เตรียมตัวไปเรียนต่อต่างประเทศ แม้ทุนน้อยก็ไปได้

เตรียมตัวไปเรียนต่อต่างประเทศ แม้ทุนน้อยก็ไปได้

By Krungsri Plearn Plearn
การศึกษา เรียกได้ว่าเป็นสิ่งที่จะปูพื้นฐานให้กับอนาคตได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ในปัจจุบันที่ปัญหาเรื่องของค่าครองชีพสูงขึ้นแต่ค่าแรงที่ได้นั้นกลับสวนทางกัน ซึ่งก็เป็นปัญหาที่ใหญ่พอสมควรสำหรับคนในยุคสมัยนี้ จึงทำให้มีหลาย ๆ คนมีความคิดที่อยากไปเรียนต่อต่างประเทศในระดับปริญญาโท หรือปริญญาเอกเพื่อที่จะทำให้ตนเองนั้นสามารถอัพเงินเดือนเพิ่มขึ้น และยังเป็นสิ่งการันตีถึงความสามารถของตัวเรานั่นเอง
น้องๆ วัยรุ่นดีใจที่ได้เรียนต่อต่างประเทศ
แต่สิ่งที่เป็นปัจจัยสำคัญในการไปเรียนต่อต่างประเทศนั่นก็คือเรื่องของความพร้อม และเงินในกระเป๋า หากไม่ได้วางแผนการเงินที่ดีก็จะทำให้พลาดโอกาสที่จะไปเรียนต่อ และวันนี้เราก็มีข้อมูลดี ๆ สำหรับคนที่อยากไปเรียนต่อต่างประเทศมาฝากกัน จะมีสิ่งใดที่น่ารู้ และน่าสนใจบ้าง ก็มาดูไปพร้อม ๆ กันได้เลย

อยากไปเรียนต่อต่างประเทศต้องเริ่มอย่างไรดี?

การเก็บเงินเรียนต่อต่างประเทศ สำหรับใครหลาย ๆ คน นับว่าเป็นเป้าหมายอันยิ่งใหญ่ของชีวิตเลยก็ว่าได้ เพราะการเรียนต่อต่างประเทศนั้นเป็นอีกหนึ่งก้าวสู่ความสำเร็จที่นอกจากจะทำให้คุณมีโปรไฟล์ในการสมัครงานที่ดีแล้ว ยังเป็นตัวชี้วัดความสำเร็จของคุณได้อีกหนึ่งระดับ แต่เนื่องด้วยการไปเรียนต่อต่างประเทศนั้นจะต้องมีเรื่องของค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่มากมายเสียเหลือเกิน ทำให้ผู้คนมากมายเข้าใจว่าคนที่ได้ไปเรียนต่อในต่างประเทศนั้นจะต้องเป็นคนที่เกิดในตระกูลของคนรวย แต่แท้ที่จริงแล้วไม่ได้เป็นอย่างนั้นเสมอไป เพราะในตอนนี้คนที่มีงบน้อยก็สามารถที่จะเก็บเงินไปเรียนต่อต่างประเทศได้เช่นเดียวกัน

3 สิ่งที่ควรรู้ก่อนเก็บเงินไปเรียนต่างประเทศ

1. ประเทศที่จะเลือกไปเรียนต่อ

จะไปเรียนต่อต่างประเทศที่ไหนดี? เป็นคำถามที่คนอยากไปเรียนต่างประเทศหลาย ๆ คนมักจะถามขึ้นมาเสมอก่อนที่จะทำการเลือกไปในประเทศนั้น ๆ ซึ่งการเลือกประเทศในการไปเรียนต่อที่ดีก็ต้องดูกันที่องค์ประกอบหลาย ๆ อย่าง โดยเฉพาะเรื่องของค่าครองชีพ ความเป็นอยู่ วัฒนธรรมต่าง ๆ รวมไปถึงจะต้องรู้ว่าเป้าหมายในอนาคตนั้นคุณต้องการที่จะประกอบอาชีพในด้านใด เพราะจะทำให้เลือกประเทศที่จะไปได้ง่ายมากยิ่งขึ้น

เช่น หากคุณอยากทำงานในบริษัทเทคโนโลยีที่เป็นอันดับต้น ๆ ของโลก ก็ควรเลือกไปเรียนต่อที่ประเทศสหรัฐอเมริกา หรือหากคุณมีทุนน้อยแต่อยากเรียนในประเทศที่ได้มาตรฐานนั้น ในประเทศแถบบ้านใกล้เรือนเคียงของเราก็ยังมีประเทศสิงคโปร์ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจ เป็นต้น แต่โดยส่วนใหญ่แล้วผู้คนมักจะเลือกประเทศในแถบยุโรป เพราะมีคุณภาพชีวิตที่ดี รวมไปถึงมีรูปแบบในการศึกษาที่หลายประเทศยอมรับ และสวัสดิการที่ได้รับความพึงพอใจจากผู้ที่ไปเยือนนั่นเอง
น้องๆ วัยรุ่นคำนวณเงินไปเรียนต่อต่างประเทศ

2. ข้อมูลเอกสาร และสิ่งอื่น ๆ ที่ต้องเตรียม

ในการไปเรียนต่อต่างประเทศนั้นเรื่องของเอกสารถือเป็นเรื่องที่สำคัญเป็นอย่างมาก โดยเอกสารที่จะต้องใช้ในการไปเรียนต่อก็มีดังนี้
  • หนังสือเดินทาง
  • เอกสารวีซ่า
  • เอกสารประกันต่างๆ เช่น ประกันสุขภาพ หรือประกันการเดินทาง
  • ใบจองหอพัก
  • ตั๋วเครื่องบิน
  • วัคซีน พาสปอร์ต
  • ใบขับขี่สากล (ถ้ามี)

นอกจากนี้ในบางมหาวิทยาลัย หรือสถาบันการศึกษานั้นก็จะมีเอกสารในการยื่นสมัครที่มีความแตกต่างกันออกไป ซึ่งนั่นก็เป็นเรื่องของข้อกำหนดและเงื่อนไขต่าง ๆ ของทางสถาบันการศึกษาที่เราจะต้องศึกษาข้อมูลก่อนไปให้ครบถ้วน ซึ่งเอกสารที่แต่ละมหาวิทยาลัยส่วนใหญ่จะใช้นั้นก็มีดังนี้
  • ใบสมัครเข้าศึกษาต่อ
  • ใบแสดงผลการเรียน หรือใบจบการศึกษาจากสถาบันเดิม
  • Graduation Certificate
  • ผลการสอบภาษาอังกฤษ เช่น IELTS หรือ TOEFL ที่แต่ละประเทศ แต่ละสถาบันจะมีคะแนนขั้นต่ำที่แตกต่างกัน
  • จดหมาย หรือเอกสารรับรองการเรียนโดยอาจารย์จากสถาบันเดิม
  • จดหมายแนะนำตัว (SOP: Statement of Purpose)
  • เอกสารรับรองสุขภาพ
  • หนังสือรับรองการทำงาน ในกรณีที่คณะ หรือมหาวิทยาลัยต้องการ
(Ref : https://interpass.in.th)

สิ่งที่จะลืมไปไม่ได้หากต้องไปต่างประเทศคือการขอวีซ่า ที่หากใครไปทำการศึกษาต่อนั้นก็สามารถเลือกขอเป็นวีซ่าสำหรับการศึกษาต่อได้เลย ซึ่งในส่วนนี้ก็จะต้องดูตามข้อกำหนดของมหาวิทยาลัยประกอบเข้าไปด้วย

นอกจากเอกสารที่เราจะต้องเตรียมการให้พร้อมแล้ว ก็ยังมีเรื่องของเสื้อผ้า และสัมภาระต่าง ๆ ที่จะต้องเตรียมไปให้เหมาะกับสภาพอากาศของประเทศนั้น ๆ

3. การแลกเงิน หรือดูเรตอัตราแลกเปลี่ยน เลือกอย่างไรให้แลกเงินได้คุ้มค่า

ในการแลกเงินทุกครั้ง จะต้องสังเกตเรื่องของอัตราแลกเปลี่ยนเงินในแต่ละสกุลเงินที่เราต้องการจะแลกเสียก่อน เพราะหากเป็นช่วงที่ค่าเงินตกนั้น ก็ถือว่าเป็นช่วงที่ดีมาก ๆ ที่ควรจะทยอยแลกเงินเก็บเอาไว้ เพราะนั่นก็เป็นไปได้ว่าอาจจะมีการขยับขึ้นหรือลงของค่าเงินได้อีกในอนาคต ดังนั้นหากเห็นค่าเงินตกเมื่อไหร่ การแลกเปลี่ยนเงินเอาไว้ก่อนจะถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าเป็นอย่างมาก และแนะนำให้เลือกแลกเงินเป็นเงินสกุลใหญ่เอาไว้ก่อน อย่าง USD ที่เป็นเงินดอลล่าร์สหรัฐ เพราะถ้าเราแลกเป็นเงินสกุลใหญ่เอาไว้ก่อนเวลาที่เราต้องการจะไปแลกเป็นสกุลเงินอื่น ๆ นั้นก็จะได้ความคุ้มค่า และความเต็มเม็ดเต็มหน่วยมากกว่า และยังสามารถแลกคืนได้ง่ายกว่านั่นเอง
 
หญิงสาวดีใจที่ได้เงินกดในเรตถูก เมื่อได้ไปเรียนต่อต่างประเทศ
หากใครชอบความสะดวกสบายในการแลกเงินต่างประเทศ อาจลองมาใช้บัตรกรุงศรี Boarding Card ที่สามารถให้เราเลือกซื้อเงินต่างประเทศในเรตราคาที่คุ้มค่า และแลกเงินได้สะดวกสุด จะช่วยให้ชีวิตง่ายขึ้นอีกเยอะเลย หากใครสนใจสามารถ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่เลย
(Ref https://promotions.co.th)

การไปเรียนต่างประเทศต้องใช้เงินเท่าไหร่? มีค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง

ในการเรียนต่อต่างประเทศนั้น ค่าใช้จ่ายถือเป็นเรื่องที่สำคัญเป็นอันดับแรกเลยก็ว่าได้ เพราะจะมีทั้ง ค่าที่พัก ค่าเทอม หรือจะเป็นค่ากินต่าง ๆ โดยจะต้องมีการบริหารและจัดการให้ดี เพราะหากบริหารการเงินไม่ดีแล้วก็จะทำให้ความเป็นอยู่ในประเทศที่เราต้องการไปศึกษาต่อนั้นยากมากยิ่งขึ้น

ตัวอย่างประเทศ และค่าครองชีพ

1. ประเทศสวีเดน

ค่าเทอมประมาณโดยเฉลี่ย
  • ปริญญาตรี (เริ่มต้นที่) : 268,534 บาท / ปีการศึกษา
  • ปริญญาโท (เริ่มต้นที่) : 469,935 บาท / ปีการศึกษา
  • ค่าครองชีพประมาณ และค่าเช่าห้องพัก ประมาณ 15,105 บาท ต่อเดือน
(Ref : https://www.hotcourses.in.th)

2. ประเทศนิวซีแลนด์

ค่าเทอมประมาณโดยเฉลี่ย
  • ปริญญาตรี (เริ่มต้นที่) : 87,697 บาท / ปีการศึกษา
  • ปริญญาโท (เริ่มต้นที่) : 998,658 บาท / ปีการศึกษา
(Ref : https://www.idp.com, https://www.hotcourses.in.th)

3. ประเทศแคนาดา

ค่าเทอมประมาณโดยเฉลี่ย
  • ปริญญาตรี (เริ่มต้นที่) : 1,063,404 บาท / ปีการศึกษา
  • ปริญญาโท (เริ่มต้นที่) : 157,874.25 / ปีการศึกษา
  • ค่าครองชีพประมาณ 38,000 บาท
(Ref : https://korpungun.com, https://www.hotcourses.in.th )
รูปธนบัตร
จะสังเกตได้ว่าในแต่ละประเทศนั้นมีทั้งค่าใช้จ่าย ค่าครองชีพ และค่าเทอมที่ค่อนข้างสูง ทำให้เราต้องมีการวางเป้าหมายด้านการเงิน ซึ่งในการเก็บเงินที่มีความต่อเนื่องและมีการเก็บอย่างเป็นประจำ ก็จะช่วยให้คุณสามารถมีแบบแผนในการเก็บเงินที่เป็นระบบมากยิ่งขึ้น เช่น การทำงานพาร์ทไทม์เสริม จะยิ่งช่วยเร่งเงินออมสำหรับแผนการเรียนต่อต่างประเทศอีกด้วย และเราสามารถนำเงินที่ได้มานั้นทำการแบ่งฝากในอีกหนึ่งบัญชีนอกเหนือจากบัญชีที่เราใช้ประจำ

โดยเราอาจมองหาตัวช่วยดี ๆ ที่ช่วยออมเงิน เช่น บริการ Kept by Krungsri ที่ให้ดอกเบี้ยสูงสุด 2% และสามารถทำบัญชีกองทุนรวม ที่เปลี่ยนจากออมเงินเป็นการลงทุน ช่วยต่อยอดเงินที่มีให้มากขึ้น เพิ่มเงินเก็บที่ตั้งเป้าหมายจะไปเรียนต่อต่างประเทศได้ไวยิ่งขึ้น สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติม คลิกตรงนี้ได้เลย https://www.keptbykrungsri.com

หากใครที่กำลังมีความคิด หรือมีแพลนที่จะเก็บเงินเรียนต่อต่างประเทศอยู่นั้น ก็จำเป็นจะต้องศึกษาเรื่องวิธีบริหารชีวิต และบริหาร และวางแผนการเงินใช้รวมถึงแผนการใช้ชีวิตในแต่ละประเทศด้วยว่าจะเป็นไปในทิศทางใด เพื่ออนาคตของเรานั่นเอง
ขอบคุณข้อมูลจาก: -
พิมพ์สิ่งที่ต้องการค้นหา