ปีใหม่นี้หลายคนก็มีความคิดที่จะอยากจะเริ่มต้นสิ่งใหม่ ๆ โดยบางคนอาจเลือกที่จะเปลี่ยนแปลงโดยการซื้อของให้ตัวเอง เช่น ถ้าวันนี้คุณยังเป็นวัยรุ่น ก็อาจอยากได้แก็ดแจ็ตใหม่ ๆ หรือถ้าเป็นวัยทำงานก็อยากซื้อรถสักคัน เพื่อเป็นของขวัญและกำลังใจที่ดีสำหรับการเริ่มต้นชีวิต แต่นอกเหนือจากการให้ของขวัญตัวเองเป็นสิ่งของ ก็ยังมีอีกหลายสิ่งที่เราในวันนี้ยังขาดและถ้าได้มาก็อาจเติมเต็มชีวิตให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น แล้วอะไรล่ะ? ที่เรายังขาดไป ในเมื่อหลายสิ่งที่เราต้องการ ก็สามารถซื้อได้ด้วยเงิน วันนี้เราได้รวบรวมสิ่งที่คุณต้องมีเพื่อที่จะได้เริ่มต้นปีใหม่ได้อย่างมีชีวิตที่สดใส จะมีอะไรบ้างที่เราต้องยังต้องการมากกว่านี้ ไปดูพร้อมกันเลย
1. มีความฝันที่ชัดเจน
สำหรับใครหลายคนเมื่อใช้ชีวิตมาถึง ณ เวลานี้ก็ยังมีคำถามที่ยังค้างคาใจว่า ตัวเราเองต้องการอะไรในชีวิตกันแน่นะ หลายคนก็ใช้เวลาเพื่อตามหาความฝันที่ตัวเองต้องการ เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาในชีวิตมากเกินไป ในปีหน้าเราลองมาตั้งโจทย์ความต้องการของเรากันดีกว่า ว่าในปีต่อไป เราอยากจะมีชีวิตแบบไหน อยากทำอะไร อาจกำหนดโจทย์เพื่อเป็นการเริ่มต้นง่าย ๆ เช่น ในปีหน้าจะเริ่มตั้งใจเรียน เพื่ออยากทำอาชีพที่เราภูมิใจ หรือใช้ความชอบ เพื่อต่อยอดเป็นความฝันในอนาคต ถ้าหากคุณเป็นคนชอบออกกำลังกาย ปีหน้าลองหากีฬาใหม่ ๆ ลองเล่น เช่น ตั้งเป้าอยากเล่นสเกตบอร์ดในระดับเทิร์นโปร หรืออยากปั่นจักรยานไปทั่วไทย ใครหลาย ๆ คนฝันอยากมีเงินเก็บเพื่อให้ชีวิต
ครอบครัวมั่นคงในยามฉุกเฉิน ไม่ต้องกลัวว่าใครจะดูถูกความฝันของคุณ ขอแค่คุณตั้งความฝันที่มีให้ชัดเจน แล้วเริ่มต้นไขว่คว้าทำให้สำเร็จให้ได้
2. มีชีวิตเป็นตัวของตัวเอง ในเวอร์ชั่นที่ดีขึ้น
ในอดีตเราอาจต้องทำอะไรเพื่อคนอื่นโดยที่เราอาจไม่ได้ชอบ เช่น เรียนในสิ่งที่ครอบครัวต้องการ หรือทำงานในสายที่ครอบครัวบอกว่าดี ไม่ใช่สิ่งที่คนอื่นเลือกให้เรามันผิด แต่สิ่งนั้นไม่ใช่ความสุขของเรา ปีใหม่นี้ลองฟังเสียงหัวใจของตัวเองหน่อยดีไหมว่าเราชอบอะไร หรืออยากทำงานอะไร แล้วตัดสินใจบอกกับคนอื่นว่า สิ่งนี้คือตัวเรา คืออนาคตของเรา ลองตัดสินใจให้เด็ดขาด เพราะชีวิตของเราทุกคนมีแค่ครั้งเดียว ถ้ามัวแต่ให้คนอื่นคอยตัดสินใจแทนเราอยู่ตลอด หากในอนาคตเรายังฝืนทำในสิ่งที่ไม่ใช่ตัวเรา ในวันนั้นเราคงจะมานั่งโทษตัวเองว่า ทำไมเราไม่ทำอย่างนี้ล่ะ ทำอย่างนั้นล่ะ ลองใช้ชีวิตเพื่อตัวของเราเองบ้าง แล้วต่อจากนั้นอนาคตจะเป็นอย่างไร จะประสบความสำเร็จหรือไม่ คุณก็สามารถบอกคนอื่นได้เลยว่านี่แหละ คือสิ่งที่เราเลือก เราได้ทำความฝันของตัวเองแล้ว
3. มีสุขภาพที่ดีสมบูรณ์แข็งแรง
เป็นเรื่องที่น่าแปลกหลายคนมุ่งมั่นที่จะมีการงานที่ดี มีเกรดที่สูง ให้ความสำคัญกับหลาย ๆ สิ่งในชีวิต แต่กลับให้ความสำคัญกับสุขภาพของตัวเองน้อยที่สุด อาจเป็นเพราะเรายังอายุน้อย คิดว่าเรายังแข็งแรง ค่อยไปออกกำลังกายตอนอายุเยอะก็ได้ คิดแบบนี้หันมาดูตัวเองอีกที คงมีหุ่นที่แย่ หรือเจ็บป่วยบ่อย ปีใหม่ปีนี้ลองเปลี่ยนไลฟ์สไตล์ในชีวิตมาออกกำลังกายในตอนเย็นของทุกวันกันหน่อยดีไหม เริ่มต้นด้วยการวิ่ง หรือเดินเบา ๆ ซักประมาณ 30 นาทีเพื่อเป็นการเริ่มต้นที่ดี แล้วค่อย ๆ เพิ่มระดับการ
ออกกำลังกายให้เข้มข้นขึ้น และจากเดิมที่เราอาจกินอาหารที่ไม่ค่อยมีประโยชน์ เช่น อาหารแช่แข็ง หรือประเภททอด รู้ไหมอาหารแบบนี้ทำให้สุขภาพเราแย่โดยที่เราไม่รู้ตัว ลองลดอาหารเค็ม มัน ทอดให้น้อยลง แล้วคอยสังเกตความเปลี่ยนแปลงของร่างกาย จากเดิมที่ป่วยบ่อย เราจะกลับมาแข็งแรงอีกครั้ง แล้วสามารถทำอะไรในชีวิตได้อีกหลายอย่าง เช่น ทำงานได้อย่างกระฉับกระเฉง ใส่เสื้อผ้าได้อย่างมั่นใจ มามีสุขภาพที่แข็งแรงในปีใหม่นี้ด้วยกันดีกว่า
4. มีทัศนคติที่ดีทั้งต่อตัวเอง ผู้อื่น และสังคม
“Change your thoughts and you change your world” กล่าวโดยนักเขียนชาวอเมริกา ชื่อ Norman Vincent Peale โดยคำกล่าวนี้ส่งผลเรื่องของทัศนคติของคุณ หากเราเริ่มต้นมีทัศนคติที่ดี อาจส่งผลให้เรามองหลายสิ่งในชีวิตเปลี่ยนไป ในสังคมยุคปัจจุบันอาจเป็นเรื่องที่เราอาจหลงลืม หรือมองข้ามเรื่องการทำดีต่อผู้อื่น ในปีใหม่นี้ลองเปลี่ยนความคิด สร้างทัศนคติในแง่บวกกับสิ่งต่าง ๆ ทั้งกับตัวเรา ต่อผู้อื่น และกับสังคม โดยเราอาจเริ่มต้นง่าย ๆ จากเดิมเราอาจมีความคิดในด้านลบเมื่อเห็นคนอื่นทำในสิ่งที่ตัวเรารู้สึก หรือหงุดหงิด ลองเปลี่ยนมุมคิดว่าทำไมเขาเหล่านั้นต้องทำสิ่งนั้น เปลี่ยนมุมมองการมองโลกให้ดีขึ้น ชีวิตของเราก็อาจมีความสุขมากขึ้น หรือถ้าเพื่อนในชั้นเรียน หรือที่ทำงานมีผลงานที่ดี หากเดิมเรารู้สึกอิจฉา ลองเปลี่ยนมาเป็นชื่นชมกับความสำเร็จของคนอื่น คิดแบบนี้แล้วเราก็อาจเปลี่ยนตัวเราเองให้ดีขึ้นได้ หรือถ้าวันนี้คุณมีกำลังสมอง หรือกำลังทรัพย์ที่เพียงพอ จากเดิมที่เรามีทุกอย่างเพื่อตัวเราเอง ลองแบ่งปันสิ่งที่เรามีเล็ก ๆ น้อย ๆ กลับคืนสู่สังคม เพื่อให้คนอื่นได้รู้สึกถึงความสุขแบบเดียวกับคุณก็เป็นเรื่องที่ดีนะ
5. มีความมั่นคงด้านการเงิน
ปีใหม่นี้ลองเปลี่ยนมาสร้างความมั่นคงทางการเงินกันดีไหม ด้วยแอปพลิเคชัน Kept ภายใต้แบรนด์ใหม่ Kept by krungsri จากธนาคารกรุงศรี ที่จะช่วยเก็บเงินให้อัตโนมัติโดยที่ไม่ต้องเปลี่ยนไลฟ์สไตล์ในชีวิต เหมาะสำหรับคนยุคใหม่ แล้วแอปฯ นี้ดีอย่างไร ถึงเหมาะกับการเก็บเงิน
นั่นก็เพราะแอปฯ Kept มี 3 บัญชีย่อยที่เปรียบเสมือน 1 กระเป๋า 2 กระปุก ทำงานร่วมกัน ช่วยบริหารเงินง่าย ที่ทำให้เราเก็บเงินได้สนุกกว่าเดิม มาดูกันดีกว่าแต่ล่ะบัญชีในแอปฯ Kept มีดีอย่างไร?
- บัญชีแรก “Kept” ทำให้เราเหมือนมีกระเป๋าสตางค์เพิ่มอีกใบที่เหมาะกับการใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ที่สามารถใช้โอนเงินกี่ครั้งก็ได้ไม่มีค่าธรรมเนียม และเราสามารถกำหนดยอดเงินในบัญชี (กระเป๋า) Kept ว่าอยากให้มีเงินไว้ใช้ในกระเป๋า Kept เท่าไหร่เพื่อใช้จ่าย ช่วยควบคุมการใช้จ่ายของเราได้
- บัญชีที่สอง “Grow” ที่เหมาะกับการออมเงินก้อน เพราะบัญชี Grow เหมือนกระปุกที่เราใช้เก็บเงินเพื่อรับดอกเบี้ยสูง เมื่อเงินในกระเป๋า Kept เกินกว่ายอดที่ตั้งไว้ใช้ ระบบจะโอนเงินจากกระเป๋า Kept เข้ามาออมที่กระปุก Grow ให้อัตโนมัติในวันถัดไป หรือจะโอนเก็บเข้ากระปุกเองก็ได้ (ขั้นต่ำ 5,000 บาทต่อรายการ) เพื่อรับดอกเบี้ยเงินฝากที่สูงถึง 1.5% ต่อปี* คงที่ยาวให้ 2 ปี แต่ความเจ๋งยังไม่หมดเพียงแค่นี้ เพราะแอปฯ Kept คิดดอกเบี้ยให้กับเราทุกวัน และจ่ายดอกเบี้ยให้เราทุกวันที่ 28 ของทุกเดือน สิ้นเดือนปุ๊ป รับดอกเบี้ยทันที และหากมีการเปลี่ยนแปลงดอกเบี้ยในอนาคต ยอดเงินที่เราเคยฝากเข้ามาก่อนจะยังได้รับดอกเบี้ยเดิมตามประกาศ ณ วันที่ฝากเข้ามา สบายใจได้ฝากแล้วดอกเบี้ยไม่ลด จำเป็นต้องใช้ก็ถอนได้ ไม่มีเงื่อนไข และหากถอนแค่บางส่วนยอดเงินของเราที่เหลือก็ยังได้รับดอกเบี้ยสูงต่อไป
- บัญชีที่สาม “Fun” เป็นบัญชีที่เหมือนกระปุกเก็บเล็กผสมน้อย ที่ทำให้การเก็บเงินเป็นเรื่องสนุกมากยิ่งขึ้น เพราะในบัญชีนี้มีฟีเจอร์ที่เรียกว่า “แอบเก็บ” ที่เราสามารถกำหนดได้ว่าทุกครั้งที่มีการใช้จ่ายจากกระเป๋า Kept จะให้มีการโอนเงินจากกระเป๋า Kept เข้ามาที่กระปุก Fun เช่น เราอาจตั้งค่าไว้ที่ 10% ของทุกการใช้จ่าย ให้โอนเข้ามาเก็บที่บัญชี Fun และเพิ่มความสนุกขึ้นได้อีกหากเราใช้ฟีเจอร์แอบเก็บ ครบ 10 ครั้งก็จะได้รับดอกเบี้ยพิเศษในเดือนถัดไปทันที เผลอแป๊บเดียวเงินเก็บของเราก็มีมากโดยที่เราไม่รู้ตัวแน่นอน และยังมีฟีเจอร์ “สั่งเก็บ” ที่ช่วยให้การเก็บเงินอย่างมีวินัยทำได้ง่าย แค่ตั้งว่าต้องการจะเก็บเงินเท่าไหร่ บ่อยแค่ไหน จะทุกวัน ทุกสัปดาห์ หรือทุกเดือนก็ได้ เช่น เก็บ 20 บาททุกวัน สั่งอะไรก็สั่งได้ สั่งเก็บเงินก็เช่นกัน
หากใครสนใจสามารถ
สมัครแอป Kept ก็ทำได้ง่ายและสะดวกมาก ๆ แค่โหลดแอปฯ Kept ได้ทั้ง iOS และ Android จากนั้นก็กดสมัครใช้งาน กรอกข้อมูลตามบัตรประชาชน พร้อมทั้งยืนยันตัวตนผ่าน Mobile Banking ของธนาคารที่เราเคยได้ยืนยันตัวตนด้วยใบหน้า (บริการ NDID) หรือยืนยันตัวตนด้วย Krungsri i-CONFIRM ได้ที่ ธนาคารกรุงศรี และ ร้าน 7-Eleven ทุกสาขาทั่วประเทศ เมื่อยืนยันตัวเสร็จแล้วกลับมาเปิดแอปฯ Kept เพื่อสมัครต่อแล้วถ่ายรูปเซลฟี่ เพียงแค่นี้ก็เริ่มเก็บเงินได้ทันที ปรับนิด ชีวิตเปลี่ยน #สูตรเก็บสำเร็จง่าย
สำหรับปีนี้ ใครที่อยากเริ่มต้นชีวิตใหม่อย่างสดใส สามารถนำเคล็ดลับของเราไปปรับใช้กันได้ และอย่าลืมส่งต่อเคล็ดลับดี ๆ ให้กับเพื่อน ๆ หรือครอบครัว ให้ทุกคนได้ลองทำตามก็เป็นเรื่องที่ดีเหมือนกัน
*ดอกเบี้ยและเงื่อนไขเป็นไปตามประกาศของธนาคารกรุงศรี ดูรายละเอียดได้ที่
www.keptbykrungsri.com