เปิดโลกมือใหม่ 7 ทริปเดินป่าในไทย แบกเป้ชิล พิชิตวิวหลักล้าน

เปิดโลกมือใหม่ 7 ทริปเดินป่าในไทย แบกเป้ชิล พิชิตวิวหลักล้าน

By Krungsri Plearn Plearn
สำหรับใครที่กำลังมองหากิจกรรมท้าทายท่ามกลางธรรมชาติ การเดินป่าเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยม เพราะได้ทั้งออกกำลังกาย สัมผัสอากาศบริสุทธิ์ และชื่นชมทัศนียภาพอันงดงามที่หาดูไม่ได้จากที่อื่น แต่สำหรับมือใหม่ การเริ่มต้นเดินป่าอาจดูเป็นเรื่องยาก เพราะต้องเตรียมตัวหลายอย่าง ทั้งร่างกายและอุปกรณ์ วันนี้น้องเพลินเพลินจะมาแนะนำเส้นทางเดินป่าในเมืองไทยสำหรับมือใหม่ที่ไปได้ตลอดทั้งปี สามารถเริ่มต้นได้ง่าย ๆ พร้อมเคล็ดลับการเตรียมตัวก่อนออกเดินทาง เพื่อให้ทริปเดินป่าครั้งแรกของคุณเป็นประสบการณ์ที่น่าประทับใจ และปลอดภัย จะน่าสนใจแค่ไหน ไปดูกันเลย

มือใหม่อยากจัดทริปเดินป่า ต้องรู้อะไรบ้าง?

ทริปเดินป่า
การเดินป่าเป็นกิจกรรมที่น่าตื่นเต้น และให้ประสบการณ์สุดพิเศษ แต่สำหรับมือใหม่ ควรเตรียมตัวให้พร้อมก่อนออกเดินทาง เพื่อให้ทริปเดินป่าครั้งแรกเป็นความทรงจำที่ดี และปลอดภัย แล้วเดินป่าต้องเตรียมอะไรบ้าง? มาดูสิ่งที่มือใหม่ทุกคนควรเตรียมตัวให้พร้อมกัน
  • ศึกษาข้อมูลเส้นทาง : สถานที่เดินป่าแต่ละแห่งจะมีกฎ หรือข้อควรระวังที่แตกต่างกันไป คุณจึงควรศึกษาสถานที่ที่จะไปให้ดี ตั้งแต่วิธีการเดินทาง ภูมิประเทศ ช่วงเวลาที่เหมาะสม สภาพอากาศ ความยากง่ายของเส้นทาง รวมถึงสัตว์มีพิษที่อาจพบด้วย
  • ตรวจสอบการลงทะเบียน : เส้นทางเดินป่าในไทยหลายแหล่ง จะต้องลงทะเบียนกับอุทยาน หรือเขตอนุรักษ์ที่ต้องการไปล่วงหน้า บางที่อาจมีการจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวต่อวัน หรือต้องมีเจ้าหน้าที่นำทางด้วย ถ้าไม่อยากเสียเที่ยว แนะนำให้ตรวจสอบการลงทะเบียนให้เรียบร้อยก่อน
  • เตรียมร่างกายให้พร้อม : เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในการเดินป่า เพราะเป็นการเดินทางในระยะไกล และส่วนใหญ่จะอยู่ในพื้นที่ที่ห่างไกลผู้คน เดินทางลำบาก เราจึงควรออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้มีความอดทนเพียงพอ ลดความเสี่ยงในการเกิดการบาดเจ็บ และเพิ่มความปลอดภัยในการเดินทางนั่นเอง
  • จัดเตรียมอุปกรณ์ให้ครบ : อุปกรณ์เดินป่าที่สำคัญจะประกอบด้วย รองเท้าเดินป่า กระเป๋าเป้ที่แข็งแรง เต็นท์และถุงนอน (กรณีพักค้างคืน) ไม้เท้าช่วยเดิน ไฟฉายคาดหัว เสื้อผ้าที่เหมาะกับสภาพอากาศ และยาสามัญต่าง ๆ
  • เตรียมน้ำและอาหาร : เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่จะช่วยให้การเดินป่าเป็นไปอย่างราบรื่น โดยเราแนะนำให้พกน้ำดื่มให้เพียงพอ และอาหารที่ให้พลังงานสูง เช่น กล้วยตาก ลูกอม และแท่งพลังงาน (Energy Bar) ซึ่งเป็นอาหารที่อยู่ท้อง และช่วยเติมพลังได้ดี

เข้าใจระดับความยากก่อนเลือกเส้นทางเดินป่าที่เหมาะกับตนเอง

ระดับเส้นทางเดินป่า
เพื่อให้ทุกคนสามารถเลือกเส้นทางเดินป่าที่เหมาะสมกับตนเอง น้องเพลินเพลินจะพาไปทำความเข้าใจระดับความยากของเส้นทางเดินป่าในไทยกัน ซึ่งสามารถแบ่งเป็น 5 ระดับ ดังนี้
  • ระดับ 1 Nature Trail : เส้นทางง่ายที่สุด ระยะทางสั้นประมาณ 1-10 กิโลเมตร ส่วนมากเป็นพื้นราบ หรือเนินเขาไม่สูงมาก เดินง่าย ใช้เวลาไม่นาน สามารถไป-กลับได้ภายในวันเดียว เหมาะสำหรับมือใหม่ หรือพาครอบครัวไปเที่ยวด้วยกัน
  • ระดับ 2 Beginner Trekking : เส้นทางผสมระหว่างพื้นราบกับเนินลาดชันเล็กน้อย ระยะทาง 5-15 กิโลเมตร อาจมีการค้างแรม 1 คืน เหมาะสำหรับผู้ที่มีประสบการณ์เล็กน้อย หรือมือใหม่ที่มีความพร้อมทางร่างกาย
  • ระดับ 3 Advanced Trekking : เส้นทางที่มีความชันมากขึ้น ระยะทาง 10-20 กิโลเมตร ใช้เวลาหลายวัน และต้องค้างแรมอย่างน้อย 1 คืน เหมาะสำหรับผู้ที่มีประสบการณ์การเดินป่า และการตั้งแคมป์มาก่อน
  • ระดับ 4 Difficult Trekking : เส้นทางส่วนใหญ่เป็นเขาลาดชันสูง ระยะทาง 20 กิโลเมตรขึ้นไป ต้องค้างแรมอย่างน้อย 2 คืน เหมาะสำหรับนักเดินป่าที่มีประสบการณ์ มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง และต้องมีเจ้าหน้าที่นำทางด้วย
  • ระดับ 5 Extreme Trekking : เส้นทางยากที่สุด ระยะทางมากกว่า 25 กิโลเมตร ต้องพักแรมหลายคืน เต็มไปด้วยความท้าทาย เหมาะสำหรับผู้ที่มีประสบการณ์ และทักษะระดับสูงเท่านั้น

รวม 7 เส้นทางเดินป่าในไทย เดินง่าย มือใหม่ก็ไปได้

เส้นทางเดินป่าในไทย
เมืองไทยมีเส้นทางเดินป่าสวยงามมากมายที่เหมาะกับนักเดินป่ามือใหม่ ต่อไปนี้คือ 7 เส้นทางเดินป่าที่มีระดับความยากหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่ไม่เคยเดินป่ามาก่อน หรือผู้ที่ต้องการความท้าทายมากขึ้น ก็สามารถเลือกเส้นทางที่เหมาะกับตัวเองได้เลย

1. ดอยม่อนจอง จังหวัดเชียงใหม่ (ระดับ Nature Trail)

ดอยม่อนจอง
เส้นทางเดินป่าดอยม่อนจอง ตั้งอยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอมก๋อย จังหวัดเชียงใหม่ นับเป็นสวรรค์ของนักเดินป่ามือใหม่ที่ต้องการสัมผัสความสวยงามของธรรมชาติในระดับที่ไม่ยากจนเกินไป เพราะสามารถเดินสบาย ๆ ได้ภายในวันเดียว โดยลักษณะพื้นที่เป็นทุ่งหญ้าเขียวขจีในหน้าฝน และเปลี่ยนเป็นทุ่งหญ้าสีทองในหน้าหนาวที่สะท้อนแสงอาทิตย์ได้อย่างสวยงาม สองข้างทางปกคลุมด้วยป่าสน และป่าดิบเขาที่ให้ความร่มรื่นตลอดการเดินทาง

นอกจากทุ่งหญ้าสีทองที่สวยงามแล้ว อีกหนึ่งจุดไฮไลต์สำคัญของดอยม่อนจองก็คือ “จุดชมวิวที่เข้าถึงง่าย” ซึ่งคุณสามารถมองเห็นทัศนียภาพรอบด้านของเทือกเขาอันสวยงามได้โดยไม่ต้องเดินไกล หรือปีนป่ายมากนัก ทำให้เหมาะสำหรับครอบครัว หรือผู้ที่เพิ่งเริ่มต้นเดินป่า นอกจากนี้ยังมีความเงียบสงบที่ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย ได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติ และเก็บภาพความประทับใจในมุมสวย ๆ กลับไปได้อีกด้วย

สำหรับคนที่สนใจมาเที่ยวดอยม่อนจอง ควรมาในช่วงฤดูหนาว (พฤศจิกายน - กุมภาพันธ์) เพราะทุ่งหญ้าจะเปลี่ยนเป็นสีทองสวยงามมาก อากาศเย็นสบาย และมักมีทะเลหมอกให้ชมในช่วงเช้า โดยก่อนเดินทางควรสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมจากเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอมก๋อยก่อน เพราะอาจมีการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขการเข้าชม และควรเตรียมเสื้อผ้าที่เหมาะสมกับอากาศที่เปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา รวมถึงอุปกรณ์เดินป่าพื้นฐาน เช่น ยาสามัญประจำบ้าน น้ำดื่ม และอาหารว่างพกติดตัวไปด้วย

2. กิ่วแม่ปาน อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ จังหวัดเชียงใหม่ (ระดับ Nature Trail)

กิ่วแม่ปานเป็นเส้นทางศึกษาธรรมชาติที่ได้รับความนิยมมากที่สุดบนดอยอินทนนท์ จังหวัดเชียงใหม่ มีความยาวประมาณ 3 กิโลเมตร (แบบวงรอบ) เป็นเส้นทางเดินป่าที่สวยงาม และเข้าถึงง่าย เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเริ่มต้นเดินป่าแบบไม่ยากเกินไป ความพิเศษของเส้นทางนี้ก็คือ คุณจะได้สัมผัสกับระบบนิเวศที่หลากหลาย ตั้งแต่ป่าดิบเขาที่ชุ่มชื้นไปจนถึงทุ่งหญ้าโล่งบนสันเขา โดยใช้เวลาเดินเพียง 2-3 ชั่วโมงเท่านั้น

การเดินป่ากิ่วแม่ปานเริ่มต้นด้วยการเดินเข้าไปในป่าดิบเขาที่ชุ่มชื้น ซึ่งเต็มไปด้วยมอส เฟิร์น และพืชอิงอาศัยนานาชนิด สร้างบรรยากาศเหมือนอยู่ในป่าเทพนิยาย จากนั้นเมื่อเดินออกจากป่าจะพบกับทุ่งหญ้าโล่งบนสันเขาที่มีลมพัดเย็นสบาย ไฮไลต์สำคัญของเส้นทางนี้คือ “ผาแง่มน้อย” ซึ่งเป็นจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นโค้งของสันเขากิ่วแม่ปานได้อย่างชัดเจน และเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยงาม นอกจากนี้ คุณยังมีโอกาสได้พบเห็นพืชหายาก และพืชเฉพาะถิ่นของดอยอินทนนท์ เช่น กุหลาบพันปี ที่บานสะพรั่งในช่วงฤดูหนาวอีกด้วย

สำหรับผู้ที่สนใจมาเที่ยวกิ่วแม่ปาน สิ่งสำคัญที่ควรทราบคือ เส้นทางนี้มีการจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยว และต้องมีไกด์ท้องถิ่นนำทางเท่านั้น จึงควรติดต่อจองล่วงหน้า โดยเฉพาะในช่วงเทศกาล หรือฤดูท่องเที่ยว (พฤศจิกายน - กุมภาพันธ์) ซึ่งเป็นช่วงที่อากาศเย็นสบาย ท้องฟ้าแจ่มใส และมีโอกาสได้เห็นทะเลหมอกในยามเช้า รวมถึงเตรียมเสื้อผ้าที่อบอุ่นเพียงพอ เพราะอากาศบนดอยอินทนนท์ค่อนข้างเย็นตลอดทั้งปี

3. ภูบักได เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง จังหวัดเลย (ระดับ Nature Trail)

ภูบักได
ภูบักได ตั้งอยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง จังหวัดเลย เป็นเส้นทางเดินป่าระดับ Nature Trail ที่มอบประสบการณ์ธรรมชาติอันบริสุทธิ์ และยังไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวเดินทางมามากนัก ความพิเศษของที่นี่คือ ความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่าที่ยังคงความเป็นธรรมชาติได้อย่างสมบูรณ์ เส้นทางเดินป่าเป็นทางเดินที่ไม่ยากเกินไป เหมาะสำหรับผู้ที่เริ่มต้นเดินป่า หรือต้องการสัมผัสธรรมชาติ โดยไม่ต้องเผชิญกับความท้าทายมากเกินไป

ระหว่างการเดินป่าภูบักได คุณจะได้สัมผัสกับความหลากหลายทางชีวภาพอันน่าทึ่ง ตั้งแต่พืชพรรณเฉพาะถิ่นที่หาดูได้ยาก ไปจนถึงเสียงนกนานาชนิดที่ส่งเสียงร้องก้องป่า นอกจากนี้ ยังมีโอกาสได้พบเห็นร่องรอยของสัตว์ป่าขนาดเล็กที่อาศัยอยู่ในบริเวณนี้ ความเงียบสงบของป่าจะช่วยให้คุณได้ผ่อนคลาย และรู้สึกถึงพลังงานบริสุทธิ์จากธรรมชาติ บางจุดบนเส้นทางมีการติดตั้งป้ายให้ความรู้เกี่ยวกับระบบนิเวศ และพืชพรรณท้องถิ่น ทำให้การเดินป่าครั้งนี้เป็นทั้งการพักผ่อน และการเรียนรู้ไปพร้อมกัน

สำหรับผู้ที่สนใจมาเที่ยวภูบักได ช่วงเวลาที่เหมาะสมคือช่วงฤดูหนาวและฤดูร้อน (พฤศจิกายน - เมษายน) เพราะอากาศเย็นสบาย และไม่มีฝน ซึ่งอาจทำให้เส้นทางลื่น และเดินยากขึ้น อย่างไรก็ตาม ก่อนเดินทาง ควรติดต่อเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง เพื่อสอบถามข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับเส้นทาง และการให้บริการนำทางให้เรียบร้อย รวมถึงเตรียมอุปกรณ์เดินป่าพื้นฐาน เช่น รองเท้าเดินป่า เสื้อผ้าที่เหมาะสม น้ำดื่ม อาหารว่าง ครีมกันแดด และสเปรย์กันยุง เพื่อการเดินป่าที่สะดวก และปลอดภัยมากขึ้น

4. ภูกระดึง อุทยานแห่งชาติภูกระดึง จังหวัดเลย (ระดับ Beginner Trekking)

ภูกระดึง อุทยานแห่งชาติชื่อดังของจังหวัดเลย เป็นยอดภูเขาที่มีลักษณะเป็นที่ราบสูงคล้ายหลังเต่า สูงจากระดับน้ำทะเล 1,316 เมตร เป็นหนึ่งในเส้นทางเดินป่าที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในประเทศไทย แม้จะอยู่ในระดับ Beginner Trekking แต่ก็ถือว่าท้าทายสำหรับมือใหม่พอสมควร เพราะต้องเดินขึ้นเขาเป็นระยะทางประมาณ 9 กิโลเมตร ใช้เวลาโดยเฉลี่ย 3-5 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับความแข็งแรงของแต่ละคน

การเดินป่าขึ้นภูกระดึงเป็นการผจญภัยที่สนุก และท้าทาย โดยเส้นทางจะแบ่งออกเป็นช่วง ๆ เรียกว่า "ซำ" มีทั้งหมด 7 ซำ ได้แก่ ซำแฮก, ซำบอน, ซำกกกอก, ซำกกหว้า, ซำกกไผ่, ซำกกโดน, และซำแคร่ แต่ละซำจะมีร้านค้าเล็ก ๆ ให้แวะพักเหนื่อย และเติมพลัง เมื่อไปถึงยอดภูกระดึงแล้ว คุณจะได้พบกับโลกอีกใบที่สวยงาม มีทั้งทุ่งหญ้า ป่าสน น้ำตกที่สวยงามหลายแห่ง เช่น น้ำตกวังกวาง น้ำตกเพ็ญพบใหม่ น้ำตกโผนพบ และน้ำตกธารสวรรค์ รวมทั้งจุดชมวิวที่สวยงามอย่างผานกเค้า ผาหล่มสัก ผาเหยียบเมฆ และผาหมากดูก ซึ่งแต่ละจุดมอบทัศนียภาพที่แตกต่าง และสวยงามไม่ซ้ำกัน

สำหรับผู้ที่สนใจไปเที่ยวภูกระดึง ช่วงเวลาที่เหมาะสมคือช่วงฤดูหนาว (พฤศจิกายน - กุมภาพันธ์) เพราะอากาศเย็นสบาย ท้องฟ้าแจ่มใส และมีโอกาสได้เห็นทะเลหมอกในยามเช้า ส่วนช่วงฤดูฝน (มิถุนายน - ตุลาคม) ธรรมชาติจะเขียวชอุ่ม และน้ำตกจะมีน้ำมาก แต่ต้องระวังเรื่องฝน และทางลื่น

ทั้งนี้ ควรเตรียมร่างกายให้พร้อมก่อนการเดินทาง โดยการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และเตรียมสัมภาระให้พร้อม หากไม่ต้องการแบกเองก็สามารถจ้างลูกหาบได้ (มีค่าบริการ) นอกจากนี้ ควรจองที่พักล่วงหน้า โดยเฉพาะในช่วงเทศกาล หรือวันหยุดยาว เพราะมีนักท่องเที่ยวจำนวนมาก

5. เขาช้างเผือก อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี (ระดับ Beginner Trekking)

เขาช้างเผือก
เขาช้างเผือก ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี ได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในเส้นทางเดินป่าที่สวยงาม และท้าทายที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย ด้วยลักษณะภูมิประเทศที่มีสันเขาทอดยาวคล้ายหลังช้าง ที่สูงจากระดับน้ำทะเล 1,249 เมตร ทำให้สามารถมองเห็นทิวทัศน์ของขุนเขาเขียวขจีได้แบบ 360 องศา แม้จะอยู่ในระดับ Beginner Trekking แต่ก็ต้องใช้ความอดทน และระมัดระวังในการเดินทางพอสมควร

การเดินป่าเขาช้างเผือกเป็นความท้าทายที่คุ้มค่า โดยเฉพาะเมื่อได้เดินผ่าน “สันคมมีด” ซึ่งเป็นช่วงสันเขาที่แคบมาก มีเหวลึกสองข้างทาง ต้องใช้ความระมัดระวังในการเดิน แต่ก็เป็นจุดที่มอบทัศนียภาพที่สวยงาม และน่าประทับใจที่สุด ตลอดเส้นทางคุณจะได้สัมผัสกับความหลากหลายของระบบนิเวศ ทั้งป่าดิบแล้ง ป่าเบญจพรรณ และทุ่งหญ้าบนสันเขา นอกจากนี้ ยังมีโอกาสได้พบเห็นพืชพรรณ และสัตว์ป่านานาชนิดที่อาศัยอยู่ในบริเวณนี้อีกด้วย

สำหรับผู้ที่สนใจไปเที่ยวเขาช้างเผือก ต้องทราบว่า อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิมีการจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวต่อวัน จึงต้องทำการจองล่วงหน้าผ่านระบบออนไลน์ของอุทยานแห่งชาติ ช่วงเวลาที่เหมาะสมคือช่วงฤดูหนาว (พฤศจิกายน - กุมภาพันธ์) เพราะอากาศเย็นสบาย ท้องฟ้าแจ่มใส และทัศนียภาพสวยงาม

6. ดอยหลวงเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ (ระดับ Beginner Trekking)

ดอยหลวงเชียงดาวเป็นยอดเขาที่สูงเป็นอันดับสามของประเทศไทย ด้วยความสูง 2,175 เมตรจากระดับน้ำทะเล ได้รับการประกาศให้เป็นพื้นที่สงวนชีวมณฑลแห่งใหม่ของโลกจากยูเนสโก ตั้งอยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาว

ก่อนการเดินทาง ควรติดต่อเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาวเพื่อจองคิว และขออนุญาต เส้นทางหลักมีสองเส้นทาง คือ เส้นทางเด่นหญ้าขัด (นิยมมากที่สุด) ที่มีระยะทางประมาณ 6.5 กิโลเมตรจนถึงที่พักแรม และเส้นทางปางวัว ซึ่งชัน และท้าทายกว่า

ระหว่างเดินป่าจะได้สัมผัสกับความสมบูรณ์ของป่า ชมดอกไม้ป่าหายาก เช่น ดอกเทียนนกแก้วที่บานในช่วงฤดูฝน และอาจได้พบเห็นสัตว์ป่า เช่น เลียงผา การขึ้นสู่ยอดดอยในช่วงเช้ามืดเพื่อชมพระอาทิตย์ขึ้นเป็นไฮไลต์ที่ไม่ควรพลาด วิวทะเลหมอก และทิวเขาสลับซับซ้อนงดงามเกินบรรยาย

7. ดอยหลวงตาก อุทยานแห่งชาติดอยสอยมาลัย จังหวัดตาก (ระดับ Advanced Trekking)

ดอยหลวงตาก
ดอยหลวงตากเป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางที่นักเดินป่ามองหาความท้าทาย ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติดอยสอยมาลัย-ไม้กลายเป็นหิน จังหวัดตาก เปิดให้ท่องเที่ยวตั้งแต่ 1 มิถุนายน ถึง 31 มกราคม และปิดช่วง 1 กุมภาพันธ์ - 31 พฤษภาคมของทุกปี

การเดินทางต้องจองล่วงหน้าผ่านทางโทรศัพท์ โดยจำกัดนักท่องเที่ยวเพียงอาทิตย์ละ 50 คน เปิดให้ขึ้นเฉพาะวันเสาร์ และอาทิตย์เท่านั้น ค่าบริการคนนำทางอยู่ที่ 1,400 บาทต่อกลุ่ม (ไม่เกิน 10 คน) บวกกับค่าลูกหาบ และค่ารถรับส่ง

ดอยหลวงตากโอบล้อมด้วยป่าไม้เขียวขจี พรรณไม้หายาก และสัตว์ป่านานาชนิด เส้นทางเดินป่ามีระยะทาง 11 กิโลเมตร มีความชันในช่วงท้าย แต่เมื่อถึงยอดดอยแล้วจะได้พบกับวิวทิวทัศน์อันตระการตาของขุนเขาและเมืองตาก ชมดาว และฟังเสียงธรรมชาติยามค่ำคืน เป็นประสบการณ์ที่คุ้มค่ากับความเหนื่อย

Tips by น้องเพลินเพลิน : ทำประกันเดินทางให้พร้อม เที่ยวทั่วไทยแบบอุ่นใจ

ประกันอุบัติเหตุ ประกันการเดินทาง
อ่านมาถึงตรงนี้แล้ว เชื่อว่า หลายคนคงได้เส้นทางเดินป่าที่ต้องการจะไปกันแล้ว แต่ก่อนที่จะออกเดินทาง น้องเพลินเพลินขอชวนทุกคนมาทำประกันอุบัติเหตุ ประกันการเดินทางในและต่างประเทศกันก่อน ไม่ว่าจะเที่ยวจังหวัดไหนก็ได้รับความคุ้มครอง ไม่ต้องกังวลเรื่องค่ารักษาพยาบาล เมื่อต้องเจอกับอุบัติเหตุต่าง ๆ พร้อมลุยเส้นทางเดินป่ากันอย่างเต็มที่
  • จะเที่ยวจังหวัดไหนก็ได้รับความคุ้มครองชีวิตให้ปลอดภัยตลอดเวลา
  • คุ้มครองสูงสุด 90 วันต่อเที่ยว
  • เบี้ยประกันเริ่มต้นเพียง 55 บาท เท่านั้น
  • พิเศษ! บริการรถเคลื่อนย้ายฉุกเฉิน

การเดินป่าเป็นกิจกรรมที่ให้ทั้งความสนุก และความท้าทาย เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการหลีกหนีความวุ่นวายของเมืองไปสัมผัสธรรมชาติอันบริสุทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นมือใหม่ที่ยังไม่มีประสบการณ์ หรือนักเดินป่าที่ชำนาญแล้ว โดยประเทศไทยมีเส้นทางเดินป่าที่หลากหลายให้เลือกตามระดับความสามารถและความพร้อมของแต่ละคน ไม่ว่าคุณจะเลือกเส้นทางไหน ตั้งแต่ดอยม่อนจองที่สวยงามในจังหวัดเชียงใหม่ ไปจนถึงดอยหลวงตากที่ท้าทายในจังหวัดตาก การเดินป่าจะมอบประสบการณ์ และความทรงจำที่มีค่าให้กับคุณอย่างแน่นอน!
ขอบคุณข้อมูลจาก: -
พิมพ์สิ่งที่ต้องการค้นหา