ไขข้อข้องใจ ที่มาของรายได้และการเสียภาษีของ YouTuber รู้ได้ที่นี่

สำหรับ YouTuber สายกินแหลกในบ้านเรา ก็มีที่ได้รับความนิยมอยู่หลายช่อง โดย Creator ที่ทำเรื่องราวเกี่ยวกับอาหารได้รับความนิยมสูงมาก ตัวอย่างเช่น คุณพีท จากช่อง PEACH EAT LAEK ที่มีลีลาการกินที่เน้นจุ เน้นกินไว ทำให้ได้รับความนิยมมากจากผู้ติดตาม หรือคุณแน็ต จากช่อง EATER CNX YouTuber สายกินหน้าใหม่ มาแรง ที่มีดีกรีในระดับประเทศ หากใครที่ชอบกินแบบกินเยอะ ๆ ลองทำคลิปแล้วอัปโหลดดูสิ รับรองคุณอาจจะดังเหมือนพวกเค้าเหล่านี้

สำหรับคลิปวิดีโอประเภทเกมในบ้านเรา ได้รับความนิยมแบบสูงสุด โดยเฉพาะเกมที่ต้องเล่นเป็นทีม โดย Creator สายเกมมีการเพิ่มมากขึ้นในทุกวัน เพราะจะได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว สำหรับ Creator ที่มีชื่อเสียงด้านเกม ตัวอย่างเช่น คุณเอก จากช่อง HRK ที่มีสไตล์การเล่นและน้ำเสียงเฉพาะตัวทำให้ผู้ติดตามทั้งเด็ก และผู้ใหญ่ทุกเพศทุกวัย ติดตามอย่างเหนียวแน่น ไม่ว่าจะเล่นเกมอะไร ก็จะเป็นกระแสพูดถึงอยู่ในโซเชียลอยู่บ่อยครั้งโดยเฉพาะเกมแข่งรถ หรือคุณไนท์ จากช่อง Gssspotted สำหรับจุดเด่นที่ทำให้หลายคนติดตามช่องนี้ก็คือ การพูดคุยในเรื่องราวหลากหลายประเด็นก่อนที่จะเริ่มเล่นเกม บางเรื่องก็เป็นเรื่องเศร้า แต่เล่าออกมาอย่างไรก็เฮฮาทุกที หากใครที่กำลังจะเริ่มเป็น YouTuber สายเกม ต้องอย่าลืมฝึกฝนเรื่องการเอนเตอร์เทนคนดู จะช่วยเพิ่มผู้ติดตามขึ้นได้อีกเยอะ
 

โดยปกติ Creator จะได้รับเงินจากค่าโฆษณาที่แสดงอัตโนมัติในคลิปวิดีโอของคุณ ยิ่งยอดการดูเยอะ เราก็จะได้เงินเยอะ ซึ่งก่อนที่เราจะเปิดรับการสร้างรายได้ต้องผ่านเงื่อนไขของ YouTube ก่อน เช่น มีจำนวนผู้ติดตามในช่องไม่ต่ำกว่า 1,000 คน หรือเราสามารถหารายได้จากสปอนเซอร์ ถ้าช่องของคุณมีจำนวนผู้ติดตาม หรือคลิปวิดีโอมีจำนวนการดูที่เยอะ ก็จะหาเงินจากสปอนเซอร์ได้ง่าย หรือใช้ระบบเมมเบอร์ ที่จะเปิดให้ผู้ติดตาม มากดร่วมเป็นสังคมในช่อง โดยจะมีค่าใช้จ่ายแยกแล้วแต่การตั้งราคาของเรา ซึ่งในจุดนี้ทาง YouTube ก็จะแบ่งรายได้กลับมาหาเราอีกทางหนึ่ง

ทุกคนเคยสงสัยกันไหม? ถ้าคลิปวิดีโอของเรามียอดคนดูหนึ่งล้านวิว เราจะได้รับเงินกี่บาท?

คำตอบก็คือ ยอดเงินที่เราจะได้ ไม่เท่ากันในแต่ละคลิป บางคลิปเราอาจจะได้หลักพัน หรือบางคลิปเราอาจได้เงินหลายหมื่นบาท ก็เพราะว่าระบบของ YouTube จะให้ผลตอบแทนสำหรับคลิปวิดีโอ สำหรับคลิปที่เป็นภาษาอังกฤษ มากกว่าคลิปที่เป็นภาษาไทย ทั้งนี้เป็นเรื่องของโฆษณา ที่คลิปภาษาอังกฤษ มีผู้ชมได้หลากหลายจากทั่วโลก แต่คลิปวิดีโอที่เป็นภาษาไทยล้วน ๆ อาจทำให้มีโฆษณาในสัดส่วนที่น้อยกว่า แบบนี้ต้องเริ่มหัดทำคลิปที่เป็นภาษาอังกฤษแล้วล่ะ
 

ไม่ว่าคุณจะเป็น YouTuber สายไหน ๆ หรือทำอาชีพอะไร เราทุกคนก็ต้องเสียภาษีเหมือนกันหมด แต่ถ้ารายได้รวมทั้งปีของเรามีจำนวนไม่เกิน 150,000 ต่อปี ก็จะได้รับการยกเว้นภาษี แต่อาชีพ YouTuber เป็นอาชีพใหม่ที่ยังไม่ได้บรรจุอยู่ในกฎหมายให้เสียภาษีโดยตรง ดังนั้นการคิดภาษีจะขึ้นอยู่กับที่มาของรายได้ โดยหลัก ๆ จะมีด้วยกัน 3 แบบคือ

• รายได้จากการโฆษณา เช่น ยอดวิว รายได้ส่วนนี้จะเป็นเงินได้ประเภทที่ 8 ที่ต้องหักค่าใช้จ่ายตามจริง
• รายได้จากสปอนเซอร์ รายได้ในส่วนนี้จะเป็นเงินได้ประเภทที่ 2 หรือ 8 ก็ได้ซึ่งถ้าเป็นการทำงานแลกเงินแบบปกติ จะต้องเสียภาษีเงินได้ในประเภทที่ 2 แต่ถ้ามีการจ้างคน มีการใช้กล้องต้องมีค่าใช้จ่ายลงทุนสูง ก็จะต้องเสียภาษีเงินได้ในประเภทที่ 8
• รายได้จากการออกอีเว้นท์โชว์ตัว จะต้องเสียภาษีเงินได้ในประเภทที่ 2 แต่ถ้าเราขยับจากการเป็น YouTuber ไปเป็นนักแสดง เงินในส่วนนี้จะต้องเสียภาษีเงินได้ในประเภทที่ 8

มาถึงตรงนี้สำหรับข้อดีการเป็น YouTuber ก็มีข้อดีที่เราสามารถหาเงินได้เยอะจากความชอบของเรา แต่สิ่งที่ไม่ควรมองข้ามเลยก็คือเมื่อเรามีรายได้เข้ามา แล้วเราจะจัดการกับรายได้ตรงนั้นอย่างไร และอย่าลืมวางแผนเรื่องภาษีเอาไว้ด้วย ไม่อย่างนั้นรายได้ที่เรามาก็จะต้องจ่ายภาษีจนหมด ไม่มีเงินเหลือเก็บแบบที่เราตั้งใจไว้ สำหรับใครยังไม่รู้ต้องวางแผนเรื่องเงินอย่างไร ลองใช้บริการวางแผนการเงิน PYM ตัวช่วยทางการเงินดี ๆ จากกรุงศรี ได้อีกทางหนึ่ง ก่อนจากกันไป..ใครที่อยากจะเริ่มต้นเป็น YouTuber อ่านบทความนี้เสร็จแล้ว ก็ลองทำคลิปวิดีโอ แล้วอัปโหลดขึ้นไปโชว์ให้ทุกคนได้เห็นกันเลย คุณอาจเป็นดาวดวงใหม่บนโลกออนไลน์คนต่อไปก็ได้