“Lifelong Learning” นักเรียนรู้ตลอดชีวิต แนวคิดที่องค์กรยุคใหม่ต้องการ

“Lifelong Learning” นักเรียนรู้ตลอดชีวิต แนวคิดที่องค์กรยุคใหม่ต้องการ

By Krungsri Plearn Plearn

การทำงานให้ประสบความสำเร็จ ได้รับการยอมรับจากหัวหน้าและเพื่อนร่วมงานนอกจากความรู้ ความสามารถ และ การมี Soft Skill ที่สำคัญอย่าง ความคิดสร้างสรรค์ การบริหารเวลา หรือการทำงานร่วมกับผู้อื่นแล้ว อีกหนึ่งทักษะที่คุณต้องให้ความสำคัญและทำความรู้จักคือ ทักษะของการเรียนรู้ตลอดชีวิต “Lifelong Learning” ท่ามกลางความรู้ที่เกิดขึ้นใหม่ในทุก ๆ วัน และสภาพสังคมที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว จึงปฏิเสธแนวคิดหรือทักษะนี้ไปไม่ได้เลย และถ้าอยากเป็นนักเรียนรู้ตลอดชีวิต หรือเป็นคนที่มีวิธีคิดแบบ “Lifelong Learning” ต้องทำอย่างไร

เปลี่ยนจากคนที่มีความคิดแบบ “Fixed Mindset” เป็น “Growth Mindset”


ขั้นแรก สิ่งที่เราต้องทำคือการปลดล็อคความคิดของตัวเอง ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่ยังคิดว่า สิ่งที่ตัวเองทำอยู่นั้นดีแล้ว หรือความรู้ที่ตัวเองมีนั้นเพียงพอต่อการทำงาน คุณก็ไม่สามารถก้าวมาเป็นคนที่มีความคิดแบบ “Growth Mindset” ได้ เพราะความคิดแบบ “Growth Mindset” จำเป็นต้องหลุดออกจากพื้นที่ทางความคิดเดิม ๆ เปิดรับความคิดใหม่ ๆ มีความยืดหยุ่น เชื่อในศักยภาพของคนและองค์ความรู้ต่าง ๆ รวมถึงมีวิสัยทัศน์ในการสร้างการพัฒนาทั้งต่อตัวเองและองค์กร การมีแนวคิดแบบ "Growth Mindset" จึงเป็นเครื่องมือสำคัญในการเป็นนักเรียนรู้ตลอดชีวิตหรือเป็นคนที่มี “Lifelong Learning”

สร้างการเรียนรู้ในรูปแบบของตัวเอง (Self-directed learning)


การเรียนรู้มีหลายรูปแบบ โดยในแต่ละรูปแบบก็จะมีเป้าหมายที่แตกต่างกัน แต่สำหรับการเป็นนักเรียนรู้ตลอดชีวิต ก็ต้องเลือกรูปแบบการเรียนรู้ในรูปแบบของตัวเอง (Self-directed learning) เพราะการกำหนดเป้าหมายและวิธีการด้วยตัวเองจะตอบโจทย์ชีวิตของคุณมากที่สุด โดยในการสร้างการเรียนรู้ในรูปแบบตัวเอง คุณจำเป็นต้องวิเคราะห์และพิจารณาตัวเองว่ามีเป้าหมายในการเรียนเพื่ออะไร ใช้ทรัพยากรอะไรบ้างในการเรียนรู้ เช่น ค่าใช้จ่าย อุปกรณ์ต่าง ๆ เราก็ต้องคำนวณ รวมถึงเลือกรูปแบบในการเรียน เช่น เรียนผ่านเวิร์กชอป, คอร์สออนไลน์ หรือหนังสือ องค์ประกอบนี้ก็ต้องวางแผนให้ดี และที่สำคัญที่สุดคือ การเรียนนั้นจะต้องประเมินผลได้ เพราะการประเมินผลจะทำให้รู้ว่า ตัวเรามีศักยภาพมากน้อยแค่ไหนตามเงื่อนไขที่ได้ตั้งไว้

สร้าง Motivation ให้กับตัวเองและนำตัวเองไปอยู่ในบรรยากาศของการเรียนรู้


การเป็นนักเรียนรู้ตลอดชีวิต แน่นอนว่าคุณจะไม่อยู่ในกรอบของสถานศึกษาอีกต่อไป ทำให้ไม่มีการปลุกเร้าของคนอื่น ๆ เหมือนกับตอนคุณเป็นนักเรียน นักศึกษา การสร้าง Motivation ให้กับตัวเองจึงเป็นสิ่งจำเป็น และในการสร้างแรงบันดาลใจในการเรียนรู้ที่ดีคือการนำตัวเองไปอยู่ในบรรยากาศของการเรียนรู้ ซึ่งยุคสมัยนี้เปิดกว้างให้กับทุกคนมาก มีงานเสวนา งาน Meet up อยู่หลากหลายงานและสามารถเข้าถึงข่าวสารเหล่านี้ได้ง่าย ๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการทำธุรกิจ การออกแบบ การพัฒนาซอฟต์แวร์ ล้วนมีพื้นที่ให้คุณได้แลกเปลี่ยนและกอบโกยความรู้เก็บเข้าตัวเอง แต่ถ้าคุณเป็นคนที่ไม่ชอบพบปะผู้คน การเข้าไปอยู่ในออนไลน์คอมมูนิตี้ตามที่คุณสนใจก็เป็นอีกตัวเลือกที่ดี ซึ่งไม่ว่าจะอยู่ในบรรยากาศแบบไหน สิ่งสำคัญที่คุณต้องคิดไว้ก็คือ คุณกำลังศึกษาสิ่งเหล่านี้ไปเพื่ออะไร

เรียนรู้แบบ Active Learning ลงมือทำกับการเรียนรู้นั้นจริง ๆ


การเรียนรู้ด้วยการลงมือทำ หรือ “Active Learning” เป็นรูปแบบการเรียนรู้ที่ช่วยพัฒนาศักยภาพของตัวเองอย่างสมบูรณ์แบบ เพราะเป็นการเชื่อมโยงความรู้ที่ได้เคยศึกษามาในอดีตและที่เพิ่งได้เรียน มาประยุกต์ใช้จริงและเห็นถึงองค์ประกอบอื่นในความรู้นั้น ๆ เพื่อนำไปต่อยอดในการทำงานต่อไปได้ แต่สำหรับความรู้ในศาสตร์ที่ลงมือทำได้ยาก อย่าง ประวัติศาสตร์ ปรัชญา เราก็สามารถสร้างการเรียนรู้แบบ Active Leaning กับองค์ความรู้นั้นได้โดยการสร้างการปฏิสัมพันธ์กับความรู้นั้น ๆ เช่น การจดโน้ตเพื่อบันทึก หรือเขียนบทความ วิธีการนี้จึงเป็นอีกวิธีการหนึ่งที่ช่วยให้เราไปถึงเป้าหมายในการเรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การเป็นนักเรียนรู้ตลอดชีวิต “Lifelong Learning” จึงเป็นวิธีคิดที่ไม่ใช่เรื่องยาก ขอเพียงคุณมีเป้าหมายและตั้งมั่นอยากจะพัฒนาตนเองและองค์กรที่คุณอยู่ คุณจะพบว่า “ตัวคุณเองมีศักยภาพในการเรียนรู้ที่ไม่รู้จบ”
ลองเปิดตา เปิดใจ และปรับวิธีคิดใหม่ เพื่อสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ตลอดชีวิตไปด้วยกันครับ
 
ขอบคุณข้อมูลจาก: valamis.com, bangkokpost.com/, success.com/, missiontothemoon.co
พิมพ์สิ่งที่ต้องการค้นหา