ทุกวันนี้คนรุ่นใหม่เป็นกำลังหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคม พิสูจน์แล้วว่าเขาสามารถเปลี่ยนโลกทั้งใบได้ โดยใช้เทคโนโลยีร่วมกับความคิดสร้างสรรค์ออกมาเป็นนวัตกรรมที่เป็นประโยชน์กับสังคม ซึ่งคนรุ่นใหม่เป็นใครก็ได้ไม่จำกัดเพศและวัย เพียงแต่โดยมากมักจะอยู่ใน Gen Y และ Gen Z เพราะเป็นวัยเรียนรู้เทคโนโลยีใหม่ได้ง่ายและไม่ถูกกรอบของสังคมมาปิดกั้นมากนัก บทความนี้ ผมจะพาไปดูกันว่า ไอเดียเก็บเงินซื้อบ้านของคนรุ่นใหม่เป็นอย่างไรบ้าง

Gen Y คือคนที่เกิดในปี พ.ศ. 2523 – 2540 ปัจจุบันอายุ 24 – 41 ปี และ Gen Z คือคนที่เกิดในปี พ.ศ. 2540 เป็นต้นไป ปัจจุบันอายุต่ำกว่า 24 ปี ซึ่งทั้งสอง Gen มีลักษณะบางอย่างเหมือนกันคือ เป็นคนที่มีความสามารถด้านเทคโนโลยี มองโลกในแง่ดี แต่ไม่ค่อยมีความอดทน ต้องการประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว ซึ่งคนรุ่นใหม่เหล่านี้จะพาสังคมไทยก้าวเข้าสู่ยุคดิจิทัลอย่างเต็มตัว เพื่อชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น แต่มีสิ่งหนึ่งที่คนรุ่นใหม่ต้องเผชิญความท้าทายอย่างมากนั่นก็คือ “การมีเงินซื้อบ้าน” ซึ่งเป็นปัจจัยหลักในการมีบ้านหลังแรก ซึ่งการทำงานและการใช้ชีวิตของคน Gen Y ยังส่งผลถึงวิธีเก็บเงินซื้อบ้านด้วยตนเอง ที่อาจเป็นเรื่องยากมากขึ้น ด้วยเหตุผล 3 ข้อ ดังนี้
- บ้านเป็นทรัพย์สินที่มีมูลค่าสูงที่สุดในชีวิต การมีบ้านเป็นของตนเองจึงถือเป็นสัญลักษณ์แห่งความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ ทำให้คนรุ่นใหม่มีไอเดียเก็บเงินซื้อบ้านเพื่อสะท้อนการประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว แต่บ้านสมัยนี้ราคาแพงกว่าสมัยก่อนมาก ผมขอแนะนำให้ใจเย็น รอเก็บเงินให้พร้อมก่อน
- รวยกระจุกจนกระจาย คนรุ่นใหม่ต้องหักห้ามใจไม่ให้เป็นหนี้ มีสินค้าแบรนด์เนมน่าซื้อเยอะแยะเต็มไปหมด เห็นคนอื่นมี เราก็อยากมีบ้าง เงินหาง่ายก็ใช้ไปง่ายเหมือนกัน ผมขอแนะนำให้หัดออมเงินไม่ใช้จ่ายอย่างฟุ่มเฟือย
- รายได้เฉลี่ยโตไม่ทันราคาบ้าน คนรุ่นใหม่ต้องใช้เวลาเก็บเงินนานขึ้นกว่าจะได้เป็นเจ้าของบ้าน หรือบางคนต้องยอมลดขนาดความต้องการของตนเองลง เช่น ยอมเลือกพื้นที่แคบลง อยู่อาศัยทำเลไกลขึ้นมาก ผมขอแนะนำไอเดียเก็บเงินซื้อบ้านด้วยการหารายได้เพิ่มเพื่อให้รายได้ของเราโตเร็วกว่าราคาบ้าน
ตารางราคาบ้านเฉลี่ยในกรุงเทพฯ (ล้านบาท)
ทำเล |
คอนโด |
ทาวน์โฮม |
บ้านเดี่ยว |
เมืองชั้นใน |
6.2 |
13.0 |
27.0 |
เมืองชั้นกลาง |
3.4 |
4.0 |
11.5 |
วงแหวนฝั่งตะวันออก |
2.1 |
3.0 |
7.5 |
วงแหวนฝั่งตะวันตก |
2.1 |
2.7 |
6.6 |
อ้างอิงข้อมูลจากเว็บ TerraBKK ณ วันที่ 11/10/2017
บ้านเป็นทรัพย์สินที่แพงที่สุดในชีวิต ผมขอใช้ตัวเลขราคาบ้านเฉลี่ยในกรุงเทพฯ มาแสดงให้เห็นภาพจำนวนเงินที่ต้องเตรียมมาซื้อบ้าน เพื่อเป็นไอเดียในการเก็บเงินซื้อบ้านให้ทุกคนเห็นภาพได้ง่ายขึ้น โดยบ้านเดี่ยวมีราคาแพงสุดรองลงมาเป็นทาวน์โฮมและคอนโดตามลำดับ ทำเลเมืองชั้นในมีราคาแพงสุดรองลงมาเป็นเมืองชั้นกลาง วงแหวนฝั่งตะวันออก และวงแหวนฝั่งตะวันตกตามลำดับ นอกจากนี้ คนที่ทำงานในเมืองและมีงบจำกัดไม่เกิน 3 ล้านบาท ผมมองว่าทาวน์โฮมกับคอนโดที่อยู่ใกล้รถไฟฟ้าและทางด่วนเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจกว่าบ้านเดี่ยว เพราะกว่า 80% ของคนซื้อบ้านใช้วิธีขอ
สินเชื่อบ้านกับธนาคาร ทำให้มีภาระหนักต้องจ่ายดอกเบี้ยทุกเดือน ควรใช้วิธีเก็บเงินซื้อบ้านในกำลังที่พอจ่ายไหว เปรียบเหมือนกับนกน้อยทำรังแต่พอตัว จะได้มีเงินเหลือไป
ลงทุนสร้างความมั่งคั่งได้
ตารางเปรียบเทียบทาวน์โฮมกับคอนโดงบ 3 ล้านบาท
|
คอนโด |
ทาวน์โฮม |
ทำเล |
กรุงเทพฯ ชั้นกลาง |
กรุงเทพฯ ชั้นนอก |
พื้นที่ใช้สอย |
30 ตร.ม. |
100 ตร.ม. |
จำนวนห้องนอน |
1 ห้องนอน |
2 ห้องนอน |
จำนวนห้องน้ำ |
1 ห้องน้ำ |
2 ห้องน้ำ |
จำนวนที่จอดรถ |
1 คัน |
2 คัน |
คนรุ่นใหม่เทใจชอบคอนโดมากกว่าทาวน์โฮม โดยยอมลดขนาดพื้นที่ใช้สอยลง เพื่อแลกกับคอนโดที่ตั้งอยู่ในทำเลทองใกล้รถไฟฟ้า เดินทางสะดวก และการได้อยู่บนตึกสูงดีไซน์ทันสมัย เห็นวิวสูงแบบ Bird Eye View ก็ถูกอกถูกใจด้วยเหมือนกัน แต่ก่อนซื้อบ้านอยากให้ลองสำรวจความต้องการที่แท้จริงของตนเองและครอบครัวดูว่า รูปแบบการอยู่อาศัยแบบไหนตอบโจทย์มากกว่ากัน เพราะการวางแผนเก็บเงินซื้อบ้านสักหลังหมายความว่าเราต้องอยู่กันนับสิบปี ถ้าเลือกถูกชีวิตก็จะมีความสุข
ตารางวงเงินกู้และวงเงินผ่อนชำระสูงสุดตามเงินเดือน (บาท)
โดยสมมติระยะเวลากู้ 30 ปี ไม่มีหนี้สินอย่างอื่น และอัตราดอกเบี้ยเงินกู้เฉลี่ย 7% ต่อปี
รายได้ต่อเดือน |
วงเงินกู้ |
วงเงินผ่อนชำระ |
20,000 |
1,202,460 |
8,000 |
30,000 |
1,803,690 |
12,000 |
40,000 |
2,404,921 |
16,000 |
50,000 |
3,006,151 |
20,000 |
100,000 |
6,012,302 |
40,000 |
อ้างอิงข้อมูลจาก Home.co.th
ไอเดียเก็บเงินซื้อบ้านด้วยตนเองนั้นเป็นสิ่งที่ดี แต่ก็ต้องใช้เวลาหลายปีกว่าจะมีเครดิตขอสินเชื่อบ้านผ่าน จุดเริ่มต้นต้องมาจากการมีรายได้มั่นคงอย่างน้อย 20,000 บาทต่อเดือน ซึ่งเป็นงานประจำหรืองานฟรีแลนซ์ก็ได้ แต่ต้องมีรายได้เข้ามาสม่ำเสมอทุกเดือน และแหล่งรายได้นี้มีความมั่นคง นอกจากนี้ ต้องเริ่มรู้จักออมโดยใช้จ่ายน้อยกว่าที่หามา อัตราการออมอย่างน้อย 20% ของรายได้ต่อเดือน ซึ่งบางเดือนอาจมากกว่าหรือน้อยกว่านี้ก็เป็นเรื่องปกติ แต่เฉลี่ยทั้งปีไม่ควรต่ำกว่าตัวเลขนี้
จากตารางด้านบนจะเห็นได้ว่ารายได้ 20,000 บาทต่อเดือน เป็นเพียงจุดเริ่มต้นที่จะกู้บ้านราคาล้านต้น ๆ แต่บ้านที่หมายปองราคาอาจสูงกว่านี้ วิธีเก็บเงินซื้อบ้านให้ได้จึงจำเป็นต้องหารายได้เพิ่ม อย่างเช่น คอนโดราคา 3 ล้านบาท ใกล้รถไฟฟ้า ก็ต้องขยับรายได้ให้ถึง 50,000 บาทต่อเดือน หรือต้องหาคนกู้ร่วมที่มีรายได้อย่างน้อย 30,000 บาทต่อเดือน มาร่วมด้วยช่วยกัน ถึงตรงนี้บางคนอาจสงสัยทำไมเราไม่เก็บเงินให้ครบ 3 ล้านบาทแล้วค่อยไปซื้อบ้าน นั่นเพราะกว่าจะเก็บครบราคาบ้านก็แพงขึ้นไปอีกไกลแล้ว ไอเดียเก็บเงินซื้อบ้านที่ดีจึงควรตอบโจทย์ทั้งเรื่องเวลาและจำนวนเงินไปพร้อม ๆ กัน
เทคนิคการหารายได้และเก็บออมที่เป็นไอเดียเก็บเงินซื้อบ้านที่ดีคือ “
>การตั้งเป้าหมายและทำบันทึกการเงิน” โดยเป้าหมายช่วยให้เราไม่หลงทาง รู้ถึงความต้องการที่แท้จริงของตนเอง และรู้สึกมีกำลังใจเวลาขยับเข้าใกล้เป้าหมายทุกที ส่วนการทำบันทึกการเงินก็เพื่อให้สำรวจตัวเองว่ามีพฤติกรรมการใช้เงินอย่างไร ไม่ว่าเรื่องรายได้ เงินออม หนี้สิน หรือการลงทุน พอทำตัวเลขออกมาจะเห็นจุดที่ควรปรับปรุง ลองทำตามไอเดียเรื่องการเก็บเงินซื้อบ้านนี้ดูครับ แล้วจะพบว่าเก็บเงินได้อยู่หมัด
เนื่องจากการขอสินเชื่อบ้านก็เป็นแนวทางหนึ่งของไอเดียเก็บเงินซื้อบ้านที่หลาย ๆ คนเลือก แต่สินเชื่อประเภทนี้ยังมีปัจจัยอื่นที่มีผลต่อการพิจารณาอนุมัติ และจุดประสงค์ไม่ใช่แค่กู้ผ่าน แต่ยังต้องผ่อนไหวด้วย ดังนั้น ผมขอสรุปคุณสมบัติของคนที่พร้อมขอสินเชื่อบ้านเอาไว้ดังนี้
- มีรายได้มั่นคงอย่างน้อย 20,000 บาทต่อเดือน
- มีเงินออมอย่างน้อย 20% ของราคาบ้าน
- ราคาบ้านไม่เกิน 60 เท่าของรายได้ต่อเดือน
- ยอดผ่อนชำระรายเดือนรวมทุกสินเชื่อไม่เกิน 40% ของรายได้ต่อเดือน
- มีประวัติการชำระเงินที่ดีในเครดิตบูโร
คุณสมบัติที่ผมแนะนำต้องใช้เวลาเก็บเงินเพิ่มอีกสักหน่อย แต่ทำให้มั่นใจว่าสินเชื่อบ้านจะไม่เป็นภาระจนจ่ายไม่ไหวกลายเป็นหนี้เสีย ตัวเลขนี้อาจสูงในสายตาของคนรุ่นใหม่ แต่พอทำไปสักพักจะรู้ว่าการตั้งเป้าหมายไว้สูงจะทำให้เราเก็บเงินเป็นและสามารถซื้อบ้านได้อย่างสบาย และนี่ก็คือไอเดียเก็บเงินซื้อบ้านที่สามารถนำไปปรับใช้ให้เหมาะกับตัวเองได้เลยครับ