงต่ำ ปานกลาง หรือสูง ตามระดับความเสี่ยงที่เรายอมรับได้ ซึ่งทางธนาคารกรุงศรีก็มีกองทุนจากหลากหลาย บลจ. และหลากหลายประเภทกองทุนให้ได้เลือกสรร เพื่อให้เหมาะสมกับวัตถุประสงค์ ระดับความเสี่ยง รวมถึงระยะเวลาที่สามารถลงทุนได้ สำหรับกองทุนความเสี่ยงไม่สูงมากที่แนะนำได้แก่

• กองทุน KFCORE ลงทุนในกองทุนรวมต่างประเทศซึ่งบริหารจัดการโดยบริษัท BlackRock โดยคำนึงถึงปัจจัยด้าน ESG (สิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล)
• กองทุน KF-CSINCOM ลงทุนในตราสารหนี้หลากหลายประเภทที่มีศักยภาพทั่วโลก

แต่สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่มีความคุ้นเคยกับการลงทุนในกองทุนรวมมาบ้างแล้ว สามารถรับความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้น และสามารถลงทุนด้วยระยะเวลาที่นานขึ้นได้ ธนาคารกรุงศรีก็มีกองทุนน่าสนใจทั้งจากในประเทศและต่างประเทศ ที่ผ่านการคัดกรองมาโดยเฉพาะ อาทิเช่น

• กองทุน KFGBRAND-A เน้นลงทุนในหุ้นของบริษัทที่ประสบความสำเร็จหรือ มีแบรนด์ที่นิยมทั่วโลก
• กองทุน KFESG-A ลงทุนในหุ้นของบริษัททั่วโลกที่ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล (ESG)
• กองทุน KFGG-A เน้นลงทุนในหุ้นทั่วโลกที่มีศักยภาพในการเติบโตสูง บนมุมมองการลงทุนระยะยาว
• กองทุน KFHTECH-A ลงทุนในหุ้นบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำขนาดใหญ่ และบริษัทที่มีศักยภาพเติบโตสูงทั่วโลก
• กองทุน KFHHCARE-A ลงทุนในธุรกิจกลุ่ม Healthcare ซึ่งเป็นธุรกิจที่มีความสำคัญต่อเศรษฐกิจโลก และมีศักยภาพเติบโตสูง
• กองทุน KT-Ashares-A ลงทุนในหุ้นจีน A-shares ที่มีการเติบโตสูง คุณภาพดีมีมูลค่าที่สมเหตุสมผล และได้ประโยชน์จากการเติบโตของการบริโภคภายในประเทศจีน

แต่อย่าลืมว่าการลงทุนในลักษณะนี้ มีความเสี่ยงมากกว่าการฝากเงินทั่วไป ดังนั้น ผู้ลงทุนต้องศึกษาและทำความเข้าใจลักษณะกองทุนที่เราจะลงทุน ความเสี่ยงต่างที่อาจจะเกิดขึ้น รวมถึงเงื่อนไขและผลตอบแทน ก่อนที่จะตัดสินใจลงทุน

คุณพ่อคุณแม่ที่กำลังมองหาทางเลือกเก็บเงินแต๊ะเอียของลูกให้เพิ่มพูนมากขึ้น เริ่มต้นได้ตั้งแต่ตรุษจีนปีนี้เลย จะเลือกแบบสร้างวินัยการออม หรือ แบบสร้างผลตอบแทนสูงก็ได้ เพราะเลือกแบบไหนก็ไม่สำคัญเท่ากับ “การเริ่มเร็ว” เพื่อดอกผลที่จะเติบโตเร็วตามไปด้วย

• KFCORE, KFGBRAND-A, KT-Ashares-A ป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน จึงมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งอาจทำให้ผู้ลงทุนขาดทุน หรือได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน/หรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้
• KFHHCARE-A, KFHTECH-A, KFGBRAND-A เป็นกองทุนที่ลงทุนกระจุกตัวในกลุ่มอุตสาหกรรม หรือกองทุนที่ลงทุนกระจุกตัวในประเทศ หรือกลุ่มประเทศที่กองทุนลงทุน จึงมีความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมาก ผู้ลงทุนควรขอคำแนะนำเพิ่มเติมก่อนทำการลงทุน

สนใจติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่ ธนาคารกรุงศรีอยุธยาทุกสาขา หรือที่เว็บไซต์ www.krungsri.com

บทความโดย
สิรภัทร เกาฏีระ CFP®
กลุ่มบริการที่ปรึกษาทางการเงินส่วนบุคคล
ธนาคารกรุงศรีอยุธยา